เพื่อไทยคิกออฟหาเสียง เปิดตัว “ยศชนัน” เวทีแรก อยุธยา-สุพรรณบุรี แกะกล่อง “ประกันกำไรสินค้าเกษตร 30%” แจกคูปอง 2 ใบ ซื้อปุ๋ย-เมล็ดพันธุ์ ใช้กับสินค้าเกษตรทุกประเภท “ดร.เชน” มั่นใจทำพี่น้องเกษตรกรยืนบนขาตัวเอง ลุยต่อพักหนี้ 5 แสนใน 3 ปี คึกจัดอ้อนชาวสุพรรณเปลี่ยนได้ “จุลพันธ์” มั่นใจกระแสเพื่อไทยชนะใจชาวบ้าน “จาตุรนต์” ไขก๊อก ปธ.ยุทธศาสตร์ โพลคนกรุง-ทั่วประเทศ “ณัฐพงษ์-ปชน.” ยังนำ พท.อ้างคนยังไม่ตัดสินใจเกือบ50% ปชป.ปลื้มกระแส กทม.ขอโอกาสอีกครั้ง “อภิสิทธิ์” ชวนคนไทยเลิกทนระบบเดิมๆ “ปลัดตุ๋ม” ลั่นไม่ใช่พรรคสุสาน ขรก. กกต.เผยวันแรกขอใช้สิทธิล่วงหน้าเฉียดแสนพรรคเพื่อไทยคิกออฟแคมเปญหาเสียง เปิดตัวนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นเวทีแรกที่ จ.พระนครศรีอยุธยา-สุพรรณบุรี ประกาศชูนโยบายประกันกำไรสินค้าเกษตร 30% แจก 2 คูปอง ซื้อปุ๋ย-ซื้อเมล็ดพันธุ์ หวังมัดใจพี่น้องเกษตรกรพาชนะศึกเลือกตั้ง“ยศชนัน” ออกหาเสียงเป็นครั้งแรกเมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 21 ธ.ค. ที่ ต.ชายนา อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท.) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แคนดิเดตนายกฯและหัวหน้าพรรค พท. พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค ว่าที่ผู้สมัคร สส. อาทิ นายจักรพงษ์ แสงมณี รองหัวหน้าพรรค นายอนุชา นาคาศัย อดีต รมช.เกษตร ลงพื้นที่พบปะประชาชนพูดคุยแนวทางบริหารจัดการน้ำ ถือเป็นการลงพื้นที่หาเสียงครั้งแรกของนายยศชนัน ทั้งนี้มีประชาชนสะท้อนปัญหาว่าขอให้ดูเรื่องผลกระทบจากน้ำท่วม เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่รับน้ำ อยากให้บริหารจัดการกระจายน้ำไปยังพื้นที่อื่นบ้าง เพื่อให้พื้นที่รับน้ำ แล้วน้ำท่วมขังจะได้ไม่รับผลกระทบนานเกินไปและขอฝากให้ช่วยดูเรื่องการเยียวยา เพราะที่ผ่านมาจะได้รับเงินเยียวยาก็ต่อเมื่อน้ำลดลงไปแล้วมาดูให้เห็นกับตาเพื่อทำนโยบายนายยศชนันกล่าวว่า การคิดนโยบายในห้องอย่างเดียว ไม่สามารถเห็นความเดือดร้อนได้ชัดเจน วันนี้เราจึงมารับฟังปัญหากับประชาชน ให้ได้เห็นกับตาจะได้รู้ว่าต้องทำอะไรก่อนหลัง เพื่อให้ประชาชนกินดีอยู่ดี สิ่งสำคัญเรื่องราคาสินค้าเกษตร จำเป็นต้องดูแลทั้งระบบ ทั้งเรื่องราคาตกต่ำ การปลูกพืชนอกฤดูกาล รวมถึงต้องไปเจรจากับประเทศคู่ค้า ต้องทำขนานกันไป สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมการเยียวยาต้องเหมาะสม เราต้องทำระบบบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ เพื่อให้เกิดความชัดเจน และการแก้ปัญหาน้ำไม่ใช่แค่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา แต่ต้องดูเรื่องต้นน้ำด้วย ที่ผ่านมาเรามีเมกะโปรเจกต์ขนาดใหญ่เรื่องน้ำ แต่ก็ถูกหยุดโครงการนั้นไปชูโรง “ประกันกำไรสินค้าเกษตร 30%” นายจุลพันธ์กล่าวว่า วันนี้ต้องส่งสัญญาณไปที่รัฐบาล เข้าใจว่าขณะนี้มีปัญหาที่ชายแดน แต่จะลืมคนข้างหลังไม่ได้ ชาวเสนานั่งแช่น้ำมา 3 เดือน เช่นเดียวกับชาวหาดใหญ่ที่ลืมไม่ได้ รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขเยียวยาให้จบ วันนี้เสนาน้ำลดไปไม่เกินคืบจากที่เคยมาครั้งก่อน ส่วนการเยียวยาจากรัฐบาล 9,000 บาทได้รับกันแล้ว แต่ 20,000 บาท ยังไม่ได้รับ ขอฝากรัฐบาลให้รีบดำเนินการ เพราะความเดือดร้อนรอไม่ได้ สำหรับราคาพืชผลสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี มีโครงการจำนำข้าว ทำให้เงินถึงมือเกษตรกรแน่นอน แต่ตอนนี้ทำไม่ได้แล้ว ต้องเปลี่ยนกลไก วันนี้พรรคเพื่อไทยขอเปิดนโยบายด้านการเกษตร คือการประกันกำไรสินค้าเกษตร 30% นี่คือนโยบายที่จะเดินหน้า พรรคเพื่อไทยพร้อมหากท่านให้โอกาสทำงาน เราจะแก้ไขทั้งราคาพืชผลเกษตรและน้ำ“อนุชา” การันตีแคนดิเดตฯคนนี้เก่งด้านนายอนุชากล่าวว่า เข้าใจดีถึงชีวิตชาวไร่ชาวนาที่ถือเป็นกำลังซื้อหลักของประเทศ เรียกเงินบาทแรกของแผ่นดิน วันนี้ทำไมพวกเราจึงคิดถึงนายทักษิณ ชินวัตร หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพราะทำให้พวกเรากินดีอยู่ดี อนาคตมีความหวัง วันนี้นายยศชนันเป็นว่าที่นายกฯของเรา จากที่ได้คุยถือว่ามีความเก่งและยอมรับในสติปัญญา เมื่อได้ฟังวิสัยทัศน์ยืนยันได้ว่าคนนี้คือคนเก่งของประเทศ เพราะคิดแต่แบบวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ไม่ต้องคาดเดาหรือพยากรณ์ จึงนิยมชมชอบอย่างมาก และรับรองได้ว่าประเทศไทยได้ของดีแน่ ฝากบอกคนไทยทั้งประเทศว่าให้เอานายกฯคนนี้มาดูแลประเทศของเราให้ได้ และเอาพรรคเพื่อไทยกลับมาเป็นพรรครัฐบาลพรรคเดียว จะทำให้พี่น้องชาวนาอยู่ดีกินดีแน่นอนประกันกำไร 30% ยืนบนขาตัวเองต่อมาเวลา 10.40 น. นายยศชนัน และคณะ เดินทางไปยัง ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองสุพรรณบุรี มีทีมว่าที่ผู้สมัคร สส.สุพรรณบุรี รอต้อนรับ อาทิ นายประยูร อินสกุล นายชัยพร สีถัน น.ส.กุลธิดา เหมาเพชร ทั้งหมดลงพื้นที่พูดคุยและรับฟังปัญหาสินค้าการเกษตร และการบริหารจัดการ ในลักษณะนั่งล้อมวงพูดคุยกับตัวแทนชาวบ้าน และเกษตรกร นายยศชนันกล่าวว่า ปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม ภัยแล้ง การคมนาคม ว่าที่ผู้สมัคร สส. บอกประเด็นมาให้รับทราบแล้ว เพื่อนำไปจัดทำนโยบายแก้ไขปัญหาในพื้นที่ เรื่องพันธุ์ข้าว ปุ๋ย เราจะนำวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วย รวมถึงระบบเตือนภัยป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย และเรามีนโยบายประกันกำไรสินค้าการเกษตร 30% ที่จะสามารถทำให้พวกเรายืนอยู่ได้ด้วยขาของตัวเอง เป็นหน้าที่ของรัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรฯร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ เราเริ่มไว้แล้ว และพร้อมทำทันทีเมื่อเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะใช้กับสินค้าเกษตรทุกประเภทนายจุลพันธ์กล่าวว่า นโยบายด้านการเกษตรที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คือนโยบายประกันกำไรสินค้าการเกษตร 30% จะแจกคูปอง 2 ใบ ให้เกษตรกรคือ คูปองซื้อปุ๋ย 250 กิโลกรัมต่อคน และคูปองเมล็ดพันธุ์ ให้รับเมล็ดพันธุ์ที่แข็งแรงจากรัฐ ยังมีนโยบายพักหนี้ให้เกษตรกร 5 แสนบาท ใน 3 ปี โดยไม่ต้องชำระทั้งต้นและดอก เชื่อว่าจะเป็นความหวังให้ประชาชน พรรคเพื่อไทยไม่เคยทิ้งเกษตรกร เพราะฐานเสียงเรามาจากเกษตรกร ย้ำว่านโยบายประกันกำไร 30% จะนำไปใช้กับสินค้าเกษตรทุกประเภทคึกจัดอ้อนชาวสุพรรณเปลี่ยนได้จากนั้น นายยศชนันและคณะ เดินทางไปยังศาลาการเปรียญวัดโพธิ์ท่าทราย เพื่อพบประชาชนที่มารับฟังการปราศรัยกันเต็มศาลา นายยศชนันปราศรัยว่า “ขอเสียงพี่น้องชาวสุพรรณบุรีหน่อย ใครว่ายศชนันพูดเสียงดังไม่ดัง นายจุลพันธ์บอกว่ารอบนี้หาเสียงปราศรัยไม่ใช่มาบรรยาย กลัวพี่น้องจะหลับ วันนี้เป็นเวทีแรกจริงๆ ที่ผมได้มาพบพี่น้องทุกท่าน เหตุที่เรามาสุพรรณบุรีก่อนเพราะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศ เป็นจังหวัดเก่าแก่ที่อยากให้ประชาชนเห็นว่าถ้าสุพรรณบุรีเปลี่ยนได้ ประเทศ ไทยเปลี่ยนได้แน่นอน เวลาไปต่างประเทศคนพูดถึงประเทศไทยในแง่ดีว่าเราเป็นคนไทยหัวใจประเทศ ไทย การแสดงวิศัยทัศน์ผมพูดถึงเกษตรกรก่อน เกษตรกรเดินไปข้างหน้าได้เลย ผมและนายจุลพันธ์ จะบังหลังให้ ไม่มีการแทงข้างหลังแน่นอน ผมจะไปทำงานกับทีมหลัง บ้านพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ พัฒนาเครื่องจักรทางการเกษตรให้ได้ผลผลิตที่ดีขึ้น”เตรียมส่งนโยบายหาเสียงให้ กกต.นายยศชนันให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และสุพรรณบุรีว่า ถือเป็นครั้งแรก ทำให้เห็นปัญหาต่างๆ เพื่อทำนโยบายให้ตรงกับความ ต้องการประชาชนที่สุด ก่อนส่งให้ กกต. เมื่อถามว่าการสู้กับบ้านใหญ่ โดยเฉพาะ จ.สุพรรณบุรี จะสามารถปักธงที่นี่ได้หรือไม่ นายยศชนันตอบว่า เป็นเรื่องกลไกที่ต้องทำให้เป็นไปได้ พรรคเพื่อไทยคัดเลือกบุคคลที่มีคุณภาพมาลงพื้นที่ สิ่งสำคัญที่สุดคือความเข้าใจและเข้าถึงประชาชน และต้องมีความสม่ำเสมอ เชื่อว่าจะชนะใจประชาชนได้ เมื่อถามย้ำว่าบ้านใหญ่สุพรรณบุรี ย้ายไปพรรคภูมิใจไทย ในพื้นที่มีกระแสไม่พอใจบ้าง มีโอกาสที่พรรคเพื่อไทยจะปักธงได้หรือไม่ นายยศชนันตอบว่า พรรคเพื่อไทยก้าวข้ามเรื่องนั้นไปแล้ว สิ่งที่เราพยายามทำคือจัดทำนโยบายเพื่อประชาชน เราจึงคัดเลือกและคัดสรรผู้สมัคร สส. ที่มีความสามารถในการนำนโยบายไปแก้ปัญหาให้ประชาชนได้จริง และเชื่อว่าจะสามารถชนะใจประชาชนได้“จาตุรนต์” ไขก๊อก ปธ.ยุทธศาสตร์ขณะที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย โพสต์ภาพพร้อมข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานคณะกรรมการ ยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ระบุว่า รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติได้ร่วมทำงานกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วยดี แต่เมื่อทำหน้าที่นี้มาระยะหนึ่ง พบว่าแกนนำของพรรคได้ร่วมกันวางยุทธศาสตร์ของพรรค และยุทธศาสตร์เลือกตั้งคืบหน้าไปมากแล้ว เมื่อการยุบสภาเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน การจะกำหนดยุทธศาสตร์ใหม่หรือปรับปรุง ย่อมทำได้ยาก การมอบให้มาทำหน้าที่ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรค จึงเปรียบเสมือนเปลี่ยนม้ากลางศึก อาจไม่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ ที่พรรคกำหนดไว้ล่วงหน้า ประกอบกับการลงประชามติ วันเดียวกับเลือกตั้ง ได้มีส่วนร่วมผลักดันและดำเนินการ ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ จึงจำเป็นในการรณรงค์ให้การจัดทำประชามตินี้ผ่านความเห็นชอบ อาจทำให้มีเวลาทำงานให้กับพรรคน้อยลง จึงขอลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.ลูกชาย “ทวี–ภูมิธรรม” ปาร์ตี้ลิสต์ พท.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยเปิดเผยรายชื่อผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ 100 คน เรียงลำดับตามตัวอักษรมีชื่อแคนดิเดตนายกฯ ทั้ง 3 คนครบ ทั้งนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รวมถึงแกนนำพรรค อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และยังมีคนที่เพิ่งย้ายเข้ามา เช่น นายเทวัญ ลิปตพัลลภ นายต่อศักดิ์ อัศวเหม รวมถึงทายาทนักการเมืองที่ลงสมัคร สส.บัญชีรายชื่อครั้งแรกอย่างนายธงธรรม เวชยชัย บุตรชายนายภูมิธรรม นายรวิ สอดส่อง บุตรชาย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติภูมิใจไทยก๊วนบ้านใหญ่เต็มพรึ่บขณะเดียวกันพรรคภูมิใจไทยได้เปิดรายชื่อผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ 100 คน เรียงตามตัวอักษร เช่นกัน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรค และแคนดิเดตนายกฯ จะอยู่ในลำดับที่ 1 นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค อยู่ในลำดับที่ 2 รวมถึงแกนนำคนอื่น เช่น น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมว.อุดมศึกษาฯ และกลุ่มบ้านใหญ่ นายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำกลุ่มเพชรบูรณ์ นายวราวุธ ศิลปอาชา กลุ่มสุพรรณบุรี นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ นางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ นายพงศกร อรรณนพพร นายพินิจ จันทรสุรินทร์ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ อดีตนายกเทศมนตรีธัญบุรีโพลคนกรุง “ณัฐพงษ์–ปชน.” ยังนำวันเดียวกัน นิด้าโพลเปิดผลสำรวจความเห็นเรื่อง “กระแสการเมืองกรุงเทพมหานคร” จากประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป และมีสิทธิเลือกตั้งใน กทม. กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวม 2,000 หน่วยตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 15-18 ธ.ค. เมื่อถามถึงบุคคลที่คน กทม.จะสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 47.25 ระบุว่ายังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 2 ร้อยละ 16.95 เป็น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ อันดับ 3 ร้อยละ 10.90 นายอนุทิน ชาญวีรกูล อันดับ 4 ร้อยละ 9 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อันดับ 5 ร้อยละ 2.75 พล.อ.รังษี กิติญาณทรัพย์ เมื่อถามถึงพรรคการเมืองที่คน กทม.จะสนับสนุนในวันนี้ อันดับ 1 ร้อยละ 40.20 ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 2 ร้อยละ 26.25 พรรคประชาชน อันดับ 3 ร้อยละ 10.05 พรรคภูมิใจไทย อันดับ 4 ร้อยละ 9.55 พรรคประชาธิปัตย์ อันดับ 5 ร้อยละ 6.85 พรรคเพื่อไทยสอดคล้องกับผลสำรวจทั่วประเทศสวนดุสิตโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 2,232 คน เรื่อง “ถ้ามีการเลือกตั้งในวันที่ 8 ก.พ. 2569” ระหว่างวันที่ 16-19 ธ.ค. พบว่าร้อยละ 24.55 จะเลือกพรรคประชาชนมากที่สุด รองลงมาร้อยละ 21.62 เป็นพรรคเพื่อไทย ร้อยละ 17.74 พรรคภูมิใจไทย ขณะที่ความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือก สส.เขตสังกัดพรรค ร้อยละ 23.48 ระบุเลือกพรรคประชาชน รองลงมาร้อยละ 21.53 พรรคเพื่อไทย และร้อยละ 16.04 พรรคภูมิใจไทย สำหรับบุคคลที่อยากให้เป็นนายกฯคนต่อไป ร้อยละ 23.97 นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ รองลงมาร้อยละ 21.95 นายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ และร้อยละ 16.25 นายอนุทิน ชาญวีรกูลพท.ชี้คนยังไม่ตัดสินใจเพียบนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ แคนดิเดตนายกฯและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงผลโพลที่ออกมาว่า ผลโพลเป็นข้อคิดไม่ใช่ข้อตัดสิน การเลือกตั้งอยู่ในมือประชาชน ต้องไปทำความเข้าใจและเข้าหาประชาชน เมื่อเปิดตัวผู้สมัครและมีเบอร์แล้วต้องลงพื้นที่ทำความเข้าใจ นำนโยบายไปให้ประชาชน เราเชื่อมั่นว่าแต่ละโพลที่ผ่านมา สุดท้ายแล้วเราจะทำได้ดีขึ้น ในส่วนของ กทม.มีหลายนโยบายที่ตรงใจคนกรุงเทพ เช่น รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย บ้านเพื่อคนไทย ที่สำคัญผลโพลที่ออกมาคนยังไม่ตัดสินใจเกือบ 50% เป็นโอกาสของทุกพรรคที่จะทำนโยบายให้ตอบโจทย์คนกรุงเทพฯ พรรคเพื่อไทยก็เช่นกัน สำหรับผลโพลที่ระบุว่าพรรคเพื่อไทยมาอันดับสอง ถือเป็นกำลังใจที่ดีที่ขึ้นมาได้เร็ว หลังเปิดตัวนายยศชนันไม่นาน พรรคจะทำงานหนักต่อไปเพื่อครองใจและให้ประชาชนหันกลับมามอง เชื่อมั่นว่าเพื่อไทยทำได้ นโยบายของเพื่อไทยจะเป็นทางออกและโอกาสเปิดใจรับฟังไปปรับปรุงการทำงานนายยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ผลโพลเป็นเสียงสะท้อน เชื่อเสมอว่าการจะทำงานไปข้างหน้าต้องพร้อมรับฟังทั้งเรื่องที่ดีและไม่ดี พยายามทำเต็มที่เพื่อเป็นคนของประชาชน เราพร้อมรับฟังโพลทุกสำนัก ตรงไหนไม่ดีพร้อมปรับปรุง สิ่งสำคัญทำให้ทุกคนในพรรคทำงานอย่างเต็มที่เปิดใจรับฟังโพลไหนออกมาดีก็เป็นกำลังใจทำให้รู้สึกว่าเราทำมาถูกทาง อันไหนที่ยังไม่ดีเราน้อมรับและจะทำให้ดีขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่เราเข้าใจประชาชนทั้งประเทศ แต่ละเขต แต่ละพื้นที่มีปัญหาของตัวเอง การพยายามสื่อสารบางอย่างให้ลึกลงไป โดยที่ทุกคนรับทราบว่าวันนี้ประเทศมุ่งไปในทิศทางไหนเป็นส่วนสำคัญมาก การเลือกตั้งปี 2569 ประเทศจะเสียเวลาไปมากกว่านี้ไม่ได้ นี่เป็นจุดเปลี่ยน จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงให้เร็วที่สุดปชป.ปลื้มคน กทม.ขอโอกาสอีกครั้งด้านนายพงศกร ขวัญเมือง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า ขอบคุณชาว กทม. ที่ผลโพลระบุว่าคะแนนนิยมขยับสูงขึ้นเกือบ 4 เท่า ผลโพลครั้งนี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขทางการเมือง แต่เป็นสัญญาณของความไว้วางใจ และการเปิดใจของคนกรุงเทพฯ ที่ให้โอกาสพรรคพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ขอบคุณชาว กทม.อย่างจริงใจ ที่เปิดใจ และมอบความไว้วางใจให้พรรคถือเป็นกำลังใจสำคัญของพวกเราทุกคน ทำงานด้วยความรับผิดชอบต่อความหวังของประชาชน เพราะตระหนักดีว่ายังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังไม่ตัดสินใจ และยังมองหาพรรคที่เป็นความหวังใหม่ได้อย่างแท้จริง พร้อมพิสูจน์ตัวเองด้วยการทำงาน“อภิสิทธิ์” ชวนคนไทยเลิกทนระบบเดิมๆนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อมูลจากการสำรวจความคิดเห็นประชาชนกว่า 30,000 คน ภายใต้คำถามว่า “ประเทศไทยจะไม่ทนกับอะไร?” หนึ่งในแคมเปญรณรงค์หาเสียงทางสื่อออนไลน์ของพรรคว่า คำตอบที่ได้รับไม่ใช่แค่ตัวเลขสถิติ แต่คือเรื่องราวชีวิตจริงที่สะท้อนถึงความหวังและความเจ็บปวดของคนไทยในหลากหลายมิติ วิเคราะห์อย่างตรงไปตรงมาว่าปัญหาเชิงโครงสร้างเหล่านี้ มีรากเหง้ามาจากการทุจริตคอร์รัปชัน และระบบอุปถัมภ์ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาประเทศ ทั้งหมดล้วนต้องการการแก้ไขที่ต้นเหตุคือจริยธรรมทางการเมือง ขอเสนอแนะแนวทางที่สร้างพลังบวกเน้นย้ำว่านักการเมืองต้องร่วมมือกับประชาชน ใช้โอกาสจากการเลือกตั้งเป็นเครื่องมือสื่อสารว่าเราจะไม่ยอมรับระบบเดิมๆ อีกต่อไป เพื่อที่เราจะได้ไม่ต้องเพียงแค่ทนหายใจไปวันๆ แต่ร่วมกันสร้างอนาคตที่มีศักดิ์ศรีและเท่าเทียม“ปลัดตุ๋ม” ลั่นไม่ใช่พรรคสุสาน ขรก.ช่วงสายที่พรรคโอกาสใหม่ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ หัวหน้าพรรคโอกาสใหม่ เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.แบบบัญชีรายชื่อ และ สส.แบบแบ่งเขต อาทิ นาย ศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีต สส.อุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย โดยมีนายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคด้วย นายจตุพรกล่าวว่า มีคนถามว่าพรรคเราเป็นที่รวมเป็นสุสานข้าราชการหรือไม่ ทำให้ถึงกับหัวเราะเพราะสุสานคือป่าช้าของคนตาย แต่พวกเราไม่ใช่คนตาย เราอยากเอาคนที่มีความรู้มาช่วยคนไทยจริงๆ เราคือคลังสมอง มีประสบการณ์ เป็นมืออาชีพ ตอนอยู่ในระบบราชการเราทำได้เท่าที่ทำได้ในตำแหน่ง ลองให้เป็นใหญ่กว่านั้นจะแก้ปัญหาให้ดู จะเปลี่ยนวาทกรรมคำว่าถ้า เป็นคำว่าทำ จะเปลี่ยนส่วนตัวให้เป็นส่วนรวม เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสใหม่“เป็นธรรม” ยกเครื่อง กก.บห.ชุดใหม่ที่โรงแรมรอยัล ริเวอร์ พรรคเป็นธรรม (ปธ.) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ 2/2568 มีวาระสำคัญเพื่อเลือกคณะผู้บริหารและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ มีนายปิติพงศ์ เต็มเจริญ อดีตหัวหน้าพรรค เป็นประธาน ทั้งนี้ที่ประชุมเลือกนายปิติพงศ์เป็นหัวหน้าพรรค นายนันทวิชช์ วรรณเสน เป็นเลขาธิการพรรค น.ส.ปุณยวีร์ เต็มเจริญ บุตรสาวนายปิติพงศ์ เป็นเหรัญญิกพรรค นายกร โอสถานุเคราะห์ นายทะเบียนพรรค พร้อมเปิดตัวนายภัทรศักดิ์ โอสถา นุเคราะห์ เป็นว่าที่ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ สำหรับ 3 แคนดิเดตนายกฯ พรรคเป็นธรรม ได้แก่ 1.นายปิติพงศ์ 2.น.ส.ปุณยวีร์ และ 3.น.ส.มนต์วลี พัธโนทัย บุตรสาวนายมั่น พัธโนทัย อดีตรัฐมนตรีหลายสมัยพร้อมเปิดตัวสโลแกนพรรค “ประชาธิปไตยที่เป็นธรรม”วันแรกขอใช้สิทธิล่วงหน้าเฉียดแสนผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สรุปจำนวนผู้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า และเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของการเปิดให้ลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า พบว่ามีผู้มีสิทธิเลือกตั้งยื่นขอลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า ทั้งในเขตเลือกตั้ง นอกเขตเลือกตั้ง และนอกราชอาณาจักร รวม 98,900 คนเป็นผู้ลงทะเบียนเลือกตั้งนอกเขต 90,491 คน และผู้ลงทะเบียนนอกราชอาณาจักร 8,361 คน