ในฉางต่วนจิง ศาสตร์แห่งการยืดหยุ่นและพลิกแพลง (เจ้าหยุย รจนา อธิคม สวัสดิญาณ เรียบเรียง (สำนักพิมพ์เต๋าประยุกต์ พิมพ์ครั้งที่ 4 พ.ศ.2549) บทที่ 59 ล้อมทัพพึงเปิดช่อง
ขุนพลกองโจรโพกผ้าเหลือง ฮั่นตง ยึดเมืองอ้วนเซียไว้ได้ จูฮี และเตียวเฉียว แม่ทัพฝ่ายรัฐบาล ทุ่มกำลังล้อมเมืองอ้วนเซียหลายชั้น
เมื่อสร้างหอพูนเนินสังเกตสภาพในเมืองเรียบร้อย ก็สั่งรัวกลองแสร้งจะตีเมืองทิศตะวันตกเฉียงใต้ ไพร่พลม้าศึกฝ่ายกบฏรวมตัวกันต้าน แต่ทัพรัฐบาลกลับโจมตีทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งฝ่าย กบฏมีกำลังน้อย
โจรโพกผ้าเหลืองทิ้งเมืองอ้วนเซีย ไปตั้งรับที่เมืองเซียวเสีย ส่งคนมาพบแม่ทัพรัฐบาลขอยอมจำนน ขุนพลฝ่ายรัฐบาลดีใจ แต่จูฮีแม่ทัพใหญ่ไม่เห็นด้วย
จูฮีว่า “ก่อนนี้เซี่ยงหวี่ก่อการ ราษฎรยังไร้นายแน่ชัด จึงใช้นโยบายตกรางวัลผู้จำนน
แต่ตอนนี้แผ่นดินเป็นปึกแผ่น มีแต่โจรโพกผ้าเหลืองก่อกบฏทำให้แผ่นดินวุ่นวาย การให้รางวัลพวกจำนน ไม่ทำให้พวกเขากลับตัวได้
มีแต่ต้องบำราบให้ถึงที่สุด จึงจะกำจัดความวุ่นวายให้หมดไป ครั้งนี้ถ้าเรารับการจำนน จะทำให้โจรกำเริบเสิบสานยิ่งขึ้น เมื่อได้เปรียบจะโจมตีเรา เมื่อเสียเปรียบจะแสร้งยอมจำนน”
เตียวเฉียวเห็นด้วยกับจูฮี สั่งโหมโจมตีเซียวเสีย แต่ตีเท่าไหร่ก็ไม่แตก
จูฮีขึ้นไปบนเนิน กล่าวแก่เตียวเฉียวว่า “สาเหตุที่เราโจมตีไม่แตก เพราะพวกโจรถูกล้อมแน่นหนา จะจำนนเราไม่รับจะหนีก็หนีไม่ได้ จึงเสี่ยงชีวิตสู้ตาย
หมื่นคนสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว จะไม่มีสิ่งใดต้านทานได้ จึงมิพักพูดถึงโจรกบฏ ซึ่งขณะนี้มีไพร่พลม้าศึกถึง 10 หมื่น วิธีล้อมตาย ให้โทษแก่เราเอง”
จูฮีปรับแผน ถอนกำลังล้อมเมืองบางส่วน รวมกำลังบุกเข้าเมือง โจรโพกผ้าเหลืองเห็นช่องหนีก็แตกหนีไปคนละทิศละทาง ขวัญสู้รบหดหาย
...
ทัพฝ่ายรัฐบาล ก็นำกำลังไล่ตามตี กองทัพโจรผ้าเหลืองแตกพ่ายยับเยิน
บทเรียนทำนองเดียวกัน ในสมัยสามก๊ก ช่วงเวลาต่อมา
โจโฉยกพลล้อมเมืองหูกวน สั่งเด็ดขาด ตีเมืองแตกแล้วจับคนทั้งเมืองฝังทั้งเป็นให้หมด ผลจึงเกิดตามมา โจโฉตีอยู่หลายเดือน ก็เอาชนะไม่ได้
โจหยิน เสนอว่า “ครั้งนี้ท่านสั่งฝังทั้งเป็นทุกคน พวกเขาจึงต่อต้านสุดชีวิต อีกทั้งกำแพงและคูเมืองก็ยังมั่นคงแข็งแรง เสบียงอาหารอุดมสมบูรณ์ หากขืนตีหักเอา นักรบไพร่พลก็จะล้มตายเกลื่อน”
ให้เหตุผลแล้ว โจหยินก็แนะอุบาย ล้อมเมืองควรเปิดช่องไว้ชีวิต
โจโฉเห็นด้วย สั่งดำเนินการ ผลก็คือ กองทหารรักษาเมืองหูกวน จึงยอมจำนน
กลยุทธ์ล้อมทัพเปิดช่องนี้ ผมจำได้ในพิชัยสงครามสามก๊ก ยกไว้เป็นกลยุทธ์ที่ 1 ไทยเราก็เอามาใช้ แต่เปลี่ยนคำเรียกแบบไทยๆ ว่า “อย่าต้อนสุนัขจนตรอก”
การเมืองไทยก็ใช้กันบ่อยๆ แต่ที่ผมจำได้ไม่นานมีฝ่ายค้านเคยใช้พิชัยสงครามสามก๊ก กลยุทธ์สุดท้าย หนีคือสุดยอดกลยุทธ์ ล่อเอาแม่ทัพจอมทรนงฝ่ายรัฐบาล เผลอหลุดปากคำ “โจรกระจอก” หลงไปติดกับ ในสมรภูมิเมืองใต้
ผู้ชนะที่ทำท่าจะเป็นผู้ชนะสิบทิศ ก็กลายเป็นผู้แพ้ แล้วก็แพ้เรื่อยๆมา
การเมืองเมืองไทยตอนนี้ ฝุ่นยังตลบ ยังไม่รู้ใครหัวใครก้อย
ใครใช้กลยุทธ์อย่าต้อนสุนัขจนตรอก ใครจะใช้กลยุทธ์หนี...ผมอยากลุ้นเอามัน ลุ้นให้ฝ่ายหนีชนะ เพื่อพิสูจน์พิชัยสงครามสามก๊ก หนีคือสุดยอดกลยุทธ์.
กิเลน ประลองเชิง