เพื่อไทยขยับปราม สส.ออกมาไล่ตะเพิดภูมิใจไทย "ดนุพร" ชี้นายกฯ-ผู้ใหญ่ในพรรคคำนึง เรื่องมารยาทพรรคร่วม ยอมรับกังวลถ้าพลิกไปเป็นฝ่ายค้านจริง หายไป 70 เสียง ประชุมสภามีปัญหาแน่ มั่นใจ "อิ๊งค์" เคลียร์พรรคร่วมได้ "อนุทิน" ย้ำปฏิญญาช็อกมินต์ ยึดโควตาเก้าอี้เดิม ดอดขึ้นตึกไทยพบ “แพทองธาร” สุดมั่นใจเก้าอี้ มท.1 ยังเหนียว บลัฟสถานะ “ทักษิณ” แค่นักวิเคราะห์การเมือง “ชาดา” ลั่นมีเกียรติ-ศักดิ์ศรีพร้อมรับทุกบท ชุดอนุฯ กกต.เรียกลอต 7 คดีฮั้วเลือก สว. กก.บห.-แกนนำภูมิใจไทย เจอยกแผง “หนู” แอ่นอกรับหมายเรียก พร้อมตั้งทนายสู้ “กรวีร์” ข้องใจตั้งโจทย์อยากยุบพรรค
นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ขยับปราม สส.ของพรรคที่ออกมาขับไล่พรรคภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้าน ยอมรับเป็นกังวลอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล หากภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้านจริง เสียงจะหายไปกว่า 70 เสียง ทำให้การประชุมสภามีปัญหาได้
เพื่อไทยขยับปราม สส.ไล่ตะเพิด ภูมิใจไทย
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุม สส.พรรค พท. ในวันที่ 17 มิ.ย.ว่า เป็นการประชุมปกติเดือนละ 1 ครั้ง ในช่วงปิดสมัยประชุมสภาฯ เพื่อนำปัญหาประชาชนมาพูดคุยกันในพรรค รวบรวมส่งให้รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนต่อไป เมื่อถามว่าต้องกำชับ สส.ในพรรคเพิ่มเติมหรือไม่ หลังทยอยออกมาไล่พรรคภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้าน นายดนุพร ตอบว่า เป็นเรื่องหนึ่งที่ต้องมีการพูดคุยแน่นอน ทราบว่านายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน สส.พรรค พท. ออกมาปรามแล้ว ส่วนตัวได้เช็กมาหลายทาง ขอเรียนว่าเป็นความเห็นของ สส.แต่ละคน พรรคไม่ได้สั่งให้ใครออกไปไล่ใครเป็นฝ่ายค้าน สส.แต่ละคนอาจไปรับความรู้สึกประชาชน หรือแฟนคลับพรรคมา อาจทำให้มีอารมณ์ได้ เรื่องนี้ต้องมีการพูดคุยกันว่ามารยาทในการร่วมรัฐบาลเป็นเรื่องสำคัญมาก น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี รวมถึงผู้บริหารพรรคทุกคนคำนึงถึงเรื่องนี้มาก คงต้องมีการปราม สส.ของเราเองว่าการออกมาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้ และควรต้องระมัดระวังมากขึ้น ไม่ควรให้มีภาพการแตกแยกในพรรคร่วมรัฐบาล
...
รับกังวลขั้วน้ำเงินพลิกเป็นฝ่ายค้าน
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะส่งผลต่อเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่ นายดนุพรตอบว่า ยอมรับว่ากังวล แต่มีการยืนยันแล้วว่าไม่มี กก.บห.พรรคคนไหนสั่ง เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่หากพรรคภูมิใจไทยไปเป็นฝ่ายค้านจริง นายดนุพรตอบว่า กังวลแน่นอนหาก ภท.ตัดสินใจไม่ร่วมรัฐบาล การที่เสียงหายไปกว่า 70 เสียงมีผลมากในการประชุมสภาฯ เราต้องจัดทัพกันใหม่อาจเหนื่อยหน่อย อีกทั้งยังมีรัฐมนตรีหลายคนที่เป็น สส.อยู่ด้วย การโหวตทุกสัปดาห์ สส.ที่เป็นรัฐมนตรีต้องกลับเข้าสภาฯ เพื่อทำหน้าที่ สส. ฉะนั้นหนึ่งเสียงของทุกคนมีค่ามาก แต่ในมุมของพรรควันนี้เราเชื่อมั่นว่านายกฯจะสามารถประสานรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาลได้ และเชื่อว่านายกฯจะนำปัญหานี้ไปพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคน เชื่อเรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น เมื่อถามย้ำว่าเชื่อว่านายกฯ จะสามารถพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค ภท. และหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคได้ใช่หรือไม่ นายดนุพรตอบว่า วันนี้ขอยังเชื่อแบบนี้ก่อน เพราะนายอนุทินบอกเองว่านายกฯยังไม่ได้พูดคุยเรื่องปรับ ครม. รวมถึงนายกฯบอกทุกครั้งว่าหากจะปรับ ครม. ต้องเรียกหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคมานั่งพูดคุยกัน
ห่วงศึกนอกมากกว่าการเมืองภายใน
นายดนุพรกล่าวอีกว่า สถานการณ์การเมืองปัจจุบันเป็นห่วงเรื่องชายแดนไทย-กัมพูชามากกว่าเรื่องเสียงรัฐบาล ข้อพิพาทการเมืองระหว่างประเทศน่ากังวลกว่าการเมืองภายใน เพราะกระทบต่อประเทศ ชาติ ชายแดน และเศรษฐกิจ รวมถึงอีกหลายมุม พรรคกำลังประสานกระทรวงการต่างประเทศว่ามีใครสามารถเข้ามาพูดคุยในการประชุมพรรควันที่ 17 มิ.ย.ได้ เพื่อให้ข้อเท็จจริงกับ สส.นำไปสื่อสารกับประชาชนในพื้นที่ และหลายคนมีข้อกังวลเรื่องศาลโลก วันนี้เฟกนิวส์เยอะที่รู้ความจริงครึ่งเดียวแล้ววิพากษ์วิจารณ์ในทางที่ผิด ทำให้ผู้รับสารได้ไม่ครบ เมื่อถามว่าถูกตั้งคำถามว่าฝั่งไทยมีการสื่อสารล่าช้ากว่าทางกัมพูชา นายดนุพรตอบว่า รัฐบาลกัมพูชาสื่อสารโดยผู้นำ และอดีตผู้นำ ระบบการเมืองประเทศเขากับเราไม่เหมือนกัน ประเทศเราทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะจะกระทบกับหลายฝ่าย ทั้งต้องคำนึงถึงชายแดน เศรษฐกิจ หรือประเทศในกลุ่มอาเซียน และประเทศไทยคำนึงถึงมารยาททางการเมืองหรือทางการทูตสูง ฉะนั้นต้องยอมรับว่าเราช้าจริง แต่เป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องเรียนรู้และนำไปปรับปรุง ให้สื่อสารเร็วกว่านี้ แต่การสื่อสารที่เป็นข้อมูลผิดเป็นเรื่องที่อันตราย เชื่อว่าผู้เกี่ยวข้องต้องการเช็กข้อมูลให้รอบด้าน
“หนู” มั่นใจไม่ถูกตะเพิดพ้นรัฐบาล
ที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงการเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคและ สส.ว่า ช่วงนี้ใกล้เปิดสภาฯ ประชุมพบปะกันเป็นเรื่องปกติ เมื่อถามถึงกระแสข่าวปรับพรรค ภท.พ้นรัฐบาล นายอนุทินตอบด้วยท่าทียิ้มว่า “ไม่มีนิครับ มีแต่กระแสจากผู้สื่อข่าว ยืนยันทุกอย่างยังเหมือนเดิม ผมกับท่านนายกฯรักกันดี” เมื่อถามว่ายังได้นั่ง มท.1 อยู่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ตอนนี้ก็นั่งอยู่ เมื่อถามต่อว่าแต่มีกระแสปรับ นายอนุทินตอบว่า กับนายกฯยังไม่ได้คุยอะไรกัน ไม่มีอะไรหรอก ทำงานดีกว่า พร้อมอุทานว่า “โห ฟังจนเบื่อหมดแล้ว” วันนี้ตอนเย็นก็พบปะกัน ทานอาหารเย็นกันหน่อย กำลังจะเปิดสภาฯ ไม่มีอะไรตามที่ไปเสนอข่าว เรื่องพวกนี้ไม่ต้องประชุม สส. เพราะ สส.ทำหน้าที่นิติบัญญัติ
“ชาดา”เห็นใจนายกฯต้องแจงวุ่น
ขณะที่นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์ในรายการเจาะลึกทั่วไทยฯ ถึงการปรับ ครม.ว่าขอพูดในฐานะผู้ถูกกระทำมาตลอด เกิดจากสำนักข่าวช่องหนึ่ง ที่นายทุนพรรคการเมืองหนึ่งไม่ชอบพรรค ภท. จุดประเด็นขึ้นโดยไม่มีเค้าโครงอะไร พูดทุกวันจนมีการไปถามนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นายทักษิณก็ระบุว่าอยากได้ทุกกระทรวง เพราะเคยทำงานพรรคเดียวมาก่อน โดยที่ในพรรค ภท.ไม่ได้คุยเรื่องนี้ เมื่อมีคนมาถามตนก็ตอบว่าข่าวก็คือข่าว เวลานี้ไม่ใช่เวลาปรับ ครม. ขณะนี้งบประมาณปี 69 ก็ยังไม่จบ ฤดูการเมืองต้องรอให้งบประมาณผ่านก่อนไม่ต้องรีบร้อน เขาจะปรับก็คงปรับแน่ วันนี้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง ข่าวที่ออกมาทำให้ข้าราชการปล่อยล้อฟรีหมด เหมือนประเทศไทยหยุดนิ่ง เพราะมีการพูดถึงการปรับ ครม.ทุกวัน ทั้งที่เป็นอำนาจนายกฯ คนที่น่าเห็นใจคือนายกฯ ทำงานก็ปวดหัวอยู่แล้ว มาเจอแต่เรื่องแบบนี้อีก
ลั่นมีเกียรติ-ศักดิ์ศรีรับได้ทุกบท
นายชาดากล่าวว่า พรรคภูมิใจไทยมีเกียรติยศ มีศักดิ์ศรี พร้อมทำงานทุกด้าน และไม่ใช่เรื่องที่จะพูดท้าทายกัน ฉะนั้นอยู่หรือไปคนตัดสินใจคือนายกฯ เมื่อถามว่าพร้อมในทุกบทบาท หมายถึงพร้อมเป็นฝ่ายค้านด้วยหรือไม่ นายชาดาตอบว่า นักการเมืองทุกคนพร้อมเป็นทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้าน ถามมาแบบนี้เดี๋ยวก็เอาไปพูดว่าภูมิใจไทยพร้อมเป็นฝ่ายค้าน ขอให้ฟังทั้งหมด ไม่ใช่จับเอาเพียงคำพูดบางคำไปเดี๋ยวจะเกิดปัญหา เมื่อถามว่าศูนย์กลางอำนาจพรรคเพื่อไทยต้องการปรับ ครม.จะทำอย่างไร นายชาดาตอบว่า อยู่ที่นายกฯ และในพรรค ภท.ยังไม่ได้พูดคุยกัน คงเป็นเรื่องของหัวหน้าพรรค และ กก.บห. เมื่อถามว่าหากนายกฯบอกว่าพร้อมปรับ ครม. ขอคืนกระทรวงมหาดไทย รับได้หรือไม่ นายชาดาตอบว่า ไม่ขอก้าวล่วงอำนาจของหัวหน้าและ กก.บห.พรรค แต่เชื่อว่าต้องพูดคุยกันทุกเรื่อง ส่วนผลออกมาอย่างไรเป็นเรื่องของนายกฯคุยกับหัวหน้าพรรค ภท. ที่ผ่านมารู้สึกอึดอัดกับข่าวที่ออกมา เพราะออกมาจากสื่อ ไม่ได้ออกมาจากนายกฯ อยากให้นายกฯตัดสินใจและคุยกับหัวหน้าพรรคดีกว่า
กก.บห.เจอหมายคดีฮั้วเลือก สว.
เมื่อถามว่าเล่นกันแรงมีกระแสข่าวคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนกลาง ชุดที่ 26 (กกต.) มีมติออกหมายเรียก กก.บห.พรรค ภท.คดีฮั้วเลือกตั้ง สว. แบบนี้จะอยู่ด้วยกันได้หรือไม่ นายชาดาตอบว่า เจ้าหน้าที่ก็ทำงานของเขา แต่อย่ามาใช้พฤติกรรมหรือเบี่ยงเบนเป็นรัฐที่ใช้อำนาจกฎหมายข่มขู่ ว่ากันตามข้อกฎหมาย และข้อเท็จจริง เมื่อถามว่านายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี รองเลขาธิการพรรค ภท. ถูกหมายเรียกด้วย นายชาดาตอบว่า “มีครับ ได้รับหมายแล้ว กก.บห.พรรคได้รับหลายคน เราพร้อมยืนยันความบริสุทธิ์ ยืนยันข้อเท็จจริง” ส่วนนายอนุทินได้หมายด้วยหรือไม่ ไม่ทราบ พรรค ภท.จะอยู่หรือไปไม่เกี่ยวกับ กก.บห.
พรรคโดนคดีฮั้วเลือก สว. เรื่องนี้ไม่สามารถมากดดันภท.ได้ เมื่อถามว่าพรรคมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ถ้ามาขอรมว.มหาดไทยคืนโดยไม่มีคำอธิบายที่ฟังได้ก็จะหักใช่หรือไม่ นายชาดาตอบว่า ไม่ใช่อย่างนั้น ที่ระบุว่ามีเกียรติมีศักดิ์ศรี พูดให้ทุกคนฟัง ทั้งรัฐบาล ประชาชน รวมถึงสื่อมวลชนด้วย ไม่อยากให้เอาข่าวมาย่ำยีพรรค ภท. เราถูกกระทำและนั่งนิ่งมาตลอด เป็นเรื่องที่เสียความรู้สึก แต่ในฐานะพรรคการเมืองต้องรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์
ยึดปฏิญญาช็อกมินต์โควตา รมต.
ต่อมาเวลา 14.45 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท. เดินลงจากห้องทำงานในตึกบัญชาการ 1 ไปยังตึกไทยคู่ฟ้า เข้าพบ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ก่อนจะให้สัมภาษณ์สั้นๆถึงการนัดพบในครั้งนี้จะพูดเรื่องปรับ ครม.ด้วยหรือไม่ว่า “หู้ย ผมต้องบอกคุณเหรอ” เมื่อถามว่าหากนายกฯอยากเปลี่ยน รมว.มหาดไทย ยังเป็นอำนาจของนายกฯหรือไม่ นายอนุทินถึงกับร้องเสียงสูงว่า “เห้ย มันไม่ใช่ อันนี้มันเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาล ถ้ามีหารือปรับตำแหน่งในโควตาพรรคร่วมรัฐบาล เป็นการหารือระหว่างหัวหน้าพรรคกับหัวหน้าพรรค” เมื่อถามย้ำว่าจบตั้งแต่ดีลช็อกมินต์แล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า “ยังยืนยันเช่นนั้น”
พบนายกฯมั่นใจ มท.1 ยังเหนียว
หลังใช้เวลาหารือราว 1 ชั่วโมงครึ่ง นายอนุทินเปิดเผยว่า ไม่ได้พูดคุยเรื่องการปรับ ครม. แต่คุยเรื่องงานเยอะมาก เมื่อถามว่าเป็นสัญญาณว่ายังได้นั่งเก้าอี้ รมว.มหาดไทยต่อใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า “ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ” เมื่อถามว่ากังวลเก้าอี้มหาดไทยหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า “ผมเคยแสดงความกังวลด้วยหรือ” แต่นายกฯคงให้สัมภาษณ์ในวันที่ 17 มิ.ย. วันนี้ยังไม่ได้พูดปรับ ครม. หรือยึดเก้าอี้มหาดไทยคืน ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เคยบอกว่าต้องยึดกระทรวงมหาดไทยกลับมาให้พรรค พท.ดูเป็นการพูดในฐานะส่วนตัว เป็นนักวิเคราะห์การเมือง แต่คนที่มีหน้าที่รับผิดชอบรัฐบาลคือนายกฯ เมื่อถามว่าอะไรทำให้มั่นใจว่าจะได้ดูกระทรวงมหาดไทยต่อ นายอนุทินกล่าวว่า “ดูจากท่าทีการสนทนา เพราะตอนแรกนึกว่าท่านจะพูดเรื่องนี้ ท่านเรียกไปพรีเซนต์งาน ถามอะไรมาตนก็ตอบทุกเรื่อง ยอมรับว่าคิดเต็มหัวเลย แต่ก็ไม่ได้พูด ไม่ได้ถามเรื่องปรับ ครม. ยังสั่งงานข้ามปีอยู่เลย ก่อนจะเดินลงมาก็ยังบอกว่าเรื่องปรับ ครม.ไม่มีการพูดกันนะ เมื่อถามว่าเวลานี้พูดดังๆให้ชัดเจนว่าเก้าอี้ รมว.มหาดไทย ยังเป็นของพรรค ภท. นายอนุทินตอบมั่นใจว่า “พูดได้”
กก.บห.ภท.โดนยกแผงแจงฮั้ว สว.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวน ชุดที่ 26 ซึ่งเป็นกรรมการร่วมระหว่างกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ออกหนังสือเรียกตัวบุคคลเข้าชี้แจงต่อคณะกรรมการฯกรณีฮั้วเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) อีกจำนวน 20 คน ลอตนี้เป็นบุคคลสำคัญในพรรคการเมืองหนึ่ง ได้แก่ ผู้นำพรรค 2 น. และกรรมการบริหารพรรคหลายราย ผู้อยู่ในข่าย อาทิ นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บัญชีรายชื่อ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ นายธนยศ ทิมสุวรรณ สส.เลย นายเจเศรษฐ์ ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส.สตูล เป็นต้น ซึ่งจะมีการสรุปสำนวนว่ามีมูลพอส่งศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งต่อไปหรือไม่
“อนุทิน” แอ่นอกรับเจอหมายเรียก
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า “ผมนี่ไงบิ๊กภูมิใจไทยที่โดนหมายเรียก หมายส่งไปที่บ้าน จ.บุรีรัมย์ ได้รับหมายเรียกตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ยืนยันจะไปชี้แจง แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด เราทำตามกฎหมาย เคารพกฎหมายมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรเสียหาย แต่ในส่วนจะชี้แจงอย่างไรเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมาย ต้องใช้ที่ปรึกษาเกี่ยวกับทางกฎหมาย ต้องใช้ทนายความ เพราะเราไม่ได้มีความรู้ลึก แต่พร้อมให้ความร่วมมือทุกอย่างไม่ต้องกังวล” เมื่อถามต่อว่าเป็นการส่งสัญญาณรอยร้าวของรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่เกี่ยว แต่ถามว่าเป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ มั่นใจเป็นเรื่องการเมือง แต่มาจากใครหรือมายังไง คนในวงการรู้กันอยู่แล้ว แต่เราพูดไม่ได้ สู้ตามกฎหมายไป มั่นใจไม่ได้ทำอะไรผิด
ข้องใจตั้งโจทย์อยากยุบพรรค
นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ตนและนายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาฯ ได้รับหมายให้ไปชี้แจงคดีฮั้วเลือก สว.แล้ว หนังสือที่ส่งมาถึงตนและนายภราดรเป็นข้อความเดียวกันหมด ยกเว้นชื่อ การต่อสู้คดีดังกล่าวจะหารือกันในพรรคภูมิใจไทยวันที่ 16 มิ.ย.ว่า จะมีแนวทางต่อสู้อย่างไร เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เป็นเรื่องส่วนตัว แต่เกี่ยวกับพรรค มองว่าหนังสือที่ กกต.ส่งไปยังกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย อาจมีโจทย์อยากยุบพรรคหรือไม่ เพราะจากการพิจารณาเนื้อหาที่เป็นข้อกล่าวหา ไม่มีรายละเอียดใดๆ ระบุพฤติการณ์ชัดเจน ยืนยัน ไม่ทำผิดตามที่กล่าวหา จึงไม่ได้กังวลใจ เมื่อถามว่ามองว่าโยงกระแสข่าวปรับพรรคภูมิใจไทยออกจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายกรวีร์ตอบว่า คิดว่าไม่เกี่ยวกัน อาจเป็นแค่จังหวะที่เกิดขึ้นพร้อมกัน
ห่วงลงท้ายเป็นมวยล้มต้มคนดู
น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กล่าวถึงกรณี กกต.ออกหมายเรียกสอบ สว.ที่มีส่วนข้องคดีฮั้ว สว.อย่างต่อเนื่องว่า ทราบว่า ส่งหมายเรียกไปลอตที่ 7 แล้ว ฝาก กกต. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ใช้ความกล้าหาญดำเนินการเรื่องนี้เอาตัวผู้บงการมาลงโทษ นี่คือคดีประวัติศาสตร์ ไม่เคยเกิดมาก่อน มี สว.ถูกแจ้งข้อกล่าวหาเกินครึ่งสภา ส่วนล่าสุดที่มีการออกหมายเรียกกรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทยด้วยนั้น วิญญูชนสามารถทราบได้ว่า ความเชื่อมโยงนี้ โยงตั้งแต่สี สัญลักษณ์ พฤติกรรม การกระทำ การลงมติสอดคล้องไปทางเดียวกัน แต่รอความกล้าหาญของผู้ทำคดีนำผู้เกี่ยวข้องมาลงโทษ อย่าเป็นมวยล้มต้มคนดู
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่