สมาชิก

กามเทพออกศึก

ตอนที่ 1

ปีมงคลหรือปี โชเฟอร์แท็กซี่หนุ่มหล่อมาดเท่แกมกวนที่หอมหมื่นลี้หรือหอม เคยส่งไปรับหรรษาที่วัดเพื่อตามไปหาทิมที่สนามบิน

ดึกคืนนี้ ปีขับรถไปตามถนนที่ระยิบระยับไปด้วยแสงสีสวยงาม แต่ใบหน้าของเขาเวลานี้มีแต่ความหม่นเศร้า...

“ในช่วงเวลานี้ที่จิตใจผมตกต่ำถึงขีดสุด ผมสงสัยในคำสองคำ ‘ความจริง’ และ ‘ความรัก’...”

ปีมงคลน้ำตาไหลเมื่อนึกถึงความรักครั้งแรกและครั้งเดียวที่เพิ่งจบไป เขามองดอกแมกโนเลียประดิษฐ์ในมือขยำจนยับยุ่ยแล้วปล่อยมันลอยไปตามลายลมเป็นความยากเย็นที่จะลืมความรักที่มีกับแมกโนเลีย เขาเศร้าจนสะอื้นอกสะท้าน...

“ปราชญ์กรุ๊ป” คือบริษัททำธุรกิจการขนส่งของครอบครัวปีมงคล มีป้ายสหกรณ์แท็กซี่พร้อมโลโก้โชว์สะดุดตา ปีกำลังติดกล้องบันทึกภาพไว้ในรถแท็กซี่ของตัวเอง ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจว่า

“ผมตัดสินใจบันทึกชีวิตของคนที่อยู่เบาะหลังในรถผมเพื่อหาความหมายของคำว่า ความจริงและความรัก”

แล้วกล้องก็ได้ประเดิมบันทึกภาพและเสียงผู้โดยสารที่เป็นชายวัยกลางคนคุยโทรศัพท์กับลูกอย่างมีความสุขว่า...

“พ่อกำลังจะถึงบ้านนะลูก ซื้อของมาเยอะเลยได้ขนมที่ลูกอยากกินด้วย”

บ้านไม้หลังเล็กในสหกรณ์แท็กซี่ของปีมงคลดูดีกว่าคนอื่นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในโถงบ้านมีจอทีวีถึงสามเครื่อง มีคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์สำหรับตัดต่อภาพยนตร์ดูสวยงามมีศิลปะสมกับเป็นห้องของอาร์ติส ระดับโลกมากกว่าห้องของคนขับแท็กซี่

ปีมงคลนั่งดูฟุตเทจที่ถ่ายผู้โดยสารจากกล้องติดรถแท็กซี่ เป็นหญิงสาวสวยนั่งร้องไห้โทรศัพท์คุยกับเพื่อนว่า...

“ฉันเปิดประตูเข้าไป ฉันเห็นมันนอนอยู่บนเตียงกับอีแคท มันมีอะไรๆกับอีแคทแกคิดดู มันกล้านอกใจฉัน...มันนอกใจฉัน...”

ปีดูฟุตเทจเหล่านั้น ยังไม่ตัดสินใจว่าจะเลือกใช้ภาพไหนมาทำอะไร แค่นั่งดูไปเรื่อยๆ

จนมาถึงผู้โดยสารคนที่สามที่กำลังโกหกเพื่อนที่กำลังคุยโทรศัพท์กันอวดว่าแฟนใหม่ของตน “ซื้อสูทให้กูใส่ไปหาเขาด้วยนะโว้ย กูใส่อยู่เลย ชุดนึงหลายตังค์ ไปบอกแฟนเก่ากูเลยนะ บอกตามคำกูเลย แฟนใหม่กูเป็นฝรั่ง หุ่นนางแบบ รวยมาก พร้อมจ่าย...ไปบอกอีจ๋าเลยว่ากูไปเมืองนอกแล้ว ไม่กลับไปแล้ว พอกันที” เขาโกหกคำโตทั้งที่ตัวเองใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นราคาถูกและเพิ่งไปซื้อข้าวกล่องจากร้านสะดวกซื้อมา...

ปีกดปุ่มดูฟุตเทจผู้โดยสารคนต่อไป พลางในใจก็นึก...

“ในบรรดาผู้โดยสารทุกคน ผมตัดสินใจเลือกชีวิตของผู้หญิงคนนี้ให้เป็นตัวละครหลัก!”

ปีกดปุ่ม จอทีวีขึ้นภาพของหอมหมื่นลี้พรึบ สีหน้าหลากหลายอารมณ์เต็มทุกเครื่องในห้อง เขาลุกขึ้นยืนดูภาพของหอมหมื่นลี้บอกตัวเองว่า นี่คือคนที่เลือก!

