คนเขียนเป็นชาวบ้านคนหนึ่งที่ชื่นชมและให้กำลังใจการทำงานของตำรวจมาโดยตลอด เพราะเคยมีเรื่องเดือดร้อน ตำรวจช่วยตามจับคนร้ายได้ ตั้งแต่นั้นมาติดตามดูข่าวผลงานของตำรวจมาโดยตลอด
ตำรวจถือเป็นหน่วยงานที่มีผลงาน มีข่าวตามสื่อให้ติดตาม แม้จะมีข่าวดีบ้าง ไม่ดีบ้าง
สิ่งหนึ่งที่ไม่สบายใจคือ นำผู้ต้องหามานั่งแถลงข่าว ปล่อยให้สัมภาษณ์ ไม่ค่อยได้ประโยชน์ เป็นการละเมิดสิทธิ บางครั้งตำรวจหยอกล้อผู้ต้องหา เกินไป น่าคิดว่าความรู้สึกของญาติผู้สูญเสียจะรู้สึกอย่างไร
เป็นเรื่องสื่อหยิบมาเล่นได้ง่าย
เห็นได้ชัด คดี น.ส.เปรี้ยว กับพวก รับไม่ได้จริงๆ เคยเห็นในละครซีรีส์ ตำรวจสอบปากคำผู้ต้องหา ต้องนั่งในห้องเงียบๆ สบตาผู้ต้องหาเวลาตอบคำถาม เพื่อจับพิรุธ แต่ น.ส.เปรี้ยว เป็นคนดังอย่างนั้นหรือ ตำรวจถึงได้ดูแลเป็นอย่างดี ปล่อยให้ผู้ต้องหาประแป้งทาหน้าเสริมความงาม ชู 2 นิ้วถ่ายภาพกับตำรวจหน้าตาเฉย ไม่ได้สำนึกในหน้าที่เลยหรือว่าตนเองมีหน้าที่อะไร ความรู้สึกของคนที่เขาต้องสูญเสียคนรักจะเป็นอย่างไร
สิ่งเหล่านี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับไม่ได้ จนต้องมีคำสั่งเน้นย้ำไปหลายครั้ง ห้ามทำ ไม่เหมาะสม สั่งถึงขนาดตำรวจต้องตอบสื่ออย่างไร ตอบได้แค่ไหน แต่ตำรวจก็มักพลั้งเผลอผิดพลาดบ่อย
ที่น่าหนักใจยิ่งกว่าคือ การปล่อยให้สื่อเข้าไปสัมภาษณ์ผู้ต้องหาเอง อย่างไม่มีขอบเขต
บางทีถึงขนาดเอาไมโครโฟนจ่อปากผู้ต้องหาให้พูด ทั้งที่เป็นสิ่งไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะอาจทำให้เสียรูปคดีได้ ทำให้มองว่า ผู้ต้องหามีโอกาสพูดอะไรก็ได้ผ่านสื่อ มั่นใจได้อย่างไรว่าสื่อจะกรองได้หมด
ทำขนาดนั้นเพื่ออะไร
...
อย่างล่าสุดกรณีผู้ต้องหาคดีระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. นำตัวไปชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ ตั้งโต๊ะแถลงข่าว จัดเตรียมไมโครโฟนให้ผู้ต้องหาตอบคำถามสื่อ สุดท้ายกลายเป็นการเปิดช่องให้ผู้ต้องหาโจมตีรัฐบาล อ้างความเกลียดชังส่วนตัวที่มีต่อรัฐบาลรัฐประหาร
ทั้งๆที่ไม่เกี่ยวกับคดี ผู้ต้องหารอโอกาสพูดใส่ร้าย
ทำตัวเป็นฮีโร่ ทั้งที่เป็น “มือบึ้ม” ก่อเหตุวางระเบิดป่วนเมืองไม่ต่ำกว่า 6 ครั้ง
กำลังจะเป็นแต้มบวก ผลงานดี ตามจับกุมคนวางระเบิดได้ ทั้งที่เป็นเรื่องยาก แต่เกือบจะเป็นแต้มลบของรัฐบาล เพราะการปล่อยผู้ต้องหาพูดใส่ร้ายรัฐบาล ยังดีที่ ผบ.ตร.รีบสั่งเบรก ไม่ได้สั่งผู้ต้องหาให้สัมภาษณ์
เป็นสิ่งต้องห้าม ไม่อย่างนั้นผู้ต้องหาถือโอกาสพูดยาวกว่านี้
หากจะสัมภาษณ์เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยประชาชน แค่สัมภาษณ์ตำรวจคนจับน่าจะเพียงพอ
ไม่ใช่ปล่อยผู้ต้องหาออกมาหาเสียง.
“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th