ตอนที่ 6
หมวดปรัชวินทร์ภูมิใจมากที่โรสทานอาหารที่ตนทำให้จนหมดทั้งข้าวและกับ แต่พอโรสอิ่มก็ไล่ให้หมวดกลับไปเสีย หมวดอ้างว่าการะเกดฝากให้ตนช่วยดูแลเธอ ก็ถูกสวนอย่างถือดีว่า
“ฉันดูแลตัวเองได้!!”
เวลานั้นฟิลลิปคุมการจัดยาเสพติดอยู่กับฌองที่โรงงานร้าง ฌองสั่งให้ฟิลลิปโทร.หาโรส พอโรสรับสายเขาถามว่ารบกวนเวลาเขียนนิยายหรือเปล่า โรสบอกว่าไม่ วันนี้ยุ่งๆ ไม่ได้เขียนนิยายเลยทั้งวัน
หมวดระแวงถามว่าใครโทร.มา ฟิลลิปได้ยินถามทันทีว่าโรสอยู่กับใคร! โรสเอามือป้องโทรศัพท์ปรามหมวดว่าอย่ามายุ่งกับเรื่องของตน แล้วบอกฟิลลิปว่า เพื่อนพี่สาว พอดีเขาแวะมาเอาของที่ห้อง
ฟิลลิปป้องโทรศัพท์บอกฌองว่าแดนส่งคนมาประกบ โรสจริงๆ แสดงว่าเขาไม่คิดจะกลับมาที่คอนโด ฌองสั่งถามให้รู้ว่าแดนกับการะเกดหนีไปที่ไหน โรสพาซื่อบอกฟิลลิปว่าพี่เกดไปพักผ่อนต่างจังหวัดตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
ฟิลลิปหลอกล่อถามจนรู้ว่าการะเกดไปที่บ้านพักตากอากาศของแม่เพื่อน หมวดฟังแล้วเข้าแย่งโทรศัพท์จากโรสตัดสายทิ้ง โรสโมโหตวาดว่าทำบ้าอะไร ตนคุยเรื่องพี่สาวมันผิดตรงไหนและตนก็คุยกับแฟนจะคุยอะไรก็ได้
“คุณโรสมีแฟนแล้วหรือครับ” หมวดเจ็บปวด เมื่อเธอยืนยันและไล่เขากลับไป หมวดหน้าจ๋อยกลับไปอย่างคนอกหัก พอหมวดออกไป โรสก็ปิดประตูปัง!
ooooooo
การะเกดอยู่ที่บ้านพักชายทะเล พอเห็นรูปเคทถ่ายบนเตียง เธอเทียบดู ทั้งห้องและเตียงใช่เลย! มันคือเตียงที่เธอนอนมาทั้งคืน ยิ่งดูรูปต่อไปก็ยิ่งชัดว่า เสื้อผ้าที่ตัวเองใส่อยู่ก็คือชุดที่เคทใส่ถ่ายคู่กับแดนอย่างมีความสุข...
เมื่อเรื่องชัดเจน การะเกดไปถามแดนที่ซ้อมลงนวมอยู่กับหุ่นข้างนอกด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า นอกจากเสื้อผ้าที่เอาให้ตนเปลี่ยนที่บอกว่าเป็นของแขกที่มาพักทิ้งไว้แล้ว ยังมีอย่างอื่นอีกไหม เพราะท่าทางเขาจะไม่พาตนกลับง่าย
แดนเห็นอารมณ์ของการะเกดแล้วรู้ทันทีว่าเธอดูอะไรมา ถามว่าเธออยากรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใครและยังคบกับตนอยู่หรือเปล่าใช่ไหม? การะเกดยิ่งกระฟัดกระเฟียด ทำเสียงแข็งว่า
“ใครอยากรู้!! ฉันไม่เคยอยากรู้เลยว่าคุณจะแอบมีแฟนอยู่กี่คน จะเคยพาแฟนหุ่นอย่างกับนางแบบวิก–ตอเรียซีเคร็ตมากอดรัดฟัดเหวี่ยงอยู่บนเตียงที่ให้ฉันนอนกันกี่คืนกี่วัน ฉันก็ไม่เคยอยากรู้!! เข้าใจไว้ด้วย!!!” ระบายอารมณ์แล้วก็ตะบึงตะบอนกลับไปห้องนอน
แดนตามไปถึงห้องนอน พูดอย่างรู้ทันว่าอย่าทำเป็นเด็กหน่อยเลย พอรู้ว่าเสื้อผ้าพวกนั้นเป็นของแฟนเก่าตนก็ออกอาการประชดประชัน พอถูกจับได้ไล่ทัน
การะเกดบอกว่าตนไม่ได้งอน ไล่เขาให้ออกไปเสีย เมื่อแดนไม่ไปก็จะไปเอง เลยถูกแดนกอดไว้ พอเธอดิ้นก็อุ้มไปโยนลงบนเตียงกดตรึงไว้
“ปล่อยนะ คุณจะทำอะไร ไอบ้า...อย่าทำบ้าๆ แบบนี้นะ ปล่อย!!”
“งั้นคุณก็ต้องฟังผม! ผมยอมรับว่าคุณเข้าใจถูก... ใช่!! ผมเคยพาเคทมาที่นี่ แต่มันเป็นอดีตไปแล้ว เคทกับผมเลิกกันไปตั้งแต่ก่อนที่ผมจะกลับมาเมืองไทย” การะเกดสวนไปว่าตนไม่อยากรู้ “แต่คุณไม่รู้ไม่ได้ เพราะมันถึงเวลาที่ผมจะต้องเล่าให้คุณฟัง ผมรู้จักเคทตั้งแต่ตอนที่ผมบินตามคุณแม่ไปอยู่ยุโรป เธอเป็นเด็กข้างบ้านที่โตมากับผม เราคบกันอยู่หลายปี แต่สุดท้ายก็ไปกันไม่รอด...เธอทิ้งผมไป”
ถูกการะเกดประชดว่ามิน่า ยังอาลัยอาวรณ์เก็บข้าวของทุกอย่างไว้ดูต่างหน้า แดนโต้ว่าของมันไม่ได้เสียหายจะเอาไปทิ้งทำไม ทีเธอหนีตนไปเจอแฟนเก่าตนยังไม่พูดสักคำ เธอเสียงเข้มใส่ว่าตนไปเพื่อแก้แค้นเพื่อให้เขารู้ถึงความเจ็บปวดบ้าง
“ผมเข้าใจแล้ว...คุณก็เลยกลัวว่าถ้าปล่อยใจให้รักผม ประวัติศาสตร์อาจจะซ้ำรอยให้คุณต้องเจ็บเหมือนที่เคยเกิด”
“ความรักมันไม่มีจริงหรอก...” การะเกดสะอื้นเบาๆ “มันก็คำพูดให้ดูดีไว้แทนความใคร่ที่ธรรมชาติสร้างให้ผู้ชายกับผู้หญิงต้องมีร่วมกันต่างหาก...ปล่อยฉันได้แล้ว...ฉันเจ็บ...” แดนจึงปล่อยมือที่กดเธอไว้ เธอบอกว่าอยากอยู่คนเดียว เขามองเธอที่ร้องไห้อย่างหนักกับความเจ็บปวดในอดีต...เดินออกไปเงียบๆ
แดนเดินออกมาที่ชายหายหน้าบ้านพัก เขานั่งลงที่ชายหาดในคืนเดือนมืด มีแต่สายลมกับเสียงคลื่น เขาคิดถึงอดีต...
วันนั้นเขาถ่ายรูปเคทที่ห่มผ้าสีขาวพลิ้วอยู่ในห้องนอนอย่างมีความสุข เขารักเธอจนขอแต่งงาน แต่เคทกลับชะงักหนักใจ เขาถามว่า “ทำไมล่ะเคท...คุณไม่รักผมเหรอ”
“แดน...ฉันรักคุณมาก...แต่ก่อนที่คุณจะขอแต่งงานกับฉัน...คุณแน่ใจแล้วเหรอ” แดนบอกว่าตนไม่อยากใช้ชีวิตอยู่คนเดียวอีกแล้ว “ขอบคุณค่ะแดน...แต่ถ้าวันนึง ฉันต้องรับโทรศัพท์ว่าคุณเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ฉันก็ต้องกลายเป็นคนที่ถูกทิ้งให้ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวใช่ไหม...ถ้าฉันจะขอให้คุณเลิกทำในสิ่งที่คุณรัก คุณจะทำเพื่อฉันได้ไหมคะแดน”
แดนอึ้ง...พูดไม่ออก
ooooooo
ที่บ้านฟิลลิป...อีวาสั่งให้ฌองมาพบ เธอนั่งรออยู่ในห้องโถงราวกับนางพญา พอฌองมาถึงก็รายงานว่า เมื่อคืนตนส่งสินค้าลอตที่สองไปแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อยดี
อีวาบอกว่าตนรู้แล้ว โนอาร์พอใจมากและกำลังรอรับสินค้าที่จะส่งไป ฌองจึงขอเวลาไปจัดการเรื่องส่วนตัวต่อ อีวาบอกว่าตนยังไม่หมดธุระ โนอาร์กำชับให้ตนจัดการปัญหาคาราคาซังของแดเนียลให้เสร็จเสียที แล้วหยิบแท็บเล็ตยื่นให้
“ฟิลลิปบอกฉันว่าเธอกำลังตามหาตัวแดเนียลอยู่แต่ไม่รู้ว่าบ้านพักตากอากาศของครอบครัวมันอยู่ที่ไหน พอฉันบอกเรื่องนี้ให้โนอาร์รู้ เขาก็เลยให้สายสืบของเขาช่วยสืบดูให้จนรู้...เธอตามไปจัดการมันได้เลย ...ฉันเริ่มเบื่ออาหารไทย เบื่ออากาศที่ร้อนอบอ้าว อยากกลับไปฝรั่งเศสจะแย่แล้ว เธอรีบไปจัดการแดเนียลให้ตายๆซะ ฉันจะได้ไปจากเมืองไทยเสียที”
พอฌองรับแท็บเล็ตเดินออกไป อีวามองตาม...ยิ้มร้าย
การะเกดตัดสินใจหนีไปซื้อเสื้อผ้าเปลี่ยนใหม่ใส่หมวกอำพรางแล้วขึ้นรถสองแถวไปสถานีขนส่ง แต่ที่ฝั่งตรงข้ามสายตาคู่หนึ่งมองเธอตลอดเวลา แล้วขับรถตามไปทันที
แดนไปร้องเรียกการะเกดที่หน้าห้องนอน ไม่มีเสียงตอบ เขาจึงใช้กุญแจสำรองไขเข้าไปดู พอรู้ว่าเธอหายไปแล้ว เขาก็ติดตามเธอจากสัญญาณติดตามตัวในล็อกเกตที่คอเธอ เมื่อรู้พิกัดเขาขับรถออกไปทันที
เมื่อไปถึงท่ารถขนส่ง การะเกดไปต่อคิวซื้อตั๋วเข้ากรุงเทพฯ เธอรู้สึกตลอดเวลาว่ามีคนติดตาม ระแวงว่าเป็นพวกแบล็คออร์คิด เดินหนีชนแม่ค้าหาบขายส้มตำไก่ย่างจนล้ม เธอรีบจ่ายค่าเสียหายและแอบหยิบมีดของแม่ค้าไปด้วย จากนั้นหลบเข้าห้องน้ำ ยังรู้สึกมีคนตาม พอเสียงฝีเท้ามาถึงหน้าห้องเธอถือมีดพุ่งออกไปทันที
“ว้ายยย!!”
ซินดี้นั่นเอง! การะเกดถามว่าตามมาทำไม?
ซินดี้บอกว่าตนมาถ่ายรายการนอกสถานที่แถวนี้ไม่คิดว่าจะได้เจอกามเทพตัวแสบอย่างเธอมาเดินลับๆล่อๆ อยู่ ซินดี้จิกตามองอย่างจับผิด หาว่าท่าทางเธอเหมือนพวกเมียน้อยนัดผัวชาวบ้านมาเริงร่าอยู่ชายทะเล พอการะเกดโต้ว่าตนไม่มีวันทำอย่างนั้น ก็หาว่าแอบนัดลูกค้าโปรไฟล์ดีๆมากินนอกรอบ ด่าหน้าด้าน ทุเรศ จนการะเกดโมโหเงื้อมือจะตบ
“พอได้แล้ว!” เสียงห้ามพร้อมกับจับมือที่จะตบค้างไว้ “เขาเป็นลูกค้าของบริษัทคุณ เดี๋ยวจะบานปลายพาลซวยกระทบเรื่องงานอีก”
“คุณแดน!!” การะเกดตกใจ แดนชวนให้กลับ เธอไม่ยอมกลับเขาขู่ก็ไม่สนใจ แดนเลยอุ้มเดินตัวปลิวไป ซินดี้มองตาค้าง
ฝ่ายแองจี้รอซินดี้ถ่ายรายการอยู่เร่งให้ทีมงานถ่ายเลยเพราะร้อนจนตนถูกแดดเผาจะสุกแล้ว ทีมงานบอกต้องรอซินดี้ก่อน ครู่หนึ่งทีมงานเอามือถือมาให้แองจี้ บอกว่าซินดี้โทร.มาบอกว่ามีเรื่องด่วนต้องคุยกับเธอเดี๋ยวนี้เลย
พอรับโทรศัพท์ไปคุย แองจี้ร้องเหมือนถูกผีหลอก
“หา!! เจอนังการะเกดอยู่กับคุณแดเนียลที่นี่!!!”
แดนเอาผ้าปิดปากและใส่กุญแจมือการะเกดไว้กับที่จับเหนือประตูรถ เธอดิ้นร้องอู้อี้ๆ แดนบอกว่ากลับถึงบ้านแล้วค่อยคุยกัน ส่วนซินดี้ขับรถตามมาห่างๆ จิกตาอาฆาต...
