สมาชิก

ดาวเคียงเดือน

ตอนที่ 12

อัลบั้ม: นิยายเรื่อง "ดาวเคียงเดือน"

จักรพัฒน์ได้รับการดูแลด้านอาหารบำรุงสุขภาพ และการออกกำลังกายจากดาริกาและจันทรกานต์หลังเลิกเหล้าทำให้เขาร่างกายแข็งแรงหน้าตาแจ่มใสดูดีมีสง่าราศี

วันนี้เขาเอาแหวนแต่งงานของพิชญาออกมาดู ดาริกาเอาอาหารสุขภาพมาให้ พิชญาผ่านมาเห็นเธอแอบฟังที่หน้าประตู ดาริกาชมว่าหน้าตาเขาแจ่มใสมาก จักรพัฒน์บอกว่าเวลานี้สุขภาพดีมาก คงเพราะไม่ต้องกังวลเรื่องหนี้สินด้วย กองทุนแกรนด์ช่วยตนไว้เยอะเลย ขอบคุณดาริกาที่ช่วยพูดให้คุณจันทร์รับรู้ปัญหาของตน

ดาริกาเอาอาหารเพื่อสุขภาพให้แล้วอดถามไม่ได้ว่าแหวนวงนั้นเป็นแหวนของพิชญาใช่ไหม จักรพัฒน์บอกว่าใช่กำลังจะเอามาคืนเธอ พิชญาที่แอบฟังอยู่ก้าวเข้าไปในห้อง พูดอย่างยโสว่า

“ไม่ต้องคืนหรอกค่ะคุณจักร มันแหวนของคุณ เมื่อเราเลิกรากันแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่ฉันต้องมาเห็นอะไรที่เกี่ยวกับคุณอีก” ดาริกาเห็นบรรยากาศไม่ดีจึงขอตัว “เดี๋ยวสิ เธอเอาอะไรมาให้คุณจักรทาน” พอดูแล้วทำหน้ารังเกียจบอกว่าเหมือนอาหารขยะ หยิบทิ้งถังขยะทันที จักรพัฒน์ไม่พอใจ พิชญาคว้าแหวนวงนั้นทิ้งถังขยะไปด้วย

“จะมากไปแล้วนะ” จักรพัฒน์จับมือเธอไว้ พูดใส่หน้าว่านี่คือสิ่งมีค่าที่ดาริกาทำให้ ตนยินดีที่จะเก็บจากถังขยะมากินเป็นมื้อกลางวัน ส่วนแหวนวงนี้มันไร้ค่ายิ่งกว่าขยะ ตนไม่เก็บ!

ดาริกาจึงเก็บแหวนวงนั้นไว้ บอกจักรพัฒน์ว่า ไม่ใช่อยากได้ แต่เก็บเพื่ออะไรแล้วจะบอกภายหลัง

ooooooo

คุณจันทร์เรียกประชุมทั้งผู้บริหารและพนักงานของแกรนด์เพื่อเตรียมจัดงานโปรโมตสินค้าพื้นบ้าน ทำเหมือนยกงานวัดมาไว้ในห้างเราเลย

ทั้งวรางค์ ดาริกา วิวิทธิ์ต่างสนับสนุนแนวคิดของเขา แต่เพชรและยุพากระแนะกระแหนว่างานแบบนี้ต้องไปจัดที่ลานจอดรถ ตลาดสดหรือที่รกร้าง ไม่ใช่มาจัดที่ห้างแกรนด์ ทำให้ภาพพจน์เสียหายหมด ทั้งยังคัดค้านที่ให้ขายฟรีจะทำให้เราขาดทุนป่นปี้ คุณจันทร์ชี้แจงว่า

“งานจัดแค่เสาร์อาทิตย์ ห้างเราไม่มีวันขาดทุนหรอกครับ เราได้กำไรมามากพอแล้ว และเราก็ควรจะคืนกำไรให้กับสังคมบ้าง ผมเสนอให้เป็นจุดขายของงานด้วยซ้ำ ทุกๆ ร้อยบาทที่คุณมาจับจ่ายจะหักหนึ่งบาทให้เป็นกองทุนสำหรับบ้านคนชราและเด็กจรจัด งานนี้ผมยืนยันครับว่า เรามีแต่จะได้กำไร”

ทุกคนเห็นด้วย ดาริกามองคุณจันทร์อย่างชื่นชมปลื้มปีติ เพชรและยุพามองหน้ากันอย่างไม่พอใจ คิดหาทางที่จะบั่นทอนกระทั่งทำลายงานนี้ โดยยุพาจอมป่วนจะสร้างหลักฐานให้วรางค์เป็นตัวโกงตัวแม่จะได้ถอนยวงกันไปทั้งหมด เพชรบอกว่าให้ทำเป็นโปรเจกต์เลย งบไม่อั้น เพราะ “ถ้าล้มไอ้คุณหนูพระจันทร์นี่ได้ ตำแหน่งผมก็กลับคืนมา”

อีกด้าน บรรยากาศของความรัก คู่รัก และคู่ที่กำลังจะแต่งงาน อบอวลไปในหมู่มวลคนมีความรักและเตรียมแต่งงาน จักรพัฒน์ขอดื่มให้กับความรักของทุกคน คุณจันทร์แซวว่าพูดเหมือนตัวเองจะไม่มีความรักอีกแล้วงั้นแหละ

“บางครั้งที่เรารักใครสักคนหมดใจ มันก็ไม่เหลือทุนที่จะเริ่มต้นใหม่กับใครอีกแล้ว แต่ความรักก็ยังดำรงอยู่และมีค่าเสมอ” พูดแล้วชูแก้วชวนดื่ม พิชญาที่นั่งเหงาหงอยน้ำตารื้นอยู่ห่างๆ ลุกขึ้นเดินเลี่ยงออกไปเงียบๆ ดาริกาจึงลุกตามไป

ทั้งสองไปเจอกันในห้องน้ำ พิชญาถามว่าเธอจะประกาศข่าวดีกับคุณจันทร์เร็วๆนี้แล้วสินะ ขอแสดงความยินดีด้วย ดาริกาถามว่าไม่คิดจะแย่งแล้วหรือ

“คุณจันทร์ไม่มีค่าสำหรับฉันแล้ว ยิ่งไปเกลือกกลั้วกับคนอย่างเธอ อย่างฉันน่ะจะหาที่ดี วิเศษกว่าคุณจันทร์ นับสิบนับร้อยฉันก็ทำได้”

“เชื่อค่ะ ถ้าเป็นแค่คู่ควง แต่ไม่เชื่อนะคะถ้าหมายถึงความรัก” ดาริกามองหน้าเธอนิ่ง พิชญาหน้าเจื่อนสะบัดออกไป ดาริกาอมยิ้มบอกกับตัวเองว่า “สมมติฐานของเราน่าจะเป็นจริงแฮะ” เธอคิดแผนบางอย่างต่อไป

พิชญาตีสนิทกับดารารายยิ่งขึ้น เป่าหูว่าดาริกาไม่เพียงจะจับคุณจันทร์เท่านั้น หากยังหมายตาจักรพัฒน์ด้วย เห็นทำอาหารสุขภาพมาให้ทาน ชวนเข้ายิม ชวนทานกลางวันด้วยกัน

“ช่วยทำให้น้าแน่ใจหน่อยซิว่าแม่นี่กำลังคิดจะรวบหัวรวบหางทั้งพี่ทั้งน้อง” ดารารายสั่งการ แล้วทั้งสองก็แยกกันไปเข้าห้องล็อกเกอร์

ooooooo

แผนลักพาตัวข้าวตอก ดอกไม้และข้าวตูเพื่อทำลายความสัมพันธ์ระหว่างอิงฟ้ากับวิวิทธิ์ เริ่มดำเนิน เมื่อดำรง สุดหล่อ ไอ้เน และศักดิ์สิทธิ์ชายฉกรรจ์หน้าเถื่อน นั่งรถตู้มาซุ่มดูเด็กทั้งสามที่หน้าบ้าน

ศักดิ์สิทธิ์ประเมินจากความน่ารักของเด็กแล้วคาดว่างานนี้จะได้ราคางาม มันตกลงรับข้อเสนอของดำรง จะลักพาตัวเด็กไปซ่อนไว้ที่เซฟเฮาส์ มันถามว่าเงินห้าแสนจ่ายจริงนะ ดำรงรับรองจ่ายจริง

วันต่อมา พวกมันทั้ง 4 ไปนั่งที่ร้านกาแฟในตลาดเตรียมรับเงิน แต่ปุ๊โทร.มาบอกว่าคุณนายไม่เสี่ยงกับงานผิดกฎหมายลักพาตัวเด็กแบบนี้ สุดหล่อพยายามยื้อไว้ แต่ถูกปุ๊ตัดบทว่าเอาเป็นว่าจบเรื่องเท่านี้ แล้วตัดสายเลย

ทั้งอรชรและป้าแมวกระหนาบปุ๊กับเป้าห้ามยุ่งกับแก๊งโจรนั่นอีกเด็ดขาด

ศักดิ์สิทธิ์รับไม่ได้ที่แผนล้มกะทันหัน ดำรงขอโทษศักดิ์สิทธิ์ที่แผนล้ม บอกสุดหล่อกับไอ้เนให้ไหว้ขอโทษพี่เขาเสีย ศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องการคำขอโทษ ยืนยันจะสานงานต่อและทั้งสามคนต้องร่วมมือด้วยถ้าไม่อยากอายุสั้น

ดำรง สุดหล่อ และไอ้เน ใบ้กิน ต่างดูศักดิ์สิทธิ์ที่แผดเสียงหัวเราะอย่างโรคจิตแหยงๆ

ooooooo

ดาริกาพบกับพิชญาที่ห้องล็อกเกอร์ นอกจากพิชญาจะพูดเหน็บแนมดาริกาที่ดูแลจักรพัฒน์อย่างใกล้ชิดสนิทสนมแล้ว ยังไม่พอใจเมื่อเห็นดาริกาใส่แหวนแต่งงานของตน

“คุณจันทร์เป็นคนมอบหมายให้ฉันดูแลคุณจักรเองนะคะ แรงหึงของคุณทำให้คิดไปเองว่าฉันจีบคุณจักร”

ทั้งสองโต้เถียงกันอย่างเผ็ดร้อน ดาริกาจับได้ว่าพิชญาหึงหวงจักรพัฒน์และพยายามจะแย่งแหวนแต่งงาน คืน ดารารายมาเจอและถ่ายรูปไว้ บอกพิชญาว่านี่คือ หลักฐานชั้นดี

ดาริกาไปที่ห้องยิมเล่าเรื่องที่พิชญาจะแย่งแหวนแต่งงานคืนให้จักรพัฒน์ฟัง เขาบอกว่าไม่เข้าใจก็เธอทิ้งมันแล้ว

ดาริกาชี้ให้เห็นว่า ที่จริงระยะหลังท่าทีของพิชญาที่มองเขาเปลี่ยนไป บอกเขาว่า

“ที่เธอเข้ามาอาละวาดใส่ฉันเพราะเธอหึงคุณน่ะซิ แสดงว่าเธอยังรักคุณอยู่ค่ะ ยิ่งฉันหลอกว่าคุณยอมให้ฉันใส่แหวนวงนี้ เธอก็ยิ่งหึงคุณใหญ่” เห็นจักรพัฒน์ทำหน้างง ดาริกาตั้งข้อสังเกตว่า “หลังจากที่เธอตัดใจจากคุณจันทร์แล้ว เธอก็คงคิดได้แล้วล่ะค่ะว่าคุณคือคนที่รักเธอมากที่สุด”

“คุณแน่ใจนะ”

“อยู่ที่คุณแล้วล่ะค่ะว่าจะรับเธอกลับมาหรือเปล่า” จักรพัฒน์บอกว่าตนอยากมีข้อพิสูจน์ที่ชัดกว่านี้ “ได้ค่ะ ฉันว่าคุณจัดการเสียตอนนี้เลย”

พอดีจันทรกานต์มารับจักรพัฒน์ไปซุปเปอร์เซ็ตกัน บอกดาริกาให้รอ เธอปฏิเสธเพราะทั้งสองเล่นกันทีตั้งสองชั่วโมง จันทรกานต์เห็นแหวนแต่งงานที่นิ้วดาริกาก็มองอย่างแปลกใจว่าเอาของใครมาใส่

พิชญาเดินเข้าไปในห้องยิม เห็นจันทรกานต์กับจักรพัฒน์กำลังเล่นเวทกันอยู่ เหงื่อท่วมร่างทั้งคู่ ในสายตาของเธอนาทีนี้ สองหนุ่มดูไม่มีอะไรเด่นด้อยกว่ากันเลย

จักรพัฒน์ดูแข็งแรงอบอุ่นจนพิชญาเกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของขึ้นโดยไม่รู้ตัว เธอเดินเข้าไปขอคุยส่วนตัวกับจักรพัฒน์ เขาจึงขอเวลากับจันทรกานต์เดินออกไปกับพิชญา

ครู่หนึ่ง จันทรกานต์ไปเข้าห้องน้ำ ออกมาแว่วเสียงพิชญาคุยกับจักรพัฒน์ที่มุมหนึ่ง เธอต่อว่าเขาว่าไม่ควรเอาแหวนแต่งงานของตนไปให้ดาริกา จักรพัฒน์บอกว่าดาริกาเสียดาย ในเมื่อเธอบอกว่ามันไม่มีค่าอะไรแล้วจะเอาคืนทำไม

พิชญาหาว่าเขาอยากมีอะไรกับดาริกาจึงให้แหวนเธอ เมื่อเขายืนยันว่าดาริกาเป็นแฟนจันทรกานต์เธอก็พาลว่า แสดงว่าดาริกาให้ท่าเขาจะจับเขา ทั้งสองโต้เถียงกันอยู่นาน จนจักรพัฒน์ถามว่าที่เธอยังหวงแหวนเป็นเพราะยังหวงตนอยู่ใช่ไหม เธอปฏิเสธแต่บอกให้เขารีบเอาแหวนจากดาริกามาคืน ตนจะเอาไปโยนทิ้งแม่น้ำให้ดู

จักรพัฒน์ได้ข้อมูลจากดาริกามาแล้ว อ่านใจเธอออก ดึงเธอเข้าไปกอดอ้อนขอสวมแหวนให้เธออีกครั้งได้ไหม พิชญาใจเต้นระทึกราวกับสาวน้อยต้องมือชาย แต่เพราะใจมาแล้ว อย่างอื่นเป็นเพียงลีลาเล่นตัว จักรพัฒน์อ้อนเพียงไม่กี่คำเธอก็พูดงอนๆว่า

“พิสูจน์มาก่อน นัดยายดาริกามา ขอแหวนคืน แล้วพูดต่อหน้าฉันและแม่นั่นว่าคุณไม่ได้พิศวาสอะไรมันเลยสักนิด ฉันถึงจะเชื่อ”

“จริงนะ นัดมาเลยครับ เมื่อไหร่ ที่ไหน” พิชญาค้อนงอนๆ ผละไป จักรพัฒน์มองตามยิ้มตาเป็นประกายอย่างมีความหวัง

ดารารายจับผิดคุณจันทร์ เรียกไปดูคลิปที่พิชญาแย่งแหวนคืนจากดาริกา ชี้ว่าดาริกากำลังจะจับจักรพัฒน์อีกคน

คุณจันทร์ไม่เชื่อบอกว่าจะไปถามดาริกาดู ดารารายไม่ให้ไปถาม บอกให้รอดูเหตุการณ์ก่อนเพราะพิชญาให้จักรพัฒน์นัดดาริกาขอแหวนคืนแล้ว และเขาก็ควรไปดูให้เห็นธาตุแท้ของดาริกาด้วย

ooooooo

งานขายสินค้าโอทอปที่ห้างแกรนด์คึกคักขายดีมาก วันนี้จันทรกานต์กับดาริกาพากันไปที่ซุ้มเครื่องประดับ เขาซื้อสร้อยรูปพระจันทร์กับหมู่ดาวให้เธอ ครู่เดียวคุณจันทร์ก็ได้รับโทรศัพท์จากดำรงให้ไปพบที่ซุ้มอาหาร

พอคุณจันทร์แยกไป ดารารายก็แทรกเข้ามาพาดาริกาไปที่ซุ้มอาหารที่ดำรงนั่งอยู่กับจันทรกานต์ หาว่าเธอร่วมมือกับดำรงไถเงินจันทรกานต์ เท้าความครั้งที่ดำรงไถเงินจันทรกานต์ที่ตลาด ดาริกาจะไปถามพ่อว่าจริงหรือเปล่า ดารารายเลยให้ดูไอแพดที่แอบถ่ายตอนดำรงไถเงินจันทรกานต์ กระทั่งบอกว่าจะขอหุ้นจากแกรนด์ถ้าไม่ได้ก็จะท้าไฝว้ถึงพ่อแม่เขาเลย

เห็นหลักฐานจะจะ ดาริกาขอโทษแทนพ่อ และจะไปพูดกับพ่อไม่ให้มายุ่งกับทัศนัยอีก จะห้ามคุณจันทร์ให้เงินพ่ออีก ดารารายไม่เชื่อน้ำหน้าว่าเธอจะทำได้ ดาริกาถามว่าแล้วจะให้ตนทำอย่างไรในเมื่อตนกับคุณจันทร์รักกัน

“ก็อย่างที่ฉันขอร้องเธออยู่ทุกครั้ง ลาออกไปเสีย ออกไปจากชีวิตคุณจันทร์อย่างถาวร ไม่มีวันหวนกลับมาอีก” ดาริกาบอกว่าตนจะลาออกพรุ่งนี้เลย ดารารายก็เล่นแง่อีกว่าแต่ก็ยังอยู่คอนโดห้องติดกัน ดาริกาบอกว่าจะย้ายออกไปอยู่ไกลจนคุณจันทร์ตามไม่เจอเลย

“ไม่ดีละมั้ง เธอออกไปดื้อๆแบบนี้ คุณจันทร์ เขาต้องสงสัยแล้วตามหาเธอพลิกแผ่นดิน เอาอย่างนี้ ทางที่ดีที่สุดคือเธอต้องทำให้คุณจันทร์เขาหมดรักในตัวเธอเสียก่อน เธอถึงจะออกได้” ดาริกาถามว่าจะให้ทำอย่างไร “เธอต้องทำให้เขาเกลียดเธอถึงที่สุดจนถึงขั้นเอ่ยปากไล่เธอออกไปจากชีวิตเขา นั่นแหละเขาจะไม่มีวันตามเธอไปไหนอีก สงสัยไหมว่าจะทำยังไง ไม่ต้องห่วง ฉันเตรียมแผนไว้ให้เธอเรียบร้อยแล้ว”

แม้ดาริกาจะมึน งัน แต่ก็พยักหน้าอย่างยินดีทำตามทุกอย่าง

ooooooo

ศักดิ์สิทธิ์ใช้ความดุร้ายดุดันข่มขู่สุดหล่อกับไอ้เนให้ไปหลอกข้าวตอก ดอกไม้และข้าวตูที่กำลังเล่นบอลให้มาดูบอลมากมายที่รถตู้ แล้วลักพาเด็กหนีไป

กว่าวิวิทธิ์กับอิงฟ้าจะรู้ว่าเด็กทั้งสามหายไป ก็ต่อเมื่อมาเจอลูกบอลของเด็กๆ ที่มีข้อความเขียนไว้ว่า

“เด็กอยู่กับข้า แจ้งตำรวจเด็กตาย!”

