“สินบน” เกาะกินไปทั้งโลก คนจนคนรวยหนีไม่พ้นวังวนนี้หลังจากเป็นข่าวสะท้านเมืองมาแล้วในเมืองไทยคือเรื่องสินบนโรลส์รอยซ์ ซึ่งพุ่งตรงไปที่การบินไทย แม้จะเป็นเรื่องเก่าแต่ก็ทันสมัยสำหรับประเทศนี้เพราะการรณรงค์เพื่อให้มีการปราบปรามทุจริตคอร์รัปชันอย่างจริงจังทั้งในส่วนของการหามาตรการป้องกันและปราบปรามอย่างจริงจังด้วยการออกกฎหมายใหม่ๆที่วางกฎลงโทษที่รุนแรงและให้องค์กรรับผิดชอบทำหน้าที่ให้มีประสิทธิภาพเป็นการหวังผลว่าจะทำให้แก้ไขปัญหานี้ได้ล่าสุดองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (ทีไอ) ในกรุงเบอร์ลิน เยอรมนี ได้เผยแพร่การสำรวจประชาชน 21,861 คน ใน 16 ประเทศ และดินแดนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ระหว่างเดือน ก.ค.2558-ม.ค.2560พูดง่ายๆว่ายังสดๆร้อนๆพบว่าผู้ถูกสุ่มถามราว 900 ล้านคน หรือกว่า 25% ต้องจ่ายสินบนเพื่อเข้าถึงบริการต่างๆของรัฐ รวมถึงการศึกษาและการรักษาสุขภาพชาวอินเดียและเวียดนามต้องจ่ายสินบนมากที่สุดเกือบ 2 ใน 3ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฮ่องกง ออสเตรเลียจ่ายน้อยที่สุดระบุด้วยว่ามีการจ่ายสินบนให้ตำรวจมากที่สุดเกือบ 1 ใน 3 รองลงมาคือจ่ายให้โรงเรียน 22% ให้โรงพยาบาล 18%ผู้ถูกสุ่มถามแค่ 1 ใน 5 ยังเชื่อว่าการคอร์รัปชันในประเทศของตนลดลง ขณะที่ราว 40% เชื่อว่าการคอร์รัปชันเพิ่มขึ้นแล้วก็วกมาถึงประเทศไทย แม้รัฐบาล คสช.ประกาศรณรงค์ต่อต้านการคอร์รัปชันคล้ายกับประเทศอื่นๆ เช่น จีน เวียดนาม แต่ก็ยังมีผู้ถูกศาลตัดสินลงโทษจำนวนน้อยตบท้ายด้วยการกระตุ้นให้ผู้นำรัฐบาลแต่ละประเทศปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ได้ประกาศว่าจะทำให้การติดสินบนลดลงและการทุจริตคอร์รัปชันน้อยลงกำหนดเงื่อนไขเอาไว้ว่าปี 2573 น่าจะเห็นผลภาพรวมจากการสำรวจความเห็นนั้น การให้ “สินบน” นั้นมิใช่เกิดขึ้นเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับโครงการใหญ่ๆมีเม็ดเงินจำนวนมากเท่านั้นแต่ด้านการศึกษา การรักษาสุขภาพก็ไม่ต่างกัน เป็นความจริงที่ยากปฏิเสธเพราะการศึกษาของไทยนั้นชัดเจนที่สุดเมื่อผู้ปกครองต้องการให้บุตรหลานได้เข้าเรียนโรงเรียนดีๆ ก็ต้องจ่ายแป๊ะเจี๊ยะหรือแฝงในรูปแบบบริจาคให้กับสมาคมครูผู้ปกครองหรือมิฉะนั้นก็ต้องมีเส้นมีสายเป็น “สินบนทางอ้อม”ไม่ต่างจากการรักษาพยาบาลที่คนยากคนจนเข้าถึงได้ยาก แต่คนรวยจะมีอภิสิทธิ์มากกว่า ดีที่ยังมีนโยบายบัตรทองพอจะเยียวยาและมีโอกาสได้รับการรักษามากขึ้นยังไม่ต้องพูดถึงระบบราชการซึ่งมีหน้าที่บริการประชาชนด้วยเงินเดือนจากภาษีอากรแต่ก็ยังต้องเสียภาษีพิเศษเพื่อจะได้บริการที่รวดเร็วและสะดวกมากขึ้นแต่ที่ชี้เป้าตรงกันที่สุดก็คือ “ตำรวจ” ที่รับสินบนมากที่สุดเหล่านี้ล้วนเป็นภาพที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศซึ่งมีพฤติกรรมไม่ต่างกันมากนัก เว้นแต่ผู้นำประเทศที่จะเอาจริงเอาจังมากน้อยแค่ไหนหรือประชาชนของประเทศนั้นๆเกิดอาการต่อต้านและข้าราชการมีสำนึกที่ดีพูดถึงเรื่องนี้แล้วแม้จะไม่ระบุว่าประเทศไทยมีอันดับอย่างไร แต่ก็เป็นเรื่องที่รับรู้กันดีว่าสถานการณ์ “สินบน-คอร์รัปชัน” นั้นเป็นอย่างไรแม้แต่รัฐบาล คสช.ที่มีความมุ่งมั่นก็ยังอยู่ในอีหรอบเดิม.“สายล่อฟ้า”