เหลือเวลาอีกเพียง 10 เดือน จะถึง “กุมภาพันธ์ 2562” ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หัวหน้า คสช. ให้คำมั่นสัญญาหลายครั้งว่า จะจัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปตามรัฐธรรมนูญใหม่ แต่ดูเหมือนยังไม่มีใครกล้ามั่นใจว่า จะมีการเลือกตั้งตามโรดแม็ปจริง วันนี้กฎหมายลูกฉบับสำคัญ ทั้ง กฎหมายว่าด้วย ส.ส. กฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ถูกส่งให้ ศาลรัฐธรรมนูญ ตีความหมดว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ รวมทั้ง คำสั่ง คสช. เรื่องกฎหมายพรรคการเมือง ผู้ตรวจการแผ่นดินก็เพิ่งเห็นชอบส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่
ดูไปแล้วเหมือนจงใจจะให้มีปัญหา
ถ้า ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยว่า กฎหมาย ส.ว. หรือ กฎหมาย ส.ส. ฉบับหนึ่งฉบับใดขัดรัฐธรรมนูญ ต้องไปยกร่างกันใหม่ ก็ยิ่งสร้างความไม่แน่นอนให้เกิดขึ้น กระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม ไม่รู้ว่าการร่างกฎหมายใหม่จะถูกทำให้มีปัญหาอีกหรือไม่ แต่คำสั่ง คสช. เรื่องพรรคการเมือง ผมคิดว่าไม่ค่อยมีปัญหาเท่าไหร่ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าขัดรัฐธรรมนูญ หัวหน้า คสช. ก็ไปออกคำสั่งใหม่ให้ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ เรื่องก็จบ เขียนแป๊บเดียวก็เสร็จ ไม่เหมือนกฎหมายลูกว่าด้วย ส.ส. ส.ว. ที่ต้องมีกระบวนการยกร่างใหม่
เวลาที่เหลืออีกเพียง 10 เดือน ถือว่าน้อยมาก เผลอแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว
ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ยังเปิดทางให้ตัวเองในการเป็น นายกรัฐมนตรีคนนอก ผมคิดว่า พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะ หัวหน้าแม่น้ำ 5 สาย ควรจะ ให้ฝ่ายกฎหมายของรัฐบาลช่วยแก้ปัญหาทุกอย่างให้จบลงอย่างราบรื่นโปร่งใส แสดงความจริงใจของรัฐบาลว่า อยากให้มีการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2562 เพื่อรักษาคำพูดของนายกรัฐมนตรี ผมเขียนติงก็เพราะเป็นห่วงท่านนะครับ
ความจริงวันนี้การเดินหน้าตามโรดแม็ปเลือกตั้งก็ไปได้ดีพอสมควร การเปิดให้ยื่นคำขอจดแจ้งชื่อเพื่อจัดตั้งพรรคการเมืองใหม่ ตลอดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ก็มีผู้สนใจจัดตั้งพรรคการเมืองไปยื่นคำขอจดแจ้งชื่อไว้ถึง 97 พรรค ถือว่ามากทีเดียว มากกว่าพรรคการเมืองเก่าที่มีอยู่ 69 พรรค
...
ถ้ารวมพรรคการเมืองใหม่กับพรรคการเมืองเก่า วันนี้เมืองไทยมีพรรคการเมืองถึง 166 พรรค ถ้าส่งผู้สมัครลงทุกพรรค ก็ไม่รู้จะพิมพ์บัตรเลือกตั้งกันยังไง
พรรคการเมืองเก่า 69 พรรค กกต.เริ่มเปิดให้มีการตรวจสอบสมาชิกพรรคแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยมีเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 1-30 เมษายน เพื่อยืนยันตัวตนว่า ยังเป็นสมาชิกพรรคการเมืองอยู่หรือไม่ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ การยืนยันตัวตนโดยใช้บัตรประชาชนจริง และต้องมีการจ่ายค่าสมาชิกพรรคจริง จึงจะมีคุณสมบัติครบถ้วน
ก่อนหน้านี้พรรคการเมืองใหญ่ เช่น พรรคประชาธิปัตย์ พรรคเพื่อไทย ต่างก็ร้องว่า การให้เวลา 30 วัน ตรวจสอบรายชื่อสมาชิกพรรคหลายล้านคน ทำไม่ทันแน่นอน แต่วันนี้ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาแล้ว คุณจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ทางพรรคได้ใช้วิธีการยืนยันสมาชิก 3 วิธี คือ มายืนยันด้วยตัวเองที่สำนักงานใหญ่พรรค หรือ ไปยืนยันด้วยตัวเองที่จุดยืนยันสมาชิกพรรคทั่วประเทศ 307 จุด หรือจะใช้วิธี ยืนยันด้วยแอพพลิเคชั่น D–Connect ที่ทางพรรคได้พัฒนาขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแก่สมาชิกพรรคก็ได้
นักการเมืองไทยก็เป็นเช่นนี้แหละ โวยไว้ก่อน พอถึงเวลาก็ทำได้
เท่าที่ดูจากรายชื่อ พรรคการเมืองใหม่ ที่จองชื่อพรรคไว้ถึง 97 พรรค เห็นใช้ชื่อพรรคคล้ายกันบ้าง ใช้ชื่อสลับกัน ซํ้ากันไปซํ้ากันมาบ้าง ต่างกันแค่คำสองคำ แค่อ่านชื่อพรรคอย่างเดียวก็สับสนแล้ว ไม่รู้ว่าพรรคไหนเป็นพรรคไหน การทำให้ประเทศมีพรรคการเมือง “พรรคเล็กพรรคน้อย” มากมาย 100–200 พรรคอย่างนี้ จะเรียกว่าเป็นการ “ปฏิรูปประชาธิปไตย ปฏิรูปพรรคการเมือง” ผมคิดว่าคงไม่ใช่ เป็นการทำกรรมให้กับประเทศมากกว่า เสียของและ เสียดายอย่างยิ่ง.
“ลม เปลี่ยนทิศ”