ตอนที่ 20
หลังเลิกงาน เทิดศักดิ์กับแดงน้อยนัดมาเจอกันสโมสรข้าราชการประจำจังหวัด เทิดศักดิ์มีเรื่องแปลกประหลาดจะเล่าให้เพื่อนรักฟัง เขาให้หมู่เติมไปสืบข้อมูลมาแล้วว่าหลังเนียนออกจากสามชุกก็ไปหาแพรกับโพล้งที่บ้านแพน เพื่อจัดการเรื่องที่นาที่ยายอ่อนจะขอซื้อ
“ตอนนี้ ยายอ่อน แพร และโพล้งมาอยู่ในตัวเมืองแล้ว มาทำไมรู้ไหม...รับรองว่าแกเดาไม่ถูกแน่”
“สามคนนั่นมาเพราะว่ามีปัญหาเนื่องจากว่าคนที่น้าเนียนยกที่นาให้ต้องเซ็นโอนขายให้ยายอ่อน”
“เดาได้เก่งมากแดงน้อย แต่แกไม่มีทางเดาถูกว่าน้าเนียนยกที่นาให้ใคร”
แดงน้อยยังไม่ทันจะบอกว่าเนียนยกที่นาให้ตนเอง ผู้กำกับฯเข้ามาแจ้งเสียก่อนว่าคุณนายสนมาพบตน เมื่อตอนบ่าย บอกว่าสับสนเรื่องเนียน เธอไม่เจอเนียนเช้ามืดวันที่ช้อยถูกฆ่าตาย สองหนุ่มมองหน้ากันงงๆ...
ทางด้านขุนภักดียิ่งรีบกลับยิ่งช้า รถที่เขานั่งมาเกิดยางแตก เขาร้อนใจมากอยากกลับไปรับขวัญเนียนเร็วๆ รีบถลกแขนเสื้อลงไปช่วยเปลี่ยนยางอะไหล่โดยที่ไม่ฟังเสียงทัดทานใดๆของนายเอก...
ในเวลาเดียวกัน แพรเห็นสภาพของเนียนแล้วถึงกับร้องไห้โฮ ในเมื่อเนียนไม่ได้ทำอะไรผิดทำไมถึงปล่อยให้ตัวเองต้องมาถูกขังแบบนี้ เนียนไม่โทษใคร อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้มันเกิด
“พี่ยอมไม่ได้ดอก เนียน...หมู่เติมแกพยายามถามพวกเราว่าเนียนมาพบใครที่บ้านท่านขุน แต่เราไม่ได้พูดอะไร เพราะเนียนสั่งห้ามเอาไว้” แพรสงสารเนียนจับใจ ยายอ่อนโวยลั่น ถ้าตนรู้ว่าเป็นใครจะป่าวประกาศให้ทั่ว เนียนเกรงแกจะพูดอะไรที่ไม่ควรพูด บอกให้ทั้งสามคนกลับไปพักผ่อนกันก่อน ไม่ต้องเป็นห่วงเธอ
“แต่ถึงอย่างไรฉันกับสองคนนี่ก็น่าจะมาเป็นพยานได้ว่าเนียนไปบ้านแพนไปหาเรา” ยายอ่อนเสนอตัว
เนียนมองสบตาแพรเป็นทำนองให้รีบไปจากที่นี่ เธอรู้งานพยักหน้ารับ ก่อนจะชวนโพล้งกับยายอ่อนกลับ แล้วนึกขึ้นได้ว่ายังมีนายถมอีกคนหนึ่งที่รู้เรื่องนี้ ถามเนียนว่ามีใครไปสอบปากคำเขาหรือยัง
“เนียนไม่ทราบดอกจ้ะ เนียนขอไปนั่งทำสมาธิก่อนนะจ๊ะ” เนียนไล่ทางอ้อม ก่อนจะถอยเข้าด้านใน...
ขณะที่เนียนทำใจยอมรับชะตากรรม เรียมกับทองจันทร์นั่งรอการกลับมาของขุนภักดี ซึ่งเป็นความหวังเดียวของเนียนอย่างใจจดจ่อ เทิดศักดิ์เข้ามารายงานว่า เมื่อตอนบ่ายแม่สนไปหาผู้กำกับฯเจ้านายของเขา แล้วกลับคำให้การว่าวันเกิดเหตุ เธอไม่ได้เจอเนียน เขาไม่เข้าใจว่าแม่ทำไปทำไม เพราะไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เนียนรับสารภาพไปแล้วว่าเจอเธอ เลยไม่รู้ว่าระหว่างแม่สนกับเนียนใครกันแน่ที่โกหก
“เวรแท้ๆ ไปๆไม่อยากจะเห็นหน้าแกแล้วตาเทิดศักดิ์ เพราะย่ามั่นใจว่าแม่แกคือตัวการ”
“ผม...เอ่อ...คุณนายแม่ครับ ผมยังมีอีกเรื่อง ยายอ่อนกับญาติของแดงน้อยเพื่อนน้าเนียนพากันมาเยี่ยมน้าเนียนครับ แกจะพากันมาเป็นพยานว่าน้าเนียนไปบ้านแพนด้วย ผมขอตัว” เทิดศักดิ์รีบกลับเรือนตัวเอง
เรียมดีใจเมื่อรู้ว่ายายอ่อนมา ต้องหาทางไปเจอตัวให้ได้ ทองจันทร์ไม่เห็นหน้านายถมหลายวันแล้วจะให้ช่วยจัดการเรื่องนี้ให้ จึงสั่งกบกับแมวไปตามตัวมาพบ ทั้งคู่ไม่รู้ว่าเขาหายไปไหน ตั้งแต่ชวนไปดูเนียนโดนจับก็หายหัวไปเลย สงสัยจะแอบหนีไปหาคู่รัก
“เหลวไหลน่า มันตรงไปตรงมานายสั่งคำไหนคำนั้น เอาเป็นว่าถ้าแกสองคนเจอมันบอกให้มาพบฉันด่วน”
แมวกับกบรีบออกตามหานายถมทันที ผ่านไปไม่นานนัก ก็พบเขากลายเป็นศพนอนตายอยู่ในเรือที่ลอยมา
