พท.ยันไม่เสี่ยงลุยไฟแหกโค้งทำร่างแก้ รธน. เป็นหมัน ย้ำใช้แนวทางยื่นศาล รธน. ตีความ วางแท็กติกยื่นญัตติแทรก ดาหน้าถล่มฝ่ายค้านค่ายส้มเพ้อเจ้อ แนะให้เดินหน้า ไปลงเหว ยันจุดยืนเพื่อไทยคือ “แก้ได้” ไม่ใช่ “ได้แก้” ยกคำ “อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์” กระทบชิ่ง มีแต่คนบ้า ทำเหมือนเดิมซ้ำๆ แต่หวังผลลัพธ์แตกต่าง แฉต้องการให้ญัตติตกเพื่อรุกไล่รัฐบาลยุบสภา ส่วนปมสนามกอล์ฟรุกที่ ส.ป.ก. ยังเดินหน้าตรวจสอบขึงขัง อธิบดีกรมที่ดินออกตัวแทน “เสี่ยหนู” ครอบครองอยู่ก่อน ส.ป.ก.ก็ทำอะไรไม่ได้ ไล่ไปถาม พม.คนชงให้คึกคัก หวนจัดงานรอบ 5 ปี บอล มธ.-จุฬาฯ ขบวนพาเหรดล้อรัฐบาล “วิวาห์ข้ามขั้ว” ปัดตก รธน.ฉบับประชาชน “ทักษิณ” ไปต่อ “บรูไน” ทำภารกิจชาติ แต่ศาลสั่งห้ามไปส่วนตัวเวียดนาม-กัมพูชาจากกรณีการประชุมรัฐสภาวาระแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่เกิดการสับประยุทธ์ทางเทคนิคเกมการเมือง จนนำไปสู่เหตุการณ์สภาล่มซ้ำซาก 2 วันติดท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม ขณะที่พรรคเพื่อไทยแกนนำรัฐบาลยังคงออกมาย้ำเหตุผลและขอความเห็นใจ ว่าจำเป็นที่ต้องยอมล่มองค์ประชุมเองเพื่อผ่อนสั้นผ่อนยาว รักษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเอาไว้ไม่ให้โดนตีตกไปจนเสียของพท.กลัวแหกโค้ง-เทกระจาดแก้ รธน.เมื่อวันที่ 15 ก.พ. นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงความปั่นป่วนระหว่างการประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เมื่อวันที่ 13 และ 14 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่าหากปล่อยให้มีการลงมติ โอกาสที่ร่างรัฐธรรมนูญจะผ่านวาระแรกเป็นไปไม่ได้เลย จะส่งผลทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญตกไปต้องเริ่มต้นใหม่ และปัญหายังคงวนเวียนเช่นเดิม คือฝ่ายหนึ่งเห็นว่าต้องทำประชามติก่อน อีกฝ่ายเห็นว่ารัฐสภามีอำนาจพิจารณากฎหมายได้เลย สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นถือว่ามีปัญหาเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภาเกิดขึ้นแล้ว และเป็นปัญหาเกี่ยวกับการตีความคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง เมื่อมี สว.เสนอญัตติขอให้รัฐสภามีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย จึงเห็นว่าน่าจะเป็นทางออกที่ดี พรรคเพื่อไทยมีความตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะให้การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เกิดขึ้นให้ได้ โดยให้ ส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ย้ำชงญัตติยื่นศาล รธน.ตีความนายชูศักดิ์กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยจะเสนอญัตติขอให้รัฐสภามีมติขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยเกี่ยวกับหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา เป็นคนละญัตติกับญัตติที่ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.