ยุทธศาสตร์ส่วนตัว

การประชาสัมพันธ์ภาครัฐนอกจากยังอ่อนประสบการณ์แล้ว การแถลงข่าวแบบดิบๆสุกๆเกิดความผิดพลาดในการทำความเข้าใจกับชาวบ้าน จะเป็นการเพิ่มภาระหนักให้รัฐบาลเป็นสองเท่า ดูอย่างเรื่อง หอชมเมือง กทม. นั่นปะไร ของเดิมก็คือ มูลนิธิหอชมเมือง ที่มีคนมีชื่อเสียงเป็นกรรมการมูลนิธิอยู่หลายคน มีความคิดริเริ่มที่จะสร้างหอชมเมืองเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงได้ทำเรื่องขอเช่าที่ไปยัง กรมธนารักษ์ ตามระเบียบทั่วไปแต่มูลค่าการก่อสร้างเกินกว่า 1 พันล้านบาท คืออยู่ที่ประมาณ 4 พันล้านบาท กรมธนารักษ์จึงทำเรื่องเพื่อขออนุมัติ ครม.ตามระเบียบ ส่วนเหตุผลทำไมไม่มีการเปิดประมูลให้เช่าพื้นที่บริเวณดังกล่าว ก็เพราะเป็นโครงการเพื่อสาธารณประโยชน์ที่มีมูลค่าไม่เกิน 5 พันล้านบาทและเป็นโครงการที่ไม่มีการแข่งขัน ภาคเอกชนพร้อมใจที่จะหา เงินมาสร้างเพื่อสัญลักษณ์ ไม่เกี่ยวกับรัฐ ซึ่งกรมธนารักษ์มีส่วนเกี่ยวข้องเฉพาะการให้เช่าที่ดินเท่านั้นเอง อธิบายกันให้เข้าใจง่ายๆก็คงไม่ต้องต่อความยาวสาวความยืดให้เสียเครดิตรัฐบาล

กรณี กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศรายงาน การค้ามนุษย์ ออกมา ซึ่งเป็นไปตามคาดคือ ไทยยังอยู่ในการจัดอันดับเทียร์ 2 เท่าเดิม ไม่มีการลดอันดับความรุนแรงในการค้ามนุษย์ ทั้งๆ ที่ภาครัฐพยายามจะแก้ไขปัญหาทั้งเรื่องของข้อกฎหมายและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่่เกี่ยวข้อง เหตุผลเดียวที่ยกมาเป็นข้ออ้างไม่ลดอันดับให้ไทยเพราะไม่มีการลงโทษผู้กระทำความผิด

รัฐตั้งใจแก้ปัญหาแทบล้มแทบตาย ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ไขปัญหาโดยเฉพาะ แต่กลับไม่เข้าตากรรมการ เวลาเดียวกันกับที่มีการประกาศรายงานการค้ามนุษย์ เฟซบุ๊กสถานทูตสหรัฐฯได้เปิดเผยถึงการมอบรางวัลบุคคลดีเด่น ทิปฮีโร่ ได้รับการยกย่องจากผลงานป้องกันการค้ามนุษย์ ซึ่งมีคนไทยผู้ก่อตั้ง และ ผอ.โครงการฮัก วีรวรรณ มอสบี รวมอยู่ 1 ใน 8 ของบุคคลที่ได้รับรางวัลครั้งนี้ด้วย

เรื่องของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะลงเล่นการเมือง หรือจะมีการตั้งพรรคทหารขึ้นมารองรับการกลับมาเป็น นายกฯลุงตู่ อีกกระทอก ไม่ใช่อื่นไกลที่ไหน ก็บรรดาลิ่วล้อคนกันเองทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น ไพบูลย์ นิติตะวัน ที่ออกมาเชียร์นายกฯลุงตู่เป็นเจ้าแรก หรือสดๆร้อนๆ สมพงษ์ สระกวี พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร และ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ที่เพิ่งลาออกจาก สปท. แสดงความมั่นอกมั่นใจว่าจะมีการตั้งพรรคการเมืองขึ้นมาต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ เกาะกระแสการเมืองไม่ลืมหูลืมตา

กลายเป็นมรสุมลูกใหม่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ กลืนไม่เข้า คายไม่ออก จะรับลูกหรือก็ใช่ที่ เพราะการเมืองยังไม่แน่ไม่นอน จะยืนยันว่าไม่เล่นการเมืองเต็มปาก เกิดสถานการณ์เปิด ให้ต้องลงเล่นการเมืองจริงๆ ก็จะต้องมานั่งแก้ตัวให้เมื่อยตุ้มอีกหลายวัน

ทั้งหมดนี้เป็นแค่น้ำจิ้ม ที่รัฐบาล คสช.และ พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งคณะ คงต้องหันกลับมาทบทวนยุทธศาสตร์ส่วนตัว ประเภทไปไหนมาสามวาสองศอกไม่ว่าจะลงเล่นการเมืองหรือไม่ก็ตามมีโอกาสที่จะถูกการเมืองเล่นแบบยกเดียวจอดเอาง่ายๆ.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th