กลายเป็นคดีความอีนุงตุงนัง อันสืบเนื่องมาจากกรณีที่ดิน 1,700 ไร่ ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.คนดังแห่งราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ สอง “นักร้อง” คนดัง นายวีระ สมความคิด กับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ โดนข้อหาหมิ่นประมาทสองพ่อลูกคือ น.ส.ปารีณา กับนายทวี ไกรคุปต์ โดน 4 ข้อหาหนักข้าราชการระดับสูงของกรมป่าไม้ มีนายธวัชชัย ลัดกรูด ผู้ตรวจ ราชการกรม เป็นหัวหน้า ได้เข้าแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้สอบสวนดำเนินคดี น.ส.ปารีณา กับนายทวี ซึ่งเคยเป็น ส.ส.ราชบุรี และเคยเป็นรัฐมนตรีเมื่อหลายสิบปีก่อนก่อนหน้านี้ นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ แถลงว่าจะแจ้ง ความกล่าวหาผู้ครอบครองที่ดินป่าไม้ 4 ข้อหา ตามกฎหมายหลายฉบับ เช่น พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 และ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ มีโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปีขณะที่เรื่องนี้เป็นข่าวโด่งดัง อธิบดีกรมป่าไม้เคยให้สัมภาษณ์สื่อว่า จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย กฎหมายต้องเป็นกฎหมาย ไม่มีใครช่วยเหลือใครได้ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ว่าบางหน่วยงานพยายามอุ้ม น.ส.ปารีณา ด้วยการเสกเป่าที่ป่าสงวนให้เป็นที่ดิน ส.ป.ก.แต่เมื่อกลายเป็นข่าวครึกโครม เป็นที่สนใจของคนไทยทั้งประเทศ จึงยากที่จะมีอัศวินม้าขาวคนไหนกล้าเสี่ยงเข้ามาอุ้ม นายดำรงค์ พิเดช หัวหน้าพรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย ขู่ว่าใครอุ้มโดน ป.อาญามาตรา 157 ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ มีโทษจำคุก 1 ถึง 10 ปี เจ้าหน้าที่ที่เมินเฉยไม่ทำหน้าที่ก็มีสิทธิ์โดนหางเลขป่าไม้และที่ดินกลายเป็นปัญหาอมตะนิรันดร์กาล สำหรับประเทศไทย ส่วนใหญ่ชาวบ้านถูกกล่าวหาบุกรุกป่า หรือที่ดินของรัฐ แต่มีหลายกรณีที่ประชาชนกล่าวหาว่ารัฐบุกรุกที่ชาวบ้าน เช่น ประกาศเขตอุทยานทับที่ประชาชน ที่ตั้งหลักแหล่งทำมาหากินอยู่ก่อน แต่ในทางคดีชาวบ้านมักจะเป็นฝ่ายแพ้ เว้นแต่ผู้มีอำนาจอิทธิพลต้องติดตามดูกันอย่างใกล้ชิด ห้ามกะพริบตา และอย่าเผลอโดยเด็ดขาด กรณีที่ดินอันอื้อฉาวแห่งราชบุรีนี้ จะดำเนินต่อไปอย่างไร กฎหมายต้องเป็นกฎหมายจริงหรือไม่ จะมีการเล่นแร่แปรธาตุให้ป่าไม้กลายเป็นที่ ส.ป.ก. ได้ หรือไม่ แต่ที่ค่อนข้างแน่ชัดขณะนี้ก็คือ ที่ดินล่องหนนับพันไร่ เหลือแค่ 600 ไร่.