โลกไร้พรมแดน...ความจริงก็คือสื่อไร้พรมแดนนั่นเอง!!
โซเชียลมีเดียยุคนี้มีอิทธิพลขนาดไหน คงไม่ต้องสาธยายให้มากความ รู้ๆ ฤทธิ์เดชกันอยู่
ความจริง-ความเท็จ กระจายเปรอะเปื้อนไปทั่ว จนแทบแยกไม่ออก
ใครใช้สื่อโซเชียลออนไลน์ ก็สามารถสวมวิญญาณนักวิจารณ์ได้อย่างอิสระเสรีในทุกบริบท!!
แม้แต่การวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลในทุกประเด็นข้อสงสัย
นักวิจารณ์ในโลกโซเชียลทั้งมีตัวตนและไม่มีตัวตน แต่พลังก็ไม่ต่างจากการยกถอนเสาหินอันแข็งแรงในชั่วพริบตา!!
ช่างต่างกันเหลือเกินกับสื่อกระแสหลัก ซึ่งต้องมีจุดยืนอยู่บนพื้นฐานของจรรยาบรรณและข้อมูลอันถูกต้องเป็นธรรม
ผู้มีอำนาจทำดีเพื่อผลประโยชน์ของชาติ จะไปกลัวอะไรกับการวิพากษ์วิจารณ์
ต่างคนต่างทำหน้าที่...ปลายทางก็คือผลประโยชน์ของประเทศและความผาสุกของประชาชน
นอกเสียจากการใช้อำนาจฉ้อฉล ปลิ้นปล้อนผลประโยชน์ชาติเท่านั้น ที่กลัวการตรวจสอบ!!
ไม่ต่างจากมุมมองของนักวิจารณ์ภาพยนตร์ มันต้องมีทั้งข้อติและชม
การวิจารณ์ก็ทำเพื่อผู้ชมคนดูให้สมกับความตั้งใจที่จะเข้าไปดูภาพยนตร์เรื่องนั้น
ขณะที่ผู้สร้างภาพยนตร์ก็ต้องพร้อมให้นักวิจารณ์ตรวจสอบ...ทั้งนี้ ก็เพื่อนำเอาข้อติชมนั้นไปปรับปรุงแก้ไขในภาพยนตร์เรื่องต่อไป
นี่ไงที่เรียกว่า “ต่างคนต่างทำหน้าที่” สุดท้ายผลประโยชน์ก็จะตกอยู่กับผู้บริโภคเต็มๆ
อนาถใจเหลือเกิน...ไทยแลนด์กำลังจะออกกฎหมายควบคุมสื่อ ตีทะเบียนคนทำสื่อ
เตรียมเข้าสู่ยุค “เผด็จการสุดโต่ง”
คนทำสื่อลุกฮือขึ้นต่อสู้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว เพราะรู้ว่าหายนะชาติกำลังจะมาเยือน
ปิดปากสื่อ ก็เหมือนปิดปากประชาชน!!