การฟอร์ม ครม. “บิ๊กตู่ 2” ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา วันนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยราบรื่น เมื่อ “บิ๊ก ป.” ที่ทำหน้าที่เป็น “ผู้จัดการรัฐบาล” อยู่เบื้องหลัง คิดไม่ทันนักการเมืองที่รอบจัดกว่า จึงยกเก้าอี้รัฐมนตรี “กระทรวงเกรดเอ” ให้ไปเกือบหมด เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการ ท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงสาธารณสุข เป็นต้น ทำให้ พรรคพลังประชารัฐ ที่เป็นพรรคแกนนำรัฐบาลเหลือเก้าอี้รัฐมนตรีเพียง 15 ตำแหน่ง น้อยกว่าครึ่งใน ครม.
แค่เริ่มต้นชีวิตการเมือง บิ๊ก คสช. ทั้งหลายก็เจอกลเม็ดเด็ดของนักการเมืองแล้ว

สองวันก่อน ดร.อุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แกนนำจัดตั้งรัฐบาล เลยแจ้งรื้อโผโควตารัฐมนตรีกันใหม่ โดยโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า “ผมขอแจ้งความคืบหน้าการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคพลังประชารัฐและพรรคร่วมรัฐบาลว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนการพูดคุยหารือ ตั้งทีมประสานงานเพื่อหารือกับพรรคร่วม เพื่อเร่งจัดตั้งรัฐบาล หลังจากที่เราได้ท่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ซึ่งขณะนี้รอขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายกรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการก่อน...
...
ส่วนกรณีที่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจ คือ การวางตัวคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ผมขอเรียนชี้แจงว่า ขณะนี้ยังไม่มีการสรุปว่า ใครจะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงใดบ้าง แต่ยืนยันว่าจะพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อให้ตำแหน่งต่างๆ ลงตัวที่สุดและเสร็จสิ้นโดยเร็ว เพื่อเร่งดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญต่างๆ...”
เป็นการ รื้อโผ ครม. ที่ บิ๊ก ป. ไปรับปากกับพรรคการเมืองต่างๆ ล่วงหน้า

ทันทีก็ทันใด คุณอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กว่า “กระทรวงมีไว้ให้คนเข้าไปทำงาน ไม่ใช่มีไว้ให้มาเที่ยวแลกไปมา จบข่าว” ต่อมา คุณอนุทิน ได้โพสต์เพิ่มเติมว่า “คมนาคม สาธารณสุข ท่องเที่ยว เปลี่ยนไม่ได้”
ทันใดเหมือนกัน คุณธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ก็โพสต์ลงเฟซบุ๊กตอบโต้ทันทีว่า
“1.กระทรวงมีไว้ให้ทำงานเพื่อประชาชน ไม่ใช่มีไว้ให้เข้าไปหางานเพื่อบริษัท #ถูกต้องนะครับ!!! 2.กระทรวงมีไว้ให้ทำงานเพื่อประชาชน และที่สำคัญต้องไม่ใช่เก็บไว้ให้บริษัทเข้าไปหางาน #ถูกต้องนะครับ!! 3.กระทรวงมีไว้ให้ทำงานเพื่อประชาชนแลกเปลี่ยนได้...ถ้าจะเอาไปเพื่อประโยชน์บริษัทใด #ถูกต้องนะครับ!! 4.ไม่ยอมแลกเก็บไว้ทำงานให้ประชาชน หรือหางานให้บริษัท #คนเขาสงสัย...กระทรวงนี้ของข้าใครอย่าแตะ 55 5.ไม่มีใคร...แลกอะไรกันไปมา มีแต่หาความเหมาะสมไม่ให้คนเขานินทาว่า เลือกกระทรวงให้บริษัท #ถูกต้องนะครับ”
เล่นกันแรงทีเดียว ผมก็ลอกเฟซบุ๊กพรรคร่วมรัฐบาลมาให้อ่านเล่น ศึกชิงเก้าอี้รัฐมนตรีดุเดือดขนาดไหน โดยเฉพาะเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน
จะว่าไปแล้วการแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีที่เป็นข่าว เก้าอี้รัฐมนตรีมีแค่ 35 ตำแหน่ง เมื่อ พรรคประชาธิปัตย์เอาไป 8 ตำแหน่ง 1 รองนายกฯ 3 รัฐมนตรีว่าการ 4 รัฐมนตรีช่วย พรรคภูมิใจไทยเอาไปอีก 8 ตำแหน่ง 1 รองนายกฯ 3 รัฐมนตรีว่าการ 4 รัฐมนตรีช่วย รวมสองพรรค 16 ตำแหน่ง พรรคพลังประชารัฐ แกนนำจัดตั้งรัฐบาล เหลือเก้าอี้รัฐมนตรีเพียง 15 ตำแหน่ง น้อยกว่าสองพรรคร่วมรัฐบาล แถมยังเป็น “กระทรวงเกรดบี” เกือบทั้งหมด คงบริหารประเทศลำบาก แกนนำรัฐบาลตัวจริง กลายเป็น พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ที่คว้าพุงปลาไปกิน
ก็ต้องรอดูหลังการโปรดเกล้าฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว
ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่กล้าทุบโต๊ะรื้อโผจัดสรรโควตารัฐมนตรีใหม่ เด็ดขาดเหมือนตอนประกาศปฏิวัติในที่ประชุมรัฐบาลยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีก็คงเป็นแค่พระประธานที่สั่งรัฐมนตรีต่างพรรคไม่ได้ อนาคตรัฐบาลผสม 19 พรรคก็คงจะอยู่ยาก.
“ลม เปลี่ยนทิศ”