ได้เสนอไปแล้ว เมื่อประธานรัฐสภาบรรจุญัตติและมีการนัดประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมอีกครั้ง จะเสนอขอให้เลื่อนญัตตินี้ขึ้นมาพิจารณาก่อน หากรัฐสภาเห็นชอบจะส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัยต่อไป คาดว่าศาลรัฐธรรมนูญคงใช้เวลาพิจารณาไม่นานนัก หลังจากนั้นจะได้ความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวยืนยันว่าพรรคเพื่อไทยมีเจตนาแน่วแน่ว่าไม่ต้องการให้ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมต้องตกไป เพียงเพราะสาเหตุจากการมองคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแตกต่างกันอัดฝ่ายค้านเพ้อเจ้อ-ให้เดินลงเหวนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีรัฐสภาล่มในวาระพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า พรรคเพื่อไทยคือพรรคการ เมืองที่มีจุดยืนจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่แตะหมวด 1 หมวด 2 ผ่านการพิสูจน์มาหลายครั้งแล้วถึงความพยายามที่จะแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิป ไตยและยึดโยงกับประชาชนมากยิ่งขึ้น แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นในรัฐสภาทุกคนรู้คำตอบอยู่แล้วว่าถ้าดันกันไปจนถึงขั้นตอนการลงมติก็ต้องแพ้และตกไป พรรคเพื่อไทยจึงพยายามรักษารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไว้เพื่อหาแนวทางนำไปสู่การแก้ไขให้สำเร็จ ระหว่างคำว่า “แก้ได้” กับ “ได้แก้” พรรคเพื่อไทยเลือกแนวทางแรกคือต้องแก้ให้ได้ ส่วนการที่พรรคฝ่ายค้านระบุว่าควรเดินหน้าต่อไป คือเดินหน้าโหวตทั้งๆที่รู้ว่าจะแพ้ แล้วไปอธิบายกับประชาชนเอาว่าแพ้แต่ทำเต็มที่แล้ว ถือเป็นสิทธิ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ บอกว่ามีแต่คนบ้าเท่านั้นที่ทำสิ่งเดิมซ้ำๆ แต่กลับหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง ไม่ใช่แนวทางของเพื่อไทยที่ต้องการต่อสู้เพื่อบรรลุเป้าหมาย ถ้าเดินตรงไปข้างหน้าแล้วตกเหว พรรคเพื่อไทยเลือกเดินอ้อม เพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย แก้ไขรัฐธรรมนูญได้สำเร็จ พรรคไหนจะแก้เอาเท่ เอามัน ก็ทำไป แต่พรรคเพื่อไทยเลือกแก้ให้สำเร็จ ด้วยวิธีที่แตกต่างรู้ไต๋ใช้เป็นเหตุรุกไล่ให้ยุบสภาฯนายอนุสรณ์กล่าวว่า กรณีที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา เพราะควบคุมพรรคร่วมไม่ได้นั้น อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ แสดงว่าที่พยายามบีบให้เดินไปสู่การโหวตจนแพ้ ก็เพื่อหันมาไล่รัฐบาลให้ยุบสภาแสดงความรับผิดชอบหรือไม่ รัฐบาลเหลือเวลาอีก 2 ปีกว่า มีเวลาแก้ไขปัญหาให้ประเทศชาติอีกเยอะ ที่สำคัญรัฐบาลไม่ได้มีความผิดอะไร ยังสามารถทำงานร่วมกันต่อไปได้ นโยบายสำคัญๆของพรรคเพื่อไทย ที่เป็นพรรคแกนนำ พรรคร่วมทุกพรรคก็สนับสนุนด้วยดี มีบางเรื่องที่เห็นต่างกันบ้างถือเป็นสิทธิของแต่ละพรรค ไม่แน่ใจว่าเหตุที่รีบไล่รัฐบาลยุบสภามาจากการที่ ป.ป.ช. ร่อนจดหมายเรียก 44 สส. ไปรับทราบข้อกล่าวหา กรณียื่นแก้มาตรา 112 หรือกลัวคะแนนนิยมจะลดต่ำลงไปอีก ประเทศชาติบอบช้ำมามากแล้ว ให้เวลารัฐบาลได้ทำงานครบ 4 ปี แล้วถึงวันนั้นค่อยมาให้ประชาชนตัดสินใจใหม่ไม่สายออกตัว รธน.ล้มคว่ำไม่เกี่ยวรัฐบาลขณะที่นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า การประชุมรัฐสภาล่ม 2 ครั้งติดต่อกันเป็นเพราะนายกฯไม่สามารถคุมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลและเรียกร้องให้มีการยุบสภาว่า ถือเป็นทัศนคติที่เป็นพิษต่อระบบรัฐสภา พรรคการเมืองที่ไม่มีความศรัทธาในระบอบประชาธิปไตยเท่านั้นที่จะเลือกวิธีล้มกระดานเช่นนี้ กระบวนการให้ได้มาซึ่งกฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติเป็นสิทธิหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ สส.แต่ละพรรคมีเอกสิทธิ์ที่จะออกสิทธิออกเสียง การที่ สส.ของพรรคร่วมรัฐบาลบางส่วนไม่เข้าร่วมประชุม เป็นเพราะมีความกังวลว่าขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาหรือไม่ ไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นเอกภาพหรือไม่เป็นเอกภาพอย่างที่นายณัฐพงษ์พยายามชี้นำสังคม เราใช้เวลาหลายปีกว่าจะได้รัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากพลเรือนนำโดยพรรคเพื่อไทย ที่ยกให้ประโยชน์ของประเทศชาติประชาชนมาเป็นอันดับหนึ่ง การยุบสภาในขณะที่การบริหารกำลังไปได้ดี ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชนและงบประมาณจำนวนมหาศาล จึงไม่มีเหตุผลใดให้ต้องยุบสภาฝ่ายค้านเป็นใครสั่ง “นายกฯ” ยุบสภานายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาลกล่าวว่า ฝ่ายนิติบัญญัติไปบอกนายกฯยุบสภาได้อย่างไร เขาเป็นฝ่ายบริหาร แล้วทำไมนายกฯต้องฟังฝ่ายค้าน “คุณอยากเลือกตั้งใหม่หรือ พวกผมกำลังทำงานช่วยชาวบ้านได้ผล เขาได้เงินหมื่นไปเขาดีใจมาก ต้องทำงานให้ชาวบ้านก่อน จะรีบไปไหน เป็นฝ่ายค้านไปสั่งนายกฯยุบสภา คุณเป็นใคร” นายวิสุทธิ์กล่าวรทสช.ซัดฝ่ายค้านเล่นเกมเกินเหตุนายธนกร วังบุญคงชนะ สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกรณีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน นำ สส.แถลงกดดันนายกฯยุบสภาหลังองค์ประชุมไม่ครบในวาระพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ถือเป็นข้อเรียกร้องที่ไม่สมเหตุสมผล ถ้าย้อนไปดูประวัติศาสตร์การเมืองไทย การที่นายกฯจะตัดสินใจยุบสภาได้ต้องถึงขั้นสภาวะเดดล็อก ไม่มีทางออกจนถึงที่สุดจริงๆ แต่กรณีการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ยังสามารถใช้ช่องทางและวิธีการแก้ปัญหาในรัฐสภาได้อยู่ ไม่ถึงกับเป็นทางตันทางการเมือง ทำให้มองได้ว่าเป็นการเล่นเกมการเมืองเกินกว่าเหตุ ประเทศชาติไม่ใช่ของเล่นที่เมื่อไม่ได้ดั่งใจก็ล้มกระดานแล้วเริ่มใหม่ การเลือกตั้งแต่ละครั้งใช้งบประมาณหลายพันล้านบาท ขอให้พรรคประชาชนทบทวนบทบาททางการเมืองของตัวเองเสียใหม่ อย่าเล่นใหญ่เกินไปแจงเหตุไม่ร่วมแสดงตนแก้ รธน.นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี โฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า กรณี สส.ของพรรคไม่แสดงตนนับองค์ประชุมรัฐสภา ญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอในครั้งนี้เป็นการแก้ไขเพื่อเปิดโอกาสให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ผ่านการตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขัดกับคำพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญที่เคยมีมาก่อนแล้วว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับต้องมีการทำประชามติก่อน ประกอบกับญัตติด่วนให้มีการส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยในกรณีดังกล่าวตกไป จึงเป็นสาเหตุให้ สส.