ตอนที่ 3
ที่ริมถนนค่อนข้างเงียบ...พดด้วงขับรถหรูเข้ามาจอด เจอติ่งลูกพี่ลูกน้องคนบ้านเดียวกันยองๆอยู่ข้างแท็กซี่ที่จอดอยู่ ติ่งเห็นพดด้วงที่มาอย่างหรู ถามว่าไปอยู่อเมริกาหลายปีเก็บเงินได้เยอะสิ ลืมทุ่งหมาเมินของเราแล้วมั้ง
พดด้วงคุยโตว่าคนเราต้องมีสมอง มัวแต่ขับแท็กซี่อยู่ก็เหนื่อยตาย ไม่เป็นไรเราลูกพี่ลูกน้องกันเดี๋ยวค่อยๆ สอนให้ คุยไม่ทันขาดคำ รถอีกคันก็มาจอดเป็นเจ้าหน้าที่รถเช่าที่ตามมาเก็บค่าเช่าและเอารถคืน เจ้าหน้าที่รถเช่าไม่ทันไป หญิงสาวสองคนก็ขับรถมาจอดลงจากรถก็ปลดเครื่องประดับทั้งหมดจากตัวพดด้วงทั้งนาฬิกา แหวนเพชร แว่นตา กระทั่งกระเป๋าสตางค์
พอพดด้วงถูกลอกคราบก็หมดสภาพ ติ่งถามว่านัดตนมาแถวนี้เพราะอยู่คอนโดหรูนี่หรือพลางชี้ไปที่คอนโดหรู พดด้วงส่ายหน้าบอกว่าคอนโดเล็กไปหายใจไม่สะดวกระดับตนต้องบ้านเดี่ยว ติ่งชี้ไปที่บ้านเก่าแก่ถามว่าบ้านนี้หรือ มีผีไหม
“ไอ้บ้า ไปหาอะไรแพงๆยัดปากกันหน่อยวะไปไอ้น้อง” พดด้วงตัดบท...
ฝ่ายหอมก็ยังเพ้อพกคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงเพียงเพราะดอกไม้ช่อเดียวและรองเท้าเก่าที่พดด้วงซื้อมาจากสาวพนักงานให้เช่าเฟอร์นิเจอร์ประดับตัวเพียงร้อยเดียว ปีมงคลต้องการทำให้เธอตื่นจากความฝัน จึงนัดจัดงานปาร์ตี้ที่บ้านไม้ของเขาหลังอู่แท็กซี่
หอมหมื่นลี้เดินเชิดเข้าไปในอู่ พวกคนขับแท็กซี่และเมียๆต่างมองเธอเป็นตาเดียวเพราะเธอส่งเสียงดังทักทุกคนและแจกเงินเด็กไปกินขนม วางท่าจนปีมงคลบอกว่าคุณนายมาเอง
ปีมงคลนัดบรรดาเมียและครอบครัวของแท็กซี่มาจัดปาร์ตี้ แบ๊วกับเพื่อนๆ พากันยกครก มะละกอดิบและเครื่องส้มตำมาชวนหอมว่า “ทานส้มตำกันค่ะ ตำสดๆ มีปูเค็ม ขนมจีน ปลาร้า” หอมมองรังเกียจนิดๆแล้วชี้อาหารที่ตนเตรียมมาบอกว่า “ฉันเตรียมจะทำสปาเกตตีให้ทุกคนทาน สปาเกตตีคาโบนาร่า”
แบ๊วกับหอมมองหน้ากัน แล้วแยกกันทำอาหารคนละมุมเหมือนแข่งกันในที
ก๊วนของแบ๊วช่วยกันคนละไม้ละมือทำและคุยกันเจี๊ยวจ๊าว ลีลาเหมือนงานแข่งตำส้มตำในงาน แต่ที่มุมของหอมเธอจัดของทีละอย่างวางราวกับกำลังโชว์ทำอาหารออกทีวี โดยมีปีมงคลคอยถ่ายวีดิโอตลอดเวลา
หอมพูดกับกล้องชี้มุมทำอาหารของพวกแบ๊วว่านั่นคือลุคชิพ แล้วชี้มุมของตนว่านี่คือลุคเอ็กซ์เพนซีฟ ขณะที่หอมยังกรีดกรายหยิบโน่นหยิบนี่อยู่ ที่มุมของแบ๊วก็ลงมือจกส้มตำกินกันจุ๊บจั๊บซี้ดซ้าดเผ็ดแซ่บถึงใจกันแล้ว
ปีมงคลทำตามแผน เมื่อทำอาหารกินกันแล้วก็ชวนกรึ๊บเพื่อสุขภาพ ปีชูขวดไวน์ให้ดู ทุกคนเฮเข้ามาหยิบเอาที่ถูกคอตัวเองไป กรึ๊บกันคนละกรึ๊บสองกรึ๊บไม่นานก็เริ่มเมา ก๊วนส้มตำก็เฮฮิ้วกันแบบบ้านๆ แต่ที่มุมของหอมกับปี ต่างชูแก้วกันด้วยมาดไฮโซ แก้วแล้วแก้วเล่าจนเริ่มเมา
“ไวน์นี่รสเยี่ยมจริงๆ เฮ้อ อย่างน้อยนายก็ยังมีระดับ นายนี่สมแล้วที่ฉันเป็นเพื่อน” ปีชูแก้วเปล่าขึ้นบอกหอมว่า
“ขั้นที่ 1 น้ำเปิดเผยความจริง ขั้นที่ 2 ดนตรีเปิดเผยจิตวิญญาณ” แล้วเดินไปเปิดเครื่องเสียงเป็นเพลงสำหรับลีลาศ แบ๊วบ่นว่าเอาใจแต่พวกไฮโซ
หอมลุกยืนอย่างสง่าราวเจ้าหญิงแล้วเต้นบัลเล่ต์ช้าๆ สวยงามแต่ครู่เดียวก็เริ่มรวนมีท่าทางประหลาดบ้าๆ ออกมาทั้งเมาและมันจนแบ๊วบ่นว่าคนอะไรเต้นไม่เข้าจังหวะเลย ส่วนปีมงคลนั่งขำ สุดท้ายลุกขึ้นไปเปิดเพลงเร็ว หอมยิ่งคึกพอยต์เท้าตีลังกาหกสูง แบ๊วทนไม่ได้ออกไปเต้นด้วย ทุกคนสนุกกันสุดเหวี่ยงเพราะเมา...
“ก็บอกแล้ว...ว่าไม่ใช่เจ้าหญิง!” ปีมงคลดูการเต้นของหอมที่บ้าพอกันกับพวกแบ๊วพึมพำ
เต้นจนเหนื่อยหอมก็ร้องหิวๆ ปีจะทำสปาเกตตีให้ หอมบอกว่าสปาเกตตีต้องมีระดับ แล้วคว้าจานส้มตำไปสูดกลิ่นปลาร้าซี้ดปากว่า “อร่อย...” พอปีมงคลส่งข้าวเหนียวให้ หอมคว้าไปปั้นจิ้มทำหน้าว่าอร่อยมาก
“ขั้นที่ 3 ปลาร้าเผยความสด! เผยความดิบ! หมดเปลือก!!” ปีมงคลกระหยิ่มที่แผนตนเองสำเร็จ มองกล้องที่บันทึกท่าทางดิบๆ มันๆของหอมไว้อย่างต่อเนื่อง เพื่อพิสูจน์ให้หอมเห็นว่าจริงๆแล้ว เธอไม่ใช่เจ้าหญิง!
ooooooo
หอมเมาหลับไปพอสะดุ้งตื่นก็ปวดหัวบอกปีว่าจะกลับบ้าน เขาเลยเอามะนาวบีบใส่ปากให้สร่างเมา หอมมองไปอีกทีปีก็หายไปแล้วจึงออกตามหา ไปเจอรูปตัวเองขณะรั่วๆ แขวนอยู่เต็มไปหมด หอมโกรธมากที่เอารูปน่าเกลียดของตนมาโชว์
หอมไปแกะภาพทิ้ง ปีร้องห้ามถามว่าใครว่าน่าเกลียดน่ารักต่างหาก บอกว่าเวลาเธอรั่วตนหยุดมองไม่ได้ ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน พอฟังคำหวานหอมก็เคลิ้มไปอึดใจ แต่พอนึกได้ก็ถามว่าไหนบอกว่าจะไม่คิดกับตนแบบนี้อีกไง
“เนื้อคู่ของคุณ เขาบอกว่าคุณเป็นเจ้าหญิง ทั้งๆ ที่ไม่เคยเห็นหน้า คนแบบนี้เขาไม่รู้จักตัวตนของคุณหรอก เพราะตัวตนที่แท้จริงของคุณ ไม่ใช่เจ้าหญิง คุณไม่ใช่ซินเดอเรลล่า นี่ต่างหากตัวตนที่แท้จริงของคุณ” ปีหยิบรูปให้หอมดู
หอมคว้ารูปขว้างทิ้งทั้งห้ามเขาเอาให้ใครดูเพราะน่าเกลียด ผู้หญิงเวลาดูหนังทุกคนอยากเป็นเจ้าหญิงทั้งนั้น เธอโวยใส่ปีน้ำตาไหลเมื่อนึกถึงความเจ็บปวดในอดีตที่ถูกคนทั้งห้องเรียก ผีจูออน จนกลายเป็นคำที่หลอกหลอนตนมาถึงทุกวันนี้ ปีมงคลบ่นว่าเธอมีแต่สนใจคำพูดของคนอื่น ทีคนจริงๆ พูดแต่เรื่องจริงยืนอยู่ตรงนี้ทำไมไม่ฟังกันบ้าง
“ต่อให้เป็นคำโกหก แต่เราก็อยากฟัง! อยากฟัง! อยากฟังคำโกหกทั้งๆที่รู้ว่าโกหก ผู้หญิงเป็นแบบนี้ ฉันเป็นแบบนี้ ได้ยินไหม!” หอมตะโกนใส่หน้า
ปีมงคลจึงชี้ให้เธอเห็นว่า ตนจัดงานเลี้ยงนี้ขึ้นมาเพราะครบรอบสามปีที่เรารู้จักกัน หอมบอกว่าระหว่างเรามีแค่มิตรภาพ
“มิตรภาพของคุณคนเดียว แต่สำหรับผมไม่ใช่มิตรภาพอีกแล้ว ผมเดินเลยจุดนั้นไปแล้ว!!” หอมถามว่าแปลว่าอะไร ปีโพล่งถามว่า “เป็นแฟนกันไหม!!”
หอมช็อกสุดๆ ด่าเป็นชุด ประกาศว่าต่อไปนี้
เขากับเธอเป็นแค่ผู้โดยสารกับคนขับแท็กซี่ และขอยกเลิกความเป็นเพื่อนทั้งหมด แล้วเดินไปเลย ทิ้งให้ปียืนเจ็บปวดไม่นึกว่าหอมจะเป็นมากถึงขนาดนี้
รุ่งขึ้น หอมได้รับข้อความแชตจากพดด้วงแต่เช้าด้วยคำหวาน “คิดถึงจัง” หอมยิ้มกว้างอารมณ์ดีพึมพำ
“คุณพดด้วง นี่ต่างหากความหมายของชีวิต นี่ต่างหาก ของจริง!”
