สนามบินแบกแดด ที่พลตรีกาเซม สุไลมานี ผู้นำกองกำลังชีอะห์อิหร่าน ถูกประธานาธิบดีสหรัฐฯ ...สั่งฆ่าด้วยโดรน เป็นประสบการณ์หนึ่งของสี่นักข่าวหนังสือพิมพ์จากไทย เมื่อปีพ.ศ.2524
ปีนั้น ปีที่ 13 ของประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน หลังอิรักถูกอิสราเอลบินถล่มจุดยุทธศาสตร์สำคัญ นัยว่าเป็นเตาปฏิกรณ์ปรมาณู ไม่กี่เดือน...ซัดดัมก็เชิญนักข่าวจากทั่วโลกไปดูให้เห็นกับตาว่าชาวอิรักยังอยู่ดีกินดี
15 วันในอิรัก เล่ากันสามวันไม่จบ เอาเฉพาะเรื่องสนามบิน...ผู้รับ เหมาไทย...เล่าว่า...อิรักสั่งซื้อเฮลิคอปเตอร์รบทันสมัย...ลำใหญ่ คนขายแค่เอา ฮ. ใส่เครื่องบินลำเลียงมาส่ง
ทหารอิรักเอา ฮ.ลงเอง ใช้สายสลิงผูกโยงปีกหางลำตัวแล้วเอาเครนยกลง สายสลิงขาด เจ้า ฮ.ตัวนั้นก็ให้มีอันหลุดหล่นปุ กระแทกพื้น
ต่อภาพ วันเดินทางกลับ...เขาเอารถยนต์มารับจากโรงแรม มาถึงสนามบินห้าโมงเย็น เช็กของเช็กสารพันแล้ว ไม่มีคำประกาศ หรือตัวหนังสือบอกเครื่องออกเมื่อไหร่
สองชั่วโมงแรกมีเสียง “ตุ้ม” เหมือนเสียงเอากระบองทุบถังน้ำมัน คนกลุ่มหนึ่ง ก็ฮือกันเข้าไป ทะลักปากประตู แล้วก็วิ่งหายไปในความมืดของสนามบิน
เสียงประกาศไม่มี ป้ายบอก...ก็ไม่มี เมื่อไหร่เขาจะเรียกเสียที มองไปที่ลานสนามบินแบกแดดก็มีแต่ความมืด ก็พอเข้าใจ อิรักปีนั้น เพิ่งถูกโจมตี ต้องระมัดระวัง
สามทุ่มก็แล้ว สี่ทุ่มก็แล้ว...ยังไม่ถึงคิวนักข่าวไทย...เสียง “ตุ้ม” ดัง เราทนไม่ไหว ขนของฮือกันเข้าไป หลายตุ้มก็ยังไม่ใช่คิวเราเสียที
ผมจำภาพคุณองอาจ เพื่อน นสพ.ชาวไทย (ตอนนี้ต้องเรียก “ท่าน” เป็นถึงรัฐมนตรี) รูปร่างท่านสูงโย่ง คว้าหีบอินทผลัมพะรุงพะรัง ที่ตั้งใจเอาไปฝากเพื่อน ขึ้นไหล่บ้าง หิ้วบ้าง
...
เบียดถึงช่องทางออก...มีเสียงตะโกนไม่ใช่ คุณองอาจทรุดกาย วางของ ตั้งหลัก รอต่อ
ราวห้าทุ่ม สิริรวมเวลารอก็หกชั่วโมง...สิ้นเสียง “ตุ้ม” นั้น ถึงปากช่องมีเสียง “แบงค็อก” เราก็วิ่งฝ่าความมืดไปหาเครื่องอิรักกี้–แอร์ไลน์ ลำใหญ่ที่จอดเห็นเงาทะมึนตรงหน้า ถึงเครื่องก็วิ่งขึ้นบันได เลือกหาที่นั่งตามสบาย...
ตัดภาพเก่าออก ซ้อนภาพใหม่ ขบวนรถของนายพลอิหร่าน...ที่ลงจากเครื่องกำลังแล่นออกไปนอกสนามบิน...จรวดที่นำวิถีด้วยโดรน...ก็ชนระเบิดตูม
ปฏิบัติการจองเวรกันด้วยอาวุธล้ำสมัย...ผมเสียวแทน “ท่านผู้นำ” ทุกคน โอกาสตายมีขึ้นได้ “ทุกวินาที หากทำตัวเป็นเป้าให้เขาตั้งใจฆ่า ต้องมีบันทึกช่วยจำ “ อย่าทำให้คุณทรัมป์เขาโกรธทีเดียว”
เรื่องเล่าที่สนามบินแบกแดดทำให้ผมนึกถึงสำนวนไทยโบราณ เต่าใหญ่ไข่กลบ
เต่าใหญ่ในทะเล อย่างเต่ามะเฟืองแถวหาดพังงากระบี่ เวลาจะไข่ก็คลานขึ้นหาด คุ้ยทรายเป็นหลุม พอไข่สุดก็เขี่ยกลบไข่ แล้วคุณเต่าก็เอาอกถูไถ ปราบให้เรียบ นี่คือสัญชาตญาณการปกป้องไข่ของแม่เต่า
แต่คนไทยเอาไปเปรียบเทียบคนที่ทำอะไรไว้ไม่ดี มีร่องรอยพิรุธ แล้วพูดจากลบเกลื่อน
บทละครรามเกียรติ์ กรมราชวังบวร...ตอนหนึ่ง “เต่าใหญ่ ไข่กลบแม่เจ้าเอ๋ย ใครเลยเขาจะไม่รู้เท่า”
เรื่องฆ่านายพลอิหร่าน เป็นยุทธการผลัดกันฆ่า...แต่มันอาจเป็นชนวนสงครามใหญ่
มีบางเหลี่ยมช่วยก่อกระแสกลบเกมไล่ทรัมป์จากเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้ากับสำนวนไทย เต่าใหญ่ไข่กลบ ได้พอดี
โดดเดี่ยวผู้น่าชังคนนี้ มีเหลี่ยมคูการเมืองซับซ้อน ซ่อนเงื่อนลึกๆไว้มากมาย เราชาวโลกต้องพยายามต้องตามเกมให้ทัน.
กิเลน ประลองเชิง