พรรครวมไทยสร้างชาติไม่สามารถแสดงตนในการนับองค์ประชุมได้“วันชัย” เย้ยพรรคส้มดูละครรำวงวันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว.โพสต์เฟซบุ๊ก “ละครเรื่องกลเกมแก้รัฐธรรมนูญ” ว่า เรื่องแก้รัฐธรรมนูญไม่ถึงขั้นทำให้รัฐบาลพังหรือยุบสภา สมัยพรรคเพื่อไทยเป็นฝ่ายค้านในรัฐบาลลุงตู่ อยากแก้รัฐธรรมนูญแทบเป็นแทบตายในที่สุดแก้ไม่ได้ วันนี้พรรคประชาชนเจอเหตุการณ์เหมือนพรรคเพื่อไทยในอดีตก็ดิ้นพล่าน ยังไงคงแก้ไม่ได้ เพราะ 1.เมื่อ สว.หมดสิทธิโหวตนายกฯแล้ว ไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนต้องรีบแก้ 2.ขืนแก้ได้จริงๆเครดิตน่าจะตกแก่พรรคประชาชนมากกว่าพรรคเพื่อไทย 3.ถ้ามี ส.ส.ร.จากการเลือกตั้ง น่าจะเสร็จพรรคประชาชน คนหนุ่มสาวคงได้รับเลือกตั้งเข้ามามากกว่าพรรคอื่นๆ 4.จะแก้หรือไม่แก้ไม่มีผลต่อประชาชน และคะแนนเสียงเลือกตั้งครั้งต่อไป 5.การเป็นรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีโอกาสทำงานเพื่อประเทศ สร้างผลงานได้ดีกว่าฝ่ายค้านอยู่แล้ว การแก้รัฐธรรมนูญไม่จำเป็นต้องดิ้นพล่านไปกับฝ่ายค้าน 6.สถานการณ์การเมืองขณะนี้พรรคเพื่อไทยยังไม่พร้อมขับเคลื่อนแก้รัฐธรรมนูญด้วยตัวเอง เมื่อเป็นเช่นนี้การแก้รัฐธรรมนูญคงสาละวันรำวงกันอย่างนี้ต่อไปจนหมดสมัยรัฐบาล แล้วค่อยมาดูกันต่อหลังการเลือกตั้งสมัยหน้า ตอนนี้ก็ให้ สว. และพรรคภูมิใจไทยแสดงละครไปก่อนก็แล้วกันลุยสอบสนามกอล์ฟทับที่ ส.ป.ก.วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานการขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อติดตามการตรวจสอบการทุจริตของข้าราชการกระทรวงหนึ่ง ที่ใช้ช่องว่างไปออกโฉนดให้บุคคลต่างๆ ทับที่ดินที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) พบเอกสารสำคัญในการออกเอกสารสิทธิทับที่ดิน ส.ป.ก.กว่า 40,000 ไร่ ใน 8 ตำบลของ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา บริเวณนิคมสร้างตนเองลำตะคอง นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่าที่ดินแปลงนี้กลายเป็นโรงแรม สนามกอล์ฟ สนามแข่งรถ และตอนนี้แทบไม่มีเกษตรกรเป็นผู้ครอบครองแล้ว แต่ถูกนายทุนกวาดพื้นที่ไปทั้งหมด จึงตั้งข้อสังเกตว่าในเมื่อมีกฎหมาย แต่ยังถูกนำไปออกโฉนดได้อย่างไร โดยนายธนดลจะลงพื้นที่ตรวจสอบภายในสัปดาห์หน้าอธิบดีกรมที่ดินโยนถาม พม.จัดให้นายพรพจน์ เพ็ญพาส อธิบดีกรมที่ดิน กล่าวถึงกรณีที่ดินสนามกอล์ฟใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่มีการเชื่อมโยงกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถึงการครอบครองที่ดินดังกล่าว โดยนายอนุทินยืนยันว่าที่ดินได้มาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นการซื้อต่อจากชาวบ้าน ไม่ใช่มือแรก ว่าที่ดินดังกล่าวเป็นนิคมสร้างตนเองกว่า 1,000 แปลง อยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ตั้งแต่ปี 2515 เมื่อประชาชนเข้าทำประโยชน์เป็นเวลา 5 ปี สามารถขอเปลี่ยนเป็นที่ดิน น.