“ภาพยนตร์เรื่องนี้ ผมขออุทิศให้สามสิ่ง...คือความจริง ความรัก และเธอ...หอมหมื่นลี้!”

ooooooo

เช้านี้...ปีมงคลมาจอดรถรอรับหอมหมื่นลี้ที่คอนโด พอหอมมาขึ้นรถที่เบาะผู้โดยสาร เธอนั่งเชิด หยิ่งยโส ปั้นหน้าปึ่ง ปีเอ่ยทักได้แค่ “เอ้อ...” เธอก็ตัดบทใส่หูฟังทันที เขาบ่นดังๆอย่างไม่เกรงใจว่า

“มุกผู้โดยสารที่เห็นแท็กซี่เป็นแมลงหวี่ ขี้เกียจฟังหวี่ วี้ วี หวี่ ...ไร้สาระเลยฟังเพลงแทน กับอีแค่จะถามว่าทำหน้าแบบนี้ จะไปทำงานหรือ ‘ไปคลี่’ แค่นี้ก็ไม่อยากฟัง”

ทั้งสองตอบโต้กันด้วยถ้อยคำที่แสบร้อนเถื่อนกระด้างไม่จำเป็นต้องปรุงแต่งทั้งคำพูดและอารมณ์ สุดท้ายเขาถามว่า “แล้วจะตอบว่าไง ทำงานหรือไปขี้ ตอบ มาซิ”

“คือแบบ...แต่งตัว แต่งหน้าขนาดนี้ สวย ฉลาด เรียนสูง look Expensive อย่างนี้” พูดแล้วชี้ที่ตัวเอง “คือแบบหยาบคาย ต่ำ look Cheap” พูดแล้วชี้ที่ปีมงคล “อย่างนี้ บอกเลยทำอะไรฉันไม่ได้หรอก”

“ถ้างั้นคงตอบว่า จะทำงาน”

“ไปขี้!!” หอมเปลี่ยนจากเชิดหยิ่งเป็นปัญญาอ่อนทันที โยนถุงแซนด์วิชใส่หน้า “ไอ้ปี นี่เอาไปเลย”

ปีมงคลรับมาเซ็งๆ บ่น (ด่า) “สั่งหมูปิ้งข้าวเหนียว นี่อะไร ยัดลงไป ตาฟ้าเลยไหม อาหารฝรั่งกินไม่เป็นโว้ย”

“อย่ามาเยอะ ฝากเงินมายี่สิบ ได้ทูน่าแซนด์วิชอะโวคาโดมาชิ้นหนึ่งแกจะมาด่าอะไรฉันอีก”

“อะไรนะ ชื่อยาว ไม่กระแดะ ไม่ได้กินนะนี่”

“ยัดๆเข้าปากไปเลย กินแต่ข้าวเหนียวหมูปิ้งทุกวัน เดี๋ยวมะเร็งหรอก อะโวคาโดเป็นผลไม้เมืองนอกดีกับสุขภาพไม่อร่อยแต่ดีมาก กินเลย”

ทั้งสองพูดกันด้วยภาษาที่แสบถึงทรวง ปีมงคลจำใจรับไว้แล้วขับรถออกไป เขาก็เล่าถึงความสัมพันธ์ของตนกับหอมหมื่นลี้ว่า

“ใช่ครับ ผมเป็นแท็กซี่รับส่งเธอทุกเช้าเย็นมาสามปีแล้ว คุณนึกออกไหมนั่งบนรถด้วยกันวันละสามชั่วโมงทุกวันน่ะ นิสัยแต่ละอย่าง ไส้กี่ขดๆ ผมกับเธอเราคุยกันไปหมดแล้ว”

วันนี้ เขาถามหอมว่าเป็นอะไรหน้าถึงบูดขนาดนี้ เธอบอกว่าบริษัทกำลังจะเจ๊ง

“หา...บอสคุณรวย หล่อ เก่ง เขาไม่ทำบริษัทเจ๊งหรอกน่า”

“เครียดๆๆ” หอมตะเบ็งเสียงออกมาแต่ไม่ได้บอกว่าเครียดเรื่องอะไร แล้วหันไปใช้โทรศัพท์ชื่นชมการแต่งหน้าของตัวเอง ทบทวนความรู้เรื่องเครื่องสำอางว่า “บลัชออนมีอายุการใช้งานสองปี ลิปสติกมีอายุการใช้งานหนึ่งปีครึ่ง ดินสอเขียนขอบตามีอายุการใช้งานหนึ่งปี ส่วนหอมหมื่นลี้ แม้ชีวิตจะเซ็งแค่ไหน หน้าต้องเป๊ะเสมอ”

ooooooo

ปีมงคลขับรถมาส่งหอมหมื่นลี้ที่คิวปิดฮัท มาถึงก็เห็นทิมขับรถมาส่งหรรษาพอดี ปีนั่งมองทิมกับหรรษาที่คุยกันกะหนุงกะหนิงประสาคนรัก หอมชี้ให้ดูบอกว่า

“นั่นไง คู่นั้นเป็นอีกเหตุผลที่ทำฉันโคตรเซ็ง”

“ผมมีส่วนทำให้เขารักกันนะนั่น” ปีบอกเพราะเป็นคนขับแท็กซี่พาหรรษาไปหาทิมที่สนามบิน เปรยๆ ว่า “ผัวคุณหรรษานี่ท่าทางจะหลงเมียน่าดู”

“แฟน เขาเรียกแฟน คุณทิมคือดีงาม คือเลิศเลอเพอร์เฟกต์ เขาเพิ่งตกลงเป็นแฟนกัน... เฮ้ออออ” ปีดักคอว่าอารมณ์เสียเพราะเขามีแฟนเป็นเศรษฐี อิจฉาเขางั้นสิ “เฮ้ย!ไม่...เพื่อนกัน น้องเป็นคนดี มิตรภาพสำหรับหอมหมื่นลี้สำคัญยิ่งกว่าสิ่งใด ฮือ... โคตรอิจฉา...ทำไงดี... อิจฉาๆๆๆ”