“นังการะเกด...นังแอ๊บกามเทพ คราวนี้เจอ พวกฉันจับได้คาหนังคาเขาแน่!!”
ooooooo
กลับถึงบ้านพัก แดนแบกการะเกดมาโยนโครมลงบนเตียงขู่ว่าถ้าไม่เลิกโวยวายตนก็จะไม่คุยด้วย จะทิ้งไว้อย่างนี้แหละ พอเธอสงบลงเขาจึงเอาผ้าผูกปากออกแต่กุญแจมือยังไม่เอาออกบอกว่าขอคุยให้จบก่อน
แดนบอกว่าเธอกำลังตกอยู่ในอันตรายถ้าไม่อยู่ใกล้ตน รู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น เธอโต้ว่าตนดูแลตัวเองได้ แดนดักคอว่า นึกแล้วว่าอดีตของตนกับเคทนี่เองที่ทำให้เธอโกรธจนทนอยู่กับตนที่นี่ไม่ได้ อาการแบบนี้เขาเรียกว่า...หึง!
“ฉันไม่ได้หึง!! เพราะฉันไม่ได้รักคุณ!!”
“พูด?ไหม่อีกทีสิว่าคุณไม่ได้รักผม มองหน้าผมแล้วพูดเลย...พูดสิ” การะเกดพูดไม่เต็มเสียงว่าตนไม่ได้รักเขา แดนฟังแล้วเจ็บ...อึ้ง บอกให้เธอส่งมือมาจะไขกุญแจให้ การะเกดหน้าเจื่อนยื่นมือให้ แดนไขกุญแจมือให้ข้างหนึ่งอีกข้างยังคงคาไว้ พูดอย่างเจ็บลึกว่า...
“รู้ไหม...ไม่ใช่คุณคนเดียวหรอกที่น้อยใจเรื่องอดีตคนรัก ผมเองก็ทำทุกอย่างเพื่อคุณแล้ว แต่คุณก็ยังไม่เคยลืมไอ้หมอนั่นเหมือนกัน” แดนเอามือข้างหนึ่งของตนใส่กุญแจมือเข้าด้วยกันกับเธอ พูดอ่อนโยนแต่หนักแน่นว่า “แต่ผมก็ไม่เคยคิดจะเลิกรักคุณ เข้าใจไหม...การะเกด”
แดนใส่กุญแจมือตนกับการะเกดแล้วขว้างลูกกุญแจออกนอกหน้าต่างเลย
ขณะที่ทั้งสองโต้เถียงแง่งอนกันอยู่ในบ้านพัก ที่นอกบ้าน ฌองพาลูกน้องพร้อมอาวุธมาซุ่มหมายเก็บแดนให้ได้แล้ว
แดนได้ยินเสียงผิดปกติเดินไปดูที่หน้าต่างลากการะเกดที่ใส่กุญแจมือด้วยกันไปแทบหัวคะมำ เขาบอกเธอว่า
“งานเข้าเราแล้ว...พวกแบล็คออร์คิดบุกมาที่นี่!”
แดนเห็นท่าจะรับมือกับพวกนั้นที่มากันมากมายไม่ไหว จะพาเธอหนีแต่เธอเดินชนกรอบรูปตกทำให้พวกนั้นรู้ตัว มันเล็งปืนใส่ทันที แดนรีบคว้ามีดในครัวเป็นอาวุธ
แต่ด้วยกำลังคนและอาวุธที่เหนือกว่ามากมายอีกทั้งแดนยังใส่กุญแจมือติดกับการะเกด ทำให้เขาต้องต่อสู้อย่างทุลักทุเล การะเกดเองก็ถูกลากถลาไปมา แต่แดนก็สามารถกำจัดลูกน้องของฌองที่บุกเข้ามาและแย่งปืนพกไปได้สองกระบอก ส่งให้การะเกดกระบอกหนึ่ง เธอรับไว้แต่บอกว่า ตนฆ่าใครไม่ได้หรอก
แดนบอกว่าสถานการณ์อย่างนี้ตนรับมือคนเดียวไม่คล่องตัว เราต้องสู้ด้วยกันจึงจะรอด ตนเชื่อว่าเราต้องทำได้ แต่ฌองนำกำลังมามากและวางดักไว้หมด การะเกดกลัว แดนจูบให้กำลังใจ บอกเธอว่า
“ใจเย็นๆ ไม่มีอะไรที่การะเกดทำไม่ได้ คุณพูดอยู่เสมอ...ถ้าผมไม่รักคุณก็คงไม่ยอมเอาชีวิตผมมาใส่ไว้ในมือคุณแน่ ทีนี้ก็อยู่ที่คุณแล้วว่าพร้อมจะมอบชีวิตที่เหลือให้ผมดูแลไหม”
เมื่อการะเกดพยักหน้า แดนดึงเธอเข้าไปกอดให้กำลังใจ แล้วแดนก็ตัดสินใจพาเธอออกจากที่ซ่อน พร้อมเผชิญหน้ากับมัน!
ooooooo
พอแองจี้รู้ว่าการะเกดอยู่กับแดนที่นี่ก็ลิ่วมาหาซินดี้ พอเจอกันก็บอกซินดี้อย่างสะใจว่า
“ฉันจะกระชากหนังหน้านังแอ๊บกามเทพไปให้เจ้านายพวกมันรู้เสียทีว่าลูกน้องพวกมันมีพฤติกรรมเลวๆยังไง”
“ชัวร์...งานนี้พวกมันโดนถล่มแน่”
แดนกับการะเกดสู้กับลูกน้องฌองกำจัดมันไปได้หลายคนจนกระทั่งฌองในคราบโจ๊กเกอร์หัวเราะสะใจเข้ามา
“เก่งสมกับเป็นคู่ปรับของฉันจริงๆไอ้แดเนียล!!!” ฌองถอดหน้ากากโจ๊กเกอร์ออกประกาศ “มันถึงเวลาแล้วแดเนียล เวลาที่ฉันต้องปิดบัญชีแค้นกับแก”
“ได้...แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้...เธอไม่เกี่ยว” แดนชูมือที่ใส่กุญแจมือติดกับการะเกดให้ดู “ปล่อยเธอไปซะแล้วมาเอาตัวฉันไปเลย” การะเกดถามว่าจะบ้าหรือ พวกมันฆ่าเขาแน่ แดนพูดประชดอย่างเจ็บลึกในใจว่า
“ไม่มีผมซะคน คุณจะได้ไม่ต้องเหนื่อยมาทะเลาะกับผมอีกไง”
แดนถูกฌองเล่นงานอย่างหนักจนการะเกดแทบทนไม่ได้ แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไร แล้วลุกขึ้นเผชิญหน้าพูดกับฌองทั้งที่เลือดกบปากว่า
“ฉันนับถือแกว่ะ นึกว่าแกมันจะเป็นแค่พวกโจรกระจอก แต่ถ้าสัญชาตญาณนักสู้ของแกพร้อมให้โอกาสฉันสู้ ฉันก็จะทำให้แกตายตาหลับยอมรับว่าแกสู้ฉันไม่ได้”
“หึ...ฉันรอเจอคนอย่างแกมานานแล้วไอ้แดนเนียล เก่งแต่ปาก!!”
