ต้องยอมรับความจริงประการหนึ่งว่า ข่าวคดี “หวย 30 ล้านบาท” ที่ยืดเยื้อขึ้นหน้า 1 มาหลายเดือนแล้วนั้น เป็นข่าวยอดฮิตแห่งปีข่าวหนึ่งทีเดียว
ผมเคยถามหัวหน้าข่าวไทยรัฐของเราว่า ทำไมพาดหัวหน้า 1 ทุกวัน หัวใหญ่บ้าง หัวเล็กบ้าง ติดต่อกันไม่หยุด?
ได้รับคำตอบว่า ฝ่ายจำหน่ายยืนยันมาว่าเป็นข่าวที่ทำให้หนังสือขายดี ขอให้ตามข่าวทุกวัน อย่าให้ขาดหรือตกหล่นเป็นอันขาด
มีวันหนึ่งผมมีโอกาสไปที่ไทยรัฐทีวีก็เลยถามน้องๆที่เป็นหัวหน้าข่าวทีวีว่า ทำไมเกาะติดข่าวนี้ทุกวัน แถมเกาะซะยาวเชียวในแต่ละวัน
ก็ได้รับคำตอบในทำนองเดียวกันว่า เป็นข่าวที่มีคนติดตามดูมากที่สุด ช่วงที่ออกอากาศรายงานข่าวนี้เรตติ้งจะพุ่งปรี๊ดเลย ขนาดข่าว
คุณป้าใช้ขวานทุบรถที่มาจอดขวางหน้าบ้านที่ว่าแรงมากยังสู้ไม่ได้เลย
เรตติ้งคนดูในกรุงเทพฯค่อนข้างจะสูสี ข่าวความคืบหน้าเรื่องหวย 30 ล้าน กับข่าวทุบรถ แต่สำหรับต่างจังหวัดคนละเรื่องเลย เรตติ้งหวย 30 ล้านพุ่งกระฉูด ชนิดเรตติ้งคุณป้าทุบรถต้องชิดซ้าย
ดังนั้น ในการแถลงข่าวเกี่ยวกับคดีนี้ของท่าน ผบ.ตร. พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เมื่อเวลาบ่ายโมงของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ซึ่งมีการถ่ายทอดสดและรายงานสดโดยโทรทัศน์หลายช่อง จึงน่าจะมีแฟนๆ ติดตามอย่างมากมายเช่นเดียวกัน
ถ้าจะถามว่าเหตุใดผู้คนทั่วๆไปจึงให้ความสนใจเรื่องนี้มาก...คำตอบข้อแรกเลย ก็เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับหวย หรือลอตเตอรี่ ซึ่งเป็นความหวังและความฝันของคนไทย
...
ข่าวอะไรๆที่เกี่ยวกับลอตเตอรี่มักจะขายดีเสมอ
ยิ่งเป็นข่าวเกี่ยวกับการถูกรางวัลที่ 1 แล้วมีคนมาแจ้งความตัดหน้าว่าของเขาหายไป ของเราอาจกลายเป็นของโจร ยิ่งเป็นที่สนใจมากเพราะคนไทยต่างก็มีความฝันที่จะถูกรางวัลที่ 1 กันทั้งนั้น
ย่อมจะอดคิดไม่ได้ว่า ถ้าเราถูกแล้วโดนอย่างนี้ หรือเกิดกรณีแบบนี้จะต้องทำยังไง ก็เลยต้องอ่านข่าวไว้ก่อน เผื่อเป็นกรณีตัวอย่าง
ขณะเดียวกันพออ่านข่าวไปเรื่อยๆก็เหมือนได้ดูมวยถูกคู่ จึงแบ่งฝักแบ่งฝ่ายออกเชียร์ทั้งครูปรีชาและหมวดจรูญ มีการโพสต์ มีการคอมเมนต์ในโซเชียลอย่างท่วมท้น
แม้คนไม่ซื้อหวยเลยอ่านแล้วก็รู้สึกเหมือนดูมวยคู่ใหญ่ไปด้วย จึงตามอ่านตามลุ้นว่ามวยคู่นี้จะลงเอยอย่างไร?
แต่ลงท้ายที่ท่าน ผบ.ตร. ออกมาแถลงดูเหมือนว่า มวยคู่นี้จะยังไม่จบ และคดีนี้ก็คงจะยืดเยื้อต่อไปอีก
เพราะท่าน ผบ.ตร.ไม่ได้ฟันธงว่าใครผิดใครถูก หรือหวยชุดนี้เป็นของใคร ซึ่งก็ถูกต้องแล้วที่ท่านไม่ฟันธง เพราะเป็นเรื่องของศาลที่จะต้องว่ากันอีกยาว
หน้าที่ของตำรวจก็คือ พิจารณาดูว่า การแจ้งความของคู่กรณีใน 2 ครั้งแรกเป็นการแจ้งความเท็จหรือไม่? ทำให้ผู้อื่นเสียหายหรือไม่?
เมื่อท่านมีหลักฐานว่า ครูปรีชาให้การไม่ตรงกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ก็ถือเป็นการแจ้งความเท็จ จึงดำเนินคดีอาญาขออำนาจศาลจับกุม ฐานแจ้งความเท็จดังที่เป็นข่าว
ซึ่งก็ยังต้องเสนอไปให้อัยการดำเนินการฟ้องร้องและขึ้นสู่การพิจารณาของศาล และก็ยังไม่ได้แปลว่าครูปรีชาผิด ยังจะสู้ได้อีก 3 ศาล ตามขบวนการยุติธรรม
ในขณะที่คดีทางแพ่งที่มีการฟ้องร้องกันอยู่ก็ต้องใช้เวลา และอาจต้องรอการตัดสินทางคดีอาญาเสียก่อนด้วยซ้ำ
นักกฎหมายบางท่านบอกว่า อาจต้องใช้เวลาอีก 4-5 ปี กลายเป็นมวยมาราธอนไปโน่นเลย
ใครที่มีการเดิมพันอะไรกันไว้คงต้องอดใจรอไปอีกพักใหญ่ๆ
ในขณะที่เรตติ้งข่าวไม่ว่าหนังสือพิมพ์ ทีวี หรือโซเชียลก็คงจะค่อยๆลดลง เพราะใครจะไปตามไหวตั้ง 4-5 ปีที่ว่า
นอกจากคดีหวย 30 ล้านแล้ว ยังมีอีกหลายๆคดีที่ประชาชนสนใจ และอาจต้องใช้เวลานานเหมือนกัน ในการรอคอยอย่างเช่นคดีเศรษฐีล่าเสือดำ เป็นต้น ท่านที่ติดตามคดีนี้คงต้องเตรียมตัวทำใจเอาไว้บ้าง
ก็เอาเถอะ ที่เป็นเรื่องของศาล จะต้องรอนานแค่ไหน เราก็รอได้ แต่บางเรื่องตัดสินได้เร็ว เพราะไม่ต้องขึ้นศาลก็อยากให้เร็วๆหน่อย
อย่างกรณี “นาฬิกายืมเพื่อน” แค่ผลการพิจารณาของ ป.ป.ช. ก็ถือเป็นข้อยุติแล้ว เพราะฉะนั้น อย่าให้รอนานนักนะครับ ป.ป.ช.
“ซูม”