ระหว่างนั้น ทิมมองมาที่รถของปีมงคล เขารีบก้มซ่อนหน้า หอมมัวแต่มองทิมเดินไปส่งหรรษาเข้าไปในตึก พอหันมาอีกทีไม่เห็นปีแล้ว เธอดูนาฬิกาพูดลอยๆ ว่า “ไปก่อนล่ะ เจอกันเย็นนี้” พอหอมลงรถไป ปีจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้น ถอนใจเฮือกใหญ่ที่ทิมไปเสียทีจะได้ไม่สงสัยตน

ความลับสุดยอดที่ปีมงคลต้องหลบหน้าทิมคือ เขากับทิมเป็นเพื่อนสนิทกันและทิมรู้ดีว่าเขาเป็นใคร!

ooooooo

พอหรรษาเดินเข้าคิวปิดฮัท ภีมก็กล่าวต้อนรับอย่างตื่นเต้นยินดีมาก

“ขอต้อนรับผู้ชนะคนแรก คนที่เอาชนะตัวเอง มีแฟนได้ในที่สุด สะคราญถ่ายรูปแปะไว้ทั่วออฟฟิศ คนที่ได้เงินล้านแรกจากผม ประกาศให้สาวๆอีกเจ็ดคนรู้ ขยายใหญ่แปะให้ทั่ว”

หรรษายิ้มแห้งๆที่ได้เงินล้านโดยบังเอิญ ขณะนั้นหอมหมื่นลี้ย่องกริบเข้ามาทำท่าจะหลบไปอีกทาง ถูกภีมเรียกไว้

“คุณหอมหมื่นลี้ มาที่ทำงานคนแรกเลย ดีเลย คุณรู้ไหมหลังหรรษามีแฟนแค่สองอาทิตย์เขาจับคู่คนให้แต่งงานกันได้ถึงสามคู่” หอมถามว่าจริงหรือ ดีใจด้วยนะ “เป็นไปอย่างที่ผมคิดเลย พอคุณมีแฟนคุณก็ทำงานได้ดีขึ้น ไหนบอกเคล็ดลับคุณหอมหน่อยซิ เขายังหาไม่ได้สักคู่มาสองเดือนแล้ว”

หอมหมื่นลี้ถูกภีมประจานก็เซ็ง ชี้แจงว่า

“ลูกค้าส่วนใหญ่เขากลัวการมีแฟนน่ะค่ะหอมก็เลยบอกเขาเหมือนที่คุณภีมสอน หากคิดจะรัก ก็จงลืมคำว่า เสียใจ ไม่ต้องกลัว อย่างมากก็แค่เสียใจ แต่โลกไม่แตก”

“สุดยอด!” ภีมตบเข่าฉาด “พูดจารู้เรื่อง ความมั่นใจในตัวเองเยอะขึ้น ความคิดความอ่านก็ดีขึ้นเหมือนเป็นคนละคน เห็นหรือยังคุณหอม”

หอมหมื่นลี้พยักหน้ายิ้มแห้งๆ แต่พอเข้าห้องน้ำก็ประกาศอย่างอหังการด้วยความเจ็บแค้นสุดขีด...

“หอมหมื่นลี้ขอประกาศ! ต่อหน้าเพดานห้องน้ำ เจ้าที่เจ้าทาง เทวดาอารักษ์ แมลงสาบ แมลงวัน คนต่อไปที่จะต้องมีแฟนต่อจากหรรษาคือฉัน! คือฉัน!! คือฉัน!!! คือช้านนน!!!!”

ooooooo

ที่อู่รถแท็กซี่...สมชาย หัวหน้าสหกรณ์แท็กซี่ที่ไว้ผมยาวรุงรังบุคลิกเหมือนฤาษี กำลังง่วนกับการจัดของแถวถังขยะ ปีมงคลโยนขวดน้ำเปล่าให้บอกว่าฝากขายด้วย สมชายโวยว่าตนเป็นหัวหน้าสหกรณ์แท็กซี่ให้เกียรติกันหน่อย

ทันใดนั้น แบ๊ว สก๊อยแม่บ้านประจำอู่ก็เดินหน้าบานนำติ่งเข้ามาแนะนำว่าเป็นคนขับแท็กซี่คนใหม่ หล่อมากๆ สมชายหันไปบอกปีมงคลอย่างนอบน้อมว่า “คุณน้องครับ นี่คนขับแท็กซี่คนใหม่ของสหกรณ์เราครับ”

“ผมชื่อเต็มๆหล่อสุดไส้ติ่ง ย่อสั้นๆ หล่อสุดติ่ง สั้นกว่านั้น ติ่ง ว่าแต่พี่เป็นหัวหน้าไม่ใช่หรือ รึว่าคนนี้เป็น เอาไงกันแน่” ติ่งมองกวนๆ ถามยวนๆ เพราะเห็นสมชายนอบน้อมกับปีมงคลมาก

“เอ้อ...พี่เป็นหัวหน้าถูกแล้ว คนนี้ชื่อปีมงคล เป็นแค่คนขับแท็กซี่เหมือนทุกคนที่นี่ แต่เขาเป็นน้องชายแท้ๆ มาจากบ้านนอกด้วยกัน พี่เล่าให้เขาฟังทุกเรื่องไง”

