ตอนที่ 11
เอกชัย (กรกฎ ธนภัทร) และวิชัย (โชกุน สันธนะพานิช) รู้ว่าจุดอ่อนที่ทำให้เต้โชติกานต์ (สุริยนต์ อรุณวัฒนกูล) ทำตามแผนไม่สำเร็จก็คือมุสิกา (พาย รินรดา) เพราะเต้โชติกานต์นั้นหลงรักเธอ ทั้ง2 จึงหาวิธีกำจัดมุสิกา นั้นก็คือหลอกล่อให้เธอออกมาพบแล้วลอบฆ่า แต่โชคดีที่สารวัตรชาญศึก (สุรินทร คารวุตม์) ไปช่วยไว้ได้ทัน
มุสิกาบาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทว่าทำให้สิงห์บดินทร์ (เจมส์ มาร์) เป็นห่วงมุสิกามาก จึงต้องพาเธอไปหาที่ซ่อนตัว แต่แล้วความลับก็ได้รั่วไหล เพราะแสงสุรีย์ (กัมมัญญ์ กลมแก้ว) แอบได้ยินที่สร้อยอุษา (พิมพ์ปวีณ์ โคกระบินทร์) และมุสิกาคุยกัน ซึ่งแสงสุรีย์ก็โดนเต้โชติกานต์ขมขู่ ถ้าหากพาตัวมุสิกามาให้ไม่ได้ ทุกคนที่ซันริสกรุ๊ปจะได้รู้ความจริงว่าแสงสุรีย์คือหนอนบ่อนไส้ เค้าจึงทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองรอดจากความผิด
แต่ความลับไม่มีในโลกสิริวัฒน์ (ชรัส เฟื่องอารมณ์) สืบจนรู้ว่าเป็นฝีมือของแสงสุรีย์ สิริวัฒน์โกรธมากจึงตบหน้าแสงสุรีย์ต่อหน้าสร้อยอุษา และลูกน้อง ทำให้แสงสุรีย์อับอายถึงขั้นตัดขาดความเป็นปู่กับหลาน และลาออกจากซันริสกรุ๊ป
ทางด้านสิงห์บดินทร์กับพล (สรวิชญ์ สุบุญ) ได้ร่วมมือกับชาญศึก จนสืบรู้ แล้วจับตัวคนร้ายได้ แต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือ เพราะคนร้ายไม่ยอมสาวถึงตัวบงการ สิงห์บดินทร์ยอมปล่อยตัวไปเพื่อให้คนร้ายได้ติดต่อกับคนที่สั่งการมา ซึ่งวิธีการนี้สำเร็จ สิงห์บดินทร์และภคพลรู้จนได้ว่าเอกชัย คือตัวบงการ แต่ก็สายไปแล้วเพราะมันคือแผนล่อให้สิงห์บดินทร์ออกมาติดกับดักของเต้โชติกานต์นั่นเอง