ทั้งสองพุ่งเข้าหากันแบบสู้ให้ตายกันไปข้าง แต่แล้วฌองก็ล้วงเอาสนับมือที่มีกรงเล็บคมกริบออกมา การะเกดร้องเตือนแดนให้ระวัง แดนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ แต่ขณะกำลังจะถูกฌองเอากรงเล็กสนับมือฆ่าเขานั้น ทุกอย่างก็ชะงักเมื่อซินดี้ขับรถมาเบรกสนั่น แดนถือโอกาสนั้นบิดมือฌองหันกรงเล็บสนับมือกลับไปแทงฌองจนเลือดทะลัก!
ซินดี้กับแองจี้มาเห็นลูกน้องอาวุธครบมือของฌองยืนคุมเชิงอยู่ก็นึกว่าเป็นการถ่ายหนัง พอดีแดนวิ่งออกมาบอกให้ทั้งสองหนีไป ให้สองสาวขึ้นรถขับพุ่งชนลูกน้องฌองกระเด็น แล้วขับรถหนีไปอย่างเร็ว ฌองวิ่งออกมาตะโกน
“อย่าให้มันหนีไปได้...ตามไป!!”
ลูกน้องฌองขับรถไล่ตาม ซินดี้กับแองจี้กลัวตัวสั่นถามว่านี่มันอะไรกัน การะเกดขู่ว่าถ้าไม่หยุดโวยวายแดนจะปล่อยเธอลงที่นี่ แต่แดนบอกว่า ถ้าพวกเขาไม่เข้ามา เราสองคนคงเสร็จพวกฌองแน่ การะเกดจึงยอมจะเล่าให้สองสาวฟังแต่ขอให้เธอเอาโทรศัพท์มาก่อนตนต้องโทร.ตามคนมาช่วย
ทั้งซินดี้และแองจี้บอกว่าโทรศัพท์ตกหายไปแล้ว ระหว่างนั้นลูกน้องฌองตามใกล้เข้ามาทุกที แดนตัดสินใจหยุดรถ
“หยุดรถทำไม รีบไปหาตำรวจสิ” แองจี้โวยวาย
“พวกมันล่าผมไม่หยุดแน่ ผมต้องมั่นใจก่อนว่าพวกคุณจะไม่เป็นอันตราย” แดนบอกแล้วลงจากรถไปซุ่มรอเล่นงานลูกน้องฌองจนมันร่วงจากมอเตอร์ไซค์ เขาเข้าค้นตัวมัน พบมีดและปืนรวมทั้งวิทยุสื่อสารที่พวกมันใช้ติดต่อกัน
“แย่แล้ว” แดนหน้าเครียด
ooooooo
การะเกดเดินนำซินดี้กับแองจี้หาทางออกจากสวนยางพลางเล่าเรื่องของแดนให้ฟัง ซินดี้ตกใจเมื่อรู้ว่าแดนเป็นตำรวจสากลที่ปลอมตัวมา ทั้งซินดี้และแองจี้กลัวตาย ยังไงก็ขอให้รอดกลับไปแต่งงานกับหนุ่มหล่อโปรไฟล์เริ่ดๆก่อน
แดนกลับมาบอกว่าตนเจอวิทยุที่พวกมันใช้ติดต่อกัน ไอ้โจ๊กเกอร์ไม่ยอมปล่อยตนง่ายๆ มันจะล่าจนกว่าจะฆ่าตนได้ การะเกดเร่งให้ออกจากที่นี่ไปขอความช่วยเหลือ แดนบอกว่าถ้าพวกเธออยู่ใกล้ตนเราไม่รอดแน่
แองจี้เร่งว่าจะให้ทำอะไรก็รีบบอกตนกลัว แดนจึงยื่นกุญแจรถให้แองจี้บอกให้ขับรถไปตามทางนี้ อย่าไปถนนใหญ่เจอโทรศัพท์เมื่อไหร่ให้รีบโทร.หาหมวดปรัชวินทร์ทันที การะเกดถามว่า “แล้วคุณล่ะ?”
“ผมจะย้อนกลับไปเผชิญหน้ากับพวกมัน จะได้ถ่วงเวลาให้คุณหนีได้” การะเกดไม่เห็นด้วย “แต่นี่เป็นทางเดียวที่ผมจะจัดการพวกมันได้ ผมต้องได้ตัวไอ้โจ๊กเกอร์เป็นๆ มันจะเป็นเบาะแสให้ผมสาวไปถึงตัวหัวหน้าของพวกแบล็คออร์คิด”
ซินดี้กับแองจี้โวยว่ามัวแต่เถียงกันอยู่บอกให้แดนรีบไปจับพวกนั้นเลย จับผู้ร้ายแบบนี้ตนไม่เอาด้วยไม่อยากเป็นม่ายตั้งแต่ยังสาว แดนตัดบทเร่งการะเกดว่า
“คุณรีบไปกับพวกเขาเถอะไม่ต้องห่วงผม ผมเอาตัวรอดได้ อย่าให้ผมต้องห่วงคุณจนทำงานนี้ไม่สำเร็จเลยนะครับ”
ก่อนที่แองจี้จะขับรถออกไป แดนขอร้องสองสาวอย่าเพิ่งเอาเรื่องนี้ไปออกอากาศ รอให้ตนจัดการพวกมันเรียบร้อยก่อน ซินดี้บอกว่าถ้าออกข่าวนี้สถานีของแม่ต้องดังเปรี้ยงแน่ แดนบอกว่าเปรี้ยงแน่แต่เป็นเปรี้ยงเสียงปืนที่พวกมันไปถล่ม
“เอาไว้ผมจัดการล้างบางพวกมันได้เมื่อไหร่ ผมจะให้ข้อมูลกับพวกคุณไปออกอากาศเป็นคนแรก” แดนกล่อมแล้วเร่งให้รีบไป สัญญาว่าตนจะกลับมาหาพวกเธอ แล้วดึงการะเกดเข้าไปกอดกระซิบ “ความรักเคยทำให้เราเจ็บ เพราะฉะนั้นผมจะไม่ซ้ำเติมคุณ...ผมจะกลับมา”
แดนหอมแก้มการะเกด ส่งปืนให้ กำชับว่าอย่าไปตามถนนใหญ่ พวกมันอาจจะดักอยู่ก็ได้
ooooooo
อีวาเตรียมออกเดินทางกลับฝรั่งเศส โทร.กำชับฌองว่า หวังว่าคงได้ยินคำว่าเรียบร้อยดี ฌองกำลังให้ลูกน้องทำแผลอยู่ยืนยันว่าไม่ใช่ก็ใกล้เคียงแล้ว แต่เจ็บแผลเผลอร้องออกมา อีวาได้ยินถามว่าบาดเจ็บหรือ
“ก็แค่นิดหน่อยเท่านั้น...ตอนนี้คนของฉันได้ตัวมันมาแล้ว อีกเดี๋ยวฉันจะไปจัดการปิดเกมให้เรียบร้อยเอง เธอไม่ต้องห่วง ฉันไม่ทำให้โนอาร์ผิดหวังแน่”
“โนอาร์ส่งฉันมาดูแลงานที่นี่ ฉันต้องคุมไม่ให้มีความผิดพลาดแม้แต่เรื่องเดียว เข้าใจแล้วรีบจัดการซะ” อีวาน้ำเสียงไม่พอใจ แล้วหันสั่งลูกน้อง “ตามฟิลลิปมาเดี๋ยวนี้”