กลับมาติดตลิ่ง ราวกับวิญญาณของนายถมต้องการให้ทั้งคู่เจอ สองบ่าวคู่หูกรีดร้องลั่นด้วยความตกใจ
ooooooo
ขณะที่ศพนายถมลอยกลับมาประจานคนฆ่า เทิดศักดิ์กำลังต่อว่าแม่ตัวเองว่าทำไมถึงไปพูดแบบนั้นกับเจ้านายของเขา ทำให้เขาเสียหาย การพูดกลับไป กลับมาไม่ได้ช่วยอะไรเลย ถ้าแม่คิดจะช่วยเนียนจริงๆ ก็ต้องบอกตั้งแต่แรกว่าไม่เจอกัน เขาก็ไม่ต้องสอบปากคำเธอ
“เอ๊ะ...ก็รองเท้ามันอยู่ในที่เกิดเหตุ ยังไงมันก็แก้ตัวไม่หลุดดอกน่า”
“คุณแม่ครับ ตกลงคุณแม่จะว่าอย่างไรกันแน่ อยากช่วยน้าเนียนให้รอดหรืออยากช่วยให้ติดตะราง”
จังหวะนั้นมีเสียงร้องเอะอะของกบกับแมวดังลั่นว่านายถมถูกฆ่าตาย พบศพขึ้นอืดอยู่ในเรือ เทิดศักดิ์ถึงกับบ่นอุบว่าเอาอีกแล้วหรือนี่ สนตีหน้าตื่นตระหนก ร้องลั่นว่ากลัวจะกลายเป็นศพไปอีกรายหนึ่ง เทิดศักดิ์รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ เธอยิ้มสะใจ จะตามไปสมน้ำหน้าไอ้คนชอบแกว่งเท้าหาเสี้ยน แต่ลูกดันย้อนกลับมาเห็นพอดี นิ่วหน้าสงสัยแม่ยิ้มอะไร สนโกหกหน้าตายว่าไม่มีอะไร ถามกลบเกลื่อนว่ากลับมาทำไม
“ผมลืมบอกคุณแม่ไปว่ายายอ่อนแกมาเยี่ยมน้าเนียนครับ แกยังถามถึงคุณแม่ มาคราวนี้แกจะมาเป็นพยานว่าน้าเนียนไปบ้านแพน ไปหาแก” เทิดศักดิ์พูดจบ ผลุนผลันออกไปอีกครั้ง
“นังอ่อนนี่ไม่รักษาคำพูด ข้าบอกแล้วว่าอย่ากลับมาอีก เอ็งกลับมาทำไม หน็อยกลับมาเป็นพยานให้นังเนียน นี่ข้ากำลังยืนอยู่ปากเหวอีกแล้วหรือนี่” สนสีหน้าครุ่นคิด ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี...
ทางด้านเรียมร้อนใจมากที่คนในบ้านตายไปทีละคนสองคน สั่งให้แมวกับกบพายเรือพาเธอไปพบยายอ่อน มีเรื่องต้องสอบถามแกหลายเรื่อง กบทักท้วงว่าค่ำแล้ว รอให้สว่างก่อนไม่ดีกว่าหรือ เรียมรอไม่ไหว ต้องการพบยายอ่อนเดี๋ยวนี้ สนแอบซุ่มดูอยู่ ได้ยินเรื่องราวโดยตลอด ขยับจะตาม แต่ทองจันทร์กับเนื้อทองมาเจอเสียก่อน เธอเห็นสายตาจ้องจับผิดของทองจันทร์แล้วไม่กล้าตาม เดินสะบัดกลับเรือนตัวเอง...
ไม่นานนัก เรียมมาพบยายอ่อน แพรและโพล้งที่บ้านพักในตัวเมือง เธอขอคุยกับยายอ่อนตามลำพังเพื่อสอบถามว่าเนียนมารอพบใครที่ท่าน้ำเช้ามืดวันที่ช้อยถูกฆ่า ยายอ่อนจนใจไม่ทราบจริงๆ แพรกับโพล้งต่างหากที่ทราบเรื่องดี แต่คงไม่บอกอะไรเพราะเนียนสำทับไว้อีกครั้งตอนไปเยี่ยมที่โรงพัก เรียมจะลองสอบถามทั้งคู่ดู...
เทิดศักดิ์กังวลใจมากเมื่อรู้ว่าเนียนให้กบกับแมวพายเรือออกไปข้างนอก รีบมาสอบถามทองจันทร์ทราบหรือเปล่าว่าท่านไปไหน เขาเกรงจะเกิดอันตราย เนื้อทองเห็นท่านเช่นกัน แต่ไม่ทราบว่าไปไหน อาสาจะไปตามให้ เทิดศักดิ์จะไปตามเอง ให้เธออยู่ดูแลคุณย่าที่นี่ดีกว่า ต่อจากนี้ไปท่านต้องมีคนอยู่เป็นเพื่อนตลอดเวลา
“หมั่นไส้ แกอย่ามาทำเป็นห่วงย่า แกนั่นแหละรีบไปตามแม่เรียม ใช้วิชาตำรวจของแกคิดดูสิว่าแม่เรียมเขาจะไปไหนของเขา”
เทิดศักดิ์มั่นใจว่าเรียมต้องไปหายายอ่อน ฝากเนื้อทองดูแลคุณย่าให้ด้วย เขาจะรีบไปรับเรียมกลับ ทองจันทร์ไม่วายแขวะว่าไม่ต้องมาห่วงตน พาลด่าฝากไปถึงแม่ของเขาที่ปากกับใจไม่ตรงกันด้วย เทิดศักดิ์ก้มหน้ารับแต่โดยดี ก่อนจะผละจากไป เนื้อทองไม่เข้าใจทำไมทองจันทร์ถึง ชอบแดกดันเขานัก
“ย่าก็ด่ามันไปอย่างนั้นแหละ เกลียดมันลงที่ไหนกัน เห็นมันมาแต่อ้อนแต่ออก ต่อให้มันเป็นใครก็ไม่รู้” ทองจันทร์ลอบถอนใจ เนื้อทองยิ่งงงหนัก แต่ไม่กล้า
ซักถามอะไรอีก...
ขุนภักดีตกใจมากถึงกับทำของขวัญหลุดมือเมื่อรู้เรื่องราวจากทองจันทร์ว่าเนียนถูกจับฐานต้องสงสัยว่าฆ่าช้อย โดยมีสนเป็นพยานปากเอกให้การว่าเจอเนียนที่ท่านํ้าในวันเกิดเหตุ แถมรองเท้าแตะของเนียนยังตกใกล้ศพช้อย ขุนภักดีจำได้แม่นยำราวกับเพิ่งเกิดเมื่อวานว่าตอนนั้นรองเท้าของเนียนหายไป ไม่มีเวลาจะค้นหา เพราะเสียงเทิดศักดิ์ดังใกล้เข้ามาทุกขณะ เขาเลยต้องให้เงินเธอไปซื้อรองเท้าคู่ใหม่
“ใส่ร้ายกันชัดๆ คุณแม่ครับ แม่เรียมอยู่ไหนครับ”
“ไปไหนก็ไม่รู้ นี่พ่อเทิดศักดิ์ไปตามหาอยู่”
ขุนภักดีเป็นห่วงเรียมมาก ออกไปลำพังแบบนี้จะถูกพวกไม่หวังดีทำร้ายเอาได้ สั่งนายเอกไปตามตัวกลับมา ถ้าเธออยากจะพบใครให้คนไปรับมาหาที่บ้านไม่ใช่ออกไปพบคํ่าๆมืดๆ แล้วปรายตามองเนื้อทองแบบเอ็นดู
“ไม่ต้องห่วงเรื่องแม่ดอก เสร็จธุระเมื่อไหร่...เอ่อ...
ฉันมีเรื่องสำคัญจะต้องคุยกับหนู” ขุนภักดีพูดจบลงเรือนไป โดยมีนายเอกวิ่งตาม ทองจันทร์อดแปลกใจกับท่าทีที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีของลูกชายไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่เชื่อว่าเนียนทำผิด แถมมั่นใจว่าโดนใส่ร้าย บอกเนื้อทองให้สบายใจได้ถ้าลองขุนภักดีกุลีกุจอขนาดนี้รับรองเนียนต้องได้ประกันตัวแน่ ทองจันทร์เหลือบเห็นกล่องของขวัญหล่นอยู่ ถามเนื้อทองว่าของใคร
“ท่านถือมาเจ้าค่ะ แต่ทำตก”
ทองจันทร์ดีใจกับเนื้อทองด้วยที่ทุกอย่างคลี่คลายไปในทางที่ดี สายตาที่ขุนภักดีมองมายังเธอเปลี่ยนจากไม่ยินดียินร้าย กลายเป็นเมตตาเอ็นดู เนื้อทองเองก็สัมผัสความรู้สึกนั้นได้เช่นกัน
ooooooo
เรียมพยายามเกลี้ยกล่อมแพรกับโพล้งให้บอกมาว่าใครกันที่เนียนไปพบที่ท่านํ้า แต่ทั้งคู่ไม่ให้ความร่วมมืออ้างรับปากเนียนไว้แล้วว่าจะไม่พูด จังหวะนั้นเทิดศักดิ์มารับเรียมกลับ ต่อว่าไม่ควรมาที่นี่ เธอขุ่นเคืองใจมากต่อว่าเขากลับว่าตามมาวุ่นวายทำไม เธอกำลังหาทางช่วยเนียนอยู่
“โธ่...คุณนายแม่ครับ ผมเป็นห่วงคุณนายแม่ ที่ผมรีบมาเพราะว่า...เอ่อ...ที่นี่มันเขตอันตราย ยายอ่อนรู้อะไรดีๆหลายเรื่อง ผมเกรงว่าถ้ามีใครรู้แกว มันจะทำร้ายยายอ่อน”
“ตายจริง แม่ขอโทษ แม่จะรีบกลับ นี่แม่จะโดนลอบทำร้ายไหม”
เทิดศักดิ์ยังไม่ทันจะพูดอะไร นายเอกพรวดพราดเข้ามาแจ้งว่าท่านขุนให้มารับคุณนายเรียมกลับ แล้วพากันออกมาทันที ระหว่างทางกลับบ้านภักดีภูบาล นายเอกรายงานให้เรียมฟังว่าขุนภักดีรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว แต่ครั้งนี้แปลกมาก ท่านมั่นใจว่าเนียนไม่ผิด เรียมเห็นด้วย แม้จะแปลกแต่ก็เป็นไปในทางที่ดี ภาวนาขอให้วันพรุ่งนี้เนียนยอมเปิดเผยกับขุนภักดีด้วยว่าไปรอพบใครที่ท่านํ้า...
หลังจากจัดการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาคอยคุ้มกันยายอ่อนเรียบร้อย เทิดศักดิ์แวะไปปรึกษาหารือกับ
แดงน้อยที่บ้านพักนายอำเภอถึงเรื่องแปลกประหลาดที่เนียนยกที่นาให้แดงน้อย หนำซํ้าเธอยังไม่เคยปริปากหรือแสดงท่าทีว่ารู้จักเขามาก่อน แดงน้อยเองก็เคยถามเนียนหลายครั้งว่ายกที่นาผืนนี้ให้ใครก็ไม่ยอมบอก เขายังคิดว่าเธอยกให้ลูกชายที่พลัดพรากจากกันมานานแล้ว แต่ตอนนี้ยังหาตัวไม่พบ
“น้าเนียนต้องรู้เรื่องพ่อแกแม่แกแน่ๆ แต่ทำไมไม่พูด” เทิดศักดิ์ยังงงไม่หาย
แดงน้อยอยากจะถามเนียนซึ่งๆหน้าแต่ยังไม่กล้า คงต้องรอให้คดีช้อยผ่านไปก่อน ตอนนี้ที่อยากถามมากที่สุดคือเธอไปพบใครมา เทิดศักดิ์ไม่กังวลเรื่องนั้นอีกแล้ว คุณพ่อของเขาคงจัดการได้ แต่กลับเป็นกังวลว่าตอนนี้คุณย่าเกลียดขี้หน้าเขามากขึ้นทุกวัน ท่านสงสัยว่าแม่สนคือคนที่ฆ่าช้อย
“แกปรักปรำแม่ตัวเองหนที่สามแล้วนะ”
“อะไรหลายอย่างมันบ่งชี้ สุดท้ายคนที่ไม่สบายใจที่สุดอาจเป็นกัน...เฮ่อ” เทิดศักดิ์ถอนใจหนักใจ...
ขุนภักดีเองก็สงสัยเหมือนเทิดศักดิ์เช่นกันว่าสนต้องอยู่เบื้องหลังการตายของช้อยและอาจจะรวมถึงนายถมด้วย จึงแวะไปหาเธอที่เรือนเล็กเพื่อจับพิรุธ เขาสังเกตเห็นสีหน้าของสนเต็มไปด้วยความหวาดระแวงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะตอนที่เขาแกล้งบอกว่าฝันเห็นเธอเอามีดไล่แทงคน สนถึงกับสะดุ้ง ขุนภักดีหัวเราะในลำคอ
“ก็แค่ความฝันที่พี่ขออย่าให้มันเป็นจริง พี่กลับก่อนนะ จะไปหาแม่เรียม กลับมายังไม่ทันได้พูดจาเพราะแม่เรียมไม่อยู่ ที่ผ่านมาพี่ทำเลวกับแม่เรียมไว้มากมาย แต่แม่เรียมไม่เคยเคืองพี่สักครั้ง สนเล่ารักพี่มากไหม”
“มากสิคะ มากที่สุดกว่าใครๆในโลกนี้ค่ะ”
ขุนภักดีอยากให้สนรักเทิดศักดิ์มากกว่าเขา จะทำอะไรก็ให้นึกถึงลูกให้มากๆ ชื่อเสียงของลูกย่อมขึ้นอยู่กับการกระทำของพ่อแม่ ที่ผ่านมาเขาไม่รู้ว่าเธอเคยทำอะไรผิดมากน้อยแค่ไหน แต่จากนี้ไป ขอให้เธอร่วมมือกันทำแต่สิ่งดีงาม เลิกเกลียดชังใครคนนั้นเสียที ใจจะได้สงบ บ้านนี้ก็จะพลอยสงบสุขไปด้วย ขุนภักดีลูบหัวสนแล้วผละจากไป สนมองตามสีหน้าครุ่นคิดสงสัย
“พี่ขุนพยายามจะบอกใบ้อะไรเรา สายเกินไปแล้วค่ะพี่ขุน สนกลับตัวกลับใจไม่ทันแล้ว”
ooooooo
ขุนภักดีขอโทษเรียมในทุกเรื่องที่ผ่านมา และขอบใจเธอมากที่อยู่เคียงข้างเขา คอยเตือนสติเขาตลอด ต่อจากนี้ไปเขาจะเลิกเห็นแก่ตัวจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ตามที่ท่านเจ้าพระยาสั่งสอน และเมื่อถึงวันพรุ่งนี้ที่เนียนได้ประกันตัวออกมา เขาก็มีเรื่องที่ยังค้างคาใจจะบอกเธอเช่นกัน
“คงเป็นเรื่องดีงามนะคะพี่เทพ”
“ใช่จ้ะ...พี่เชื่อแล้วว่าหนูติ๋วเป็นลูกพี่ พี่ขอบใจที่เรียมคอยเตือนสติพี่ เอ่อ แต่พี่...พี่ไม่กล้าจะเอ่ยปากบอกหนูติ๋ว พี่อาย พี่เคยทำไม่ดีกับแกเอาไว้ เรียมแนะนำพี่ได้ไหมว่าพี่ควรทำอย่างไรกับแกดี”
“ก่อนอื่นพี่เทพไปประกันตัวเนียนมาให้ได้ก่อน พูดจากับเนียนเรื่องนี้แล้วค่อยไปพูดกับหนูติ๋ว”
ขุนภักดีขอบใจเรียมอีกครั้งสำหรับคำแนะนำดีๆ...
ในเวลาเดียวกัน ภายในห้องนอนของทองจันทร์ เนื้อทองยังนอนไม่หลับ ครุ่นคิดแปลกใจไม่หายที่ขุนภักดีมีท่าทีกับตนเองดีขึ้น ผิดจากเมื่อก่อนลิบลับ ขณะกำลังนอนยิ้มเพลินๆ ทองจันทร์ส่งเสียงร้องเอะอะลั่น เนื้อทองลุกพรวดเดียวถึงตัว ถามว่าตกใจอะไรหรือ เธอชี้ไปที่แมงมุมอุ้มไข่ที่นอนตายอยู่
“แมงมุมนั่นมันตกลงมาตายตรงหน้าย่า มันคือลางสังหรณ์ไม่ดี มันกำลังจะบอกอะไรย่า”
“คุณย่าเจ้าขา ไข่มันหนักมันก็เลยตกลงมา แค่บังเอิญเท่านั้นเจ้าค่ะที่หล่นมาตรงนี้ ถ้าคุณย่าไม่สบายใจ พรุ่งนี้ไปทำบุญสะเดาะเคราะห์กับท่านพระครูดีไหมเจ้าคะ” เนื้อทองปลอบ ทองจันทร์ยิ้มออกขอบใจเธอมากที่คอยเป็นห่วงเป็นใยไม่เหมือนหลานสาวแท้ๆของตนที่ไม่เคยเหลียวแล แล้วดึงเธอมากอดไว้ด้วยความรักใคร่...
ด้านสนฝันร้ายอีกเช่นเคย เห็นช้อยกับพวกเหยื่อโหดของตนเองถือมีดจะเข้ามาแทง เธอกรีดร้องลั่นตะโกนห้ามพวกนั้นไม่ให้มายุ่ง เทิดศักดิ์ปราดเข้ามาเขย่าแม่ให้รู้สึกตัว ถามว่ากำลังหวาดกลัวอะไรกันแน่ พวกนั้นที่แม่ละเมอถึงคือใคร สนอ้างว่าไม่ได้กลัวอะไรแค่คิดมากเรื่องเนียนเรื่องคนตายก็เลยเก็บเอาไปฝัน
“ถ้าคุณแม่ไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเขา คุณแม่ก็อย่าไปกังวลนะครับ”
สนเกรงจะหลุดปากอะไรอีก รีบไล่ลูกออกจากห้องอ้างว่าอยากอยู่คนเดียว
ooooooo
ขุนภักดีกำลังจะไปประกันตัวเนียนออกจากห้องขัง เห็นเนื้อทองเตรียมจะไปทำงานพอดี ชวนติดรถไปด้วยกัน เธออึกๆอักๆทำตัวไม่ถูก เรียมจึงคะยั้นคะยอให้ไปกับเขา ทานตะวันไม่พอใจมากกระแนะกระแหน เนื้อทองต่างๆ นานา ขุนภักดีขอร้องลูกอย่าพูดจาว่าร้ายใครแบบนี้อีก
“นี่คุณพ่อเป็นไปอีกคนแล้วหรือคะ คิดว่าจะมีแต่คุณแม่กับคุณย่าเท่านั้น...ซื้อรถให้หนูขับไปทำงานสักคันนะคะคุณพ่อ หนูไม่อยากนั่งทับรอยคนบางคน เดี๋ยวนังฆาตกรก็ต้องนั่งรถคันนี้กลับมา”
“ถามคุณแม่ดูเถิดว่าตกลงไหม ถ้าคุณแม่ตกลง พ่อก็ตกลง”
เรียมส่ายหน้า จะไม่ซื้อรถให้จนกว่าทานตะวันจะเปลี่ยนนิสัยเสียใหม่ แล้วเร่งให้ขุนภักดีรีบไปได้แล้วเนียนจะได้ออกจากห้องขังเสียที เมื่อขุนภักดีกับเนื้อทองมาถึงรถที่นายเอกจอดรออยู่ เขาบอกให้เธอมานั่งด้วยกันที่เบาะหลัง นายเอกถึงกับอึ้ง มองเจ้านายทางกระจกส่องหลังด้วยความแปลกใจ...
หลังจากส่งเนื้อทองแล้ว ขุนภักดีตรงไปยังโรงพัก ผู้กำกับฯไม่ขัดข้องที่จะให้ประกันตัวเนียน แต่ท่านขุนต้องให้ปากคำกับหมวดเทิดศักดิ์และนายอำเภอแดงน้อยก่อน เขายินดีให้ความร่วมมือทุกประการ...
เทิดศักดิ์กับแดงน้อยตกตะลึงเมื่อรู้จากขุนภักดีว่าคนที่เนียนมารอพบที่ศาลาท่านํ้าคือเขานั่นเอง ที่เนียนไม่ยอมพูดอะไรก็เพราะสัญญากับเขาไว้ เธอรู้ว่าเขาต้องอับอายเสียเชิงชายถ้ามีใครรู้ว่าเขานัดพบกับเธอ ส่วนเรื่องรองเท้า เนียนถอดไว้แถวทางขึ้นศาลา พอได้ยินเสียงเทิดศักดิ์มา เธอกลับหารองเท้าไม่เจอ ขุนภักดีสั่งให้เธอกลับขึ้นเรือทั้งเท้าเปล่า เพราะกลัวลูกมาเจอแล้วเขาจะเสียหน้า เทิดศักดิ์ถามพ่อว่าเจอแม่สนหรือเปล่า
“ไม่ได้พบ หมายถึงว่าเธอไม่เห็นพ่อ แต่พ่อเห็นเธอพบเนียนจริง แล้วเรื่องเสียงตะโกนบอกว่าเสือหนักมา พ่อให้ไอ้ถมไปตะโกนหลอกแม่แก มิฉะนั้นจะติดพันกับเนียน แถมแม่แก...” ขุนภักดีนึกได้ว่าไม่ควรพูดเรื่องที่สนจะแทงเนียนจึงหยุดไว้แค่นั้น อ้างว่าพูดจนหมดเปลือกแล้ว ขอให้เทิดศักดิ์ช่วยพาเขาไปประกันตัวเนียนด้วย...
