คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) แจ้งผลการคำนวณ “ส.ส.เขตแต่ละจังหวัด” 350 คน ไปยัง กกต.จังหวัด เพื่อเตรียมการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว โดยใช้ตัวเลขประชากร ณ วันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 จำนวน 66,188,503 คน ผลการคำนวณ กรุงเทพฯ มี ส.ส.เขตมากที่สุด 30 คน อันดับ 2 นครราชสีมา 14 คน อันดับ 3 ขอนแก่น อุบลฯ 10 คน อันดับ 4 เชียงใหม่ 9 คน อันดับ 5 ชลบุรี นครศรีธรรมราช บุรีรัมย์ ศรีสะเกษ สงขลา อุดรธานี 8 คน ฯลฯ

จังหวัดที่เหลือก็ลดหลั่นกันลงไป จังหวัดที่มี ส.ส.เขต 1 คน มี ตราด นครนายก พังงา แม่ฮ่องสอน ระนอง สมุทรสงคราม สิงห์บุรี อ่างทอง 8 จังหวัดเท่านั้น

การคำนวณ ส.ส.เขตแต่ละจังหวัด รัฐธรรมนูญใหม่ ให้เอา ส.ส.เขต 350 คน ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ หารด้วยประชากรทั้งประเทศ ได้เท่าไหร่เอาไปหารประชากรในแต่ละจังหวัดอีกที จะได้จำนวน ส.ส.เขตในจังหวัดนั้น ตัวเลขที่ได้ ประชาชน 189,110 คน มี ส.ส.เขต 1 คน ส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 150 คน มีการจัดสรรปันส่วนให้เสร็จ พรรคที่ ส.ส.เขตสอบตกทั้งประเทศ ก็ยังได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากการคำนวณอันพิสดาร เพื่อให้มีพรรคเล็กพรรคน้อยประดับสภา ซื้อง่ายขายคล่องดี นี่คือ การเลือกตั้งที่ไม่มีประเทศไหนในโลกใช้กัน

วันก่อนผมเขียนถึง การเมืองยุคใหม่ จะสู้กันด้วยเทคโนโลยี สืบเนื่องมาจากการเลือกตั้ง ประธานาธิบดีทรัมป์ ที่ถูกกล่าวหาว่า ประธานาธิบดีปูติน ผู้นำรัสเซีย แทรกแซงการเลือกตั้ง ช่วย ประธานาธิบดีทรัมป์ ได้รับชัยชนะ ผลการสอบสวนของ เอฟบีไอ ก็พบว่า บริษัทวิเคราะห์การเมืองชื่อดังของอังกฤษ เคมบริดจ์ อะนาไลติกา ได้มีการ แฮ็กข้อมูลผู้ใช้เฟซบุ๊กในสหรัฐฯกว่า 50 ล้านบัญชี นำไปวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ให้ทีมงานทรัมป์นำไปหาเสียงจนชนะการเลือกตั้ง

...

เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ไมโครซอฟท์ บริษัทซอฟต์แวร์ยักษ์ใหญ่สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ได้ตรวจพบ “แฮกเกอร์รัสเซีย” พยายามเจาะเข้าไปในคลังสมองของกลุ่มอนุรักษนิยม ประธานาธิบดีทรัมป์ จึงเรียกประชุม สภาความมั่นคงแห่งชาติ เพื่อหาทางป้องกันการแทรกแซงจากต่างชาติ และกดดัน สภาคองเกรส ให้ร่วมมือหาทางป้องกันด้วย

ก่อน ไมโครซอฟท์ เปิดเผยข้อมูล นายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาว ได้ให้สัมภาษณ์โทรทัศน์เอบีซี ว่า นอกจาก รัสเซีย แล้ว มีความเป็นไปได้ว่า จีน เกาหลีเหนือ อิหร่าน ก็กำลังพยายาม แทรกแซงการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯในเดือนพฤศจิกายนนี้ หน่วยงานความมั่นคงกำลังยับยั้งความพยายามดังกล่าว

หลังจาก นายโบลตัน ออกทีวี คณะกรรมการเลือกตั้งสหรัฐฯ ก็ได้ออกข่าวว่า กกต.สหรัฐฯ จะใช้เงิน 380 ล้านดอลลาร์ 12,540 ล้านบาท ที่ได้รับจากสภาคองเกรส ดำเนินการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ในทุกรัฐ โดยแบ่งเงินให้แต่ละรัฐไปบริหารจัดการกันเองตามขนาดของรัฐตั้งแต่ 6 ล้านเหรียญไปจนถึง 19 ล้านเหรียญ

งบต่อต้านการแฮ็กข้อมูลเลือกตั้งกลางปีของสหรัฐฯ 380 ล้านดอลลาร์นี้ จะใช้ปรับปรุงไซเบอร์ซีเคียวริตี้การเลือกตั้ง เพื่อป้องกันการแฮ็กข้อมูล และนำไปซื้อเครื่องลงคะแนนรุ่นใหม่ รวมทั้งเพิ่มการเก็บข้อมูลด้วยกระดาษ แสดงว่าระบบอนาล็อกยังเชื่อถือได้และถูกโจมตียาก

การใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยการเลือกตั้ง สามารถทำได้หลายช่องทาง เช่น การใช้ AI ปัญญาประดิษฐ์ ช่วยวิเคราะห์ ความเป็นไปได้ที่จะชนะการเลือกตั้ง เมื่อเทียบกับคู่แข่ง การวิเคราะห์คะแนนของอดีต ส.ส. ก่อนลงทุนซื้อตัว มีคะแนนเสียงของตัวเองกี่คะแนน คะแนนเสียงของพรรคอีกกี่คะแนน ไปจนถึงการใช้ “บิ๊กดาต้า” ที่เป็น ข้อมูลพฤติกรรมของผู้ออกเสียงเลือกตั้งในโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างกระแส และสร้างนโยบายหาเสียงให้เข้าถึงคนทุกกลุ่ม

การเลือกตั้งจากนี้ไป จะถูกครอบงำด้วยข้อมูล และเทคโนโลยี จากชนชั้นที่มีเงิน มีเทคโนโลยี มีอำนาจ ไม่ใช่ เสรีประชาธิปไตย อีกต่อไป

จนเกิดคำถามระดับโลกว่า ในศตวรรษที่ 21 ประชาธิปไตยตายแล้ว จริงหรือ? ก็คงต้องพิสูจน์กันต่อไป ในโลกที่ AI ปัญญาประดิษฐ์ สามารถทำได้ทุกสิ่งเหนือมนุษย์.


“ลม เปลี่ยนทิศ”