อ่านเนื้อหาที่ ดร.วิษณุ เครืองาม รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย (ในรัฐบาลปัจจุบันและรัฐบาลประยุทธ์ 2) บรรยายให้ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) แต่งตั้ง 250 คน ฟังแล้วก็ต้องบอกว่า ประชาชนใจแป้วกันทั้งประเทศ แม้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ต่อท่ออำนาจเป็น นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 2 สมอยากตัวเอง แต่กลับไม่เห็นอนาคตอันรุ่งโรจน์ของประเทศไทย เห็นแต่อนาคตอันรุ่งริ่งรออยู่ข้างหน้า ผลพวงจากการที่ พล.อ.ประยุทธ์ เลือกนักการเมืองสีเทาที่มีชนักติดหลังเข้าร่วมรัฐบาลมากมาย จนไม่เหลือที่ให้ “คนดี” ได้มีโอกาส “มีอำนาจปกครองบ้านเมือง” ดัง พระบรมราโชวาท ของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เลย

ไปอ่านคำบรรยายส่วนหนึ่งของ ดร.วิษณุ กันเสียหน่อยนะครับ

“...เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ตนไปร่วมประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) มีอดีต สนช. สอบถามถึงการอยู่ร่วมกัน ตนบอกว่า “เมื่อลงเรือแป๊ะ ต้องตามใจแป๊ะ” ปัจจุบันเรือแป๊ะส่งผู้โดยสารขึ้นท่าแล้วที่คลองผดุงกรุงเกษม แต่แป๊ะคนเดิมไปต่อด้วยเรือลำใหม่ ตนเปรียบไม่ได้ว่าเรือของรัฐบาลใหม่จะเป็นเรืออะไร แต่เรือลำดังกล่าวจะไปลำบากมากขึ้น เพราะไม่มีใครตามใจ ขณะที่กัปตันต้องตามใจลูกเรือ

เรือต้องเดินหน้าต่อไป สุดแต่จะไปไหน เรือที่ลอยในน้ำ มีสำนวนไทยเปรียบเทียบว่าเป็น “เรือปริ่มน้ำ” แปลว่า ร่อๆแร่ๆ สภาพเวลานี้เป็นแบบนั้นจริงๆ แต่ปริ่มน้ำนั้นไม่อันตราย เพราะจะช่วยให้ระวัง แต่ที่สำคัญ กัปตัน ลูกเรือ และ ผู้โดยสาร ต้องร่วมมือกัน ช่วยกันวิดน้ำออกจากเรือ ใครไม่อยากวิดน้ำ เพราะวิดไม่เป็น หรือไม่สะดวก หรือไม่สบาย อย่าเอาเท้าราน้ำ ขอให้นั่งนิ่งๆ สวดมนต์ เพราะหากเรือล่มจะจมทั้งลำ เดือดร้อนทั้งประเทศ

ขอฝาก ส.ว.ด้วย แม้ไม่รู้ว่าจะอยู่ในกลุ่มลูกเรือหรือผู้โดยสาร แต่หากเรือล่มต้องได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ดังนั้น ขอให้ ส.ว.ทำหน้าที่ให้ดี เพื่อประโยชน์ส่วนรวม...”

...

ดร.วิษณุ เครืองาม ผมยกให้เป็น “กูรูการเมืองชั้นอ๋อง” ของเมืองไทยเลย เพราะทำงานกับนายกรัฐมนตรีมามากที่สุด เป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตั้งแต่ปี 2536 สมัย คุณชวน หลีกภัย เป็นนายกรัฐมนตรีสมัยแรก และเป็นรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย สมัยคุณทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีปี 2545 จากนั้นก็รับนิมนต์เป็น รองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย จากนายกฯหลายคน รวมทั้ง “นายกฯตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ใช้บริการมาแล้ว 5 ปี ยังติดใจนิมนต์มาใช้ต่ออีกสมัย

การวิเคราะห์การเมือง ของ ดร.วิษณุ เครืองาม จึงแม่นยำเป็นอย่างยิ่ง แม่นยำกว่าตำราหมอดูที่ ดร.วิษณุ เชี่ยวชาญไม่แพ้ ดร.บวรศักดิ์ อุวรรณโณ เสียอีก

แม้จะมีการแย่งเก้าอี้รัฐมนตรีกันอย่างรุนแรง จนมีสื่อเรียกว่า “แย่งชามข้าว” ในการฟอร์มคณะรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่เพิ่งจะยุติไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ศึกแย่งชามข้าวจะสงบลง ตราบใดที่ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ 2 ยังเป็นรัฐบาลต่อไป โครงการลงทุนเมกะโปรเจกต์ที่มีมูลค่ารวม 2–3 ล้านล้านบาท ทั้งที่เปิดประมูลไปแล้ว แต่ยังไม่เริ่มโครงการ และโครงการที่กำลังรอประมูลในรัฐบาลใหม่ คงต้องเพิ่มค่าใช้จ่ายกันอีกมหาศาล เมื่อมี “ส่วนแบ่งใหม่” เข้ามาหารเพิ่ม

รายชื่อว่าที่รัฐมนตรี ที่เป็นข่าวทั้งหลาย ประชาชนสามารถเปิด “กูเกิล” เช็กประวัติดูได้ น่าจะได้ข้อมูลละเอียดกว่าสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเช็กเสียอีก หลายคนก็รอดจากคดีทุจริต ผู้รักษากฎหมายไทย มักมีข้ออ้างที่ฟังแล้วต้องตกตะลึง เช่น ยื่นฟ้องไม่ทันคดีหมดอายุเสียก่อน อีกหน่วยงานแจ้งมาช้าเลยจับไม่ทัน ทำให้ส่งฟ้องคดีไม่ทัน บางคดีก็ถูกตีตกในหน่วยงานปราบทุจริตตั้งแต่ไก่โห่ จะได้ไม่ต้องขึ้นศาล

วันก่อนผมเห็นแว่บๆ นักวิเคราะห์การลงทุน เขาแนะนำให้นักลงทุนทั้งหลายเร่งหาที่หลบภัยไว้ก่อน ยิ่งเศรษฐกิจไทยไม่ดี ส่งออกทั้งปีอาจติดลบ 1% ขนาด กนง.ยังหั่นจีดีพีรวดเดียว 0.5% เหลือโต 3.1% ถ้าเรือลำใหม่ ของ “ตาแป๊ะคนเก่า” ล่มกลางน้ำอย่างน้อยก็มีชูชีพช่วยพยุงให้ว่ายน้ำขึ้นฝั่ง ตัวใครตัวมัน ต้องช่วยตัวเองกันแล้วนะโยม ไม่ต้องไปฝากความหวังไว้กับใครทั้งสิ้น.

“ลม เปลี่ยนทิศ”