การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ และ ภูมิรัฐศาสตร์ของโลก ในยุคปัจจุบันมีความสำคัญสำหรับการดำรงชีวิตให้สอดคล้องกับสิ่งแวดล้อม มีกรรมวิธีมากมาย มีการวางแผนวางกลยุทธ์ในการรับมือกับสงครามการค้า ซึ่งความสำเร็จขึ้นอยู่กับต้นทุนของแต่ละประเทศและขีดความสามารถในการแข่งขัน ประเทศเกษตรกรในภูมิภาคนี้ จะว่าไปแล้ว ประเทศไทย ได้เปรียบ ประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ภัยแล้ง น้ำท่วม และความผันผวนของฤดูกาล เป็นความท้าทายของเกษตรกรยุคใหม่ ที่จะพัฒนาไปสู่ เกษตรยั่งยืน เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงกับสถานการณ์เหล่านี้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้แนวคิด เกษตรยั่งยืน เป็นรูปธรรมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ ยกตัวอย่างหนึ่งในความสำเร็จ จาก เกษตรกรต้นแบบวนเกษตร ในเขตปฏิรูปที่ดิน จ.ฉะเชิงเทรา สุนีรัตน์ เมรสนัด ที่เปลี่ยนชีวิตหลังเกษียณสู่เส้นทางเกษตรอินทรีย์ เปลี่ยนผืนป่าให้กลายเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วยพืชหลากหลายชนิด ในปี 2563 หลังเกษียณ คุณสุนีรัตน์ ได้กลับมาดูแลสวนปาล์มอย่างจริงจัง บนพื้นที่ 36 ไร่ แบ่งที่ 9 ไร่ ทำวนเกษตร เริ่มจากศูนย์โดยไม่มีพื้นฐานการเกษตรเลย ทำด้วยใจรัก ศึกษาด้วยตัวเองและเข้าร่วมโครงการฝึกอบรมจาก ส.ป.ก. ต่อมาปี 2564 ส.ป.ก.ฉะเชิงเทรา ร่วมมือกับเครือข่ายวิทยากรด้านวนเกษตร เรียนรู้จากครูภูมิปัญญา เช่น อาจารย์ วินัย สุวรรณไตร และสมัครเป็นสมาชิกเครือข่ายวนเกษตรในปี 2565เป็นการเริ่มต้นอาชีพการเกษตรอย่างจริงจัง มีการผลิต ดินหอม เพื่อบำรุงต้นไม้ การแปรรูปสมุนไพรและพืชอาหารบ้านต่างๆ ทำผงปรุงรสจากพืชยืนต้น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครัวเรือน สบู่ น้ำยาซักผ้า ยาสระผม นอกจากจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายแล้ว ยังเพิ่มมูลค่าของสินค้าการเกษตรจากผลผลิตที่อยู่รอบตัวได้ด้วยในส่วนของ ส.ป.ก. ได้เข้าไปส่งเสริม รวมกลุ่มเป็น วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรแปรรูปบ้านฝายนาบน และ ธนาคารต้นไม้บ้านวังเย็น เชื่อมโยงเข้าสู่โครงการใหญ่ระดับประเทศเช่น โครงการ LESS และ T-VER ของ ธ.ก.ส. ปลูกต้นไม้เพื่อลดก๊าซเรือนกระจก สร้างรายได้จาก คาร์บอนเครดิต ภายในปี 2566 ธนาคารต้นไม้บ้านวังเย็นจัดกิจกรรมปลูกป่าไปแล้วกว่า 12,000 ต้น ปี 2567 ที่ผ่านมาเข้าร่วมกิจกรรมก้าวเข้าสู่เกษตรกรรมในระบบเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำได้ตามเป้าหมาย สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง จาก ผู้ใช้ที่ดิน ไปสู่ ผู้พิทักษ์ทรัพยากร ในการรักษาระบบนิเวศและส่งต่อสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับคนรุ่นต่อไปนโยบายของกระทรวงเกษตรฯโดย ส.ป.ก. ไม่เพียงจัดสรรที่ทำกินให้กับเกษตรกรเท่านั้น ยังให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงให้ความรู้ ต่อยอดแนวคิด และเชื่อมโยงทุกภาคส่วนให้เกษตรกรไทยอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาวด้วยการพึ่งพาตัวเอง.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม
