พระราชาประทับในปราสาทกว้างใหญ่ ที่มีความลึกลับซับซ้อน นครของพระราชามีราษฎรมากมาย แออัดอยู่ในแผ่นดินกว้างขวาง จำเป็นต้องใช้เสนาบดีที่ฉลาดลึกซึ้งมาดูแล

แต่ก็ยังหาคนเหมาะเจาะเหมาะใจไม่เจอ

วันหนึ่งพระราชาทรงเรียกเสนาบดีใหญ่น้อย ไปที่มุมหนึ่งของปราสาท ทรงชี้ไปที่บานประตูเหล็กขนาดใหญ่ มองด้วยตา มันทั้งหนักและหนา

เหล่าเสนาบดีกำลังคิดว่า เมื่อเปิดประตูนี้ออกแล้วจะเจออะไรภายใน

แน่นอน ต้องยิ่งใหญ่และสำคัญ

“ประตูนี้ ตั้งแต่ข้าเกิดมา ไม่เคยได้ยินว่ามีใครเปิดมันได้” พระราชาตรัส “มันเป็นประตูที่ใหญ่และหนักที่สุดในประเทศข้าอยากจะรู้ว่า ใครจะอาสาเปิดมันได้”

สิ้นเสียงพระราชา เหล่าเสนาบดีก็เหมือนถูกสะกดจิต พวกเขาคิดเหมือนๆกันว่า ประตูเหล็กทั้งใหญ่ทั้งหนาออกปานนั้น อาศัยเรี่ยวแรงคนสองแขนสองขา จะไปขยับเขยื้อนอะไรได้

เสนาบดีส่วนใหญ่ยืนตะลึงดู มีส่วนน้อยที่มีวี่แววฉลาด ก็แค่เดินเข้าไปมองๆเมียงๆใกล้ๆ แล้วพูดออกมาว่า ยังไงๆก็ไม่มีทางเปิดออก

คนพูดเป็นเสนาบดีใหญ่ เสนาบดีน้อยๆ ก็พลอยเออออตาม

มีเพียงเสนาบดีหนุ่มน้อยที่สุดคนเดียว ที่เดินเข้าถึงประตูบานนั้น เขาเพ่งมองอย่างพินิจพิเคราะห์ พยายามใช้หลายๆวิธีที่จะเปิด

ไม่ช้า...เสนาบดีหนุ่มน้อยก็เจอโซ่ใหญ่ เขาตรงเข้าไปใช้สองมือลากมันออกมา ทันทีนั้น ประตูบานใหญ่ก็เปิดออกช้าๆ

ในที่สุด เขาก็เปิดประตูบานใหญ่ที่ว่าหนักและหนา บานที่ยังไม่เคยมีใครกล้าเปิด ก็เปิดออกได้

ความจริงแล้วประตูบานนี้ไม่ได้ปิดสนิท ยังเหลือช่องเล็กๆเอาไว้ แค่มีใครมองอย่างละเอียด บวกความกล้ากับสิ่งที่ท้าทาย ก็จะเปิดมันได้ไม่ยากอะไรเลย

พระราชาตรัสชม “เจ้าไม่จำกัดตัวเองจากสิ่งที่เจ้ามองเห็นและได้ยิน เจ้ามีความกล้าที่จะใช้ทั้งสติปัญญาและพละกำลัง เจ้าจึงเปิดประตูบานนี้ได้”

...

พระราชาทรงมีพระราชโองการแต่งตั้งเสนาบดีหนุ่มน้อย เป็นอัครมหาเสนาบดี มีหน้าที่บริการกิจการในพระราชอาณาจักร

เรื่องเล่าเรื่องนี้ ผมเอามาจากหนังสือเรื่องเล็กๆ ความหมายใหญ่ๆ ที่เคยใช้แล้วก็ใช้อีก ไม่ได้ตั้งใจใช้เสียดสีใคร แต่ตั้งใจแสดงความชื่นชม ความกล้าของทีมงานช่วย 13 ชีวิต ติดถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ที่เชียงราย (ปฏิบัติการค้นหา 13 ชีวิต ถ้ำหลวงเชียงราย)

เมื่อความกล้ามาเจอแรงกดดันจากเวลาและน้ำ ก็จึงมีการตัดสินใจ

และผลที่ออกมา ได้พิสูจน์ว่า เป็นความกล้าที่ถูกที่ถูกเวลา

งานนี้ ไม่ได้ใช้แค่พลังกาย พลังปัญญา ความกล้า ของคนไทยพวกเดียว แต่เป็นงานรวมพลัง คนเก่งคนกล้าจากทั่วโลก ที่มีจิตอาสามาช่วย

เราใจหาย เสียดาย การสูญเสีย “จ่าแซม” อดีตทหารหน่วยซีล...ได้ไม่นาน แต่ความสูญเสียก็ไม่ทำให้ลดระดับความมุ่งมั่น ความกล้าครั้งนี้ได้พิสูจน์ว่า ความตายของ “จ่าแซม” ไม่ได้สูญเปล่า

งานกู้ 13 ชีวิตติดถ้ำหลวงฯ เป็นงานใหญ่ มีคนให้เลือกชื่นชมมากมาย แต่หากจะเรียกกันว่า วีรบุรุษ ผมว่าชื่อจ่าแซม เป็นชื่อแรกที่เรียกได้เต็มปาก.

กิเลน ประลองเชิง