ถ้าใครติดตามการอภิปรายในการประชุมสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศในวาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ควบคุมสื่อเมื่อวันก่อนแล้วคงจะได้ยินได้ฟังและเห็นสิ่งที่น่าอดสูทางความคิดของใครหลายคนในสภานั้น
ไม่ขอเอ่ยถึงในรายละเอียด แต่น่าสังเวชเหลือเกินสำหรับคำอภิปรายของพวกหัวสี่เหลี่ยมที่ขังตัวเองอยู่ในระบบราชการทั้งที่เกษียณอายุออกมาแล้ว
เอ่ยชื่อก็ได้อย่างเช่น พลเอกธวัชชัย สมุทรสาคร นายทหารที่เอาตัวเข้าคลุกคลีทางการเมืองหลายรูปแบบแต่ไม่เคยประสบความสำเร็จ หรืออย่าง พลตำรวจโทอำนวย นิ่มมะโน นายตำรวจที่ดูเหมือนท่าดี แต่ทีเหลวมาแล้วหลายครา
มติ สปท. 141 ต่อ 13 และงดออกเสียง 17 ที่ให้เสนอร่าง พ.ร.บ. ติดหนวดเผด็จการหรานี้ไปให้แม่น้ำสายอื่นเช่น ครม.หรือ สนช. ดำเนินการต่อนั้นไม่น่าแปลกใจ
เพราะขีดความสามารถหรือศักยภาพของ สปท.นั้นมีอยู่แค่นี้และเป็นพฤติกรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่รับคำบัญชามาโยนหินถามทางเรื่องโน้นเรื่องนี้จน แม่น้ำสาย สปท. แทบจะตื้นเขินไปด้วยหินและอุดมไปด้วยเศษสวะแทบทั้งสิ้น
แม่น้ำสายอื่นต้องระวังไว้ด้วยว่าถ้าปล่อยให้น้ำเน่าเสียจากแม่น้ำสาย สปท.เข้าไปปนเปื้อนมากๆเข้า ตัวเองจะพลอยสกปรกเลอะเทอะและเน่าเหม็นไปด้วย
เขียนอย่างนี้ถ้ากฎหมายฉบับนี้ใช้บังคับเมื่อไรจะถูกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพหรือเปล่า
ทีนี้มาเข้าเรื่องที่ค้างอยู่ถึงตัว กรรมาธิการ ในคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านสื่อสารมวลชน
นอกจากคนที่มีตำแหน่งเป็นประธาน รองประธาน ที่ปรึกษาเลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการ รวม 7 คนแล้ว ยังมีกรรมาธิการ อีก 5 คน คือ พลเรือเอกยุทธนา เกิดด้วยบุญ นายทหารเรือนอกราชการที่เคยรับราชการด้วยตำแหน่งผู้ช่วยหรือรองมาทั้งชีวิต เช่น ผู้ช่วยปลัดบัญชีทหารเรือ รองปลัดบัญชีทหารเรือ รองผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ผู้ช่วยเสนาธิการทหารเรือฝ่ายยุทธการ รองเสนาธิการทหารเรือ และเกษียณในตำแหน่ง ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพเรือ
...
ในราชการพลเรือนก็มี นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต อดีตเลขาธิการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กับ นางเมธินี เทพมณี อดีตปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ที่ตกเก้าอี้ด้วย ม.44 ในช่วงแรกแล้ว กลับมาเป็นเลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ด้วยมติ ครม.ใน 1 ปีเศษให้หลัง คนที่ 3 คือ นายอภิชาต จงสกุล อดีตเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 6 ปีและอดีตอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน 2 ปี
คนสุดท้ายมีกลิ่นไอสื่อเคยเป็นผู้สื่อข่าว เคยเป็นทนายความ สมาชิกวุฒิสภา และรองหัวหน้าพรรคการเมือง คือ นายสุรชัย ดนัยตั้งตระกูล
ใครมีบทบาทประการใด แสดงออกอย่างไรกับกฎหมายที่ชาวสื่อไม่ต้องการให้มากดหัวนี้เป็นเรื่องของแต่ละคน
คนที่เข้าอกเข้าใจถึงชีวิตจิตใจที่แท้จริงของสื่อและช่วยคัดค้านก็ขอขอบคุณ
ส่วนใครที่แสดงธาตุแท้ออกมาเมื่อไม่สมมาดปรารถนาในชีวิตราชการการทำงานแล้วมาระบายอารมณ์กับสื่อก็เป็นเรื่องของคุณ.
“ซี.12”