มาถึงวันนี้ต้องยกย่องการตัดสินใจของ กฤษฎา บุญราช ที่ใช้ อำนาจ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งให้ สืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้ามาช่วยราชการกระทรวงมหาดไทยเป็นการประจำ ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2560 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง....
ทั้งนี้ จากผลพวงของเหตุการณ์เลวร้ายในคดีค้ามนุษย์ มีการบังคับค้ากามในจังหวัดและ เหยื่อกาม เองที่ระบุว่ามีข้าราชการใหญ่ในระดับ ผู้ว่าราชการจังหวัด เป็นผู้ใช้บริการอันนั้นเสียเอง ถึงแม้จะยังไม่มีการพิสูจน์ชัด แต่การที่มีเหตุการณ์อันฉาวโฉ่เกิดขึ้นในจังหวัดขนาดนี้ เห็นที ผู้ว่าฯสืบศักดิ์ จะอยู่แม่ฮ่องสอนต่อไปอีกไม่ได้แล้ว และที่น่าหนักใจก็คือมือระดับ รองผู้ว่าฯ ที่ต้องรักษาการแทนนั้นจะไหวหรือ....
อย่าหาว่าบังอาจถ้าขอเสนอแนะว่าในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานและผู้คนกำลังสูญเสียขวัญและกำลังใจโดยเฉพาะสตรีและเด็กเช่นนี้ ถ้าทางราชการจะเยียวยาความรู้สึก โดยส่งคนที่เหมาะสมไปดูแล อย่างเช่นย้าย สายพิรุณ น้อยศิริ จากผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทยไปเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดหญิงที่เมืองสามหมอกเสียอีกคน แล้วให้ ผู้ว่าฯสืบศักดิ์ ไปนั่งเก้าอี้ผู้ตรวจฯไปพลางๆ ถ้าพ้นมลทินค่อยหาตำแหน่งเหมาะๆให้แสดงฝีมืออีกทีเพราะถึงอย่างไร แมวดำร่วมแก๊ง ก็ต้องช่วยกันเต็มพิกัดอยู่แล้ว....
อย่าเพิ่งส่ายหน้าว่า ผู้ตรวจสายพิรุณ เธอเหลือเวลาราชการเพียง 6 เดือน เพราะ ผู้ว่าฯที่ดี นั้นจะทำงานกี่วันก็สามารถตรึงตราอยู่ในใจคนได้ เหตุการณ์ที่ผ่านมาก็เพราะว่า แก๊งแมวดำ กีดกันไม่ให้ตำแหน่งเธอเอง ทั้งๆที่ประสบการณ์งานพัฒนาชุมชนที่เป็นพื้นฐานจะสามารถช่วยแก้สถานการณ์ได้มาก....
ไหนจะมี กลุ่มองค์กรด้านสตรีและเด็ก ที่ออกมาเคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างจริงจัง ก็ยิ่งจะเป็นแรงหนุนให้มีการกวาดล้างทำความสะอาดคราบไคลแห่งความชั่วร้ายที่สะสมมายาวนานที่แม่ฮ่องสอน หลังสิ้นยุค ผู้ว่าฯนฤมล ปาลวัฒน์ การได้ ผู้ว่าฯหญิง ไปอีกสักครั้งเป็นการตอบโจทย์ที่ชัดเจน....
ส่วนกระบวนการสอบสวนของกระทรวงมหาดไทยที่ให้ ประยูร รัตนเสนีย์ รองปลัดกระทรวงไปดำเนินการนั้น หลายฝ่ายจับจ้องด้วยความไม่ค่อยจะศรัทธาอยู่แล้ว หาว่าจะให้ แมวดำ ไปสอบกันเองมันจะได้อะไรขึ้นมา ผู้ตรวจฯแมวแดง ที่นั่งบี้สิวอยู่ในกระทรวงเป็นกุรุสทำไมไม่มอบหมายให้ทำงานนี้ เป็นงั้นไป....
เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ มหาดไทย เสียรังวัดไปบานตะเกียง ในขณะที่ฝ่ายตำรวจแท้ๆที่ทำความผิดกันเป็นขบวนการแต่ระดับ ผู้บังคับบัญชา ทำตัวเป็น จ่าเฉย ไม่รู้ร้อนรู้หนาว แต่เมื่อล่วงเลยมาถึงตอนนี้ ฝ่ายตำรวจ ก็เห็นทีจะต้องเจอภาวะเก้าอี้ร้อนเหมือนกันทั้ง พลตำรวจตรีปรีชา วิมลไชยจิต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน กับ พันตำรวจเอกสมเกียรติ แสวงสุข ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน เมื่อมารดาของเหยื่อกามไปร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เข้าให้แล้ว....
เรื่องราวทั้งหมดนี้ทั้ง มหาดไทย ทั้ง ตำรวจ ทำยังไงก็ได้ให้จบลงสวยๆคือลงโทษคนทำผิดทุกระดับ รวมทั้ง คนคุมนโยบาย ด้วย เพราะทุกสายตาที่จับจ้องมองเขาไม่มีศรัทธาเอาเสียเลย....
“ซี.12”