รัฐบาลท่านบอกว่า ตอนนี้คนไทยยังมีรายได้ระดับปานกลาง ปีละสองแสนบาท ท่านจึงพยายามผลักดันให้ยกระดับให้มีรายได้ขั้นสูง..ทัดหน้าเทียมตานานาอารยประเทศ
ซึ่งก็น่าจะเกี่ยวข้องกับมาตรฐานไทยแลนด์ 4.0
แต่เป้าหมาย..สองประการนั้น ดันไปมีผลกระทบกับแรงงานต่างประเทศ ที่ยังไม่มีใบอนุญาต ผลที่ตามมาก็คือ ตอนนี้แรงงาน พม่ามอญเขมรลาว ทะลักไหลออกนอกเขตแดนไทย
การทำมาค้าขาย ซึ่งยักแย่ยักยันมาหลายปี ปีนี้ทำท่าจะลืมตาอ้าปาก ตัวเลขการขยายตัวเศรษฐกิจจะถึง 3
แต่ผลจากการขาดแรงงาน การค้าขายจะตกต่ำ ตัวเลขจะไปไม่ถึง 3
ฝ่ายไม่ชอบหน้ารัฐบาล ก็ได้ดี ขี่แพะไล่ ทหาร คิดได้แค่นี้เอง
ผมเข้าใจเจตนาดีของรัฐบาลครับ..ท่านตั้งใจทำบ้านเมือง ที่มีปัญหาสุมอยู่มากมาย ให้เข้าที่ แต่ความตั้งใจดีนั้น ก็ไม่แน่นักว่า ผลที่ออกมาจะดีด้วย
เรื่องของแรงงานต่างชาติ..เดิมทีเราก็ละล้าละลัง จะยอมให้เขาเข้ามาแย่งงานคนไทย แต่ระยะหลังดูจะเข้าที่ อยู่กันด้วยดี ที่ไหนไม่มีแรงงานมอญพม่าฯ ก็ดูจะแปลกๆแปร่งๆไป
มาทำอะไรก็ให้ทำ เปิดช่อง เปิดเวลาให้ขอใบอนุญาต แต่ปัญหาที่ยังมี ทำไมจึงมีแรงงานเถื่อนอยู่มาก
ผมมองว่า มีนัยของความตั้งใจให้มีแรงงานเถื่อน อยู่หลายประการ
ประการแรก แรงงานเถื่อน อำนาจต่อรองไม่มี นายจ้างจะกดขี่ขูดรีดจ้างถูกแค่ไหนก็ได้ ประการต่อมา เป็นบ่อเงินบ่อทองของเจ้าหน้าที่ตักตวงได้ทั้งฝ่ายนายจ้าง ทั้งฝ่ายลูกจ้าง
เพื่อนผม แถวมหาชัย แม่กลอง มีเรื่องเศร้าๆ นับเรื่องไม่ถ้วน เล่าให้ฟังอยู่เรื่อยๆ
สิ้นปี คิดบัญชีจ่ายเงินกันเรียบร้อย ลูกจ้างซื้อทองใส่คอ เหลือเงินอีกก้อน แต่งเนื้อตัวโก้ ขอลานายจ้าง จะออกเดินทางไปเยี่ยมบ้านเกิด ชั่วโมงเดียว เขาก็ร้องไห้กลับมาบอกว่า ทองและเงินที่ติดตัว ถูก ปล้นไปหมดแล้ว
...
นี่ว่ากัน ถึงแรงงานไม่มีใบอนุญาต ส่วนพวกที่มี ก็จะเจอข้อหาอะไรต่อมิอะไร ที่ไม่เคยรู้จัก แต่ลงตัวตรงที่ มีเงินเท่าไหร่ เอามาให้กู
ความรู้สึก เจ็บลึก หวาดกลัว ประดามีเหล่านี้แหละครับ ทันทีที่รัฐบาลมีประกาศคาดโทษแรงงานเถื่อนเหล่านี้ จึงหิ้วกระเป๋าหนีกระเจิดกระเจิง
ผมว่ารัฐบาลท่านน่าจะรู้ การทำให้แรงงานเถื่อน เป็นแรงงานไม่เถื่อนนั้นทำง่ายจะตาย ถ้านึกว่าเขาเป็นเหมือนลูกเหมือนหลาน
ติดขัดตัวบทกฎหมายข้อไหน ก็ช่วยประสาน...เจ้าหน้าที่ไม่ใช่มีไว้เพื่อจับผิด ต้องมีไว้ช่วยให้พวกเขาไม่ผิด
บ้านเมืองสมัยโบราณ ใครแข็งแรงกว่า ก็ยกทัพไปโจมตีกัน ชนะก็ยึดเมือง กวาดต้อนเอาผู้คนเอามาเป็นกำลังเมือง ทางเหนือมีสำนวน หยิบผักใส่ซ้า หยิบข้าใส่เมือง
ลาวลุ่ม ในลาวหรือในอิสานบ้านเฮา เดิมทีก็มีประเพณี “ตีข่า” ใช้กำลังคนถืออาวุธ เจอก็จับตัวเอามาเป็น “ข้า” หลายเผ่า มีคำนำหน้า “ข้า” เช่นข้าหมุ เพี้ยนเป็น ข่าหมุ หรือ ขมุ
แต่บ้านเมืองสมัยใหม่..ไม่อยากเชื่อว่า ประพฤติตรงกันข้าม มีผู้คนต่างบ้านต่างเมืองอาสามาเป็นแรงงานให้..กลับหาเรื่องผลักไส
บ้านเมืองที่ทำมาค้าขายสะดุด..เพราะขาดแรงงาน โอกาสจะยกระดับให้พัฒนา ก็คงยากขึ้นไปอีก เป้าหมายไทยแลนด์ 4.0 จะไปได้ถึงไหน ผมอยากรู้จริงๆ.
กิเลน ประลองเชิง