แม้หอมจะคลั่งไคล้พดด้วง แต่หอมก็ไม่อาจลืมปีมงคลได้ ภาพและคำพูดของปีตามรบกวนหอมจนเธอโวยวายว่า
“อ๊าย...ไอ้บ้า ตามมาหลอกหลอนอยู่ได้”
ooooooo
ที่คิวปิดฮัท...ภีมมอบงานอีเวนต์ให้หอมดูแลคนเดียวเพราะพวกตนไม่อยู่จะไปสัมมนาที่เชียงใหม่ มอบเอกสารให้บอกว่าอยากได้คอนเซปต์นี้ให้จัดการมาด้วยเพราะดูแล้วงานนี้เหมาะกับเธอที่สุด หอมบอกว่าถ้าบอสคิดอย่างนี้เดี๋ยวตนจัดการให้
แต่ทั้งแพรวพราวและวราลีต่างเป็นห่วง วราลี
บอกว่าทีมของมินนี่ที่เขามาช่วยก็โอเคนะ หอมบอกว่าทีมข้างนอกยังไงก็ไม่ใช่เพื่อน แพรวพราวเลยเสนอให้ปีมงคลช่วยเพราะปีที่แล้วที่เราไปโคราชกันหมด เขายังมาช่วยทั้งคืนทั้งที่ไม่ได้ขอเป็นคนมีน้ำใจมาก แต่หอมไม่ได้คิดอย่างนั้น บอกว่ายังไงตนก็ไม่เอาแท็กซี่เด็ดขาด
วราลีถามว่าพวกเราแค่บอกให้เอาปีมงคลมาช่วยงาน หอมคิดอะไรไปถึงไหนกัน พอถูกพี่ๆดักคอหอมก็ยิ่งออกอาการ สั่งห้ามทุกคนพูดคำว่าชอบแท็กซี่ พอวราลีถามว่าหอมมีเรื่องอะไรกับปี หอมก็งอนบอกว่าไม่พูดด้วยแล้ว โกรธ...โกรธจริงๆด้วย
แต่ขณะที่หอมกลุ้มใจหาคนช่วยงานไม่ได้นั่นเอง พดด้วงก็ส่งข้อความมาคุยโตเรื่องโปรเจกต์หนังของตนว่านายทุนสนใจมาก อ่านแล้วหอมบ่น
“เขียนมาแค่นี้หรือ...เฮ้อ...เขาคงยุ่ง เฮอะ...ทำงานเองก็ได้วะ ไม่เห็นจะกลัว”
ปีมงคลยังคงมารับหอมไปทำงาน แต่หอมหมางเมินไว้ตัวจนปีไม่มีอะไรจะเก็บภาพอีก บ่นหนักใจว่า
“หนังเรา...สงสัยไม่มีคำตอบตอนจบเสียแล้ว...ฮือ...”
เมื่อทีมงานบินไปสัมมนาที่เชียงใหม่กันหมด เหลือแต่หอมคนเดียวที่ต้องอยู่ทำงาน หอมเรียกแมนออกาไนซ์มาช่วย
“งานปาร์ตี้หน้ากาก ช่วงแรกของงานทุกคนก็จะเล่นเกม กินดื่ม กันทั่วไปถูกไหม” แมนถาม หอมบอกว่าเรื่องอาหารกับการตบแต่งให้ทางโรงแรมจัดแล้ว แมนเห็นใจที่หอมอยู่ทำงานคนเดียว แต่หอมก็ได้สะคราญมาช่วยและเป็นเพื่อน
หอมทำงานหามรุ่งหามค่ำ ปีมงคลรู้จากอัครราชว่าหอมทำงานอยู่คนเดียวจึงซื้ออาหารมาให้ หอมขอบใจและจ่ายค่าข้าวให้สองร้อย ปีถามว่ามีงานอะไรให้ช่วยไหม เธอบอกว่าไม่มี กลับไปเสีย แล้วเธอก็ทำงานต่อด้วยท่าทีเย็นชาต่อเขา
แต่ข้าวที่ปีซื้อมาเป็นข้าวผัดกะเพราหอมเบื่อไม่กิน หอมให้ปีไปซื้อสปาเกตตีคาโบนาร่าร้านเปิดใหม่แต่งร้านสไตล์วิลเทจสวยมาก พอปีซื้อกลับมาเธอบอกให้เขากลับไปได้แล้ว แต่จู่ๆไฟก็กะพริบ หอมตกใจเพราะตนกำลังโหลดข้อมูล หอมลนลานจนทำแฟลชไดรฟ์หล่น แล้วไฟก็ดับพรึบซ้ำแบตก็หมด
อัครราชบอกว่าไฟดับเพราะหม้อแปลงระเบิด หอมก้มหาแฟลชไดรฟ์ ปีก้มไปช่วยหา ผมหอมไปเกี่ยวหัวเข็มขัดของปีนัวเนียกันอยู่ใต้โต๊ะ อัครราชคิดว่าทั้งสองเล่นอะไรกันจึงชวนสะคราญออกไปดูหม้อแปลงกัน พอหอมหาแฟลชไดรฟ์เจอไฟก็ติดพรึบ ปีถามว่ามีอะไรให้ตนช่วยอีกไหม
หอมจึงให้ช่วยจัดเอกสาร ทั้งสองช่วยกันทำงานไปคุยกันไป ปีถามว่าเพื่อนไปสัมมนาเรื่องมิจฉาชีพในอินเตอร์เน็ตแล้วโปรแกรมหาคู่ของบริษัทเธอตรวจสอบความจริงได้ไหม หอมบอกว่าถ้าคนจงใจใส่ข้อมูลโกหกก็ตรวจสอบยาก
ปีมงคลตัดสินใจถามว่าเนื้อคู่ของเธอที่ชื่อพดๆ อะไรนี่ ถ้าเขาหลอกเธอล่ะ ถ้าเขาบอกว่ารวยแต่ที่จริงเขาจน เขาบอกว่าเขาชื่อนี้แต่จริงๆอีกชื่อ หอมโวยว่า หาว่าตนโง่หรือไง ตนต้องดูออกอยู่แล้ว
“ก็ถามดู ต้องโมโหด้วยหรือ โอ้ยง่วง เอากาแฟอีกไหมคุณ” หอมพยักหน้า ปีจึงออกไปจัดการที่มุมกาแฟ
พอปีเดินไปหอมก็กดคอมฯเปิดหน้าประวัติของพดด้วงดูข้อมูล อ่านประวัติแล้วหอมคิดหนัก
ooooooo
เพราะงานไม่เสร็จ ปีจึงกลับไปเอาเสื้อผ้าและเครื่องใช้ที่คอนโดมาให้หอม มาถึงเจ็ดโมงเช้าพอดี ปีกุลีกุจอเอาเสื้อผ้าไปส่งให้ที่หน้าห้องน้ำ เธอเข้าไปนานจนปีนึกว่าไปหลับในห้องน้ำ
ที่แท้หอมท้องเสีย ปีเห็นอาการหนักจะพาไปหาหมอ ทีแรกหอมห่วงงานไม่ยอมไปเพราะวันนี้ เป็นวันงานแล้วและตนก็รับปากจะเป็นพิธีกรให้ด้วย ปีบอกว่าเรื่องงานเอาไว้ก่อน พาเธอไปโรงพยาบาลจนได้
ที่ห้องจัดเลี้ยงในโรงแรม ซินดี้กับแองจี้ต่างไปงานโดยไม่บอกกัน เมื่อไปเจอกันในงานจึงเกิดการแย่งกันจับหนุ่มหล่อ ซินดี้บอกแองจี้ว่า เราตกลงกันก่อน คนไหนที่คุยแล้วโอเคก็เอามือไปแตะเขา แปลว่าจอง คนไหนตนแตะ แองจี้ก็อย่ามายุ่งและคนไหนที่แองจี้แตะ ตนก็จะไม่ยุ่ง
แองจี้บ่นว่าเหนื่อยๆ วันนี้งานที่สามแล้ว ตนไม่หวังอะไรมากให้ซินดี้ล่วงหน้าไปก่อน ตนจะหาอะไรกินก่อน
ซินดี้กวาดตามองหาหนุ่มหล่อทันที พอเข้าไปทักก็แตะจองไว้เลย อึดใจเดียวก็แตะเข้าไป 8 คนแล้ว แย่งกับแองจี้ที่แตะคนเดียวกันเกือบพร้อมกัน เลยโต้เถียงกัน ต่างอ้างว่าตนแตะก่อน
หอมนั่งรถเข็นเข้ามาพอดี พอเห็นซินดี้กับแองจี้สองสาวตัวแสบ หอมพึมพำอย่างรู้สึกเหนื่อยขึ้นมาทันที
“ยายแองจี้ ซินดี้มาด้วย งานพังแน่ฉัน...ฮือ...”
ooooooo
แมนดีใจมากที่หอมมาทันเวลา เห็นหอมลากน้ำเกลือมาด้วยถามว่าเป็นอะไร หอมบอกว่าเป็นไข้หวัด เกือบได้เวลางานแล้ว แมนถามหาพิธีกร หอมบอกว่าจัดมาแล้วให้ไปแต่งตัวอยู่
ครู่เดียวปีมงคลในชุดสูทเสื้อผ้าหน้าผมจัดเต็มเดินหล่อเท่เข้ามา แมนเห็นความหล่อเท่ถึงกับน้ำลายไหลหอมเองก็มองตะลึงถามว่าให้ไปพันเดียวได้มาขนาดนี้เลยหรือ แมนเร่งให้รีบไปเตรียมตัวทีมงานจะบรีฟให้ฟัง
พอปีมงคลขึ้นเวทีทั้งเป็นพิธีกรมีแสดงโชว์เปลี่ยนหน้ากาก ก็เรียกเสียงฮือฮาไปทั้งงาน แมนถึงกับถามหอมว่าทั้งหล่อเท่เก่งขนาดนี้ได้มาจากไหน เขารับงานตนได้ไหม หอมบอกว่าแท็กซี่ของตน แมนถามว่าล้อเล่นใช่ไหม
“นั่นสินะ นายไม่เหมือนแท็กซี่เอาเสียเลย ฮือ...หล่อโคตรๆ ทำไมต้องเกิดมาเป็นแท็กซี่ด้วย” หอมครวญในใจ
พอดีปีแสดงจบ เสียงปรบมือกึกก้องทั้งชื่นชมฝีมือการแสดงและคลั่งไคล้ความหล่อ ปีมงคลพูดอย่างเท่ว่า
“สวัสดีครับ ขอต้อนรับลูกค้าทุกท่านเข้าสู่งานปาร์ตี้หน้ากากของคิวปิดฮัท เอ้า...ขอเสียงคนโสดครับ” เสียงปรบมือร้องวี้ดวิ้วตอบรับอึกทึก “พื้นที่ตรงนี้บอกเลย คนมีแฟนหมดสิทธิ์ ทุกคนที่ใส่หน้ากาก คือคนโสดที่อาจเป็นเนื้อคู่ของคุณ เพราะฉะนั้นมาสนุกกันเลยครับ” เสียงเพลงดังขึ้น ปีบอกทุกคนว่า “เอ้าสนุกกันเลยครับ สนุกยังไงก็ได้ ขออย่างเดียวอย่าถอดหน้ากากนะครับ”
ระหว่างนั้น พดด้วงแชตถามหอมว่า “อยู่ไหนครับ วันนี้ไปดูหนังกันไหมครับคุณล้อมดาว”
“ฉันอยู่ในปาร์ตี้ของคิวปิดฮัท วันนี้ขอตัวนะคะ ยุ่งๆอยู่” หอมพิมพ์ตอบแล้วเงียบไปเลย
งานดำเนินไปอย่างจี๊ดใจคนโสด ปีมงคลขึ้นเวที แสงสีและดนตรีตื่นเต้น ทุกคนมองที่เวที ปีมงคลพูดอย่างหล่อเท่ว่า