“ฉันชื่อแบ๊วเป็นหัวหน้าพนักงานฝ่ายต้อนรับและดูแลลูกค้า” ปีมงคลกับสมชายพูดขัดทันทีว่า ‘ทำความสะอาด’ แบ๊วค้อนตาแทบกลับ พูดต่อจ๋อยๆว่า

“พี่สมชายเขารักน้องมากในนี้เขารู้กัน ห้องที่พี่เช่าอยู่ข้างหลังชั้นหนึ่งขวามือ ของฉันอยู่ชั้นสองห้องแรก หลังเที่ยงคืน...ไม่ล็อก” แบ๊วเล่า ทิ้งสายตาอ่อยติ่ง

ติ่งมองปีมงคลอย่างสงสัยเพราะดูหล่อ เท่ เกินกว่าจะเป็นคนขับแท็กซี่ ติ่งแอบตามปีมงคลไปที่บ้านไม้หลังเล็กของเขา บ่นว่าตนได้ห้องเล็กเท่ารูหนูแต่ของเขาได้บ้านทั้งหลัง ปีมงคลหันไปดุว่าตามมาทำไม ติ่งไม่สนใจ มองทีวี เครื่องตัดต่อและการตบแต่งบ้านดูสวยแบบอาร์ตๆ ดิบๆ ถามงงๆว่า ไอ้เครื่องพวกนี้เป็นอะไร พลางจะเข้าไปลูบคลำ

“เฮ้ยอย่าแตะ งานอดิเรกของฉัน กำลังจะทำหนังน่ะ” ติ่งตาลุกถามว่าหนังโป๊หรือขอดูมั่ง “เฮ้ย พูดอะไรให้เกียรติ ผู้หญิงหน่อย หนังสารคดีเรื่อง behind”

ติ่งบอกว่าชื่อสั้นไป ถามว่า บีให้ ให้อะไร ผู้หญิงคนนี้ชื่อบีใช่ไหม จะให้อะไรใครก็บอกไปสิ ปีมงคลพยักหน้าชม

“อืม...เป็นคนลึกซึ้ง ไม่เคยเจอใครตีความอะไรลึกซึ้งถึงโป๊ะอย่างนี้เลย” ติ่งถามว่านางเอกคนนี้คู่กับใคร ใครเป็นพระเอก นายหรือ แอบชอบเขาล่ะสิ

ติ่งถามประสาชอบสอดรู้สอดเห็น ถูกปีมงคลปรามว่าพูดมากจริง นี่เป็นพื้นที่ส่วนตัวทีหลังไม่มีธุระไม่ต้องมาแถวนี้บอกให้ออกไปได้แล้ว ติ่งไม่เพียงไม่ออกพูดหน้าตายว่าห้องนี้สบายจัง ขอนอนในนี้ได้ไหม

“ไม่ ปกติห้องนี้ล็อก ใครก็เข้าไม่ได้ ออกไป” ติ่งยังยืนกวนประสาทเฉยอยู่ “เฮ้ย ฟังภาษาคนรู้เรื่องเปล่าวะ” ติ่งเห็นเขาเอาจริงจึงออกไป ปีมงคลปิดประตูปังไล่หลัง

“ฮึ...มีข้าวของขนาดนี้แล้วมาขับแท็กซี่ทำไมวะ?” ติ่งบ่นอุบอิบ

ooooooo

ที่มุมทำงานของฝ่ายออนไลน์ในคิวปิดฮัท หอมหมื่นลี้แต่งขอบตาอย่างพิถีพิถัน มีเพชรเม็ดเล็กๆ ติดที่หางตาเว่อร์มากๆ แพรวพราวเดินมาทักว่าจัดขนาดนี้จะไปไหนจ๊ะ เธอบอกว่าจะไปท่องเน็ต แพรวพราวทักว่าจัดเต็มอย่างนี้เลยหรือ?

“ระดับฉัน ฉันไม่ได้แต่งหน้าให้ใครดู ฉันแต่งให้จิตวิญญาณภายใน ฉันกำลังจะ...”

พูดพลางกดปุ่มเปิดจอให้แพรวพราวดู เป็น ‘โปรแกรมเนื้อคู่ประตูดวง’ แพรวพราวถามว่าสมัครทำไมมันเป็นกฎ ห้ามพนักงานใช้ หอมทำหน้าอำๆว่า

“อย่ามา...แกอยากลองใช่ไหมล่ะ” แพรวพราวส่ายหน้าดิก “คุณภีมบังคับให้เราหาแฟน ขอลองหน่อยไม่ได้หรืออยากรู้นี่นา เนื้อคู่ของฉันที่มีดวงสมพงศ์ มีพฤติกรรม นิสัย ส่งเสริมกัน มีบ้างไหม”

แพรวพราวถามว่าเธอใช้ชื่อปลอมว่าอะไร หอมบอกว่า “ล้อมดาว” แล้วฝากดูให้ด้วย ถ้าโปรแกรมแจ้งมาว่าเจอเนื้อคู่ให้รีบบอก แพรวพราวให้เอามือถือมา จะตั้งค่าให้ถ้ามีเสียงเรียกเข้ามา แปลว่าเจอคนที่มีทั้งดวง มีทั้งนิสัยที่แมตช์กันสมพงศ์กัน หอมขอบใจ ยื่นมือถือให้ ทำท่าขึงขังพร่ำเพ้อว่า

“หนูษาพูดดีมากเลย สะเทือนหัวใจ ดีพ อินมายฮาร์ดมาก พูดว่าอะไรนะ...นึกออกแล้ว ‘มีความรักจะได้มีพลังชีวิต ตื่นมาสดชื่น อยากทำแต่สิ่งดีๆ’ ฉันอยากรู้จริงๆ คนที่เกิดมาคู่กับฉันจะอยู่มุมไหนของท้องฟ้า...”

