รายงานข่าวจากเว็บไซต์ข่าว เดอะมิร์เรอร์ของอังกฤษ เผยแพร่การให้สัมภาษณ์ของ บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้ง ไมโครซอฟท์ ถึงชีวิตส่วนตัวว่า ลูกๆทั้ง 3 คนของ บิล เกตส์ เติบโตมาโดยอยู่ห่างจาก อุปกรณ์ดิจิทัล และสั่งห้ามไม่ให้แตะต้อง สมาร์ทโฟน จนกว่าจะอายุครบ 14 ปีไปแล้ว นอกจากนั้นก็ยังมีกฎเหล็กห้ามลูกๆเล่น สมาร์ทโฟน ในเวลารับประทานอาหารด้วย
ผู้ก่อตั้ง ไมโครซอฟท์ มหาเศรษฐีของโลกรายนี้ยังเปิดเผยไว้ด้วยว่า กำหนดให้ทุกคนในบ้านต้องใช้สมาร์ทโฟนอย่างมีวินัยและเหมาะสมในแต่ละวัน เพราะถือว่าถ้าเด็กเล่นสมาร์ทโฟน 1 ชั่วโมงจะทำให้มีเวลานอนน้อยลงเฉลี่ย 15.6 นาที เป็นผลวิจัยจากมหาวิทยาลัยเบอร์เบ็คประเทศอังกฤษ ที่เชื่อว่าถ้าเด็กนอนน้อยลงจะกระทบกับการพัฒนาทางร่างกายและสมองของเด็กโดยตรง
ในเวลาเดียวกัน มี นักวิชาการไต้หวัน พยากรณ์ จีนในอนาคต จะมีการพัฒนาเทคโนโลยีด้าน อี–คอมเมิร์ซ อย่างรวดเร็ว และจะแซงหน้าทุกประเทศ กลายเป็นผู้นำโลกด้านเทคโนโลยีแน่นอน อาศัยคำพูดของ แจ็ค หม่า ที่ว่า ตลาดหุ้น ระบบการชำระเงิน ระบบขนส่ง ระบบคลาวด์และบิ๊กดาต้า จะเป็นโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ ถ้าจะทำการค้าในยุคอินเตอร์เน็ต ซึ่งมีความเป็นไปได้อยู่แล้ว เพราะ จีน มีแรงขับเคลื่อนที่ประชากรจำนวนมากที่สุดในโลกนั่นเอง การจ่ายเงินที่แสนสะดวกสบายในการซื้อสินค้าออนไลน์ ไม่ต้องจ่ายผ่านบัตรเครดิตหรือมือถืออีกต่อไป
จีนมีการทดลองใช้ระบบ VR ในการซื้อขายออนไลน์ แล้ว แค่สวมแว่น VR แล้วมองหาสินค้าในร้านค้าออนไลน์ที่เสมือนร้านค้าจริง เห็นสินค้าทุกซอกทุกมุม หรือการที่จะนำระบบ AR คือช็อปปิ้งกันแบบไลฟ์สด มาใช้ในกระบวนการขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้ารวดเร็วเรียบร้อยภายใน 0.59 วินาทีเท่านั้น
...
การเรียกแท็กซี่ในจีน ส่วนใหญ่จะผ่านแอพแท็กซี่ ที่ไม่ต้องจ่ายเงินสดเพราะได้จ่ายผ่านแอพไปเรียบร้อยแล้ว ลดขั้นตอนและปัญหาต่างๆได้เยอะ ไม่ต้องมาเสี่ยงหรือมานั่งทะเลาะกันว่าจะรับหรือไม่รับผู้โดยสาร
คาดว่าจีนจะเป็นมหาอำนาจดิจิทัลในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
ท่ามกลางสงครามดิจิทัล ประเทศที่ล้าสมัยหรือต้องพึ่งพาดิจิทัลจากประเทศอื่น จะอยู่บนทางสองแพร่ง คือจะเป็นผู้ตามที่ดี และยอมรับกับความเป็นผู้ตามที่จะต้องเหนื่อยกับการอัพเดตตัวเองอยู่ตลอดเวลา
หรือจะใช้โอกาสนี้ปรับตัวเองเข้าสู่ธรรมชาติใช้ชีวิตแบบ สโลว์ไลฟ์ หันหลังให้กับเทคโนโลยีทั้งปวงชีวิตก็จะมีความสุขโดยปราศจากการกดดันใดๆ หรือจะพบกันครึ่งทางได้ทั้งความสุขและการพัฒนาที่ค่อยเป็นค่อยไป
เช่นเดียวกับนโยบายของรัฐบาล ต้องเลือกระหว่างจะกระโจนเข้าไปสู่ยุคดิจิทัลแบบเต็มตัว ไปตายเอาดาบหน้า หรือจะค่อยๆปรับตัวให้เหมาะสมกับศักยภาพของประเทศไทยในฐานะผู้ตามที่ฉลาดไม่ใช่ผู้แข่งขันที่อยู่ในลักษณะหลังชนฝา เชื่อคำโบราณจะไม่บานบุรี เดินทางสายกลางปลอดภัยที่สุด
เห็นช้างขี้อย่าไปขี้ตามช้าง.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th