พอเนียนรู้ว่าขุนภักดีเป็นคนประกันตัวให้ รีบทรุดตัวลงนั่งตรงหน้ากราบขอบพระคุณที่เขาเมตตา ขุนภักดีปราดเข้าไปประคองเธอไว้แล้วชวนกลับบ้าน เนียนเบี่ยงตัวหลบให้เขาเดินนำ เขากลับกระซิบเสียงดุ
“มีแต่คนรับใช้ต่างหากที่เดินตามหลัง นี่เมียทั้งคน”
เนียนเขินอายหน้าแดง ขณะที่แดงน้อยกับเทิดศักดิ์มองตามด้วยความแปลกใจ
ooooooo
แทนที่ขุนภักดีจะพาเนียนไปส่งบ้าน กลับพาไปนั่งเรือชมวิวกันสองต่อสอง เขาคว้ามือเธอมากุมไว้ขอโทษที่ใช้ความหูเบาตัดสินเธอ ไม่ยอมใช้เหตุผล ไม่ฟังเรียมกับคุณแม่ที่คอยเตือนสติแต่ไปฟังคนอื่น
“ตอนนี้พี่ขุนเข้าใจเนียนดีแล้วก็พอแล้วค่ะ อย่าไปเอ่ยถึงคนอื่นเลยนะคะ”
ในที่สุดขุนภักดีกับเนียนปรับความเข้าใจกันได้ ไม่ค้างคาใจอะไรกันอีก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เนียนเคยมีลูกมีผัวมาก่อน หรือแม้แต่คนที่เธอมาพบที่ท่าน้ำเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ขุนภักดีรู้แล้วว่าไม่ใช่ชู้ แต่เป็นพี่ชายแท้ๆของเธอ
“พี่ขุนจะไม่ถามหรือคะว่าพี่ชายเนียนคือใคร”
“พี่ไม่ต้องการรู้ดอก เนียนจ๊ะพี่อยากรู้จักลูกของ เนียน พี่ยินดีต้อนรับเขา บอกพี่สิว่าเขาอยู่ไหน”
เนียนขอให้คดีฆ่าช้อยสิ้นสุดเสียก่อน แล้วจะพา ลูกมากราบขุนภักดี เพราะถึงตอนนี้ลูกเองก็ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอเป็นแม่ นอกจากนี้ขุนภักดียังบอกเรื่องสำคัญที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง คือเขารู้แล้วว่าเนื้อทองเป็นลูกของเขา ความจริงเขาน่าจะมองออกนานแล้ว เพราะแกหน้าเหมือนเทิดศักดิ์และทานตะวันราวกับฝาแฝด เนียนขอบพระคุณเขามากที่ยอมรับเนื้อทอง ขุนภักดีทนเก็บเรื่องนี้ต่อไปไม่ไหวจะบอกให้แกรู้ตัวค่ำนี้เลย
“อย่าเพิ่งเลยค่ะ ทุกคนในบ้านกำลังเคร่งเครียดเรื่องต่างๆมากมาย รอให้ทุกอย่างคลี่คลายก่อนเถิดค่ะ”
“ตกลงจ้ะ เมียว่าอย่างไรผัวก็ว่าอย่างนั้นจ้ะ...พี่ รักเนียนเหลือเกิน รักแม้ในยามที่เข้าใจผิดเนียน พี่ทรมาน มานานเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเนียนไม่รักพี่ แต่ตอนนี้พี่ ไม่ทรมานแล้ว”
เนียนแปลกใจทำไมจู่ๆขุนภักดีถึงเลิกเข้าใจเธอ ผิดๆ เขาขออุบไว้ก่อน รอให้เรื่องวุ่นวายจบแล้วจะบอก...
ด้านเทิดศักดิ์และแดงน้อยวิเคราะห์จากคำให้การของขุนภักดีแล้วสรุปว่า นายถมไม่ได้ตายเพราะกำความลับที่ขุนภักดีให้ไปรับเนียนจากสามชุก แต่ตายเพราะไม่ยอมคายความลับว่าเนียนมาพบใครมากกว่า ส่วนเรื่องรองเท้าคงมีใครบางคนจงใจเอาไปวางไว้ใกล้ศพช้อย เพื่อใส่ร้ายเนียน อัยการคงไม่สั่งฟ้องด้วยเรื่องแค่นี้ แต่ตำรวจยังต้องสืบให้ได้ว่าใครเป็นคนเอารองเท้าไปทิ้งในที่เกิดเหตุ กลั่นแกล้งเธอ
“กันไม่สบายใจ กันกลัวเหลือเกินว่ากันจะจับแม่ตัวเองเข้าคุก กันกลัวว่าเรื่องที่กันกลัวจะเป็นความจริง”
แดงน้อยหนักใจแทนเพื่อนรัก เพราะตัวเองชักเริ่ม คิดคล้อยตามว่าสนคือผู้ต้องสงสัยตัวจริง...
คนที่แดงน้อยนึกถึง ใกล้บ้าคลั่งเข้าไปทุกขณะ ไม่ว่าจะยามหลับหรือยามตื่น เธอจะเห็นช้อยกับเหยื่อโหดของตนตามมาหลอกหลอน ครั้งนี้ก็เช่นกัน ขณะสนนั่งเหม่อมองสายน้ำอยู่ที่ท่าน้ำ อยู่ๆใบหน้าช้อยปรากฏขึ้นในน้ำ เธอถึงกับผงะร้องลั่นว่าเห็นผีช้อย แล้วหันหลังวิ่งหนี แต่ต้องหยุดกึกเมื่อเจอกบกับแมวเดินสวนมา
“คุณสน...เจอผีนังช้อยรึเจ้าคะ มันอยู่ไหนรึ”
“นังบ้า...มึงอย่ามาซักไซ้กูนะ นังขี้ข้า” สนด่ากราด ก่อนจะวิ่งกลับเรือนเล็ก สองบ่าวคู่หูสงสัยว่าเธอเห็นอะไรในน้ำ ชวนกันเข้าไปดู แทนที่จะเห็นผีช้อย กลับพบปลาชะโดตัวใหญ่แหวกว่ายไปมา
ooooooo