ทั้งวิวิทธิ์และอิงฟ้าไม่รู้ว่าพวกมันเป็นใคร จนเมื่อครูตุ้ยตั้งข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นคนใกล้ตัวพวกเขา เพราะพอทั้งสองบอกว่าจะรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมก็เกิดการลักพาตัวขึ้น แต่ครูตุ้ยก็คิดไม่ออกว่าเป็นใคร?

อิงฟ้าตกใจจนช็อกไข้ขึ้น วิวิทธิ์จึงพาไปส่งที่บ้าน อรชรเห็นวิวิทธิ์ประคองอิงฟ้าลงจากรถก็โวยวายบ้านแทบแตก

จากการซักถามของอิงฟ้า เธอรู้ว่าอรชรรู้เรื่องที่เธอกับวิวิทธิ์จะรับเด็กสามคนนี้มาเป็นลูกบุญธรรมเมื่อแต่งงานกัน ทำให้เธอเดาได้ว่าเรื่องเด็กหายเกี่ยวกับแม่แน่ๆ และเมื่ออิงฟ้าบอกว่าตอนนี้เด็กทั้งสามถูกลักพาตัวหายไปแล้ว อรชรตกใจจนไม่สบายไปอีกคน

เมื่อตัวเองและแม่ต่างก็ไม่สบาย อิงฟ้าขอให้วิวิทธิ์ค้างที่บ้าน วิวิทธิ์ถามป้าแมวว่าตนจะค้างที่นี่คุณหญิงคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม

“ท่านสั่งเองให้คุณค้างที่นี่ค่ะ เพราะวันนี้นายปุ๊ นายเป้า นายปิ๋ม ไปต่างจังหวัดกันหมดเลย ไม่มีผู้ชายอยู่ในบ้าน คุณอยู่ป้องกันพวกเราน่ะดีแล้ว”

“ป้าครับ แล้วที่นายปุ๊ นายเป้า ไปติดต่อแก๊งที่ตลาด จำได้ไหมว่าเป็นแก๊งไหน”

“ไม่ทราบเลยค่ะ พยายามติดต่อก็ไม่มีสัญญาณมือถือ ป้ารู้แค่ว่ามันเรียกเงินตั้งสี่ห้าแสน น่ากลัวจริงๆ ป้าขอตัวก่อนนะคะ คุณก็ไปนอนได้แล้ว อย่าลืมนะคะ อยู่เรือนคนใช้”

วิวิทธิ์ถอนใจก่อนเดินลงบันไดไป แต่พอผ่านศาลาเห็นอิงฟ้านั่งหนาวสั่นอยู่ เขาวิ่งเข้าไปถามว่ามานั่งอยู่ที่นี่ทำไม เธอบอกว่าเป็นห่วงเขา บ่นว่า “ป้าแมวให้คุณมานอนที่เรือนคนใช้ได้ยังไง”

“ห่วงตัวเองเถอะครับ มานั่งอยู่ตรงนี้จะไม่สบายกันไปใหญ่”

“ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะถ้าฉันอยู่กับคุณ”

“คุณฟ้า อย่าห่วงเลย เด็กทั้งสามคนจะต้องปลอดภัย ผมสัญญา” วิวิทธิ์กอดอิงฟ้าไว้อย่างปลอบใจ

ooooooo

ดาริกาต้องทำตามแผนของดาราราย คืนนี้เธอเศร้าจนคุณจันทร์ถามว่าคิดอะไรอยู่ เธอบอกว่าเปล่าแค่เหนื่อยนิดหน่อยแล้วขอตัวไปนอน

ก่อนออกไป เธอทำทีโทรศัพท์ที่หน้าห้องน้ำ กะให้คุณจันทร์ได้ยินการสนทนา

ดาริกาโทร.หาจักรพัฒน์ออดอ้อนอย่างห่วงใยและคิดถึง ทำให้จันทรกานต์เห็นว่าเธอมีความสัมพันธ์พิเศษกับจักรพัฒน์ แต่ดาริกาก็แอบกระซิบบอกจักรพัฒน์ว่า

“เอาอย่างนี้นะคะคุณจักร เราต้องตีบทแตกกันทั้งคู่เลย”