พอฟิลลิปมา อีวาถามว่าต้องใช้เวลาอีกเท่าไหร่ เพราะตอนนี้โนอาร์เดินทางออกจากฝรั่งเศสมาพบลูกค้าที่ปีนัง เขาถามถึงสินค้าที่เสนอไป เหยื่อใกล้ติดเบ็ดพร้อมเอาตัวไปด้วยหรือยัง พอฟิลลิปบอกว่ายัง อีวาลุกพรวด ตะคอก
“วันนี้ฌองทำฉันหงุดหงิดไปคนนึงแล้ว ถ้าแกยังทำให้ฉันอารมณ์ดีไม่ได้...รู้ไหมว่าฉันอาละวาดขึ้นมาแล้วเป็นยังไง”
“ใจเย็นน่าอีวา...ฉันเอาหัวเป็นประกัน กุหลาบแรกแย้มของฉันมันคุ้มค่ากับการรอคอยแน่ เอาอย่างนี้แล้วกัน ฉันจะรุกหนักแล้ว รับรองไม่เกินสองวัน”
จากนั้นฟิลลิปไปร้านกาแฟที่โรสไปนั่งเขียนนิยายประจำ เห็นเธอนั่งเครียดอยู่หน้าจอโน้ตบุ๊กก็เข้าไปบอกว่า ถ้าคิดไม่ออกก็หยุดเขียนดีกว่า อย่าบีบคั้นตัวเองเลย แล้วถือวิสาสะปิดหน้าจอโน้ตบุ๊ก
โรสปรับทุกข์ว่าครั้งนี้หนักหนามาก เพราะรู้สึกว่าเขียนอะไรไปก็ไม่สนุก ฟิลลิปได้ทีแนะนำว่าอาการแบบนี้ต้องออกไปพักผ่อนเปิดสมองให้โล่งๆดีกว่า บอกว่าตอนนี้บ้านตนอากาศกำลังดี ชาโตว์ของคุณแม่ก็มีบ้านพักบนภูเขา เชื่อว่าถ้าเธอไปพักที่นั่นสักอาทิตย์รับรองกลับมาเขียนงานออกแน่
โรสถามว่าจะดีหรือเราเพิ่งรู้จักกัน ฟิลลิปบอกว่าถึงเรารู้จักกันไม่นานแต่ตนเล่าเรื่องของเธอให้คุณแม่ฟังตลอด จนท่านอยากเห็นว่าที่ลูกสะใภ้เร็วๆ แล้ว โรสอึ้งทวนว่าสะใภ้?
ฟิลลิปหยิบแหวนหมั้นออกมาบอกว่า ถึงเวลาที่ตนจะเริ่มต้นชีวิตที่ตัวเองฝันเสียที นี่อาจทำให้เธออึดอัด แต่แหวนหมั้นวงนี้จะพิสูจน์ว่าตนจริงจังกับเธอมากแค่ไหน โรสอึกอัก...บอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ กลัวว่าถ้าพี่เกดรู้เข้า...เขาจะ...
“ชีวิตเป็นของคุณครับโรส ไม่มีใครรู้จักผมดีได้เท่ากับคุณ ตอนนี้ผมมีภารกิจสุดท้ายที่ต้องไปเผชิญหน้ากับความตาย ผมยอมตายไปในภารกิจนี้ดีกว่าที่จะให้คนอื่นมาตัดสินผม”
โรสมองหน้าเขานิ่ง...คิดหนัก
ooooooo
เมื่อเผชิญอันตราย แองจี้กับซินดี้ก็โทษกันไปมาว่าอีกฝ่ายจุ้นจ้านกับเรื่องคนอื่นจนแทบเอาชีวิตไม่รอดอย่างนี้ ต่างเห็นว่าแดนคนเดียวสู้พวกมันไม่ได้แน่ แต่พวกเรายังไงก็ต้องรอด พอถึงทางแยกแองจี้เบรกเอี๊ยดถามว่าต้องไปทางไหน?
การะเกดที่นั่งหลังรถทนไม่ได้ลงจากรถไปบอกให้ทั้งสองลงจากรถ ทั้งสองไม่ยอมลง เธอกระชากลงแล้วขับรถย้อนกลับไปปล่อยให้ซินดี้กับแองจี้ตกใจยืนเหวออยู่กลางสวนยาง
แยกจากสามสาวแล้ว แดนไปหลบอยู่ที่โกดังสะพานปลา ฌองพาลูกน้องไปร้องท้าให้ออกมาเผชิญหน้ากัน แดนออกมาโดยมีลูกน้องของฌองเป็นตัวประกันมาด้วย บอกฌองว่า ถึงเวลาที่แบล็คออร์คิดจะถูกถอนรากถอนโคนแล้ว
ฌองจิกตาร้ายบอกแดนว่า ถ้าเขาพลาด ผู้หญิงที่เขารู้จักทุกคนจะโดนพวกตนตามล่า จากนั้นจะเกิดอะไรขึ้นก็ไปโอดครวญในหลุมศพแล้วกัน แล้วชักมีดสั้นพุ่งเข้าแทงทันที แดนเอาตัวประกันเป็นโล่รับมีดแทน พวกลูกน้องฌองระดมยิง แดนใช้ร่างตัวประกันบังกระสุนหนีออกไปได้
แดนหนีไปหลบอยู่ในโรงน้ำแข็งของสะพานปลา ฌองพาลูกน้องตามไปอีก ถูกแดนใช้ตะขอเกี่ยวน้ำแข็งสู้กับมีดสั้นของฌอง แดนพลาดถูกฌองเอามีดจ่อพร้อมฆ่า
ทันใดนั้นแสงไฟหน้ารถสว่างจ้าขึ้น ฌองชะงัก เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม การะเกดตะโกนลั่น
“อย่ายุ่งกับแฟนฉัน!!”
การะเกดพุ่งรถเข้าชนฌองอย่างแรง ฌองกระเด็นกระแทกกระจกหน้ารถร้าว เธอตกใจหักพวงมาลัยหลบท้ายรถปัดไปกระแทกเสาปูนเต็มแรง รถหยุดสนิท!
แดนรีบเข้าไปเปิดประตูรถดึงร่างการะเกดออกมา ถามว่ากลับมาทำไม! เธอบอกว่ากลัวเขาจะไม่รักษาสัญญาเลยกลับมา แดนบอกว่าอย่าเอาตนไปเทียบกับคนที่ทิ้งเธอไปในวันแต่งงาน คนอย่างตนถ้ารักแล้วก็ต้องอยู่ด้วยกันจนแก่จน...การะเกดดึงเขาเข้าไปจูบจนแดนอึ้ง
ขณะนั้นฌองเริ่มรู้สึกตัวและรถ SUV สีดำทะมึนสองคันก็พุ่งเข้ามา ลูกน้องแบล็คออร์คิดสองสามคนลงจากรถระดมยิงเปิดทางให้โนอาร์ลงจากรถเดินมาดูอาการฌองแล้วสั่งลูกน้องให้พาไปขึ้นรถ โนอาร์รับปืนจากลูกน้องยิงกราดรัวสนั่น แดนรีบพาการะเกดหลบ โนอาร์ยิงจนสะใจแล้วขึ้นรถกลับไป
เมื่อพวกโนอาร์กลับไปหมดแล้ว แดนจึงออกมามองตามอย่างเจ็บใจ!
ooooooo
คืนนี้ขณะโรสนั่งเครียดทั้งเรื่องเขียนนิยายไม่ออกและเรื่องฟิลลิปอยู่นั้น ฟิลลิปก็โทร.มาทำเป็นห่วงใยตำหนิตัวเองว่าทำให้เธอต้องเครียดเพราะนอกจากนิยายแล้วยังต้องปิดบังพี่สาวเรื่องตนอีก ด่าตัวเองว่า “ผมมันเห็นแก่ตัวจริงๆ”
โรสบอกว่าตนเองต่างหากที่ไม่กล้าตัดสินใจ ฟิลลิปทำเป็นเห็นใจว่าเรื่องนี้ตัดสินใจยากจริงๆ แต่สำหรับตนชีวิตมาถึงขนาดนี้ที่ได้รู้จักเธอก็ถือว่าใช้ชีวิตคุ้มแล้ว บอกว่าเวลาของตนเหลือน้อยแล้ว เพราะมีภารกิจต้องรีบไปจัดการให้เรียบร้อย ปลอบว่า “ไม่ต้องเอาเรื่องของผมมาคิดให้หนักใจ แค่ทำในสิ่งที่ต้องทำก็พอ ผมรักคุณนะครับ” แล้ววางสายเลย
“คุณฟิลลิป...คุณฟิลลิปคะ!!” โรสใจหายวาบทรุดนั่งหมดแรงที่เตียง อึดใจเดียวก็โทร.ไปหาแจนเพื่อนรัก พอแจนรับสาย โรสพูดอย่างร้อนรน “ยัยแจนเหรอ ฉันมีเรื่องอยากให้ช่วยหน่อย แกไม่ต้องถามอะไรมาก แกชอบเหน็บฉันมาตลอดไม่ใช่เหรอว่าฉันเป็นพวกปอดแหก เก่งก็แค่ในนิยายที่เขียน ตอนนี้ฉันอยากผจญภัยออกไปเจอโลกกว้างแล้ว!”
ooooooo
แดนเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล การะเกดเฝ้าดูแลตลอดเวลา พราวกับโรมมาเยี่ยม พราวเอาแท็บเล็ตให้แดนกับการะเกดดูใบหน้าของโนอาร์ที่เธอกับโรมช่วยกันสืบค้นข้อมูลได้จากอินเตอร์เน็ต บอกว่าอาจเป็นคนที่ช่วยโจ๊กเกอร์ไป
แดนถามว่าแน่ใจหรือยัง ขอให้ตนรู้เท่านั้นว่ามันเป็นใครตนก็จะพลิกแผ่นดินหามันให้เจอ การะเกดถามว่ามันเป็นใคร
“เขาชื่อโนอาร์ บลองค์ แต่ในแวดวงการเงินในวอลสตรีทรู้จักในชื่อคริสโตเฟอร์ เขาเป็นนักเล่นหุ้นที่ฉลาดและค่อนข้างเก็บตัว...รู้แต่ว่าหลังเหตุการณ์ ๙๑๑ ตลาดหุ้นวอลสตรีทวุ่นวาย เขาก็แทบหมดตัวและอพยพไปอยู่ฝรั่งเศส”
พราวเล่าประวัติคร่าวๆ แดนเสริมว่านั่นเป็นช่วงเวลาที่พวกแบล็คออร์คิดเริ่มมีบทบาทในกลุ่มอาชญากร ไม่นานเขาก็ขยับขึ้นมาเป็นมาเฟียที่มีอิทธิพลในยุโรป โรมฟังแล้วเชื่อว่าเป็นไปได้ที่โนอาร์จะใช้ความฉลาดกับเส้นสายที่รู้จักกับพวกมหาเศรษฐีในแวดวงการเงินทำธุรกิจผิดกฎหมายทุกอย่าง เพื่อช่วยฟอกเงินให้พวกนั้นจนกลายเป็นมาหนุนหลังให้
“และเป็นลูกค้าคนสำคัญที่มันต้องคอยหาผู้หญิงบริสุทธิ์ส่งไปบำเรอกาม” แดนมองทะลุถึงปัญหาที่ตัวเองกำลังสืบค้น เขาขบกรามเจ็บใจเมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังต่อสู้กับใครที่อยู่หลังฉากแบล็กออร์คิด
ที่บ้านพักตากอากาศในปีนัง อีวาส่งเด็กสาวไปให้โนอาร์ เด็กสาวต่อสู้ป้องกันตัวถูกโนอาร์บีบคอจนเกือบตายทำให้ต้องยอมทำงานให้ โนอาร์ขู่ก่อนส่งไปให้ลูกค้าว่า
“ถ้าลูกค้าฉันคอมเพลนกลับมาว่าเธอบริการเขาไม่สมราคาละก็...รู้นะว่าจะเจออะไร...ไป!”
เมื่อส่งเด็กสาวไปแล้ว อีวาเข้ามาขอโทษโนอาร์บอกว่าตนพยายามทำทุกอย่างให้ผิดน้อยที่สุดแล้วแต่...
“ชู่ววว์...ใจเย็นๆ เราไม่ได้เพิ่งจะมาทำงานร่วมกันนะอีวา ถึงฉันจะไม่ชอบความผิดพลาด แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นเธอเป็นคนอื่น เธอยังเป็นผู้หญิงของฉันเสมอ” แต่แล้วโนอาร์ก็เชยคางบีบปากเธออย่างแรง
“แต่จะไม่ให้บทเรียนเลยมันก็คงเป็นเยี่ยงอย่างไม่ดีกับคนอื่น!!! เธอทำให้ฉันต้องเผยตัว กลายเป็นเป้าให้ไอ้ตำรวจสากลนั่นรู้จักฉันจนได้!!”
อีวาโทษว่าตนกำชับฌองแล้วแต่เขาไม่ฟัง ถูกโนอาร์ตะคอกทันทีว่าไม่ต้องอ้าง ตนไว้ใจให้เธอมาทำงานทุกอย่างแทนแต่เธอกลับทำผลงานให้ตนไม่พอใจ สั่งให้อีวากลับไปทำหน้าที่ดูแลสินค้าเหมือนเดิม ส่วนตำรวจนั่นรอให้ฌองดีขึ้นตนจะจัดการมันเอง
พราวกับโรมไปเยี่ยมแดนเห็นความสัมพันธ์ของแดนกับการะเกดดูออกว่าทั้งสองมีใจให้กันแต่ก็เหมือนมีอะไรบางอย่างขวางกั้นอยู่ โรมกระซิบอะไรบางอย่างกับแดนแล้วสองหนุ่มก็ยิ้มให้กัน เมื่อออกมาจากห้องคนป่วยพราวถามว่ากระซิบอะไรกัน โรมบอกว่านิดหน่อยประสาผู้ชายด้วยกัน ถูกพราวบิดหูจึงยอมบอกว่า
“ก็ไอ้แดนมันจริงจังกับคุณเกดนี่ครับคุณพราว ผมเลยไม่อยากให้มันพลาดเหมือนคนก่อนอีก”
พราวบอกว่าแต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ตนกลัวทั้งเกดทั้งแดนจะลงเอยไม่สวยอย่างที่เขาคิด โรมถามว่าทำไม?
“ฟังจากที่คุณแดนพูดเมื่อกี้ก็น่าจะรู้...ยังไงเขาก็คงไม่เลิกเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงตายแน่ ส่วนเกด จนถึงตอนนี้ฉันไม่รู้จริงๆว่าจะกล้ารักใครจริงๆจังๆอีกไหม ที่เห็นพวกเขาดูดีมีความสุขกัน ฉันว่านั่นเพราะความใกล้ชิดต่างหาก”
ฟังพราวแล้วโรมเริ่มคล้อยตามการะเกดกลับคอนโดเจอแดนยืนรออยู่แล้ว เขาบอกว่าพอเธอขอตัวกลับตนก็ขอหมอออกจากโรงพยาบาลขี้เกียจนอนให้พยาบาลเช็ดตัวเพราะมีคนที่น่าจะทำให้ตนได้ถูกใจมากกว่า
การะเกดด่าว่าทะลึ่ง ไล่ให้หลบไปตนไม่อยากโกหกบอสโกหกโรสเรื่องกับเขา แดนจำต้องหลบให้เธอไขกุญแจเข้าห้อง แต่พอเข้าไปโรสเห็นหน้าก็ทักแซวๆ ว่าเจอหน้าแบบนี้ แบบที่บอกเลิกกับคนรัก การะเกดรีบปิดปากน้องกลัวแดนยังอยู่หน้าห้องจะได้ยิน โรสยิ่งแน่ใจถามว่าโดนจี้แผลใจเข้าอย่างจังเลยใช่ไหม
โรสบอกว่าแดนน่าจะรักษาแผลใจให้พี่ได้ แต่ถ้าไม่ใช่พี่แดนชาตินี้ก็คงหาใครมารักษาแผลใจให้พี่ไม่ได้แล้วล่ะ การะเกดหยิกแขนโรสปรามว่าปัญหาของตนแก้เองได้ไม่ต้องมายุ่ง โรสเลยย้อนว่าถ้าเป็นเรื่องของตนบ้างพี่ก็ไม่ต้องมายุ่งแล้วกัน พอดีโทรศัพท์ดัง โรสหยิบดูเป็นสายจากฟิลลิป โรสได้ทีตัดบทว่า
“โอเค โรสไม่ยุ่งเรื่องพี่แล้วก็ได้ ถ้าพี่อยากจมปลักอยู่กับอดีตแล้วปล่อยมันทำร้ายคนอื่นที่เขารักพี่จริง พี่ก็ควรรีบบอกเขาไปไม่ใช่ปล่อยให้เขาเจ็บไปเรื่อยๆ...โรสไปล่ะ” แล้วกดรับสายฟิลลิปแต่ปดการะเกดว่า “ฉันกำลังจะออกไป เจอกันที่เดิมนะยายแจน”
ooooooo
เมื่อโรสออกไปเจอฟิลลิป ถูกเขาเล้าโลมกอดจูบจนโรสเคลิ้ม หลอกโรสว่าภารกิจสุดท้ายของตนอยู่ที่เกาะปีนัง พ่อแม่ก็มาเที่ยวปีนังพอดี ชวนโรสไปด้วยกันจะได้ไม่ต้องเดินทางไกลพรุ่งนี้ไปกันเลยเราจะได้เที่ยวเรือสำราญกันด้วย
“แต่มันจะกะทันหันไปน่ะสิคะ”
“คุณอยากให้ผมอยู่ด้วยเวลาเจอหน้าพวกท่าน นี่เป็นวิธีเดียวแล้วล่ะครับโรส”
ฟิลลิปอ้อนจนโรสมองหน้าเขา คิดหนัก
เวลาเดียวกัน จากการสืบประสานกันหลายฝ่าย แดนกับปรัชวินทร์ได้ข้อมูลความเชื่อมโยงของพวกมาเฟียว่า โจ๊กเกอร์ชื่อจริงคือ ฌอง มาโซ เคยเป็นทหารในกองทัพฝรั่งเศส ปลดประจำการแล้วไปสร้างกลุ่มทหารรับจ้างรับงานจากโนอาร์และยังได้ข้อมูลของปิแอร์ ชื่อจริงคือหลุยส์ ฟรองซัวร์ นกต่อที่เราเคยเสียท่ามันมาแล้ว
เมื่อเปิดแท็บเล็ตดูหน้าปิแอร์ต่างจากปิแอร์ที่แฝงตัวอยู่ในคิวปิดฮัท หมวดจะเอารูปไปให้พรรคพวกช่วยตรวจสอบอีกทีได้ข้อมูลที่ชัดเจนแล้ว แดนไปบอกการะเกดว่าปิแอร์ชื่อจริงว่าหลุยส์ ฟรองซัวร์ และยังป้วนเปี้ยนอยู่ในไทย ตนกับหมวดจะไปตามล่ามันแต่ก็ไม่อยากทิ้งเธอไว้คนเดียว การะเกดบอกว่าให้เขาไปปฏิบัติภารกิจเสียเพราะหมอนั่นเป็นเบาะแสเดียวที่เขาจะพลาดไม่ได้อีกแล้ว เตือนให้ระวังตัวด้วย อย่าเอาแต่บ้าระห่ำลุยดะไม่กลัวตาย ห่วงคนข้างหลังบ้าง
คำพูดของการะเกดทำให้แดนลังเล แต่หมวดเข้ามาเร่งเพราะเราจะไม่มีเวลาแล้ว
ที่เกาะปีนัง ฌองอาการดีขึ้น เขาขอโทษโนอาร์ที่ทำงานพลาด
“แกเป็นทั้งมือขาเป็นทั้งอาวุธสำคัญของฉัน ถ้าไม่มีแกคอยช่วย แบล็คออร์คิดก็คงมาไม่ถึงวันนี้” ฌองติงว่าความผิดพลาดคือสิ่งที่เขาไม่ยอมให้เกิดขึ้น “ใช่...สำหรับฉันทุกอย่างต้องเพอร์เฟกต์ แต่ฉันคงไม่ตอกย้ำความพ่ายแพ้ให้แก เพราะฉันยังเชื่อว่า แกจะกลับมาตั้งใจทำงานมากกว่าเดิม”
ขณะนั้นเอง อีวาเข้ามาบอกว่าสินค้าที่โนอาร์อยากเจอตัวพร้อมเดินทางวันนี้แล้ว โนอาร์ให้ดูแลสินค้าให้ดีเพราะตนจะจัดงานประมูลใหญ่สมนาคุณให้ลูกค้าเกรดเอของเรา ฌองถามว่าสินค้าตัวนี้เกี่ยวข้องกับแดน ถ้าเขารู้จะต้องตามสืบแน่
“ฉันรู้ นี่แหละคือจุดประสงค์ที่ฉันอยากได้สินค้าพิเศษนี้ เพราะมันคือเหยื่อล่อให้แกจัดการแก้แค้นไอ้แดเนียลไง”
“ขอบคุณครับโนอาร์ ผม...ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง”
ooooooo
โรสลากกระเป๋าเดินทางออกจากบ้านบอกว่าจะไปเที่ยวเชียงใหม่บ้านของแจน การะเกดบอกว่าไม่อยากให้โรสไปไหนตอนนี้ โรสหาว่านิสัยที่เอาแต่ตัวเองเป็นหลักไม่เคยสนใจความรู้สึกของคนอื่นแบบนี้ของพี่ พี่ณัฐถึงทนไม่ได้ทิ้งพี่ไป
การะเกดโมโหยกมือจะตบแต่ก็ชะงัก โรสถามว่าคิดจะตบตนเลยหรือ การะเกดจะชี้แจง โรสตัดบทว่า
ไม่ต้องพูดแล้วต่างคนต่างอยู่ก็แล้วกัน แล้วลากกระเป๋าออกไปเลย การะเกดวิ่งตามไปแต่โรสขึ้นแท็กซี่ออกไปแล้ว
แดนคิดมากที่การะเกดพูดด้วยอย่างหมางเมิน พอดีหมวดได้รับโทรศัพท์แจ้งข่าว หมวดบอกแดนว่าเพื่อนที่ สน.ทองหล่อบอกว่าเมื่อคืนนี้มีเหตุทะเลาะวิวาทกันเรื่องผู้หญิงในผับแถวนั้น ฟิลลิปมีภาพอยู่ในกล้องวงจรปิดด้วย ทั้งสองจึงรีบไป
ฟิลลิปมีรอยฟกช้ำที่ใบหน้าและมือ เขาบ่นขณะรอโรสอยู่บ้านพักว่าถ้าวันนี้ไม่ติดต้องเอาสินค้าไปส่งมีหวังไอ้พวกกระจอกโดนหนักแน่ บ่นไม่ทันขาดคำ โรสก็โทร.บอกว่าตนกำลังมาหาเขาแต่ถูกพี่สาวตามมา ถ้ารู้ว่ามาหาเขาต้องถูกกีดกันแน่ ฟิลลิปบอกว่าเธอคงต้องเปลี่ยนเส้นทาง แล้วขอคุยกับคนขับแท็กซี่
แต่ขณะเก็บของจะออกไป เขามองจอมอนิเตอร์ที่เชื่อมภาพจากกล้องวงจรปิดติดไว้ในห้องพักเห็นแดนกับหมวดกำลังบุกเข้ามา เขาสบถหัวเสีย...
“ไอ้แดเนียล!! ไอ้เวรเอ๊ย...”
แต่พอแดนกับหมวดบุกถึงห้องพัก ไม่เห็นฟิลลิปแล้ว เจอแต่แก้วกาแฟร้อนๆวางอยู่คาดว่ามันคงยังไปไม่ไกล
ที่แท้ฟิลลิปหลบอยู่ในตู้เสื้อผ้า เขาเอากระป๋องน้ำอัดลมใส่ในไมโครเวฟตั้งเวลาให้ระเบิด พอกระป๋องน้ำอัดลมระเบิด แดนกับหมวดหลบ ฟิลลิปก็ออกจากตู้วิ่งหนีไป แดนกับหมวดวิ่งตามถูกฟิลลิปจับเด็กเป็นตัวประกันสั่งให้ทั้งสองวางปืนและก้มต่ำแล้วมันก็ทำร้ายตัวประกันก่อนวิ่งหนีไป แดนกับหมวดวิ่งตามแต่ฟิลลิปวิ่งหายไปแล้ว
การะเกดตามโรสเรียกให้มาคุยกันก่อน แต่โรสก็เดินกลืนหายไปในหมู่คน ซ้ำการะเกดยังถูกฟิลลิปจ้างคนร้ายล้วงกระเป๋าเอาโทรศัพท์ไปอีกเพื่อถ่วงเวลาเธอไม่ให้ตามโรสไป เธอยืนคว้าง ตามน้องก็ไม่ทัน ซ้ำโทรศัพท์ถูกขโมย
เมื่อโรสไปเจอฟิลลิป เห็นรอยช้ำที่หน้าเขา ถามว่าไปโดนอะไรมา เขาบอกว่าเมื่อคืนมีภารกิจเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่เพราะมีเธอเป็นกำลังใจจึงผ่านมาได้ โรสฟังแล้วสงสาร แต่แล้วก็ร้องไห้บอกว่าไม่รู้ว่าตนทำถูกหรือไม่ รู้สึกไม่ดีเลยเหมือนกับตัดขาดกับพี่เกด ตนไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย
“โรสครับ...ผมรู้ว่าทำแบบนี้ไม่ดี เหมือนผมเข้ามาทำให้คุณกับพี่สาวต้องแตกแยกกัน เอาอย่างนี้...ผมจะไปคุยกับพี่สาวคุณตรงๆ ถ้าเกิดอะไรขึ้นผมก็พร้อมทำใจ”
“อย่าทำอย่างนั้นเลยค่ะฟิลลิป ตอนนี้พี่เกดไม่ยอมฟังอะไรแน่ แล้วเราก็จะถูกห้ามคบกัน โรสยอมให้เป็นแบบนั้นไม่ได้”
ฟิลลิปอ้อนว่าตนรักเธอมาก และคงทรมานใจตายถ้าไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับเธอ โรสบอกว่าตนก็รักเขามาก ฟิลลิปชวนรีบไปกันดีกว่า เมื่อทุกอย่างผ่านไปด้วยดี พี่สาวเธอต้องเข้าใจเรา แล้วพาโรสขึ้นรถไปทันที
การะเกดเสียใจมากที่ห้ามน้องไม่ได้ กลับมาที่คอนโด แดนตามมาปลอบว่าตนมีเพื่อนอยู่ที่เชียงใหม่จะให้ช่วยตามข่าวให้ ถ้าเพื่อนได้ข่าวโรสจะรีบมาบอกเธอทันที
แดนกับหมวดไปตรวจที่พักของฟิลลิป ปรากฏว่ามันไม่ทิ้งอะไรไว้เป็นเบาะแสเลย แดนตำหนิตัวเองว่าไม่น่าพลาดเลยพลอยทำให้การะเกดแย่ไปด้วย หมวดบอกว่ายังดีที่ตนไม่ได้บอกเรื่องโรสมีแฟนให้เธอรู้ แดนฟังแล้วฉุกคิดสงสัยทันที
ฟิลลิปพาโรสเดินทางถึงปีนังในวันรุ่งขึ้น แล้วจะไปทำภารกิจสุดท้าย แต่พ่อกับแม่ยังมาไม่ถึงจึงเอาโรสไปฝากไว้กับอีวา บอกว่าเป็นหัวหน้าหน่วยของตน อีวาจะดูแลเธอแทนตนทุกอย่าง คิดเสียว่าเป็นพี่สาวคนหนึ่งก็แล้วกัน
โรสถามว่าเขาต้องไปเดี๋ยวนี้เลยหรือ ฟิลลิปมองอย่างอาลัยอาวรณ์บอกว่าแล้วจะรีบกลับมา โรสจึงยื่นมือไปสัมผัสมือกับอีวา เอ่ยอย่างสนิทใจ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ คุณอีวา”
ooooooo