วันเดียวกัน...ปีมงคลอยู่ในห้องตัดต่อ เขากำลังทักทายกับรูปฟุตเทจจากภาพวันแรกที่เจอกับหอมหมื่นลี้และแอบถ่ายไว้ได้ เขากำลังตัดต่อหนังเรื่อง behind ช่วงเปิดเรื่อง เป็นความสัมพันธ์ของเขากับหอมหมื่นลี้ เขาบันทึกเสียงเปิดเรื่องไปว่า

“นี่คือนาทีแรกที่โชคชะตาพาให้เรามาเจอกัน”

ปีมงคลกดปุ่มเพลย์ฟุตเทจ ภาพหอมหมื่นลี้โผล่พรวดเข้ามาในรถแท็กซี่ของเขาในสภาพนุ่งผ้าขนหนูผืนเดียว ผมเผ้ายุ่งเหยิง หน้าเลอะเครื่องสำอางเละเทะ!

ooooooo

เหตุการณ์เมื่อสามปีก่อน ปรากฏชัดขึ้นราวกับเกิดขึ้นสดๆเดี๋ยวนั้น...

วันนั้น...ขณะปีมงคลกำลังยืนเช็ดรถอยู่ หอมหมื่นลี้วิ่งมาขึ้นรถละล่ำละลักบอกให้ออกรถเลย เขาบอกว่าตนรอลูกค้าอยู่ เธอบอกว่าตนให้อีกสิบเท่า ขอร้องให้ช่วยด้วย...ช่วยที แต่พอเห็นหน้าตัวเองที่เละเทะในกระจกที่สะท้อนมาก็ร้องราวกับถูกผีหลอก ถามว่ามีสำลีไหม มีน้ำไหม

“ก่อนจะห่วงหน้า ห่วงข้างล่างก่อนไหม”

เธอก้มมองตัวเองแล้วร้องกรี๊ด ปีมงคลส่งน้ำให้ ก็พอดีไทม์วิ่งตามมาเคาะกระจกบอกให้หอมลงมาก่อน เธอล็อกประตูรถบอกปีมงคลว่า “ไอ้ผู้ชายคนนี้มันจะปล้ำฉัน ล็อกประตูเลย”

ปีมงคลเปิดกระจกรถด่าไทม์ว่าข่มขืนน่ะคดีอาญาร้ายแรงนะ ไทม์โต้ว่านี่เป็นแฟนตนแค่ทะเลาะกันเอง แล้วตะโกน “ลงรถมาเร็วหอม” เธอโต้ว่าไม่ได้เป็นแฟนแค่ตนแอบชอบเขา แต่เขาด่าตนว่าหน้าเหมือนผีจูออน

เมื่อหอมหมื่นลี้ไม่ยอมลงจากรถ ไทม์ก็ทุบกระจกเมื่อไม่ได้ดั่งใจก็หันไปคว้าก้อนหินแถวนั้นขึ้นมาทุบแทน ปีมงคลทนดูไม่ได้ ลงจากรถไปต่อยไทม์จนล้มกลิ้ง ไทม์ลุกขึ้นมาได้ก็พุ่งเข้าตะลุมบอนกัน หอมทึ่งฝีมือปีมงคลที่เหนือกว่าไทม์มาก ร้องอย่างถึงใจ “ฮู้ย...ถ่อย ดิบ เถื่อน แซ่บเว่อร์”

“เตือนแล้วนะโว้ย ให้กลับไม่กลับ ถุย...ต้องให้เสียเหงื่อ” ปีมงคลชี้หน้าด่าไทม์ที่นอนเจ็บที่พื้น แล้วขึ้นรถขับพาหอมไป ไทม์มองตามอย่างแค้นใจ

ปีมงคลกับหอมหมื่นลี้เข้าร้านสะดวกซื้อกลับออกมา หอมเอาสำลีชุบโลชั่นล้างหน้า ปีก็เอาสำลีชุบยาแดงโปะแผลที่ปาก ส่องกระจกด่า

“ไอ้เฮงซวย ใช่ไหมเนี่ย มาปากแตกตอนหน้าร้อน”

เมื่อต่างดูแลตัวเองเสร็จ หอมบอกให้ไปส่งตนได้แล้ว ตนอยากกลับบ้าน แต่พอปีสตาร์ตรถเท่านั้นรถเก๋งของไทม์ก็มาปาดหน้าแล้วลงจากรถพร้อมพวกอีกสองคน ปีไม่สะทกสะท้านลงไปลุยทันที หอมที่ได้เสื้อแจ็กเกตของปีคลุมท่อนบนเปิดให้เห็นแต่ตา ท่อนล่างยังนุ่งผ้าขนหนู เปิดหน้าต่างรถชี้หน้าด่าไทม์ตะโกนให้หยุด

เมื่อไม่มีใครหยุด เธอจึงลงจากรถทำท่าจะเข้าไปตบไทม์ ปีร้องบอกเธอไม่ต้องช่วย ให้ไปรอในรถ

“ไม่ ไม่ ฉันไม่ไปฉันให้คุณเดือดร้อนไม่ได้ คุณหยุดไปเลย” เธอพุ่งเข้าไปตบไทม์ ปีตะโกน

“โห...ซึ้งว่ะ ซึ้ง คุณนี่เฟี้ยวเปรี้ยวซ่าสุดๆ”

แม้ว่าปีมงคลจะมีฝีมือและแข็งแกร่งแต่ต้องสู้กับพวกไทม์ถึงสามคนก็อ่อนล้า ตัดสินใจไปดึงมือหอมวิ่งหนีไป พอถึงกำแพงสวนสาธารณะก็ปีนกำแพงขึ้นไป ปีมงคลตะโกนบอกให้หอมโดดลงไปเลย “ยูจั๊มพ์ไอจั๊มพ์” แต่ขณะหอมกระโดดลง ทั้งเสื้อแจ็กเกตและผ้าขนหนูถูกกิ่งไม้เกี่ยวหลุดจากตัวแต่เธอยังไม่รู้สึกตัวเพราะกำลังตื้นเต้น จนปีมงคลมองตะลึงเธอจึงรู้ตัวร้องกรี๊ดเอามือปิดบนปิดล่างตะโกนด่า

“ไอ้บ้า ไอ้ชั่ว ทั้งหน้าสด หนังสด แกเห็นหมดเลย ไอ้เลว ฉันจะฆ่าแก”

ปีมงคลรู้สึกตัวจึงหันหน้าหนีทำหน้าบอกไม่ถูก ยิ้มแห้งๆ...

เมื่อถึงคอนโด หอมเทเงินจากกระเป๋าใส่เบาะข้างตัวให้เป็นค่ารถและขอบใจที่ช่วยชีวิตตน แต่พอเดินไปก็วิ่งกลับมาเอาสร้อยข้อมือให้อีกบอกว่าหน้าเขาเป็นแผลเอาไว้เป็นค่ารักษาพยาบาล ปีมงคลได้แต่นิ่งเพราะยังเขินจนพูดไม่ออก

ooooooo

รุ่งขึ้นปีมงคลมารับหอมหมื่นลี้ที่คอนโดถามว่าเธอเรียกแท็กซี่จะไปทำงานหรือ เธอถามว่าศูนย์ของเขาหรือ ทีหลังไม่ต้องมาเลยนะ ปีมงคลอ้างว่าช่วงนี้ทองราคาตก สร้อยห้าสิบสตางค์ไม่พอซ่อมรถหรอก เราควรไปแจ้งความจับเพื่อนเธอ

หอมถามว่าตนต้องไปด้วยหรือก็ตนจ่ายค่าซ่อมไปแล้ว ปีหัวเราะแซว

“เขินเหรอ ไอจัมพ์ ยูจัมพ์ เอาเหอะน่า ผมไม่เล่าเรื่องคุณให้ใครฟังหรอก สวยตั้งแต่หัวจดเท้าอย่างคุณน่ะเก็บไว้ชื่นชมคนเดียวดีกว่า” เธอออกไปเรียก แท็กซี่คันอื่น ปีวิ่งไปขวาง “เฮ้ย...ผมต้องแจ้งความจริงๆ ไม่งั้นที่สหกรณ์รถเขาจะปรับผม หาว่าผมชอบมีเรื่อง ไปด้วยกันหน่อยน่า ไหนบอกว่าไม่ทิ้งผมให้ลำบากไง ผมช่วยรักษาพรหมจรรย์คุณเลยนะ”

“ห้ามพูดเรื่องนี้ตลอดชีวิต พูดให้ใครฟังก็ไม่ได้”

“ตกลง”

“ลืมมันไปซะ ลืมๆๆๆ” หอมหมื่นลี้ทำมือวนร่ายมนต์บนหัวปีมงคลท่าขรึมขลัง แต่เขากลับเห็นเป็นเรื่องไร้สาระท่าเยอะ โคตรปัญญาอ่อน พูดตัดปัญหาว่า เออ...ลืมก็ลืม...ทั้งที่ภาพนั้นยังติดต๊า...ติดตา...

ooooooo

ที่สถานีตำรวจ หลังจากร้อยตำรวจโทปรัชวินทร์ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้ว พูดกับไทม์ที่นั่งอยู่กับปีมงคลและหอมหมื่นลี้ว่า

“กล้องวงจรปิดบันทึกภาพได้หมด คุณควรชดใช้ค่าเสียหายเขานะ”

“ชีวิตเหมือนกล่องช็อกโกแลต แกไม่มีวันรู้ หรอกว่า แกจะได้ช็อกโกแลตรสอะไร” หอมเอ่ย ปีพยักหน้า พูดต่อว่า

“ฟอเรสต์กัมพ์! แปลว่าถ้าไม่จ่ายผมจะฟ้องอาญาที่คุณทำร้ายร่างกายและคุณจะต้องเสียหายหนักกว่านี้เผลอๆ ติดคุก” ไทม์ทำหน้างงงึมงัมว่าแล้วช็อกโกแลตมาเกี่ยวตรงไหนวะ ปีพูดคำคมว่า “ความกล้าหาญที่แท้จริงไม่ใช่สังหาร แต่คือการไว้ชีวิต”