ถึงเวลาอาหารกลางวัน เรียมกับทองจันทร์นั่ง มองสำรับกับข้าวตรงหน้าด้วยความแปลกใจ ทำไมมื้อนี้มีแต่ปลาทั้งนั้น ทั้งต้มยำปลา ปลาย่าง ปลาทอด และยำปลา หันไปถามแมวกับกบว่า ไปเอาปลาที่ไหนมาให้กินมากมาย กบคุยว่าเป็นปลานังช้อย แล้วเล่า เหตุการณ์ที่ไปเจอสนวิ่งหน้าตื่นหนีจากท่าน้ำให้เจ้านายทั้งสองฟัง
“แม่สนมันกลัวขนาดวิ่งหนีผีนังช้อยกลางวัน แสกๆเลยรึ” ทองจันทร์ซัก
“เจ้าค่ะ เวรกรรมมันย้อนไม่เลือกเวลาดอกเจ้าค่ะ”
ทองจันทร์คาดคั้นให้ทั้งคู่บอกมาว่ากำลังคิดอะไร กันอยู่ถึงพูดแบบนี้ หรือคิดว่าสนฆ่าปิดปากช้อยกบกับ แมวตกใจที่คุณท่านรู้ทัน เรียมถามทองจันทร์แน่ใจหรือว่าเป็นเรื่องจริง
“แน่ใจ มันโยนบาปให้เนียน นี่แม่ก็มีความหวัง อยู่ที่พ่อเทพจะหาคนที่เนียนมันมารอพบเจอ แล้วให้เขา เป็นพยาน” ทองจันทร์ไม่ล่วงรู้เลยว่าคำพูดนี้จะนำภัยมาสู่ตัว เพราะสนแอบฟังอยู่ใต้ถุนเรือน กัดกรามกรอดๆคิดหาทางจัดการเธอพ้นทาง มัวแต่เคียดแค้นไม่ทันได้ยินเสียงแดงน้อยเข้ามา สนหันไปอีกทีตกใจร้องว้ายลั่น ก่อนจะรีบกลบเกลื่อน ว่ากำลังจะขึ้นไปคุยกับคุณย่า แดงน้อยก็จะมาคุยกับท่านเช่นกัน ชวนเธอไปด้วยกัน
“แม่เปลี่ยนใจแล้ว แม่คุยกับแดงน้อยก็ได้ อยากรู้เรื่องเนียน”
แดงน้อยเล่าว่าขุนภักดีประกันตัวเนียนออกมา เรียบร้อย มีพยานที่คนทั้งเมืองสุพรรณบุรีนับหน้าถือตามาช่วยยืนยันแล้วว่าเธอไปพบใครคืนนั้น แต่เขาบอกสนไม่ได้ว่าเป็นใคร เกรงจะทำให้เสียรูปคดีในการติดตาม คนร้ายตัวจริง สนถึงกับหน้าเสีย นี่เท่ากับว่าเนียนหลุดคดีฆ่าช้อยไปโดยปริยาย
จากนั้นแดงน้อยขึ้นไปพบทองจันทร์กับเรียม รายงานเรื่องเนียนได้ประกันตัวให้ฟัง และจากการให้ ปากคำของขุนภักดี อาจส่งผลให้อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องเธอ ทั้งทองจันทร์และเรียมต่างโล่งใจไปตามๆกัน
“อ้อ...เมื่อสักครู่ ผมพบคุณแม่สนที่บันไดเรือน นัยว่าจะมาคุยกับคุณย่าครับ”
“มาแอบฟังน่ะไม่ว่า ตุ๊กแกกินปูนร้อนท้อง วิ่งพล่านแหกปากร้องไม่หยุด” ทองจันทร์ยิ้มหยัน...
ขณะที่ความเลวร้ายของสนเริ่มเผยออกมาทีละ นิดๆ ขุนภักดีกับเนียนยังคงนั่งเรือชมวิวไปตามลำน้ำอย่าง มีความสุข เขาอดถามไม่ได้ว่าเนียนรักเขาตั้งแต่ตอนไหน เธออ้ำอึ้ง ก่อนจะบอกว่ามอบใจให้เขาตั้งแต่วันแรกที่เขา เข้าใจผิดคิดว่าเธอเป็นคุณนายเรียมแล้วเข้ามากอดจาก ด้านหลัง
“ชื่นใจแท้ๆ ใจเราตรงกัน วันนั้นพอพี่ปะหน้า เนียน รู้ไหมเนียนกระชากหัวใจพี่ปลิวออกไปจากตัวพี่ ตกลงไปในหลุมรักของเนียนทันที” ขุนภักดีพูดจบ ขโมยหอมแก้มเนียนหนึ่งฟอด เธอเห็นควรแก่เวลา จึงชวนเขากลับ ขุนภักดีขอกินต้มยำพุงปลาช่อนฉลองการปรับความเข้าใจกันตอนมื้อเย็น และจะได้ประกาศให้บ่าวไพร่ทั้งบ้านรู้ว่าเธอคือคุณนายเนียนที่พวกนั้นต้องให้เกียรติ เนียนขอร้องว่าอย่าทำอย่างนั้น ให้พวกเขารู้เองจะดีกว่า
“ท่าทีที่พี่ขุนแสดงต่อเนียน นายถมยังเปลี่ยนท่าทีกับเนียนจนเนียนต้องห้ามปราม น่าสงสารเขานะคะ”
“มันตายเพราะพี่ พี่จะไม่ให้มันตายฟรี แม้แต่นางช้อย ไอ้สาย ไอ้คนต้มเหล้าเถื่อนก็เหมือนกัน ทุกคนไม่ตายฟรี คนที่ฆ่าพวกมันคือคนคนเดียวกัน พี่กำลังจับ สังเกตคนผู้นั้นอยู่”
ooooooo
ทานตะวันพกพาอารมณ์บูดบึ้งมาที่ร้านเสริม สวยของตัวเองโดยไม่สนใจคุณนายปลัดอำเภอที่มารอรับบริการจากเธอ แถมยังไล่ทางอ้อมว่าวันนี้มีเรื่องต้องคิดหลายเรื่องไม่ว่างจะเซตผมให้ คุณนายถึงกับหุบยิ้ม พิศมัยผู้ช่วยของทานตะวันเตือนว่าคุณนายอุตส่าห์เสียเวลามา แถมยังนัดล่วงหน้าไว้แล้ว
“เธอนัดเอง ฉันนัดที่ไหนกัน ขอเสียทีเถิดหยุดกวนใจได้ไหม รำคาญจะแย่”
คุณนายไม่อยากต่อล้อต่อเถียงด้วยจึงลากลับ แต่แอบกระซิบกับพิศมัยว่าคงจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว ทานตะวันได้ยินเข้าไม่พอใจมากผลักเก้าอี้ล้มโครม แล้วไล่ส่ง ลูกค้าที่นั่งทำผมอยู่ในร้านต่างสะดุ้งโหยง...