คุณจันทร์แอบฟังอยู่เขาแทบหมดแรง คิดไม่ถึงว่าดาริกาจะหลอกลวงตนได้ถึงเพียงนี้

เช้าวันรุ่งขึ้น ดาริกาเก็บของที่ห้อง และโทร.บอกพี่ตาลเจ้าของห้องทั้งน้ำตาว่าตนมีธุระด่วนอยู่เฝ้าห้องให้ไม่ได้แล้ว แต่ตนก็ฝากต้นไม้ไว้กับแม่บ้านให้ดูแลแทนแล้ว

ดาริกาเก็บสร้อยพระจันทร์กับหมู่ดาวที่คุณจันทร์ซื้อให้ใส่กระเป๋าน้ำตาอาบแก้ม

เสียงกริ่งหน้าห้องดังขึ้น จันทรกานต์ในชุดไปทำงานกดกริ่งแล้วรอไม่มีเสียงจากในห้อง เขาจึงกดมือถือ ดาริการีบปิดเสียงมือถือยืนพิงประตู ได้ยินเสียงคุณจันทร์พึมพำว่า “สงสัยจะอาบน้ำ” แล้วเดินออกไป

พอเขาเดินจากไป ดาริกาก็ทรุดนั่งร้องไห้อย่างหนักอยู่ตรงประตูนั่นเอง

ooooooo

พิชญานัดจักรพัฒน์ที่ร้านอาหารริมน้ำสวย เขาถามว่าทำไมนัดมาที่นี่ เธอย้อนถามว่า

“จำไม่ได้เหรอคะว่าคุณให้แหวนแต่งงานฉันที่นี่ หลังจากที่คุณขอฉันแต่งงานที่อเมริกา” จักรพัฒน์ถามว่ามารื้อฟื้นความหลังหรือ “เปล่า...ฉันแค่อยากรู้ให้แน่ว่าคุณไม่มีอะไรกับแม่นั่นจริงๆ”

จักรพัฒน์มองไปบอกว่าดาริดามาพอดี พิชญาแอบกดกล้องมือถือที่ซ่อนไว้ที่โต๊ะบันทึกภาพดาริกาทันที

พอดาริกามาถึง เธอปั้นหน้าปึ่งถามจักรพัฒน์ว่านัดตนมาขอแหวนคืน ทำไมต้องนัดเมียเก่ามาด้วย

อีกโต๊ะหนึ่งที่มุมร้าน จันทรกานต์กับดารารายดูไอแพดจากมือถือเครื่องของพิชญา จันทรกานต์ดูคลิปหน้าเครียด

ดาริกาเล่นละครได้อย่างแนบเนียน ทำหน้าตึงถามพิชญาว่ามาทำอะไรไม่ทราบ พิชญาบอกว่ามาดูให้เห็นกับตาว่าเธอคืนแหวนอย่างเดียวไม่ได้ถวายแหวนกันด้วย ดาริกาบ่นว่าเบื่อพวกที่เลิกกันแล้วยังทำเป็นพวกเมียหวงก้างอยู่อีก จักรพัฒน์ขอร้องดาริกาอย่ามีเรื่องกันเลย คืนแหวนให้พิชญาเสียและช่วยยืนยันด้วยว่าเธอกับตนไม่มีอะไรมากกว่าเพื่อน

ดาริกาแกล้งอ้อนแกล้งโวยว่าเขาไม่เห็นค่าที่ตนทำเพื่อเขามาตลอดเลยใช่ไหม จักรพัฒน์ขอบคุณที่เธอปรารถนาดีแต่เราก็เป็นแค่เพื่อนกัน เพราะเธอมีคุณจันทร์อยู่แล้ว ดาริกาบีบน้ำตารำพันว่า

“พอใกล้ชิดกับคุณ ฉันเพิ่งรู้ว่าฉันไม่ได้รักเขา เขาสูงส่งเกินไปสำหรับฉัน แต่คุณคือคนที่ฉันสัมผัสได้ รู้สึกได้ ฉันไม่รู้สึกต่ำต้อยเมื่ออยู่กับทัศนัยอย่างคุณ...ฉันมันหลงผิดไปเอง ลาก่อน คุณโชคดีมากนะคุณพิชญาที่คุณมีสามีอย่างคุณจักร”

“ดาริกา...” จักรพัฒน์เรียก ดาริกาหันมาโผเข้ากอดเขาแน่น บอกว่าขอตนได้กอดเขาบ้าง ขอบคุณแล้วลาไป ทำเอาจักรพัฒน์ตกใจที่เธอตีบทแตกจนน่ากลัว

จันทรกานต์เห็นภาพทั้งหมดนี้จากไอแพด เขาทิ้งตัวพิงพนักเก้าอี้อย่างหมดแรง ทุกอย่างที่เคยวาดหวังไว้พังทลายไปในพริบตา ดารารายได้ทีสำทับว่า

“เห็นไหมคุณจันทร์ เป็นอย่างที่แม่ว่าไหมล่ะ ยายคนนี้หลอกลูก”

ในขณะที่จักรพัฒน์เอ่ยขอโทษพิชญา บอกว่าตนไม่เคยคิดเลยว่าดาริกาจะคิดกับตนแบบนี้ พิชญาบอกว่าเป็นครั้งแรกที่ตนเชื่อดาริกาที่ว่า “ฉันโชคดีที่ได้สามีอย่างคุณ...ขอแหวนฉันเถอะค่ะ” พอจักรพัฒน์ส่งให้ เธออ้อน “สวมให้ฉันสิคะ”

จักรพัฒน์ยิ้มเหมือนโลกสว่างขึ้นฉับพลัน บรรจงสวมแหวนให้พิชญากุมมือเธอไว้ ต่างยิ้มอย่างพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน...

ooooooo

วิวิทธิ์สอบถามปุ๊กับเป้าจนรู้ว่าคนที่ลักพาตัวเด็กทั้งสามไปนั้นมีสุดหล่อร่วมอยู่ด้วย อรชรเสนอทันทีว่ารู้จักพวกมันก็ดีแล้วแจ้งตำรวจจับเสียเลย

อิงฟ้าตกใจบอกว่าไม่ได้เพราะถ้าแจ้งตำรวจมันจะฆ่าเด็กๆทันที วิวิทธิ์อาสาจะไปสืบเอง ชวนปุ๊กับเป้าไปวัดขวัญกันเดี๋ยวนี้เลย แต่ทั้งสามไม่ทันไป ก็มีโทร.เข้ามือถือของอิงฟ้า ไม่โชว์เลขหมาย เธอถามว่าใคร เสียงปลายสายบอกว่า “ผู้ปกครองเด็กตอนนี้”

“แก...แกพาลูกฉันไปไว้ที่ไหน” อิงฟ้าตกใจ วิวิทธิ์รีบมาฟังด้วย

ศักดิ์สิทธิ์เป็นคนโทร. มันบอกว่าเด็กๆปลอดภัยดี รอแม่มารับกลับ มันเรียกเงิน 20 ล้านบาทและต้องเป็นเงินสดเท่านั้น เห็นปลายสายเงียบ มันพูดอย่างย่ามใจว่า

“เงินแค่นี้ไม่ลำบากพวกแกหรอก ให้เวลาแกถึงสิ้นเดือนนี้ ข้าจะนัดหมายวันเวลากับพวกแกอีกที อ้อ... อย่าลืม แจ้งตำรวจเมื่อไหร่ เด็กจะหายวับไปเลยนะ เหลือแค่เศษชิ้นส่วน ฮ่ะๆๆๆ”

อรชรโวยวายว่าเงินตั้ง 20 ล้านตนไม่ยอมจ่ายแน่ อิงฟ้าถามว่าเด็กสามคนคือลูกของตน แม่จะยอมให้ตายหรือ เมื่ออรชรยืนกรานไม่จ่าย อิงฟ้าฮึดขึ้นมาประกาศว่าไม่เป็นไร แม่ไม่จ่ายตนจะหาเงินเอง แม้ต้องขายตัวก็จะยอม บอกอรชรว่า

“แม่จำไว้นะ แม่คือต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด ถ้าแม่ไม่คิดจะกำจัดเด็ก คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ ถ้าลูกหนูเป็นอะไรไป แม่ต้องรับผิดชอบ และหนูจะไปจากชีวิตแม่ตลอดไป” พูดแล้วออกไปเลย

อรชรจะเป็นลม หันไปบอกวิวิทธิ์ว่า เขาเป็นคนเดียวที่อิงฟ้าจะฟัง ให้ไปบอกด้วยว่า

“ฉันไม่ใจไม้ไส้ระกำขนาดนั้น ยี่สิบล้านหรือร้อยล้าน ฉันยอมจ่าย ฉันไม่ยอมเสียลูกสาวคนเดียวของฉันไปหรอก”

“ขอบคุณครับคุณหญิง ให้ผมไปสืบเรื่องที่บ้านไอ้สุดหล่อดูก่อน ผมว่างานนี้ยังพอมีทางช่วยเด็กออกมาได้โดยที่เราไม่ต้องเสียอะไรทั้งนั้น” อรชรถามว่าจริงหรือ

“ครับ...คุณหญิงสบายใจเถอะครับ หมาวัดอย่างผมจะดูแลเรื่องทั้งหมดเอง”

ooooooo

เพื่อดำเนินแผนต่อให้สำเร็จตามเงื่อนไขของดาราราย วันนี้ดาริกาเข้าไปในห้องทำงาน ไม่เห็นคุณจันทร์อยู่ที่โต๊ะ แต่รู้ว่าคุณจันทร์อยู่ห้องน้ำ เธอแกล้งทำเป็นโทร. คุยกับดำรงผู้เป็นพ่อให้เขาได้ยิน

