รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายยืนยัน ห้าม ส.ส.เป็นข้าราชการการเมืองโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเลขานุการรัฐมนตรี หรือที่ปรึกษารัฐมนตรี เพราะขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 184 ที่ห้าม ส.ส.ดำรงตำแหน่งในหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ แต่ ส.ส.เป็นรัฐมนตรีได้ เพราะยกเว้นไว้ในมาตรา 163 ของรัฐธรรมนูญ

มติที่ห้าม ส.ส.เป็นข้าราชการการเมือง ส่งผลกระทบต่อการแต่งตั้ง และคณะที่ปรึกษารัฐมนตรี 35 คน ของคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ต้องยกเลิกคำสั่งแต่งตั้ง และอาจกระทบถึง ส.ว.หลายคน ที่เป็นกรรมการยุทธศาสตร์แห่งชาติ กรรมการปฏิรูปประเทศ อ้างว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญ

การห้าม ส.ส.เป็นเลขานุการรัฐมนตรี หรือที่ปรึกษารัฐมนตรี เป็นการทำลายประเพณีอันดีงามของการปกครองระบบรัฐสภาที่ประเทศไทยยึดถือมาตั้งแต่หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 87 ปีมาแล้ว ระบบรัฐสภาไม่ได้แยกอำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจบริหารออกจากกันเด็ดขาด เหมือนกับระบบประธานาธิบดี เพียงแต่แบ่งงานกันทำ

ผู้ที่กุมอำนาจนิติบัญญัติในสภา และอำนาจบริหารในระบบรัฐสภา มาจากพรรคเดียวกัน นั่นก็คือพรรคที่กุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร โดยมอบหมายให้ระดับคณะผู้บริหารพรรค เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ส่วน ส.ส.ธรรมดาทำหน้าที่นิติบัญญัติ แต่ ส.ส.ก็ต้อง “ฝึกงาน” ฝ่ายบริหาร เช่น เป็นเลขานุการรัฐมนตรี ก่อนที่จะก้าวเป็นรัฐมนตรี

ระบบรัฐสภาสนับสนุน ส.ส.ให้เรียนรู้งานฝ่ายบริหาร ด้วยการเป็นเลขานุการรัฐมนตรี จนมีความรู้ความสามารถที่จะเป็นรัฐมนตรีด้วยตัวเอง การเป็นเลขานุการรัฐมนตรีไม่จำเป็นจะต้องไปก้าวก่าย “งานประจำ” ของข้าราชการ และระบบรัฐสภายังยึดถือประเพณีด้วยว่า “นายกรัฐมนตรีต้องมาจาก ส.ส.” แม้จะไม่มีรัฐธรรมนูญบังคับ

...

แต่ตรวจสอบดูได้ บรรดาประเทศประชาธิปไตยที่ใช้ระบบรัฐสภา ล้วนแต่มีนายกรัฐมนตรีจาก ส.ส.ทั้งๆที่รัฐธรรมนูญไม่ได้บังคับ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ ซึ่งเป็นแม่บทระบบรัฐสภา หรือเยอรมนี เบลเยียม แม้แต่ประเทศประชาธิปไตยในเอเชีย เช่น อินเดียและญี่ปุ่น รัฐธรรมนูญของไทยในยุคประชาธิปไตยเบ่งบาน ระบุนายกฯต้องมาจาก ส.ส.

ประเทศไทยนอกจากห้าม ส.ส.เป็นข้าราชการการเมืองแล้ว ยังสร้างประเพณีแปลกๆ เช่น ส.ส. ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีต้องลาออกจาก ส.ส. ไม่รู้ว่ายึดหลักการอะไร ถ้าลาออกจาก ส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออาจไม่มีปัญหาเพราะเลื่อนคนต่อไปขึ้นแทนได้ แต่ถ้าเป็น ส.ส.เขตต้องเลือกตั้งซ่อมและอาจสอบตกสูญเสียเสียงสนับสนุนในสภา.