ตอนที่ 19
หลังจากเทิดศักดิ์กับแดงน้อยพาสนกลับไปยังเรือนเล็กเพื่อ สอบปากคำอย่างละเอียด เนื้อทองคร่ำครวญทั้งน้ำตาว่าไม่เป็นความจริง แม่ของเธอไม่ได้ฆ่าช้อย ขอร้องทองจันทร์กับเรียมอย่าให้ใครเอาแม่ของเธอไปเข้าตะราง เรียมทักท้วงอย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้้
“รอให้แม่หนูกลับมาก่อน ให้เทิดศักดิ์กับแดงน้อยสอบสวนกันก่อนว่าแม่หนูไปไหน อยู่ไหนในเวลาที่ช้อยมันตาย ถ้าแม่หนูยืนยันได้ก็ไม่มีปัญหาหรอก” เรียมว่าพลางโอบไหล่เนื้อทองไว้
“ความจริงฉันใจอ่อนกับแม่แกแล้ วนะยัยติ๋ว ตั้งใจว่าจะไม่โกรธไม่ด่าไม่ติฉินอีกแล้ว แต่ดูแม่แกทำสิ ฆ่าคนตาย ฉันใจอ่อนไม่ลง” ทานตะวันได้ทีเหยียบซ้ำ
ทองจันทร์เตือน หลานสาวว่าคนล้มอย่าข้าม จะผิดหรือไม่ผิดไม่ได้อยู่ที่เราจะตัดสินใจได้เอง ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของศาลสถิตยุติธรรมจะดีกว่า ทานตะวันไม่สนใจคำเตือน กล่าวหาว่าเนียนทำให้บ้านหลังนี้ต้องมัวหมองมานานกว่ายี่สิบปีแล้ว ยังไม่วายก่อเหตุร้ายขึ้นมาอีก จะให้เธอนิ่งเฉยได้อย่างไร ถ้าคุณแม่กับคุณย่าอยากจะปลอบนังลูกฆาตกรก็เชิญทำตามสบายแต่ตนไม่เอาด้วย แน่นอน
“ชีวิตแกรอดมาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่เพราะเนียนช่วยไว้ดอกรึ อกตัญญูตั้งแต่หัวเท่ากำปั้นยันหัวเท่าลูกมะพร้าว”
“คุณย่า จะมาลำเลิกบุญคุณหนูแทนมันทำไมกัน แม่สนบอกแล้วเชียว ว่ามันต้องเผลอทิ้งหลักฐานไว้ ผิดไปเสียเมื่อไหร่” ทานตะวันพูดจบ เดินสะบัดออกไป ทองจันทร์กับเรียมส่ายหน้าอย่างเอือมระอา...
ระหว่างที่เกิดเรื่องวุ่นๆขึ้นที่บ้านภักดีภูบาล เนียนซึ่งกำลังนั่งเรือกลับจากอำเภอสามชุก กำชับนายถมอย่าลืมปิดเรื่องที่พาเธอมาเมื่อคืนนี้เป็นความลับ ขุนภักดีไม่ต้องการให้ใครล่วงรู้เรื่องนี้ และเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยของใครต่อใคร เนียนสั่งให้นายถมไปส่งที่ท่าน้ำแถวตลาด จะเดินเตร่สักพักแล้วจะจ้างเรือให้ไปส่งบ้านเอง...
ในเวลาเดียวกัน เทิดศักดิ์และแดงน้อยกำลังสอบปากคำสนอยู่ที่เรือนเล็กเกี่ยวกับรายละเอียดเรื่องเจอเนียน แต่ไม่ได้อะไรมากนัก รู้เพียงว่าเจอกันตอนใกล้รุ่งที่ท่าน้ำ แต่เนียนไม่ยอมบอกว่ามารอพบใคร ส่วนเรื่องรองเท้าแตะคู่นั้น สนไม่ทันมองว่าเธอสวมอยู่หรือเปล่าเพราะมัวแต่กังวลว่าเนียนจะมารอพบเสือหนัก
“อ๋อใช่แล้ว ผมนึกออกแล้ว คุณแม่ก็เลยเข้าใจว่าเสือหนักมาจริงๆแล้วหนีขึ้นเรือนไปนอนตัวสั่น เอ๊ะ...คุณแม่ไม่เห็นคุณพ่อดอกหรือครับ ผมพบคุณพ่อกำลังออกไปราชการที่บางกอก”
สนส่ายหน้างงๆแดงน้อยหมดธุระจะสอบถามเธอแล้ว จึงชวนเทิดศักดิ์ไปดักรอเนียนที่ท่าน้ำ กลับมาเมื่อไหร่จะได้เอาตัวมาสอบปากคำ สนมองตามสองหนุ่มลงจากเรือนด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“พี่ขุนมาทำอะไรที่ท่าน้ำ...โอ๊ยนี่มันอะไรกันอีกหรือพี่ขุนนัดเจอนังเนียน เอ๊ะ แต่ถ้าพี่ขุนเจอมันสิยิ่งดี พี่ขุน จะได้มาเป็นพยานว่านังเนียนมันกลับมาฆ่านังช้อยจริงๆ”
จังหวะนั้น แมวกับกบเข้ามาแจ้งสนว่าคุณท่านต้องการพบ คุณนายเรือนเล็กหงุดหงิดขึ้นมาทันที
ooooooo
ทั้งเทิดศักดิ์และแดงน้อยต่างเห็นตรงกันว่าเนียนต้องไม่ใช่ฆาตกรฆ่าช้อย แม้หลักฐานที่มีอยู่ในมือตอนนี้จะชี้ไปที่เธอก็ตาม เทิดศักดิ์หวั่นใจอย่างบอกไม่ถูกว่าแม่ของเขาอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
“พูดบ้าๆ คุณแม่มาได้ยินเข้า ท่านเสียใจตาย”
“ก็เรื่องมันชวนให้คิดนี่นา แกคิดดูสิ แม่กันขากะเผลก ถามก็ไม่บอก ทำทีให้คนเข้าใจว่าหมากัด บ้านนี้มีหมาที่ไหน คุณแม่มีพิรุธมาก แต่ไม่มีหลักฐาน คุณแม่น่ะเกลียดน้าเนียนตลอดเวลามาตั้งแต่กันจำความได้ ที่คุณแม่บอกว่าเจอน้าเนียนน่ะ โกหกหรือเปล่าก็ยังไม่รู้” เทิดศักดิ์พูดจบ ถอนใจเฮือก หนักใจ
แดงน้อยให้รอถามเนียนก่อนดีกว่า เทิดศักดิ์กลุ้มใจ มากไม่ว่าจะเป็นแม่ของเขาหรือเนียนที่ทำผิด เรื่องนี้ กระทบจิตใจทุกคนในบ้าน แดงน้อยปลอบ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เพียงเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด อย่าเอาเรื่อง ส่วนตัวมาปะปนกับงานก็เป็นพอ เทิดศักดิ์พยักหน้ารับรู้ แล้วเสนอว่าอย่าบอกเรื่องช้อยถูกฆ่าให้แช่มรู้เด็ดขาดเพราะ เขาอาจแค้นใจแล้วปรักปรำคนโน้นคนนี้ ทำให้เสียรูปคดีได้...
ขณะที่เทิดศักดิ์ตั้งข้อสงสัยว่าแม่ของเขาอาจอยู่เบื้องหลังการตายของช้อย ทองจันทร์ไม่พูดพร่ำทำเพลง ถามสนตรงๆว่าฆ่าปิดปากช้อยแล้วโยนความผิดให้เนียนใช่ไหม สนถึงกับตะลึง พอตั้งสติได้เถียงคอเป็นเอ็นว่าไม่เป็นความจริง หลักฐานที่พบชี้ไปที่เนียนคนเดียว เธอไม่เกี่ยวข้องด้วย และยังให้การกับเทิดศักดิ์และแดงน้อยไปแล้วว่าพบเนียนที่ท่าน้ำตอนใกล้รุ่งสาง จะไปสาบานที่ไหนก็ได้ว่าเธอพูดความจริง
“แม่สนฉวยโอกาสใส่ไฟมัน ถ้าเช่นนั้นแม่สนจงพูดเสียใหม่ว่าไม่ได้พบเนียนที่ศาลาท่าน้ำ”
“ต๊าย...คุณแม่ให้สนกลับคำปลิ้นปล้อนตลบตะแลง สนทำไม่ได้ดอกค่ะ”
ทองจันทร์ขู่ถ้าสนไม่ทำตาม จะเรียกเทิดศักดิ์มาบอกว่าเขาไม่ใช่ลูกของขุนภักดีแต่เป็นลูกชู้ เธอสงสัยมานานแล้วตั้งแต่สนตั้งท้องสิบสองเดือน ตกลงไปท้องกับใครมา สนถึงกับอึ้ง ก่อนจะตัดพ้อเสียงอ่อยว่าไม่สงสารเทิดศักดิ์บ้างหรือ ทองจันทร์สงสาร แต่ถ้าเขาไม่ใช่หลาน เธอก็มีสิทธิ์จะบอกขุนภักดีว่าไม่ใช่...
อีกมุมหนึ่งของบ้าน เนื้อทองแอบมานั่งร้องไห้คนเดียว ทั้งหวาดกลัวทั้งเป็นห่วงแม่จะถูกจับเข้าตะราง แดงน้อยผ่านมาเห็น เข้ามาปลอบให้คลายความกังวล เธอกลับยิ่งร้องไห้หนักขึ้น เขาสงสารจับใจดึงเธอมากอดไว้ ทานตะวันไม่รู้มาจากไหนกระชากเนื้อทองออกจากอ้อมแขนแดงน้อย แล้วตบหน้าฉาดใหญ่ด้วยความหึงหวง
“งามหน้านักนะ แม่ว่าที่พี่สะใภ้ของฉัน ลับหลังพี่เทิดศักดิ์มาออดอ้อนพี่แดงน้อย ตกลงระหว่างแกกับแม่แก ใครกันแน่ที่อยากได้พี่แดงน้อย หรือว่าแข่งกันใครดีใครได้...แกก็สำส่อนเหมือนแม่แกนั่นแหละ เมื่อก่อนเป็นลูกชู้ มาตอนนี้เป็นลูกฆาตกร”
แดงน้อยทนฟังต่อไปไม่ไหว ตวาดลั่นให้ทานตะวันหยุดว่าร้ายคนอื่นได้แล้ว เขากับเนื้อทองบริสุทธิ์ใจต่อกัน และที่สำคัญ เขาไม่มีวันทรยศเทิดศักดิ์ เราสองคนไว้ใจกันและกัน ไม่มีวันเผาเรือนเพื่อนเด็ดขาด แล้วชวนเนื้อทองไปหาทองจันทร์ ทานตะวันมองตามแค้นใจมากที่แดงน้อยออกโรงปกป้องนังลูกฆาตกร
ooooooo
ขุนภักดีต้องมาราชการที่บางกอก จึงถือโอกาสนี้แวะเยี่ยมเยียนท่านเจ้าพระยาไปในตัว ท่านให้โอวาทเกี่ยวกับการครองเรือนและเตือนว่าอย่าหูเบาทำผิดเหมือนที่ท่านเคยทำ ถ้าแม่ภรรยาน้อยของท่านไม่สารภาพก่อนตายว่าขุนภักดีไม่ได้ปลุกปล้ำ เธอเองต่างหากที่เป็นฝ่ายเข้าหาเขา ป่านนี้ท่านก็คงยังโกรธเคืองเขา
“กระผมได้ทำผิดมหันต์ยิ่งกว่านั้นมากมายขอรับ กระผมหูเบาวู่วามนำความทุกข์มาสู่ผู้หญิงที่กระผมรักสุดหัวใจ รักที่สุดอย่างที่ไม่คิดว่าจะรักใครได้ขนาดเธอคนนั้น กระผมทำร้ายเธอมายี่สิบกว่าปีเพราะเข้าใจเธอผิด”
ท่านเจ้าพระยาคิดว่าหมายถึงเรียม ขุนภักดีอธิบายว่าไม่ใช่เธอแต่เป็นภรรยาคนที่สามของเขา ตอนนี้เราสองคนปรับความเข้าใจกันได้แล้ว กลับจากบางกอกคราวนี้ เขาจะรับขวัญเธอให้สาสมกับที่ทำให้เสียใจ ท่านชมว่าทำดีมากชีวิตคนเราสั้นนักจะทำอะไรก็ให้รีบทำ จะได้ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง
ฝ่ายทานตะวันไม่ยอมรามือง่ายๆ เอาเรื่องที่เนื้อทองกอดกับแดงน้อยไปฟ้องสนให้ช่วยจัดการกำราบว่าที่ลูกสะใภ้ เธอกลับไม่สนใจเพราะตอนนี้มีเรื่องให้หงุดหงิดหัวใจมากกว่าเรื่องเนื้อทองนัก ทานตะวันไม่พอใจที่สนดูดาย ต่อว่าต่อขานยกใหญ่ ทั้งสองคนมีปากเสียงกันรุนแรง ทานตะวันด่าสู้สนไม่ได้จะไปฟ้องพ่อ
“เชิญแกขี่ม้าสามศอกไปบอกพ่อบอกย่าบอกแม่แกเลย ฉันจะได้บอกบ้างว่าแกสาระแนมาร้องไห้ข่มขู่ให้ฉันรังแกนังเนียนกับนังติ๋ว อยากให้ฉันฆ่าพวกมันให้ตายด้วยซ้ำ...เอาสิ มาแลกกัน อีเด็กเมื่อวานซืน”
ทานตะวันแค้นใจมาก ร้องกรี๊ดๆลั่นบ้าน ก่อนจะวิ่งลงเรือน สนถึงกับถอนใจโล่งใจที่กำจัดนังเด็กบ้านั่นพ้นทางได้เสียที ทนรำคาญมานานเกือบยี่สิบปีแล้ว...
หลังจากนายถมแวะส่งที่ท่าน้ำแถวตลาดในเมือง เนียนเดินเตร่ดูโน่นดูนี่เพื่อถ่วงเวลา ระหว่างเดินผ่านหน้าร้านขายรองเท้าเจอรองเท้าเหมือนกับคู่ที่เอาของลูกมาใส่แล้วทำหาย เธอตรงรี่เข้าไปในร้านจะซื้อไปคืนลูก เป็นจังหวะเดียวกับหมู่เติมเดินผ่านมาเห็นพอดี
“แม่เนียนมาซื้อรองเท้าเหมือนคู่ที่หมวดเทิดศักดิ์กับนายอำเภอพบในที่เกิดเหตุฆ่าช้อยเปี๊ยบ มีพิรุธ”
ooooooo
ระหว่างที่แดงน้อยกับเทิดศักดิ์กำลังปรึกษาหารือเกี่ยวกับคดีของช้อยอยู่ที่ศาลาท่าน้ำ นายถมนำเรือมาจอดเทียบท่า สองหนุ่มแปลกใจที่เนียนไม่กลับมาด้วย ปรี่เข้าไปสอบถาม นายถมจำต้องโกหกว่าหลังจากส่งเนียนที่สามชุกตามคำสั่งท่านขุนแล้ว ก็ไม่เจอกันอีก เขาแยกไปเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัด
“นายถมคงไม่รู้สินะว่าสองสามวันที่นายถมไม่อยู่มีการฆ่ากันตายที่บ้านนี้”
“ยัยช้อยคนสนิทของคุณแม่ ถูกฆ่าตายใกล้ท่าน้ำนี่แหละ ถ้านายถมไปกับน้าเนียนก็บอกว่าไป หรือว่าไปไหนมาก็บอกมาตามตรง” เทิดศักดิ์คาดคั้น นายถมไม่ขอพูดอะไรอีก รอให้ท่านขุนกลับมาก่อน แล้วให้ ท่านบอกเองจะดีกว่าว่าสั่งให้เขาไปไหน ทำอะไรมาบ้าง แล้วขอตัวออกไปทันที...
ทั้งเทิดศักดิ์และแดงน้อยเก็บเอาความสงสัยในตัวนายถมไปเล่าให้เรียมฟัง และสรุปว่าถ้าคำให้การเป็นจริงอย่างที่เขาว่า เท่ากับเนียนไม่มีพยานยืนยันว่าอยู่ที่ไหนในช่วงที่ช้อยโดนฆ่า เรียมใจคอไม่ดี ยิ่งสืบสาว ราวเรื่องก็ยิ่งเข้าตัวเนียนมากขึ้น ขอร้องเทิดศักดิ์กับแดงน้อยให้หาทางช่วยเธอด้วย
“ผมกับแดงน้อยพยายามจะช่วยถึงที่สุดอยู่นี่แหละครับ แต่จนถึงป่านนี้มีแต่พยานที่บ่งบอกว่าน้าเนียนมาที่ท่าน้ำ เพียงมีใครสักคนที่บอกว่าน้าเนียนอยู่ที่ไหน น้าเนียนก็จะรอดพ้นจากการตกเป็นผู้ต้องสงสัยครับ”
แต่เหตุการณ์ไม่เป็นไปอย่างที่เทิดศักดิ์หวัง หลักฐานมัดตัวเนียนมากขึ้นไปอีกเมื่อหมู่เติมมารายงานว่าพบเธอกำลังซื้อรองเท้าเหมือนคู่ที่ตกอยู่ใกล้ศพช้อย ราวกับจะกลบเกลื่อนหลักฐานว่าตัวเองไม่ได้ทำรองเท้าหาย เทิดศักดิ์สั่งการให้หมู่เติมกลับไปที่ตลาดดูว่าเนียนยังอยู่ที่นั่นไหม ถ้าพบก็ให้พาตัวกลับมาที่นี่...
ขณะเทิดศักดิ์กับแดงน้อยนั่งรอเนียนอยู่ที่ศาลาท่าน้ำ สนเข้ามาเลียบๆเคียงๆถามว่าแช่มรู้แล้วหรือยังว่าเนียนฆ่าแม่ของเขาตาย แดงน้อยเตือนว่าอย่าด่วนตัดสินแบบนั้น เพราะแค่รองเท้าที่ถูกทิ้งไว้อาจไม่เพียงพอเอาผิด ถ้ามีใครคนหนึ่งยืนยันได้ว่าเนียนอยู่ที่ไหนในช่วงที่ช้อยตาย
“เอ๊ะ ก็คำพูดของแม่ที่บอกว่าพบมันยังไม่เพียงพอหรือ”
“ถ้าน้าเนียนปฏิเสธเล่าครับ ว่าไม่ได้พบแม่สน” เทิดศักดิ์ท้วง
“มันก็เลวเกินคน กล้าโกหกเพื่อเอาตัวรอด แม่ไม่อยากฟังเรื่องของมันแล้ว แม่ไปก่อน” สนพูดจบ ผละจากไป เทิดศักดิ์มองตาม เริ่มมั่นใจขึ้นเรื่อยๆว่าแม่ของเขากำลังโยนบาปให้เนียน...
ครู่ต่อมา สนในสภาพมีผ้าโพกหัวอำพรางใบหน้าที่แท้จริงมาเยี่ยมแช่มที่ห้องขัง โกหกว่ามีข่าวดีมาบอก ลูกเทิดศักดิ์ของเธอยินยอมให้เขาได้ประกันตัวแล้ว ถ้าได้ออกจากที่นี่เมื่อไหร่ให้เขาหนีไปให้ไกลที่สุด สนขอเวลาไม่เกินหนึ่งอาทิตย์จะจัดการเรื่องนี้ให้ แช่มแปลกใจ ทำไมแม่ไม่เป็นคนมาบอกข่าวดีกับเขาเอง สนใส่ความอย่างหน้าด้านๆว่าช้อยตายแล้วถูกเนียนฆ่า แช่มตะลึงงัน ก่อนจะร้องไห้ออกมา
“ระงับใจไว้ ข้าจะดูแลงานศพแม่แกให้เอง ข้าจะรอให้แกออกไปเผาแม่แล้วค่อยหนี แต่แกต้องสงบเสงี่ยมปากให้มากที่สุดจำไว้” สนกระซิบ แช่มแค้นเนียนมาก ออกไปได้เมื่อไหร่จะฆ่าให้ตายตกไปตามกัน สนย้ำเตือนว่าห้ามกระโตกกระตากอะไรทั้งสิ้น แล้วขยับผ้าคลุมหน้าให้มิดชิด ก่อนจะเดินก้มหน้าก้มตาออกไป หมู่เติมที่เพิ่งมาถึงโรงพัก สะดุดตาผู้หญิงที่เดินสวนกันเมื่อครู่ หันไปถามตำรวจที่เฝ้าหน้าห้องขังว่าเป็นใคร ได้ความว่าเป็นญาติของแช่ม หมู่เติมพยักหน้ารับรู้ ไม่ติดใจสงสัยอะไรอีก...
สนกระหยิ่มยิ้มย่อง ที่จัดการเรื่องแช่มสำเร็จ ต่อไปนี้เขาหมดปัญญาจะเปิดโปงเธอเพราะคิดว่าเนียนฆ่าปิดปากแม่ของเขา เหลือแค่นังแก่หนังเหนียวทองจันทร์ที่ยังเป็นขวากหนามเท่านั้น
ooooooo
เนียนถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงกองกับพื้นเมื่อกลับถึงบ้านภักดีภูบาลแล้วถูกกล่าวหาว่าฆ่าช้อย โดยทิ้งหลักฐานเป็นรองเท้าแตะของตัวเองไว้ใกล้ที่เกิดเหตุ เธออธิบายทั้งน้ำตาว่าไม่ได้ทำ ทานตะวันไม่เชื่อบอกแดงน้อยกับเทิดศักดิ์ให้จับใส่ตะราง เทิดศักดิ์รำคาญมากไล่ทานตะวันกลับเรือน อย่ามายุ่งกับการสอบสวนของตน
“ให้เราได้พูดกับน้าเนียนตามลำพังเถิดครับ คุณทานตะวัน” แดงน้อยจงใจเรียกชื่อเต็มของเธอเพื่อให้ดูห่างเหิน ทานตะวันยักไหล่ไม่ยี่หระ ยิ้มเยาะเนียนก่อนจะเดินสะบัดออกไป...
ที่เรือนทองจันทร์ เรียมสงสารเนื้อทองที่เอาแต่ร้องไห้เป็นเผาเต่า รับปากว่าถ้าเนียนหาข้อแก้ตัวไม่ได้ เธอจะไปประกันตัวออกจากตะรางให้เอง ทองจันทร์สนับสนุนเรียมเต็มที่ เสียเงินเท่าไหร่เท่ากันขอให้เนียนพ้นคดี เนื้อทองกราบขอบพระคุณทั้งสองท่านมากที่เมตตา จังหวะนั้นทานตะวันเดินยิ้มหยันเข้ามา
“ว่าอย่างไรไม่ทราบนังลูกฆาตกร ไม่ไปสั่งลาแม่แกตอนถูกใส่กุญแจมือส่งเข้าตะรางหรือย่ะ รีบไปสิ เดี๋ยวจะไม่ทัน อยู่ที่ท่าน้ำย่ะ...แหมอุตส่าห์มาบอก จะขอบใจสักคำก็หาไม่ นิสัยเสียแท้ๆ”
เรียมไม่พอใจ เตือนทานตะวันอย่าพูดจาเชือดเฉือนหัวใจคนอื่นแบบนี้อีก ทองจันทร์ไม่อยากยุ่งกับเด็กนิสัยเลวอย่างเธอ ขอร้องเรียมให้พาไปท่าน้ำ เธอเป็นห่วงเนียนมาก ป่านนี้จะเป็นอย่างไรบ้างก็ไม่รู้...
ข่าวเนียนกำลังจะถูกจับใส่ตะรางแพร่สะพัดไปทั่วบ้านภักดีภูบาล พวกบ่าวรับใช้พากันวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนานา แมวกับกบไม่เชื่อว่าคนอย่างเธอจะทำร้ายใครได้ แต่เชื่อว่ามีคนสร้างหลักฐานเท็จใส่ความเนียน จากนั้นทุกคนพากันยกโขยงไปที่ท่าน้ำ ยกเว้นนายถมที่แอบมาหลบมุมด้วยความตกใจ
“ไหงกลายเป็นอย่างนี้ไปได้หว่า คุณเนียนเป็นแพะรับบาปเสียแล้ว จะช่วยคุณเนียนได้อย่างไรหนอ” ถมบ่นเสร็จ ย่องตามพวกนั้นไปห่างๆ...
ไม่นานนัก ศาลาท่าน้ำบ้านภักดีภูบาลเต็มไปด้วยผู้คนทั้งนายทั้งบ่าว เนียนกอดเนื้อทองไว้แน่น ยืนยันทั้งน้ำตาว่าไม่ได้ฆ่าช้อย แต่ยอมรับว่ากลับมาที่นี่เมื่อตอนใกล้รุ่งเพื่อพบใครบางคน แต่บอกไม่ได้ว่าเป็นใคร ทองจันทร์สั่งให้เนียนกลับคำให้การ อย่าไปยอมรับว่ากลับมา เทิดศักดิ์เตือนคุณย่าอย่ามาชี้แนะอะไรผิดๆแบบนั้น
“แกอย่ามาเรียกฉันว่าย่า ฉันไม่เอาแกเป็นหลานดอก เกลียดน้ำหน้า”
เรียมขอร้องทองจันทร์ให้ใจเย็นๆ แล้วหันไปบอกเนียนว่าไม่ต้องเป็นกังวล เธอกับคุณแม่จะไปประกันตัวให้ เนียนกราบขอบพระคุณทั้งสองท่าน เธอไม่มีทางแก้ตัวอะไรได้นอกจากก้มหน้ารับกรรม และสาบานต่อหน้าทุกคนว่าไม่ ได้ฆ่าช้อย ถ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง ช่วยดลบันดาลให้ความจริงปรากฏสักวัน แม้จะหลังจากเธอโดนประหารแล้วก็ตาม เนียนพยายามดันเนื้อทองออกห่าง แต่เธอกอดไว้แน่น
“แม่เคยสอนไว้ว่าอย่างไร อดทนอดกลั้น เข้มแข็งไว้ลูกรัก เขยิบออกไปจากตัวแม่ ไปสิ”
เนื้อทองจำต้องถอยออกมา เนียนยื่นมือไปตรงหน้าเทิดศักดิ์กับแดงน้อยเพื่อให้ใส่กุญแจมือ สองหนุ่มจำเป็นต้องทำตามหน้าที่ แล้วคุมตัวเธอออกไป นายถมแอบดูอยู่ตรงพุ่มไม้ใกล้ๆถึงกับถอนใจ หนักใจ
“โธ่เอ๊ย คุณเนียน จะทำอย่างไรดีหนอให้คุณเทิดศักดิ์กับนายอำเภอรู้ว่าคุณเนียนอยู่ที่ไหน”
สนซึ่งแอบดูอยู่แถวนั้นเช่นกันได้ยินเสียงนายถมเต็มสองหูถึงกับตกใจ เพราะถ้ามีใครยืนยันที่อยู่ให้เนียนได้ คดีฆ่าช้อยเป็นอันหลุดแน่นอน คิดได้ดังนั้นปรี่เข้าไปหาเขาทันที อ้างว่ามีเรื่องจะสอบถาม ให้ตามไปริมน้ำด้านโน้นตรงที่มีเรือจอดอยู่ นายถมไม่กล้าขัด จำต้องทำตามคำสั่ง...
ระหว่างทางไปโรงพัก เนียนยอมรับในชะตากรรมของตัวเอง แต่ไม่ยอมผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับขุนภักดีเด็ดขาด และจะไม่ยอมให้เขาต้องอับอายที่ลอบมาพบเธอ ความลับนี้จะตายไปพร้อมกับเธอตอนโดนประหาร...
ทางด้านสนพยายามหลอกล่อให้นายถมเล่าความจริงว่าเนียนอยู่ที่ไหนกับใคร แต่เขาไม่หลงกล อ้างจะเปิดเผยความจริงเรื่องนี้ต่อนายอำเภอกับคุณเทิดศักดิ์เท่านั้น สนซักไปซักมาจึงรู้ว่านายถมนี่เองที่เป็นคนตะโกนบอกว่าเสือหนักมา เพื่อให้เธอตกใจจะได้ไม่แทงเนียน สนปล่อยให้นายถมเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ไม่ได้ รอจังหวะที่เขากำลังจะลงเรือไปหาเทิดศักดิ์กับแดงน้อยที่โรงพัก คว้าไม้พายฟาดนายถมไม่ยั้งจนตายคามือ แล้วถีบลงเรือโยนไม้พายตามลงไป ปล่อยให้เรือลอยไปตามกระแสน้ำ
ooooooo
ขณะที่นายถมกลายเป็นเหยื่อโหดรายล่าสุดของสน เนียนถูกเทิดศักดิ์กับแดงน้อยนำตัวมาที่ห้องขัง แช่มเห็นเนียนก็โวยวายด่าทอลั่น เกือบจะหลุดปากว่ารู้เรื่องที่เนียนฆ่าแม่ของตน แดงน้อยสั่งไม่ให้เขาก่อกวน ถ้าอยู่ในความสงบจะกันตัวไว้เป็นพยาน แช่มยิ้มดีใจเพราะคำพูดของแดงน้อยสอดคล้องกับคำบอกเล่าของสน
“คุณนายสนพูดความจริงว่าเราจะได้ประกันตัว นังเนียนคนชั่ว มึงฆ่าแม่กู ดีล่ะ กูจะเป็นพยานปรักปรำมึงให้โดนประหารชีวิต”...
ทางด้านเทิดศักดิ์กับแดงน้อยพาเนียนไปขังแยกไว้อีกห้องหนึ่ง ทั้งคู่กราบขอโทษและขอให้เธออโหสิกรรมให้ ถ้าไม่ทำแบบนี้ก็เท่ากับพวกเขาละเลยไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ เนียนนํ้าตาคลอเบ้าขึ้นมาอีกครั้ง สมเพชตัวเองเหลือเกิน นึกไม่ถึงเลยว่าชาตินี้จะโดนลูกตัวเองจับเข้าตะราง...
ดึกมากแล้ว แต่สนยังฝืนไม่ยอมหลับยอมนอน เพราะกลัวพวกที่ตายด้วยนํ้ามือตนเองจะตามมาหลอกหลอน แต่ก็เผลอหลับจนได้ เธอฝันร้ายเห็นทั้งช้อย เหิม นายหวาน นายสาย คนต้มเหล้าเถื่อน และนายถมตามมาเอาชีวิต สนสะดุ้งตื่น ร้องเอะอะเสียงดังลั่น วิ่งหนีไปรอบห้อง
“อย่า...ไม่นะ...ไปให้พ้น”
เทิดศักดิ์ได้ยินเสียงร้องของแม่ ตกใจคิดว่าเสือหนักจะมาทำร้ายวิ่งเข้ามาดู ร้องถามว่ามันอยู่ไหน สนได้สติ อ้างว่าแค่ฝันไป เทิดศักดิ์จะอยู่เป็นเพื่อน แต่เธอไม่ให้อยู่เกรงจะหลุดปากในสิ่งไม่ควรพูด รีบดันเขาออกจากห้องปิดประตูตามหลัง คว้ามีดปอกผลไม้มาถือไว้ในมือ กวาดตามองไปรอบห้องกลัวช้อยกับพวกนั้นจะมาฆ่า
สนเผลอหลับไปอีกครั้ง ฝันเห็นผีช้อยกับพวกกรูกันเข้ามารุมทุบตี เธอร้องกรี๊ดลั่น พร้อมกับตวัดมีดไปมา เทิดศักดิ์พรวดเข้ามาในห้อง ตกใจแทบสิ้นสติเมื่อเห็นแม่นอนดิ้นไปมาอยู่บนพื้นในมือถือมีดทำท่าจะจ้วงแทงตัวเอง เขาปราดเข้าไปแย่งมีดไว้ได้ทัน แล้วดึงแม่มากอดไว้ ห้ามไม่ให้ไล่เขาไปไหนอีก สนพยายามรวบรวมสติ
“แม่...แม่...พรุ่งนี้ แม่จะไปหาคุณย่าทองจันทร์ จะไปคุยกับท่าน...ขอธูปแม่สักสามดอกสิลูก”
เทิดศักดิ์หายไปสักพัก กลับมาพร้อมกับธูปตามที่สนต้องการ เธอจุดธูป พนมมืออธิษฐานในใจ
“พวกแกทั้งหลาย ฉันขอโทษ อย่าตามมารังควานฉันอีกเลย พรุ่งนี้ฉันจะทำความดี ไปบอกอีแก่ทองจันทร์ว่าฉันรับปากจะบอกเทิดศักดิ์กับแดงน้อยว่าไม่เห็นนังเนียน”
ooooooo
เรียมลุกขึ้นแต่งตัวแต่เช้าเตรียมจะไปประกันตัวเนียน ทานตะวันไม่พอใจต่อว่าแม่ว่าจะไปประกันตัวนังฆาตกรทำไมให้อับอายขายหน้า เรียมเตือนว่าอย่าพูดแบบนี้อีก เนียนให้ชีวิตใหม่แก่เธอจำไม่ได้แล้วหรือ
“นี่คุณแม่ลำเลิกบุญคุณหนูแทนมันอีกแล้ว”
“ไปให้พ้น...ไปไหนก็ไป” เรียมเหนื่อยหน่ายจะพูดด้วย รีบลงจากเรือน
“นี่คุณแม่จะให้เราทำตัวราวกับติดหนี้ชีวิตยัยเนียนให้จงได้รึ ทุกคนเป็นอะไรกันไปหมด แม่สนก็ลุกขึ้นมาอวดดีกำแหงใส่ พี่แดงน้อยก็เรียกชื่อคุณทานตะวันเต็มยศราวกับเหินห่างกันเต็มประดา คุณย่าก็หมางเมิน” ทานตะวันตะโกนไล่หลัง เรียมก้าวฉับๆไปทางเรือนทองจันทร์ไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง...
ครู่ต่อมา เรียมมาถึงเรือนทองจันทร์ เร่งเนื้อทองให้รีบไปโรงพัก เนียนจะได้กลับบ้านวันนี้เลย จังหวะที่ทั้งคู่ลงจากเรือน สนในสภาพอิดโรยเดินสวนขึ้นมาหาทองจันทร์แจ้งว่าเธอจะกลับคำว่าไม่เห็นเนียนที่ศาลาท่านํ้า
“ขอบใจนะ แต่การที่หล่อนตัดสินใจเช่นนี้เพราะที่นางช้อยบอกฉันเรื่องตาเทิดศักดิ์นั่นมันจริงรึ”
“หามิได้ค่ะ สนแค่อยากทำอะไรดีๆให้เนียนบ้างเท่านั้นแหละค่ะ” สนพยายามข่มความแค้นไว้
ทองจันทร์ไม่เชื่อว่าคนอย่างสนจะคิดดีทำดีเป็นแต่ก็ขอบใจแทนเนียนด้วย ส่วนเรื่องเทิดศักดิ์ ตนไม่คิดจะเปิดโปงตามที่ขู่ เว้นแต่สนจะคิดร้ายต่อคนอื่นอีก แล้วเร่งให้ไปบอกเทิดศักดิ์ ไม่อยากให้เนียนต้องติดตะรางโดยไม่มีความผิด สนขอเวลาสักวันสองวัน เพราะเพิ่งให้ปากคำไปว่าเจอเนียน ขืนกลับคำตอนนี้จะไม่มีใครเชื่อถือ...
ด้านเรียมกับเนื้อทองต้องผิดหวังที่ทั้งเทิดศักดิ์และแดงน้อยไม่มีอำนาจพอจะอนุญาตให้เนียนประกันตัวออกมาได้ ผู้กำกับการสถานีตำรวจเจ้านายของเทิดศักดิ์จะยอมให้ประกันตัวก็ต่อเมื่อผู้ต้องหายอมให้การเสียก่อนว่ามารอพบใคร เนียนยังคงปิดปากสนิทไม่ยอมพูดอะไร ขอรับกรรมในตะรางต่อไป
“ถ้าเช่นนั้นเราก็ต้องรอให้พี่เทพกลับจากบางกอกแล้วให้พี่เทพมาพูดกับเนียนเอง”
“เอ่อ...อย่าไปรบกวนท่านเลยเจ้าค่ะคุณนายเรียม... หนูติ๋วจ๊ะ แม่อยากให้หนูไปสอนหนังสือ ลูกศิษย์รอหนูอยู่ นั่นคือภาระหน้าที่ของหนู”เนียนพยายามกันลูกให้อยู่ห่างๆเรื่องนี้ เนื้อทองอยากอยู่เป็นเพื่อนแม่ใจแทบขาด แต่ไม่อยากทำให้ท่านไม่สบายใจ จึงต้องทำตามคำสั่ง...
ทางฝ่ายเทิดศักดิ์มั่นใจว่าเนียนไม่ได้ฆ่าช้อย จึงสั่งให้หมู่เติมไปสามชุก สืบหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าหลังเสร็จจากงานศพญาติแล้ว เนียนไปไหน ทำอะไรกับใคร แล้วให้รีบกลับมารายงาน
“เราต้องช่วยน้าเนียนให้ได้ เราต้องไม่ผิดพลาด ด้วยการเอาคนบริสุทธิ์มาลงโทษ”เทิดศักดิ์สีหน้ามุ่งมั่น...
ทองจันทร์ถึงกับถอนใจ เหนื่อยใจเมื่อรู้เรื่องราวทั้งหมดจากเรียม ตั้งข้อสังเกตว่าคนที่มาหาเนียนวันเกิด เหตุต้องมีความสำคัญมาก เธอถึงไม่ปริปากพูดอะไรเหมือนเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อนไม่มีผิดเพี้ยน แต่คงไม่มีอะไรต้อง เป็นห่วงเพราะสนรับปากตนแล้วจะกลับคำให้การใหม่ว่าไม่ได้พบเนียนที่ศาลาท่าน้ำ
“คุณแม่ขา แต่เนียนยอมรับไปแล้วนี่คะว่ามาที่ท่าน้ำบ้านเราจริง แล้วเทิดศักดิ์กับแดงน้อยจะเชื่อหรือคะ”
“ก็นั่นน่ะสิ...เฮ่อ...ทำไมมันวัวพันหลักกันถึงเพียงนี้” ทองจันทร์ทอดถอนใจอีกครั้ง เรียมเองก็หนักใจไม่แพ้เธอเช่นกัน แต่ตอนนี้เราสองคนคงทำอะไรไม่ได้ ต้องรอ ให้ขุนภักดีกลับมาก่อน...
ทานตะวันไม่ยอมเลิกราตามมาถึงโรงเรียนที่เนื้อทองสอนหนังสืออยู่ คาดคั้นให้สัญญาว่าถ้าแม่ของเธอมีความผิดต้องโทษประหารชีวิต เธอต้องไปอยู่ที่อื่น คุณพ่อคุณแม่และคุณย่าของทานตะวันอุ้มชูเนื้อทองกับแม่มานานมากแล้ว ถึงคราวเธอต้องตอบแทนพวกเราบ้าง หรือจะให้ตนกราบก็ยอม แล้วทำท่าจะกราบจริงๆ
เนื้อทองถอยกรูด“อย่านะคะ อย่าทำนะคะ... ขอเวลาฉันตรึกตรองสักสองสามวันค่ะ”
“ฉันจะให้เวลาแกสามวัน ยังมีอีก เรื่องพี่แดงน้อย หยุดให้ท่าเขาสักที อย่ายุ่งกับเขา อยู่ให้ห่างเขาเข้าไว้อย่าทำตัวเป็นวันทองสองใจ แกอยากได้พี่เทิดศักดิ์ก็ช่างหัวพี่เทิดศักดิ์กับแก แต่พี่แดงน้อย ฉันบอกมานานแล้วตั้งแต่ก่อนไปนอกว่าฉันจอง”
เนื้อทองรับปากทันทีโดยไม่ต้องคิด ทานตะวันไม่ วายเหน็บแนมว่าอย่าแค่รับปากต้องทำตามที่พูดด้วย
ooooooo
ทันทีที่เสร็จงาน ขุนภักดีสั่งให้นายเอกรีบพากลับสุพรรณบุรี จากมาหลายวันแล้วคิดถึงบ้านเต็มทีแต่นึกขึ้นมาได้ว่าควรมีของกำนัลกลับไปด้วย จึงให้แวะไปที่ห้างฯขายของเจ้าประจำก่อน นายเอกยิ้มอย่างรู้ทันว่าเขาจะซื้อไปรับขวัญเนียน ทำทีเตือนว่าถ้าแวะซื้อของจะยิ่งทำให้ถึงบ้านค่ำ ขุนภักดีสั่งให้หุบปาก แล้วรีบไปขับรถ
“เนียน กลับถึงบ้านจะขอพบเนียนเป็นคนแรกเพื่อบอกเรื่องหนูติ๋วที่ค้างไว้วันก่อนให้จบ จะให้ของกำนัลรับ ขวัญเนียน...เนียนจะได้หมดทุกข์หมดโศกเสียที” ขุนภักดีพึมพำเบาๆก่อนจะยิ้มมีความสุข...
ฝ่ายแดงน้อยทนเห็นเนียนต้องรับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อต่อไปไม่ไหว เข้ามากราบวิงวอนขอร้องให้เธอบอกความจริงมาว่าวันเกิดเหตุไปรอพบใคร เพื่อจะได้รอดพ้นจากการกล่าวโทษผิดๆในครั้งนี้ เนียนดีใจน้ำตาคลอเบ้าที่เขาเชื่อว่าเธอบริสุทธิ์ แต่ไม่ว่าแดงน้อยจะหว่านล้อมอย่างไร เนียนก็ไม่ยอมบอกชื่อคนคนนั้น อ้างว่าสัญญากับเขาไว้แล้วไม่อาจกลับคำได้
“โธ่...นี่น้าเนียนยอมรับผิดเพื่อรักษาคำพูด ไม่คุ้มกันเลยนะครับ ถ้าคนคนนั้นเขาทราบอย่างนี้ เขายังจะยอมให้น้าเนียนลำบากเพราะปกป้องเขาอีกหรือครับ”
“น้าอยากนั่งสมาธิ ทำใจให้สงบ ขอโทษด้วยนะคะ นายอำเภอ” เนียนตัดบทแล้วไปนั่งหลบมุมเงียบๆ...
ขณะที่เนียนก้มหน้ารับกรรมโดยไม่ปริปากบ่น ยายอ่อนตามมาต่อว่าแพรกับโพล้งที่ไม่สามารถโอน กรรมสิทธิ์ที่นาของเนียนได้เพราะคนที่ได้ที่นาไปจากเนียนยังไม่ได้ทำอะไรสักอย่าง และตนไปสืบมาจากน้องสาวของแพรแล้วว่า เนียนโอนที่นาผืนนี้ให้นายอำเภอแดงน้อย ซึ่งเป็นลูกจากผัวเก่าของเนียนที่โดนรถชนตาย
“นางแพรแกสั่งทุกคนปิดปากยกเว้นน้องสาวตัวเอง” โพล้งต่อว่า แพรชักสีหน้าไม่พอใจทำท่าจะเอาเรื่อง
“แกสองคนอย่ามัวมาทะเลาะกัน รีบไปจัดการเรื่องพ่อแดงน้อยให้เขาโอนที่นาให้ฉันให้เรียบร้อย”
แพรกับโพล้งยังไม่ทันจะว่าอะไร หมู่เติมพรวดพราด เข้ามาถึงตัวเสียก่อน ทุกคนพากันสะดุ้งโหยง โดยเฉพาะโพล้ง ทำท่าจะวิ่งหนี หมู่ร้องบอกว่าไม่ต้องหนี ไม่ได้มาจับใคร แค่มาสืบเรื่องเนียนตามคำสั่งของผู้หมวดเทิดศักดิ์ว่าออกจากสามชุกแล้วมาที่บ้านแพนนี่ใช่ไหม ทั้งสามคนถามอย่างพร้อมเพรียงกันว่าจะรู้ไปทำไม
“นางเนียนเป็นผู้ต้องหาฆ่านางช้อยคนสนิทของคุณนายสนตาย ตอนนี้อยู่ในตะราง”
ทั้งแพร โพล้ง และยายอ่อนต่างตกตะลึง ไม่เข้าใจทำไมเนียนเจอแต่เคราะห์กรรมไม่ว่างเว้นเช่นนี้...
หลังจากคิดไปคิดมาอยู่หลายตลบ สนตัดสินใจเข้าพบผู้กำกับฯเจ้านายของเทิดศักดิ์ที่โรงพัก ขอกลับคำให้การที่ให้ไว้กับผู้หมวดเทิดศักดิ์ลูกของตนว่าพบเนียนเมื่อตอนเช้ามืดวันเกิดเหตุฆ่าช้อย แต่ความจริงแล้วเธอเจอเนียนคนละวันกัน ผู้กำกับฯถึงกับร้องอ้าว
“ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ยุ่งกันใหญ่สิครับ ถ้าคุณนายไม่ได้พบเพราะจำวันผิด เหตุใดนางเนียนจึงรับสารภาพว่าคุณนายพบเธอจริงครับ ตกลงนี่นางเนียนยอมโกหกให้ตัวเองติดตะรางหรือครับ”
“โอ๊ย ฉันไม่รู้เรื่องแล้วผู้กำกับฯ เอาเถิดฉันมาบอกตามนี้ ฉันต้องขอลากลับ” สนพูดจบผลุนผลันออกไป...
แดงน้อยแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อเสมียนนำเอกสารการโอนที่นาของเนียนที่บ้านแพนมาวางตรงหน้าและชื่อผู้รับโอนที่ปรากฏบนเอกสารคือตัวเขาเอง เธอโอนให้ตั้งแต่เขาอายุแค่สี่ขวบ
“อะไรกันนี่ ทำไมน้าเนียนถึงยกที่นาให้เรา ทำไมน้าเนียนไม่ยอมบอกตอนที่เราถามเรื่องนี้ น้าเนียนปิดบังทำไม แล้วทำไมโอนให้ตั้งแต่เราอายุแค่สี่ขวบ ทั้งๆที่เรากับน้าเนียนเพิ่งพบกันที่บ้านภักดีภูบาลตอนเราโตแล้ว ที่แท้น้าเนียนรู้จักเรามานานแล้ว” เกิดคำถามที่ยังหาคำตอบไม่ได้ขึ้นในใจแดงน้อยมากมาย
ooooooo