“บุคลิกภาพ เสื้อผ้า เครื่องสำอาง หรือแม้แต่สเตตัสบนโลกโซเชียล ทุกคนจะตบแต่งมันอย่างสวยงามถูกไหมครับ ดูเสื้อผ้าที่ทุกท่านใส่ในวันนี้ ดูแสงสีไฟในห้องนี้สิครับ ทุกอย่างช่วยให้คุณทุกคนดูสวยงาม”
ไฟหมุนไปรอบๆ รับหน้าทุกคนในหน้ากากมองแสงสีอย่างตื่นตาตื่นใจ
“วันนี้ มีคนโสดอยู่สามสิบคน ทุกคนอยากเริ่มความรักกับใครสักคน แต่ความรักเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีสิ่งที่เรียกว่าความจริงใจ บทเรียนคืนนี้จะสอนให้คุณกล้าที่จะเปิดเผยตัวตนของคุณ ใครที่พร้อมจะเล่าเรื่องของคุณจริงๆที่เก็บเอาไว้เฉพาะคนใกล้ชิด ก็ขอให้ถอดหน้ากากออก แล้วเดินไปบอกความลับกับคนที่คุณสนใจ”
ทุกคนนิ่งไป แมนบอกหอมว่าไม่มีใครออกมาเลย งานจะเหลวไหม หอมบ่นว่าเคยบอกบอสไปแล้ว เชื่อที่ไหน คนเราจะให้มาบอกเรื่องลับๆของตัวเองง่ายๆ ทำได้ที่ไหนล่ะ
แต่มีคนกล้า! ผู้หญิงคนหนึ่งเดินไปหาผู้ชายที่อยู่ใกล้ๆ ถอดหน้ากากตัวเองออก บอกว่าตนอายุ 40 แล้วไม่ใช่ 37 อย่างที่บอกเขา ชายคนนั้นขอบคุณที่บอกความจริงกับตน
“เยี่ยมไปเลยครับ ปรบมือๆ ความจริงครับ ความจริง บอกความจริงต่อให้น่าเกลียดแค่ไหน สำหรับคนที่เกิดมาเพื่อเป็นเนื้อคู่กับคุณ เขาก็จะมองข้ามมันไปได้ครับ การแบกหน้ากากไว้ทุกวัน เสแสร้งเป็นเจ้าหญิงทั้งที่ไม่ได้เป็น เสแสร้งเป็นคนจนทั้งที่รวย เสแสร้งเป็นคนรวยทั้งที่จน”
หอมมองปีมงคลบนเวที รู้สึกใจอ่อนไหวลงทุกที ปีเองก็มองมาที่หอม เหมือนตั้งใจพูดกับเธอ
ooooooo
พดด้วงยังอยู่ที่บ้าน หยิบสูทและทุกอย่างที่ตามเช่ามาหลายวันเพิ่งได้มาครบ ดูของไปบ่นไป
“เหนื่อยๆ โคตรเหนื่อย โฮ้ย...กว่าจะได้ครบ” พลันก็นึกได้ “รถล่ะรถ...โทร.ก่อน หารถๆ”
เวลาเดียวกัน ปีมงคลยังพูดบนเวทีในงานอย่างเท่...
“อยู่กับใครสักคนตลอดชีวิต เป็นตัวของตัวเอง น่าจะดีที่สุดถูกไหมครับ เพราะฉะนั้น ขอย้ำอีกครั้ง สัมพันธ์เริ่มที่จริงใจครับ มีใครจะถอดหน้ากากอีกไหมครับ”
แขกในงานเริ่มถอดหน้ากากเข้าหากันทีละคู่... ทีละคู่ บางคู่ก็ขอบคุณที่พูดความจริงกัน บางคู่พอฝ่ายหญิงสารภาพเสียงห้าวๆ ว่าตนเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิงเท่านั้น ชายแท้ที่คุยด้วยถึงกับวิ่งหนีไปเลย
แมนยิ้มกับหอมบอกว่า “คนเปิดหน้ากากเกือบหมดงานแล้ว ถือว่างานสำเร็จแล้วครับคุณหอม”
หอมพยักหน้ายิ้มสบายใจ ยกนิ้วให้ปีชมว่าเยี่ยมมาก ปีหัวเราะเดินมาหาหอมอย่างเท่แบบ...ปีมงคลซะอย่าง...
ปีมงคลเดินมาหาหอม ไม่เห็นพยาบาลและน้ำเกลือแล้ว และหอมก็กำลังกินซาลาเปากร้วมๆอย่างหิวจัด เขาบอกว่าเดี๋ยวได้อ้วกอีกหรอกแล้วขอชิมบ้าง หอมถามว่าช่วยงานมาทั้งคืนยังมาเป็นพิธีกรอีกเหนื่อยไหม ปีนิ่งไปแล้วหัวเราะก๊าก...
“โคตรฮา...ร้านวินเทจ ตบแต่งสวยแต่อาหารสกปรกไงล่ะคุณ สปาเกตตีขี้แตก” หอมชมว่าวันนี้เขาดูดีมากเลย สตาฟฟ์บอกว่าเขาน่าจะเอาดีทางนายแบบเป็นพิธีกรได้สบายเลย ถามหยั่งว่าไม่คิดจะเลิกเป็นแท็กซี่หรือ “คนเราทุกคนมีหน้ากากที่ต้องใส่ ใส่ทีละหลายๆหน้าด้วย เป็นแท็กซี่ เป็นลูกมหาเศรษฐี เป็นผู้กำกับหนัง ถ้าผมบอกว่าผมเป็นทุกอย่างที่พูดมา คุณเชื่อไหม หอมถามว่า ถ้าเป็นทั้งหมดที่บอกมา แล้วมาเป็นแท็กซี่ทำไม?
“ตอนเป็นเด็กพ่อผมเขาชอบชวนผมไปอยู่กับช่างซ่อมรถ” แล้วปีมงคลก็เล่าถึงอดีตของตนอย่างประทับใจว่า...