“พ่อเหรอคะ หนูพูดนะ เป็นไง มาขอเงินคราวนี้เรียกไปเท่าไหร่ล่ะ อย่าให้มากนักนะพ่อ เดี๋ยวอีตาหม่อมหน้าโง่มันจะทนไม่ไหว มันจะเลิกแต่งกับหนู พวกเราจะพลอยชวดกันทั้งบ้าน”

คุณจันทร์ออกจากห้องน้ำอย่างเดือดดาล ยืนฟังดาริกาที่แกล้งพูดต่อ บอกพ่อให้กินน้อยๆ แต่เนียนๆกินได้นานๆ แล้วทำเป็นตกใจเมื่อหันมาเห็นเขา ถามว่าเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่

“ผมไม่ได้เข้ามา ผมอยู่ในห้องนี้ตั้งนานแล้วผมอยู่ในห้องน้ำ แล้วก็ได้ยินที่คุณพูดกับพ่อทุกคำ ทุกประโยค”

ดาริกาทำเป็นหน้าเสียบอกว่าตนไม่ได้พูดกับพ่อ ทำให้คุณจันทร์ยิ่งโมโห หยิบมือถือขึ้นมาโชว์คลิปเมื่อกลางวันให้ดู ดาริกาทำเป็นอึ้ง เขาถามว่ามีอะไรจะแก้ตัวไหม ดาริกาหาข้อแก้ตัวไม่ได้ พาลถามว่ากล้าดียังไงมาแอบถ่ายตนแบบนี้

“เธอใช้คำว่ากล้าเหรอ ฉันซิต้องถามเธอว่ากล้าดียังไงมาหลอกให้ฉันหลงโง่งมไปกับเธอ เธอนี่มันน่ารังเกียจที่สุด ไม่ใช่แค่เธอ แต่มันคือพ่อแม่ ครอบครัวเธอด้วย”

พอถูกด่าลามปามถึงพ่อแม่ ดาริกาก็ทนไม่ได้ตวาด “อย่ามาลำเลิกพ่อแม่ฉันนะไอ้หม่อมหน้าโง่!” เลยถูกคุณจันทร์กระชากเหวี่ยงไปกับพื้น เธอร้องกรี๊ด คุณจันทร์ตามไปตวาดให้บอกความจริงมาว่าหลอกตนเพื่อหวังกอบโกยใช่ไหม

“ยังคิดไม่ออกอีกเหรอ ใช่...ฉันหลอกคุณ เพราะคุณมันโง่ ยอมให้ฉันหลอก แค่ฉันเล่นบทเลขาที่ยอมทำทุกอย่างถวายหัวให้นาย ฉันก็ได้ใจคุณมาเต็มๆแล้ว” เขาถามว่าเธอทำอย่างนี้กับผู้ชายทุกคนหรือ“เปล่า...ฉันไม่ ทำหรอก ถ้าคนนั้นฉันรักฉันเทิดทูนอย่างคุณจักรพัฒน์ไง”

การเล่นละครอย่างตีบทแตกถึงพริกถึงขิงของดาริกาได้ผล จันทรกานต์โกรธจนน้ำตาไหลปัดข้าวของบนโต๊ะตกเกลื่อนแม้แต่กระเป๋าของดาริกาก็ถูกปัดจนของในกระเป๋าร่วงกระจาย ในนั้นมีสร้อยที่เขาซื้อให้วันก่อนด้วย...

“ฉันให้เวลาเธอหนึ่งชั่วโมง เก็บข้าวของแล้วออกจากแกรนด์ ออกไปจากชีวิตฉัน แล้วอย่าได้มาพบเจอกันอีก!” ไล่แล้วตัวเองก็ออกจากห้องไป เท้าเหยียบสร้อย เขาชะงักมองสร้อยเส้นนั้นนิ่ง บอกเธอว่า

“ของของฉันที่เคยให้เธอ ให้ถือเสียว่าฉันอุทิศให้กับคนที่ตายไปจากชีวิตของฉันแล้ว”

ทันใดนั้น มีเสียงเคาะประตู พอเปิดออกไป พบคุณชายจันทรกับดารารายยืนอยู่ คุณชายถามว่าเกิดอะไรขึ้น

“ไม่มีอะไรหรอกครับพ่อ ผมแค่ไล่เลขาคนนี้ออกเท่านั้นเอง” คุณชายตกใจ จันทรกานต์ยืนยันว่า “ผม จะให้ผู้หญิงคนนี้ออกจากตึกแกรนด์ภายในหนึ่งชั่วโมง... ผมมีเรื่องจะคุยกับพ่อ เชิญพ่อที่ห้องครับ”

ooooooo

ดาวเคียงเดือน

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด