ต้องถือเป็นนิมิตหมายทางการเมืองที่ดี มีการประสานเสียงจาก 7 พรรคการเมือง ที่ประกาศยืนข้างประชาธิปไตย จะไม่ชวนใครลงไปเล่นการเมืองบนถนน นักวิชาการชี้ว่าหมดยุคการเมืองบนถนน และเสนอแนะ 7 พรรค ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ให้ตรวจสอบรัฐบาลอย่างสร้างสรรค์ด้วยข้อมูลและเหตุผลที่หนักแน่น ไม่ใช้อารมณ์หรือคารมเป็นใหญ่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเล่นกันแค่ในสภาการเมืองบนถนนอาจเหมาะกับประเทศประชาธิปไตยที่เพิ่งเริ่มตั้งไข่ ตัวอย่างเช่น กลุ่มประเทศอาหรับ ที่อยู่ใต้การปกครองเผด็จการนานนับศตวรรษ ชาวอาหรับเพิ่งจะลุกฮือเรียกร้องเสรีภาพและประชาธิปไตยในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ส่วนประเทศไทย เปลี่ยนแปลงการปกครองมากว่า 86 ปี ผ่านการเลือกตั้ง การรัฐประหาร มีรัฐธรรมนูญมาถึง 20 ฉบับ เป็นอันดับต้นๆของโลกนักการเมืองไทยจึงผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน ทั้งในยามปกติและภาวะวิกฤติ ผ่านการเลือกตั้งมาหลายสิบครั้ง จึงควรถึงเวลาที่จะบรรลุวุฒิภาวะ มีความเป็นผู้ใหญ่ในทางการเมืองเสียที ก้าวข้ามการเมืองข้างถนนที่ยืดเยื้อเสี่ยงต่อการนำไปสู่ความรุนแรง และทำลายประชาธิปไตยในที่สุด การใช้ความรุนแรงนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรง และหนักหนาสาหัสมากขึ้นพรรคการเมืองไทยควรเลิกล้มแนวความคิดผิดๆ ที่เคยมีการเผยแพร่กันอย่างแพร่หลายว่าการต่อสู้ทางการเมืองต้องประกอบด้วย “รัตนตรัย” หรือแก้ว 3 ประการ อันได้แก่ พรรคการเมือง แนวร่วม และกองกำลังติดอาวุธ การใช้อาวุธในการต่อสู้ ไม่ใช่การเมืองแบบประชาธิปไตย แต่เป็นแบบพรรคคอมมิวนิสต์ของบางประเทศ และขัดหลักประชาธิปไตยสิ้นเชิงประเทศประชาธิปไตยไม่ได้ห้ามเด็ดขาด ไม่ให้นำการเมืองออกไปเล่นบนท้องถนนหลังจากที่แพ้เกมการเมืองในสภา ประเทศประชาธิปไตยมีการชุมนุมทางการเมือง แต่ต้องอยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ต้องเป็น “การชุมนุมโดยสงบ และปราศจากอาวุธ” ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ต้องไม่มีการยึดถนน ปิดสนามบิน สถานที่ราชการ และต้องยึดหลักสันตินักการเมืองที่อ้างว่าเป็นนักประชาธิปไตย ต้องยึดแนวทางสันติ ซึ่งเป็นทั้งคำสอนสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่คนไทยส่วนใหญ่นับถือ รวมทั้งศาสนาอื่นๆ และสอดคล้องกับหลักการประชาธิปไตยที่ยึดหลักนิติธรรมเป็นพื้นฐานสำคัญ การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองต้องเป็นไปโดยสันติไม่ใช้ กำลังบังคับ หมดยุคของนักปลุกระดมที่จะประกาศบนเวที “เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง”รัฐประหารเป็นการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างหนึ่ง ซึ่งไม่สันติ ไม่สอดคล้องวิถีทางรัฐธรรมนูญ และเป็นความผิดอาญาร้ายแรง พรรคการเมืองที่มีโอกาสแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควรแก้ไขเพิ่มเติมด้วยว่า นอกจากผู้ที่เคยต้องคำพิพากษาทุจริตต่อหน้าที่ ผู้โกงการเลือกตั้ง ผู้ที่พ้นราชการเพราะคดีทุจริต จะเป็นผู้ต้องห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้ว ต้องรวมถึงผู้ล้มล้างประชาธิปไตย.