ทันทีที่กลับถึงบ้าน ขุนภักดีพาเนียนไปกราบทองจันทร์เพื่อฝากเนื้อฝากตัว เธอดีใจแทนเนียนด้วยที่ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แล้วสั่งให้เลิกเรียกเธอว่าคุณท่าน และให้เลิกพูดเจ้าคะเจ้าขา เนียนยังทำอย่างนั้นไม่ได้เพราะเนื้อทองยังไม่ทราบความจริง ทองจันทร์เร่งให้ไปบอกลูกเร็วๆ แค่ขุนภักดีพูดดีด้วยเมื่อวานกับเมื่อเช้า เนื้อทองก็ดีใจจนเนื้อเต้นแล้ว ขุนภักดีเองอยากบอกลูกใจแทบขาด แต่เนียนขอร้องให้รอให้เรื่องต่างๆคลี่คลายก่อน
“ก็ตามแต่ใจของพ่อเทพกับแม่เนียนเถิดนะ แม่เองก็สบายใจ จะได้ไม่ต้องฝืนใจไปพูดอะไรที่แม่ไม่อยากจะพูด” ทองจันทร์นึกถึงคำพูดของช้อยที่บอกว่าเทิดศักดิ์ อาจไม่ใช่ลูกของขุนภักดี
“พูดอะไรหรือครับคุณแม่”
ทองจันทร์กลบเกลื่อนว่าไม่มีอะไร ไล่ขุนภักดีให้พาเนียนไปกราบเรียมซึ่งรออยู่ เขาประคองเนียนจะออกไปทองจันทร์เรียกไว้ พร้อมกับส่งห่อของขวัญที่ขุนภักดีทำตกไว้เมื่อคืน เขาส่งต่อให้เนียนอย่างเขินๆ
“พี่เอามารับขวัญเนียนจ้ะ แต่ว่าตกใจเรื่องร้ายของเนียนจนลืมของกำนัล”
เนียนยิ้ม ก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณ ทองจันทร์พลอยยิ้มตามไปด้วย...
ระหว่างที่ขุนภักดีเดินคลอเคลียมากับเนียน กบ และแมวเห็นเข้าถึงกับตะลึงทำของในมือหล่น เนียนขอบใจทั้งคู่มากที่คอยเป็นห่วงเป็นใยเธอ บ่าวคู่หูดีใจกับเนียนด้วยที่หมดทุกข์หมดโศกเสียที
“เรียกผิดแล้ว เอ็งสองคนเรียกเสียใหม่ นี่คุณนายเนียน...เอ็งสองคนรีบไป แล้วหุบปากเสียให้สนิท ถ้าเอ็งไม่หุบปากข้าจะหุบให้ด้วยหางปลาชะโดผีนังช้อยที่พวกเอ็งจับมา” ขุนภักดีขู่แบบทีเล่นทีจริง กบกับแมวรีบเก็บกระจาดกับข้าวของที่หล่นพื้น แล้วผละจากไปอย่างรวดเร็ว...
ทางฝ่ายเนื้อทองดีใจมากเมื่อรู้จากเทิดศักดิ์ว่าเนียนได้ประกันตัวออกจากห้องขังแล้ว ขอร้องให้เขาพาไปกราบขอบพระคุณขุนภักดี แล้วจะเลยกลับบ้านไปกอดแม่ให้หายคิดถึง...
เรียมดีใจมากที่เนียนกับขุนภักดีปรับความเข้าใจกันได้ ขุนภักดีอยากจะฉลองความสุขครั้งนี้ จึงขอให้เรียมช่วยเล่นจะเข้ให้ฟังหลังกินมื้อค่ำ เรียมท้วงว่าอย่าลืมชวนสนมาร่วมวงด้วย ขุนภักดีอึกๆอักๆ
“คือ...พี่เห็นคุณแม่ท่านไม่ค่อยจะถูกกับสน เจอกันทีไรท่านอารมณ์เสียทุกที และตอนนี้พี่เองก็...” เขายังคาใจเรื่องที่สนจะแทงเนียนที่ศาลาท่าน้ำ เรียมเตือนว่าถึงจะอย่างไรสนก็ยังขึ้นชื่อว่าเป็นเมียคนหนึ่งของเขาต้องให้ความยุติธรรมเท่าเทียมกัน ขุนภักดีเถียงไม่ออก วานเนียนช่วยไปบอกกบหรือแมวก็ได้ไปเชิญสนมาร่วมฉลองด้วย แล้วขอตัวไปทำงานก่อน ตอนเย็นค่อยพบกัน เขายิ้มให้เรียม และเนียนอย่างมีความสุข ก่อนจะลงเรือนไป...
สนแทบอกแตกตายเมื่อรู้จากกบกับแมวว่าเนียนได้ประกันตัวออกมาเรียบร้อย แถมขุนภักดียังพาไปรับขวัญกันตามลำพังอยู่นานสองนานเพิ่งกลับ หนำซ้ำเย็นนี้ท่านจะฉลองการกลับมาเป็นคุณนายเนียนอีกครั้ง โดยขอให้คุณนายเรียมเล่นจะเข้กล่อม สนไล่ตะเพิดทั้งคู่ไปพ้นๆ หน้า เจ็บแค้นใจมากที่ทุกคนพากันเห่อเนียนมองข้ามหัวเธอกันหมด เมื่อไหร่ที่เธอจนแต้ม จะทำให้บ้านนี้ขายหน้าทั้งเมืองสุพรรณบุรี
ooooooo