“เดอะฮอบบิท! เราให้โอกาสนายแล้วนะ จะจ่าย หรือไม่จ่าย” หอมสำทับไทม์ถามหมวดว่าไอ้ฮอบๆนี่อะไรบ่นอุบอิบ “ภาษาอะไรของแกสองคนเนี่ย”

“ค่าซ่อมรถ ค่าทำขวัญ ค่ารักษาหนังหน้า จ่ายมาจะได้จบ” ปียื่นเอกสารให้ไทม์ดู ไทม์รับมาดูงงๆ แต่ตัดปัญหาจำใจจ่าย มองหน้าสองคนไปมาอย่างจริงจังถามว่า “ไอ้คนนี้มันแฟนหอมใช่ไหม ใช่ไหม”

“เฮ้ย...ฉันเพิ่งเจอเขาเมื่อคืน เขาพลเมืองดีย่ะ พลเมืองดีกว่าแกเยอะ” หอมโวย หันมองหน้าปีอย่างเข้าใจกัน โพล่งว่า “For Frodo!”

“For Frodo! สู้เพื่อมิตรภาพและความถูกต้อง” ปีพยักหน้าเอ่ยขึ้น แล้วพูดพร้อมกัน “The lord of the ring”

ทั้งสองพูดสอดรับกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยประสาคนชอบดูหนังคอเดียวกันไม่ได้จิ้นอะไรกันเลย ไทม์จ่ายเงินแล้วฮึดฮัดออกไป ปีกับหอมยกมือตีกันร้องอย่างลิงโลด

“เยส!”

เมื่อกลับมาที่บ้านพักตัวเอง ปีมงคลนั่งดูฟุตเทจหอมหมื่นลี้ที่ถ่ายเอาไว้จากทั้งสามจอ แล้วอัดบันทึกเสียงประกอบหนังที่แสดงความสัมพันธ์ของสองคน...

“เวลานั้นเราสองคนไม่ได้เฉลียวใจถึงสิ่งที่ไทม์พูด ใช่ครับ เรามีภาษาของตัวเอง ภาษาของเราสองคน...มีเองโดยบังเอิญ! นับจากนั้นมา ผมก็เป็นแท็กซี่ประจำตัวเธอ มารับทุกเช้าเย็น คิดดูเถอะ อยู่ด้วยกันสามชั่วโมงต่อวัน ทุกวันมาสามปี เราจะผ่านอะไรมาด้วยกันขนาดไหน”

แล้วภาพก็ย้อนในวันหนึ่ง วันนั้นขณะปีขับรถพาหอมไปทำงาน ถูกตำรวจเรียกเพราะปาดหน้าในที่คับขันแยกที่ผ่านมา ปีทำหน้าตายบอกว่าตนรีบ ตำรวจอบรมว่ารีบยังไงก็ต้องเคารพกฎจราจร ถามว่าแล้วจะรีบไปไหนกัน

หอมยื่นหน้าออกมามีรอยเขียวคล้ำที่ตาข้างหนึ่ง บอกตำรวจว่า

“ผัวมันต่อยหน้าหนู...มันเตะที่ท้องนี่ด้วย ม้ามแตกหรือเปล่าก็ไม่รู้ หนูเลยให้เขารีบพาไปโรงพยาบาล” หอมเล่นใหญ่จนตำรวจเป็นห่วงถามว่าเป็นอะไรมากหรือเปล่า

ทั้งสองยังคุยกันอีกมากมายหลายเรื่อง ปีมงคลถามว่าเพื่อนที่ห้องว่าเธอเป็นผีจูออนหรือ หอมเล่าว่า ตอนเรียนมัธยมปลาย ตนไว้ผมยาวมาก ส่องกระจก ทาแป้งฝุ่นแล้วปลดหนังยางเพื่อรวบผมใหม่ หนังยางกระเด็นตก ตนคลานหาตามพื้นไปจ๊ะเข้ากับไทม์ที่ตน แอบชอบเขาทำของหล่นลงมาหาเหมือนกัน พอเห็นหน้าตนไทม์ก็ตกใจร้องลั่น

“ผีจูออน!”

ปีมงคลเลยได้ข้อสรุปว่า เธอชอบนายไทม์แต่นายไทม์กลับเรียกเธอว่าผีจูออน เธอเลยหมดความเชื่อมั่นหนังหน้าตัวเอง บ้าเครื่องสำอางนับแต่นั้นมา หอมฟังแล้วคล้อยตามว่าท่าจะจริง ปีถามว่าแล้ววันที่จะโดนนายไทม์ข่มขืนล่ะเป็นยังไง

“ไม่ได้เจอกันเป็นสิบปี มันดันมาชมว่าฉันสวย แล้ววันนั้นเราก็สนุกกันมาก ก็เลยติดรถมันกลับ ตอนนั่งรถมาคอนโดก็จำได้ว่ามากันหลายคน ที่ไหนได้เพื่อนลงไปตอนไหนไม่รู้” ปีถามว่าแล้วเธอไม่มีแฟนหรือ “ไม่อ่ะ ขี้เกียจให้ใครมาเห็นหน้าสด ให้มันด่าผีจูออนเอาอีก”

“โฮ้ย จิต! จิตเจ๊ง เจ๊งกะบ๊ง เข้าข่ายโรคจิตแล้วคุณน่ะ”

ปีมงคลร้องอย่างเหลือเชื่อ แต่หอมหมื่นลี้กลับยักไหล่อย่างไม่แคร์...

ooooooo

กลับมาถึงห้องตัดต่อ ปีมงคลมองหน้าหอมหมื่นลี้จากในจอที่ถ่ายในแท็กซี่ สมชายเดินเข้ามาเมื่อไหร่ไม่รู้ ยุว่าจีบเลย เขาตกใจถามว่าอะไรนะ! สมชายบอกว่าก็ถามเขาว่ามีแฟนหรือยังเขาอุตส่าห์บอกว่ายังไม่มี งั้นก็จีบเลย

“เฮ้ย ผมแอบถ่ายเขา นี่กำลังตัดต่อ อัดเสียงอยู่” สมชายถามว่าหนังอะไร แล้วเรื่องเป็นยังไง “ยังไม่รู้หนังจากชีวิตจริงสะสมชีวิตจริงๆของคนคนหนึ่งแล้วให้ชีวิตมันบอกตอนจบเอง ผมไม่ได้ชอบเขาหรอกจะทำหนังเท่านั้นแหละ”

สมชายถามว่ายังไม่ลืมแฟนเก่าหรือเขาแต่งงานไปแล้ว ปีหน้าเศร้าลงสบถว่า ความทรงจำเฮงซวย ยิ่งอยากลืมก็ยิ่งจำ

“ใส่ความทรงจำใหม่เข้าไปเลย มีแฟนใหม่ง่ายกว่าเยอะ ขับรถส่งเขาไปกลับทุกวันสามปีแล้ว จีบเล้ย”

“โฮ้ย นางนี่โรคจิตเคยมองใครที่ไหน นางไม่สนใจใครหรอก” ปีมงคลส่ายหน้า

แต่หารู้ไม่ว่า คนที่เขาว่าโรคจิตไม่เคยสนใจใครนั้น กำลังรุ่มร้อนหาคู่จนสมัครเข้า “โปรแกรมเนื้อคู่ประตูดวง” แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีเสียงตอบรับจ้องมือถือจนจอเกือบทะลุแต่ก็เงียบกริบ กลิ้งเกลือกบนที่นอนพร่ำเพ้อ...

“ไม่มี้...ไม่มี ไม่มีเนื้อคู่ ต้องตายอย่างโดดเดี่ยว ฮือ...ๆ...”

รุ่งขึ้นเมื่อปีมงคลมารับ หอมก็เดินตัวสั่นมาขึ้นรถ เขาถามว่าเป็นอะไร ไปหาหมอไหม หอมยิ่งสั่นบอกว่าไม่ต้องแค่อยากมีแฟนจนตัวสั่น

“ถุย! เล่นซะใหญ่ คุณเนี่ยนะอยากมีแฟนไหนบอกไม่ชอบให้ใครเห็นหน้าสด” เขานึกได้ว่าหอมเคยเล่าเรื่องภีมสั่งให้ทุกคนต้องมีแฟน ถามว่า “สรุปว่า บอสคุณสั่งให้หาผัว เอ๊ย...แฟน เพื่อกู้กิจการเนี่ยนะ” ถามว่าแล้วจะทำยังไงหาซื้อแถวคลองหลอดหรือคลองถม ทำเป็นพึมพำว่า “เขาขายกันที่ไหนนะ...ไอ้รักแท้เนี่ย”

“ก็ฉันไม่ชอบเป็นคนขี้แพ้ ตอนนี้หนูษาก็มีแฟนไปแล้ว ฉันต้องเป็นคนต่อไป เอ...ที่จริงนายก็...เอ๊ะๆๆ” หอมมองปีอย่างพิจารณาเดินเข้าไปหา ปีเห็นท่าแล้วสยองถอยไป พอหอมหยุดถอยกลับปีก็ก้าวตาม หอมยังเอ๊ะๆอ๊ะๆรุกๆถอยๆอยู่อย่างนั้นตัดสินใจไม่ได้ พริบตาเดียวหอมก็พรวดเข้าประจันหน้าบอกว่า

“นายนี่ล่ะ ไม่มีใครแล้ว ขอความช่วยเหลือนายหน่อยสิ” ปีถามเหมือนถูกผีหลอกว่าช่วยอะไร “ที่จริงนายก็ดูดี เราสองคนก็สนิทกันมานาน จะสามปีแล้วเนอะที่ฉันเจอนายทุกวัน เจอกันบ่อยยิ่งกว่าพ่อแม่ตัวเองอีก”

ปีมงคลถึงกับตาเหลือก เลือดกำเดาไหล พอหอมทักก็บอกว่า “เบสิก อินซติงค์น่ะ อากาศมันร้อนน่ะ” หอมเอาทิชชูให้เช็ดเสีย ปีบอกให้เธอพูดต่อตนอยากฟัง หอมจึงขอให้วันนี้ไปทานข้าวเป็นเพื่อนได้ไหม เขาถามว่าแค่นั้นจริงๆหรือ

“อื้อ...ฉันเลี้ยง ลีลาเยอะจะไปหรือไม่ไป บอกมาคำเดียว”

“ไปจ้ะไป” ปีมงคลรีบตอบ แต่ลึกๆแล้วเสียดายที่หอมไม่ได้ขอเป็นแฟน

ooooooo

กามเทพออกศึก

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด