การเจรจาการค้ากับ สหรัฐฯ ของแต่ละประเทศที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ยกตัวอย่าง อินเดีย ที่มีประชากรมากที่สุดแซงหน้าจีนไปแล้ว มีการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นจำนวน 4 ครั้ง ทั้งที่ กรุงนิวเดลี เมืองหลวงของอินเดียและ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ คู่เจรจาตั้งแต่ระดับ รองประธานาธิบดี รมว.คลังของสหรัฐฯ กับ ผู้นำอินเดีย ทั้งนี้ อินเดียได้มีข้อเสนอในการเจรจาประกอบด้วย การลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ 55% ให้สถานะสหรัฐฯเป็นประเทศที่ได้รับความเอื้อเฟื้อในอนาคต (กรณีที่อินเดียไปทำข้อตกลงการค้ากับประเทศอื่น สหรัฐฯก็จะได้สิทธินั้นด้วย) เปิดตลาดสินค้าการเกษตรให้กับสหรัฐฯ ลดภาษีนำเข้ารถยนต์ แลกกับการที่สหรัฐฯต้องยกเลิกภาษีนำเข้า 26% แต่ที่อินเดียไม่ยอมเจรจาด้วยคือการเปิดตลาด E-commerce ในอินเดีย เพื่อปกป้องผู้ประกอบการรายย่อยที่จะได้รับผลกระทบจากการขายตรงทางออนไลน์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจนอินเดีย เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ และเป็นแหล่งผลิตสินค้าไอทีที่มีขนาดใหญ่และเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจในการลงทุนมากประเทศหนึ่งในสภาวะ สงครามการค้าโลก ในขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เดินสายสร้างพันธมิตรในทุกภูมิภาค ระหว่าง 13-16 พ.ค.นี้ ทรัมป์ จะเดินทางไปร่วมประชุมกับผู้นำตะวันออกกลาง ประกอบด้วย ซาอุดีอาระเบีย กาตาร์ และ สหรัฐ อาหรับเอมิเรตส์ เพื่อสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการลงทุนในอนาคตที่สหรัฐฯต้องการจะปักหมุดในตะวันออกกลางด้วยเช่นกันเช่นเดียวกับ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน อยู่ในระหว่างการเดินทางเยือน รัสเซีย อย่างเป็นทางการ มีการหารือกับประธานาธิบดี วลาดีเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ถึงการพัฒนาความเป็นพันธมิตรทางยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุม ซึ่งก็น่าจะมีประเด็น สงครามยูเครน–รัสเซีย ที่ ทรัมป์ เองได้บรรลุข้อตกลงในการสนับสนุนยูเครนทำสงครามกับรัสเซียต่อไปโดยแลกกับแร่หายากที่สหรัฐฯต้องการนำไปใช้ในการผลิตอาวุธและเทคโนโลยีชั้นสูงในขณะที่ สหรัฐฯ มีการปรับโครงสร้างการบริหารภายในให้กระชับและทันสมัย เพื่อลดกับผลกระทบกับการทำสงครามการค้าในครั้งนี้ไปด้วย เช่น การปรับลดจำนวนเจ้าหน้าที่รัฐ และ การช่วยเหลือสนับสนุนประเทศต่างๆ โดยไม่จำเป็น ล่าสุดปลดพนักงาน CIA กว่า 1,200 คน รวมทั้งหน่วยงานสายลับอื่นๆอีกกว่าพันคน ตามนโยบายในการปรับลดขนาดหน่วยงานต่างๆของรัฐบาลงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ที่จะเข้าสภาในอีกไม่กี่วันนี้ มีการตั้งข้อสังเกตเอาไว้หลายประเด็น โดยเฉพาะการใช้งบประมาณที่ไม่เหมาะสม ประเภทเก้าอี้หรูผู้บริหาร โรงภาพยนตร์สี่มิติ ฝักบัวอาบน้ำ หรือจะลามไปถึงการปรับปรุงห้องทำงาน สถานที่รับรอง ต้องเลิศหรูอลังการ เป็นเวลาที่จีดีพีติดลบ รายได้หด ชาวบ้านกำลังจะอดตายลักษณะเหมือนใกล้จะเสียกรุง มือใครยาวสาวได้สาวเอา.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม