คนกรุงเทพฯอกสั่นขวัญแขวนไปตามๆกันกับเหตุลอบวางระเบิดป่วนกรุงหลายจุดเมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 2 ส.ค. เริ่มตั้งแต่บริเวณตลาดเดือนเด่น ประตูน้ำ หลังโรงแรมอินทรา 3 จุด ต่อด้วยสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี บริเวณพุ่มไม้ข้างตึกมหานคร 2 จุด ตามด้วยสวนหย่อมภายในบริเวณศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ 4 จุด และที่หน้าป้ายสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถนนศรีสมาน อีก 1 จุด ส่วนเหตุระเบิดกลางซอยพระรามเก้า 57/1 ท้องที่ สน.หัวหมาก เป็นแค่ฝีมือของวัยรุ่นคึกคะนองที่เอาระเบิดไปซุกซ่อนไว้เพื่อใช้ป้องกันตัว

เหตุการณ์นี้ถือเป็นการ ตบหน้ารัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงฉาดใหญ่ ที่สำคัญเป็นการประกาศศักดาท้าทาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ซึ่งตอนนี้โดดลงมาคุมเองหมดทั้ง ตำรวจ ทหาร และดีเอสไอ

หนำซ้ำแก๊งคนร้ายเลือกลงมือก่อเหตุในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน และมีตัวแทนประเทศมหาอำนาจทั้ง สหรัฐอเมริกา จีน รัสเซีย ญี่ปุ่น เข้าร่วมด้วย เจตนาชัดเจนต้องการให้รัฐบาลไทยเสียหน้า

ยังดีที่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิต มีเพียงได้รับบาดเจ็บไม่กี่คน และทรัพย์สินเสียหาย แต่ตลาดหุ้นไทยวันนั้นเปิดตลาดมาติดลบทันที ดัชนีปรับตัวลงต่ำสุดที่ 1,671.97 จุด ลดลง 27.78 จุด ก่อนจะปิดทำการที่ 1,684.71 จุด ลดลง 15.04 จุด มีมูลค่าการซื้อขาย 82,045 ล้านบาท

ก่อนหน้านั้นเมื่อวันพฤหัสฯที่ 1 ส.ค. ก็มี คนร้าย 2 คนไปซุกระเบิดแสวงเครื่องไว้ใต้ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจไล่เช็กกล้องซีซีทีวีจนตามจับได้ทันควันขณะนั่งรถทัวร์หนีลงใต้ ทั้งคู่เป็นชาวนราธิวาส ชื่อนายลูไอ แซแง และนายวิลดัน มาหะ ถูกคุมตัวมาเค้นสอบหามูลเหตุจูงใจ พร้อมขยายผลถึงผู้สั่งการและผู้ร่วมกระบวนการ

ก็ขอให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามแกะรอยตามจับแก๊งคนร้ายให้ได้ทั้งหมด เพื่อเรียกความเชื่อมั่นกลับมา และหากใครมีเบาะแสหรือพบสิ่งผิดสังเกต ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ช่วยกันเป็นหูเป็นตาระแวดระวังภัย คนจ้องก่อเหตุร้ายยังไงก็หาช่องทางลอบลงมือจนได้ แต่ถ้าทุกคนตื่นตัวช่วยกันสอดส่อง ก็จะช่วยอุดช่องโหว่ได้ระดับหนึ่ง

...

ผมหวังว่าเหตุระเบิดป่วนกรุงครั้งนี้ตำรวจจะจับแก๊งคนร้ายได้ในระยะเวลาไม่นาน อย่างน้อยผู้ว่าฯ กทม.ยืนยันว่ากล้องซีซีทีวีบริเวณที่เกิดเหตุใช้งานได้ทุกตัว หากเป็นจริงก็คงตามลากคอได้ไม่ยาก

งานนี้ตำรวจไม่พูดเยอะ ตั้งแต่หัวแถวยันผู้ปฏิบัติเดินหน้าทำงานอย่างเป็นระบบ ผิดกับบางคนที่อวดรู้อวดเก่งไว้ก่อน แถมชี้เป้าส่งเดชโดยที่ยังไม่มีหลักฐานชี้ชัด

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. รีบให้ข่าวทันทีหลังสิ้นเสียงระเบิดว่า ฝ่ายความมั่นคงแจ้งเตือนมาระยะหนึ่งแล้ว ได้ประสานงานทั้ง กอ.รมน. เหล่าทัพ ตำรวจ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ แต่ไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดในช่วงนี้ ทั้งนี้ ตั้งข้อสังเกตว่าลักษณะเหตุการณ์รูปแบบการก่อเหตุคล้ายกับเหตุการณ์ในปี 2549 เป็นกลุ่มคนเดิมๆ แนวคิดเดิมๆ จากสำนักเดิมๆ

ที่เคยระเบิดป้อมตำรวจหลายจุด สิ่งที่เป็นห่วงคือจะมีฝ่ายการเมืองหรือพวกไม่หวังดีกับประเทศมาใส่ความว่าฝ่ายความมั่นคงทำเรื่องแบบนี้เอง ทั้งที่มาจากกลุ่มเดิมๆ ความคิดเดิมๆ คนสั่งการเดิมๆ แต่คนลงมืออาจเป็นคนหน้าใหม่

ในเมื่อมีการแจ้งเตือนมาแล้ว ทำไมชะล่าใจปล่อยให้เกิดเหตุขึ้นมาได้ ตัว ผบ.ทบ.เป็นรอง ผอ.รมน.โดยตำแหน่งอยู่ด้วย ไม่รู้สึกเขินอายบ้างหรือที่โดนลูบคมขนาดนี้ ท่านฟันธงว่าเป็นกลุ่มเดิมๆ ความคิดเดิมๆ คนสั่งการเดิมๆ แล้วทำไมถึงสกัดไม่อยู่ ตามจับไม่ได้สักที

พูดน้อยหน่อย แต่ทำงานให้เห็นฝีมือจะดีกว่า.

ลมกรด