ปราชญ์พ่อของเขาเป็นวิศวกร ชอบการช่างเป็นชีวิตจิตใจ ทำงานถึงลูกถึงคน ส่วนปิยะมาศผู้เป็นแม่สมองคิดเงินได้เร็วกว่าดีดลูกคิด เผด็จการ อยากให้ลูกชายคนเดียวสืบทอดภารกิจเจ้าแม่ขนส่งของครอบครัว เมื่อพ่อเรียกปีไปเรียนการซ่อมรถด้วย ก็ถูกแม่ตำหนิต่อว่า พ่อบอกว่า อยากให้ปีมีวิชาความรู้เพื่อจะได้อยู่กับคนทุกชนชั้น แต่แม่ต้องการให้เขามีความรู้การเงินและการบริหาร ตนจะสอนให้เอง
“นั่นมันซีอีโอจอมปลอม ซีอีโอตัวจริงคือเข้าใจคน เข้าใจงาน เขาต้องโตขึ้นมากับคนจริงๆ งานจริงๆ สองอย่างนี้ต่างหากถึงจะเรียกว่านักบริหาร” พ่อโต้แย้ง
ปีมงคลจึงโตขึ้นมาจากการเลี้ยงดูที่พ่อกับแม่ ปั้นกันคนละอย่าง สร้างกันคนละแบบ...เขาเล่าอย่างภูมิใจว่า
“ผมใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตทำตามที่พ่อสอน อยู่กับคนทุกชนชั้น อยู่กับชีวิตจริงๆ ผมสนุกมาก”
หอมไม่เชื่อว่าเขาเป็นมหาเศรษฐีปลอมมาเป็นแท็กซี่ แต่ความหล่อและความสามารถของเขาทำให้เธอหว่านล้อมให้เขาเลิกขับแท็กซี่มาเป็นนายแบบเป็นพิธีกร ถามเขินๆว่า
“ระหว่างเราจะเป็นยังไง จะเปลี่ยนไปจากนี้ไหม”
“จะนายแบบหรือแท็กซี่มันก็หน้ากากเหมือนกันหมดนั่นแหละ มันขึ้นอยู่กับว่า ตอนที่ถอดหน้ากากออกเขาเป็นยังไง เวลาที่เราอยู่กับคนที่เรารัก หน้ากากพวกนี้มันไม่เกี่ยวเลย ว่าไหมล่ะ”
หอมถอดใจบอกว่าเอาที่เขาสบายใจก็แล้วกัน ปีคุกเข่าลงตรงหน้าหอม ยื่นหน้าเข้าใกล้มองด้วยความรักจนหอมอึ้ง
“ผมเคยฝันว่า จะได้ถอดทุกหน้ากากกับใครสักคน ที่ไม่มีหน้ากากเหมือนๆกัน ผมอยากใช้ชีวิตคู่กับคนที่เข้าใจกันและกันจริงๆ คุณไม่อยากหรือ ใครสักคนที่คุณรู้สึกอิสระ ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง”
ความใกล้ชิดและคำถามที่จริงใจไม่มีหน้ากากของปี ทำเอาหอมหวั่นไหวมาก หอมตกอยู่ในภวังค์ จินตนาการเหมือนกำลังพูดอยู่หน้ากล้องว่า
“คำว่า ‘รู้สึกอิสระ’ มันโดนเรามากเลยตอนนั้น กับปีมงคลเนี่ย เป็นคนที่เราไม่เคยคิดอะไรด้วย แบบไม่ฟินไม่จิ้นอะไรทั้งนั้น เวลาอยู่กับเขา เราก็เลยไม่เคยเก๊ก ไม่เคยฟอร์ม นี่แหละ ความรู้สึกอิสระที่ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคนนะ พอเราย้อนมองกลับไป เฮ้ย...ความรู้สึกแบบนี้มันเจ๋งอ่ะ...เจ๋งมากๆ”
พลันหอมก็สะดุ้งจากภวังค์เมื่อโทรศัพท์ดังขึ้น หอมยิ้มเมื่อเห็นชื่อพดด้วง ขอตัวกับปีว่าต้องรับโทรศัพท์ส่วนตัว พอแยกไปรับโทรศัพท์ พดด้วงบอกว่าตนใกล้ถึงแล้ว หอมบอกว่าตนอยู่ในงานเดี๋ยวเจอกัน
แองจี้แตะหนุ่มได้ถึงแปดคนแต่พอคุยแล้วไม่ได้สักคน เซ็งจนจะกลับบ้าน ขณะเดินออกไปถูกพดด้วงเขวี้ยงแก้วน้ำโดนอย่างจัง แองจี้โมโหตะโกนลั่นแต่พอเห็นรถราคาแพงก็เปลี่ยนสีหน้าอารมณ์ทันที ยิ่งเมื่อพดด้วงลงจากรถมาดู เห็นน้ำเปื้อนรองเท้าก็คุกเข่าเอาผ้าเช็ดหน้าเช็ดให้ แองจี้ประทับใจแทบคลั่ง ถามว่ามาปาร์ตี้คิวปิดฮัทหรือ ชวนไปหาที่เงียบๆคุยกัน
“เอ้อ...ผมมีนัดแล้ว แล้วเจอกันนะครับ ขอโทษอีกครั้งครับ” พดด้วงขึ้นรถขับออกไป
“โฮ้ย...อ่อนโยน สุภาพ ดูดี...แล้วเราจะกลับทำไม” แองจี้เปลี่ยนใจย้อนกลับเข้าไปในงานอีกครั้ง
ooooooo
พดด้วงไปรอหอมอยู่ที่สวนด้านหลังโรงแรม หอมตามมาชวนเข้าไปในงาน เขาบอกว่างานเขาเอาไว้เลือกคู่ ตนมีคู่แล้วตั้งใจมาหาเธอต่างหากจะเข้าไปทำไม หอมจึงเดินไปกับพดด้วง ปีเห็นก็จะตาม แต่ถูกแมนลากไปถ่ายรูปคู่กันอีกทาง
หอมบอกพดด้วงว่าถ้าเขาไม่เข้าในงาน ทีหลังเรานัดกันที่อื่นดีกว่า พดด้วงรีบบอกว่าตนมีเรื่องจะสารภาพกับเธอ ตีหน้าอย่างสำนึกผิดจริงจัง สารภาพว่า
ที่จริงตนไม่ใช่คนรวย ตนแค่คนถังแตกคนหนึ่งเท่านั้น ตนเป็นลูกมหาเศรษฐีขนส่งเมืองไทยก็จริงแต่เป็นลูกเมียน้อยแม่เป็นคนใช้ พ่อมีลูกชายกับเมียหลวงคนหนึ่งหล่อเท่กว่าตน ชอบทำหนังเหมือนกัน เขารวยจริง ปกติพ่อจะแอบส่งเงินมาให้แต่ตอนนี้หายไปหลายเดือน หอมถามว่าแล้วเรื่องทำหนังล่ะ?
พดด้วงบอกว่าตนทำจริงแต่กว่าจะได้เงินอีกนาน ตนกำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่เพราะมีเธอแล้วอยากมีชีวิตที่ดีขึ้น อยากอยู่กับเธอด้วยตัวตนที่แท้จริง จึงมาสารภาพกับเธอ หอมซึ้งใจมากขอบคุณที่เขาบอกความจริง
“ข้อมูลพวกนี้ผมไม่ได้บอกลงในเน็ต อายน่ะครับ แต่ตอนนี้ผมอยากจริงจังกับคุณแล้ว ผมต้องบอก ต่อให้คุณปฏิเสธผมก็ไม่ถือ ผมเข้าใจทุกอย่างครับ”
พดด้วงดราม่าจนได้ใจหอมไปเต็มๆ ขอบคุณเขาที่จริงใจกับตนทำให้ตนสบายใจขึ้นมากเลย
ไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อ คนให้เช่าชุดก็โทร.มาทวงว่า เขาขอเช่าแค่สองชั่วโมงนี่ตนก็พาลูกค้ารายต่อไปมารอที่บ้านแล้ว เขาจะใช้สูทบินไปนอก ถ้าผิดนัดจะถูกปรับเป็นสองเท่า
พดด้วงบอกว่าจะไปเดี๋ยวนี้ แล้วขอตัวกับหอมว่ามีธุระด่วน บอกหอมก่อนไปว่า
“ผมรู้สึกดีมากเลยที่ได้พูดออกไป เรามาเริ่มต้นความรักของเราด้วยความจริงใจนะครับ” เขาประคองมือหอมบรรจงจูบแล้วออกไป หอมมองตามด้วยความไว้ใจเขามากยิ่งขึ้น
พอหอมกลับเข้ามาในงาน เจอปีมงคลที่เพิ่งสลัดพ้นจากแมนมาได้ เขาถามว่าเธอไปไหนมา ตนถูกแมนตามไปถ่ายรูปและซักประวัติมากมาย ถามว่าจะกลับกันหรือยัง ดุว่ายังไม่หายดีเขาไม่ให้เดินก็ไปเดิน เดี๋ยวเป็นลมล่ะ...คอยดู!
พาหอมไปส่งที่คอนโด เห็นเธอหน้าซีดจึงตามไปส่งถึงห้อง แล้วหาน้ำเกลือแร่ให้ดื่ม หอมซีดมากเขาจึงหายาดมให้แต่ครู่เดียวหอมก็อ้วกซาลาเปาออกมาเลอะเทอะทั้งตัวเองและปีมงคล แล้วทำท่าหมดแรง จะนอน ปีจึงช่วยถอดเสื้อให้ แต่ของตัวเองก็เปื้อนจึงถอดทิ้งกองไว้รวมกัน
ขณะปีกำลังช่วยจับหอมให้นอนดีๆนั่นเอง เสี่ยซ้งกับเจ๊เน้ยก็ผลักประตูเข้ามา พอเห็นปีกำลังจับหอมให้นอนดีๆ ก็ตะลึงถามว่าทำอะไรกัน! หอมตกใจสวนเสี่ยซ้งกับเจ๊เน้ยพอหายตะลึงก็ด่าและไล่ทุบตีปีมงคลอุตลุดหาว่าจะข่มขืนลูกสาวตน หอมพยายามชี้แจงพลางตะโกนบอกปีให้หนีไปก่อนตนจะอธิบายกับพ่อแม่เอง
ooooooo
รุ่งขึ้น สมชายเห็นปีมงคลในสภาพสะบักสะบอม พอรู้เรื่องก็ถามว่าแล้วเขาจะทำอย่างไรต่อไป ปีบอกว่าต้องหาทางปรับความเข้าใจก่อน บ่นหงุดหงิด “โฮ้ย...เพิ่งจะดีกับยายนั่นได้แหม็บๆ จังหวะไม่ดีเลย”
หอมถูกป๊ากับม้าซักถามทั้งคืน รุ่งขึ้นยังซักต่อหอมยืนยันว่าคนนั้นเป็นแท็กซี่ ตนทั้งสวยทั้งเลอค่าขนาดนี้ไม่มีวันไปคบกับคนขับแท็กซี่หรอก พอดีพดด้วงโทร.เข้ามา หอมเปิดโทรศัพท์ดูรูปพดด้วงยิ้มอย่างหมายมาดพึมพำ
“ผู้หญิงเลอค่าอย่างหอมหมื่นลี้ ก็ต้องคู่ควรกับเทพบุตรสุดเพอร์เฟกต์คนนี้เท่านั้น!”
แล้วทั้งสามก็ต้องตะลึง เมื่อพดด้วงขี่บิ๊กไบค์ใส่เสื้อหนังมาอย่างเท่ เฮียซ้งกับเจ๊เน้ยตื่นเต้นกับบิ๊กไบค์มาก ยิ่งเมื่อหอมแนะนำว่านี่คือพดด้วงแฟนตนเอง ทั้งสองก็อยากให้พดด้วงโชว์แบนโค้งๆ แบบในหนังให้ดูหน่อย พดด้วงตกใจ แต่งานนี้เสียหน้าไม่ได้ หลับตาปลุกใจตัวเองว่า...
“วิชาการแสดงขั้นเทพต้องสะกดจิตจากภายในความเชื่อๆๆ”
พดด้วงสตาร์ตรถแสดงเต็มที่ เฮียซ้งกับเจ๊เน้ยตื่นเต้นมากบอกพดด้วงให้เอียงมาทางนี้เพื่อถ่ายรูปกัน ขณะสาม พ่อ แม่ ลูกเต๊ะท่าถ่ายรูปกันนั้น พดด้วงเสียหลักรถพุ่งเข้าหาทั้งสามอย่างแรงจนแตกกระเจิงไปคนละทิศละทาง พดด้วงเสียหน้ามากบ่นงึมงำ...“วิชาแอ็กติ้งไม่ช่วยอะไรเลย ฮือ...” แล้วชวนไปกินอาหารฝรั่งเศสแก้หน้า
ไปถึงหน้าร้านอาหารฝรั่งเศส เฮียซ้งกับเจ๊เน้ยไม่เห็นพดด้วงถามหอมว่าเขาไปไหน แล้วก็ตื่นเต้นเมื่อหอมบอกว่า
“คุณพดด้วงให้คนไปเอาชุดมาให้ใส่เพื่อเป็นเกียรติป๊ากับม้า แลดูเหมาะกับอาหารแบรนด์นอก”
เฮียซ้งกับเจ๊เน้ยถามว่าสองคนเจอกันได้ยังไง
พอหอมบอกว่าเจอกันในโปรแกรมจับคู่ของบริษัท แต่ทางบริษัทไม่ให้พนักงานใช้โปรแกรมนี้ ตนเลยใช้
ชื่อปลอมว่า ล้อมดาว บอกป๊ากับม้าว่าอย่าบอกชื่อจริง ของตนกับพดด้วง
เฮียซ้งถามว่าแล้วเขาเป็นคนยังไง หอมบอกว่าเขาทำเซอร์ไพรส์ตนทุกครั้งเวลาเจอกัน เขาตั้งใจมากให้ความสำคัญเวลาเจอกัน ซักถามกันไม่ทันกระจ่างใจ พดด้วงก็เดินหล่อเท่เข้ามาพาไปนั่งที่โต๊ะ ถามว่าสั่งอะไรกันหรือยัง พลางดูเมนู
เฮียซ้งกับเจ๊เน้ยสั่งไม่ถูก พดด้วงบอกว่าตนจะสั่งอาหารให้ทุกคนเองถือว่าเป็นการดูแลดีไหม แล้วสั่งเลย
“ขอกราแตงค์สองที่ สำหรับป๊ากับม้า และขอบูฟบูร์กิญญองส์สำหรับทุกคน และขอไวน์...ถามว่าปีไหนดี?” เจ๊เน้ยบอกว่าปีมะเมีย เฮียซ้งบอกว่าปีกุน “เราไม่ได้ดูดวงครับ งั้นขอดู Wine’s List หน่อย”
พดด้วงสั่งอาหารอย่างคล่องแคล่วเนียนมาก
เมื่ออาหารมา พดด้วงแนะนำว่า บูฟบูร์กิญญองส์ เป็นสตูเนื้อตุ๋น เป็นวัวชาโลเร่ เลี้ยงที่โบรคเบล็กเมาเท่นใช้เวลาเคี่ยวมากกว่าสามชั่วโมง เห็นเฮียซ้งกับเจ๊เน้ยตื่นเต้นก็เปรียบเทียบให้ฟังว่า
“พวกคุณน้าคงจะกินแต่ข้าวเหนียวหมูปิ้ง ลูกชิ้นข้างทางจนเอียนแล้ว ผมว่าลองกินอะไรที่ดูหรูๆไฮโซๆบ้างก็ดีนะครับ” สามพ่อแม่ลูกฟังแล้วสะดุ้ง เฮียซ้งถามว่าลูกชิ้นนี่โลโซมากหรือ พดด้วงทำหน้ารังเกียจบอกว่า “เนื้ออะไรก็ไม่รู้บดๆรวมกัน เรื่องกินนี่รีบมากไม่ดีนะครับ ต้องประณีตมีระดับ พอเรารู้สึกดี ชีวิตก็จะดีตาม”
“เราสองคนเป็นเจ้าของโรงงานทำลูกชิ้นนะ” เจ๊เน้ยทนไม่ได้ เฮียซ้งก็บอกว่าเราไม่เคยเอาเนื้อแย่ๆ มาบด ถ้าทำแบบนั้นเราคงไม่อยู่มาเป็นสี่สิบห้าสิบปีตั้งแต่รุ่นเตี่ยหรอก
หอมเห็นบรรยากาศไม่ดี บอกป๊ากับม้าว่าพดด้วงคงไม่ได้หมายถึงลูกชิ้นของเราหรอก แต่เจ๊เน้ยไม่หายโกรธ งอนไม่กินอาหารที่พดด้วงสั่ง ทั้งเฮียซ้งและเจ๊เน้ยนั่งหน้าบูดจนหอมกับพดด้วงอึดอัด หอมเปลี่ยนเรื่องให้บรรยากาศดีขึ้น ถามพดด้วงว่าโปรเจกต์หนังที่ร่วมทุนกับเกาหลีไปถึงไหนแล้ว
พดด้วงคุยใหญ่คุยโตว่าเรียบร้อยเริ่มงานได้เลย ทำให้เฮียซ้งกับเจ๊เน้ยสนใจขึ้นมาทันที เลยทำให้บรรยากาศดีขึ้น
พดด้วงทำตามแผนของตน ขอให้หอมมาช่วยเป็นโปรดิวเซอร์หนังเรื่องนี้ให้หน่อย จะให้ดูแลเรื่องเงิน หอมตกใจไม่มั่นใจแต่เฮียซ้งกับเจ๊เน้ยลุ้นให้ทำ ถามว่าจะให้พดด้วงเอาเงินไปให้คนอื่นดูแลได้ยังไง
พดด้วงบอกว่าอีกสองวันจะโอนเงินมายี่สิบล้าน บัญชีตนยังไม่เรียบร้อยจึงขอโอนเข้าบัญชีหอมก่อน เฮียซ้งกับเจ๊เน้ยได้ยินตัวเลขก็ตาโตลุ้นตัวโก่งให้หอมช่วย หอมตัวพองฟูขึ้นมาทันทีที่จะมีเงินเข้าบัญชีตนถึงยี่สิบล้าน!
ooooooo