ค.3 และต่อมาออกเป็นโฉนดได้ตามกฎหมาย เมื่อพ้นกำหนด 5 ปี ตามเงื่อนไข สามารถซื้อขายเปลี่ยนมือได้ตามปกติ กรมที่ดินไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง เพราะการออกโฉนดเป็นการดำเนินการตามเอกสารสิทธิของนิคมสร้างตนเองที่ พม. หรือกรมประชาสงเคราะห์เดิมเป็นผู้ดูแล ดังนั้น หาก ส.ป.ก. มีข้อสงสัยว่าพื้นที่ดังกล่าวทับซ้อนกันจริง ควรไปสอบถาม พม. ไม่ใช่มาถามกรมที่ดิน เพราะเป็นเพียงปลายทางครอบครองก่อน ส.ป.ก.ห้ามไม่ได้นายพรพจน์กล่าวว่า หากพื้นที่ใดถูกประกาศเป็นเขต ส.ป.ก. แต่มีประชาชนครอบครองมาก่อน และมีหลักฐาน เช่น ส.ค.1 หรือใบจองที่ดิน ส.ป.ก.ก็ไม่มีอำนาจไปห้ามการออกโฉนดได้ เพราะสิทธิของประชาชนได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ในทางกลับกันหากเป็นพื้นที่ ส.ป.ก.จริง และประชาชนต้องการให้กรมที่ดินเข้าไปสำรวจออกโฉนดในภายหลัง กรมที่ดินไม่สามารถทำได้เช่นกัน เนื่องจากกฎหมายห้ามไว้ โดยปัญหาลักษณะนี้มีอยู่ใน 122 อำเภอทั่วประเทศ และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไข“วราวุธ” ตีกรรเชียงชิ่งหนีปมร้อนนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงกรณีปัญหาที่ดินสนามกอล์ฟ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งอธิบดีกรมที่ดินระบุกว่า 1,000 แปลง เป็นของนิคมสร้างตนเอง ที่ พม.จัดสรรให้ชาวบ้านก่อนถูกนำมาขายต่อ และยังถูกตั้งคำถามว่าทับซ้อนกับที่ ส.ป.ก.หรือไม่ว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นนานมากแล้ว ได้ให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการไปหาเอกสารที่มีอายุมากมาอธิบายให้สังคมได้ทราบข้อเท็จจริง ส่วนจะเป็นเกมการเมืองหรือไม่นั้นไม่มีความเห็น เพราะไม่รู้ว่าใครมีเรื่องอะไรกันหรือไม่ปลัด พม.สั่งรื้อเอกสารตรวจสอบสิทธินายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม. ให้สัมภาษณ์ว่า สั่งการให้อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) รื้อเอกสารดูข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พิกัดอย่างไร ช่วงหลังเราไม่ขยับเรื่องเอกสารสิทธิมาหลายปีแล้ว อาจมีราษฎรเดิมอยู่ก็ต้องไปดู มีกฎหมายหลายฉบับ ต้องดูมติ ครม.ว่าอย่างไร ดูกฤษฎีกาแนบท้าย ซึ่งมีความละเอียด ต้องเอาทั้งผืนมาดูพิกัดวางทาบกัน เรื่องนี้ต้องมาเคลียร์ใหม่หมด ต้องพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์ จากนั้นมาดูว่าเอกสารได้ออกไปสอดคล้องกับข้อเท็จจริงหรือไม่ ขอเวลาตรวจสอบข้อมูล 1-2 สัปดาห์ หากต้องเชื่อมโยง ประสานงานกันคงมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันหลายฝ่าย เพราะกฎหมายเรื่องของที่ดินมี 7-8 ฉบับอธิบดี พส.ชี้ คกก.จัดสรรให้ทำกินปี 36ด้านนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ชี้แจงว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นนานแล้ว ครม.มีมติวันที่ 8 ต.ค.2506 ให้กรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทยในขณะนั้น ปัจจุบันคือกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ ใช้พื้นที่ป่าปากช่องหมูสีและป่าโครงการรถไฟมวกเหล็ก-สีคิ้ว จัดตั้งเป็นนิคมสร้างตนเอง ต่อมามีประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 351 ลงวันที่ 13 ธ.ค.2515 จัดตั้งนิคมสร้างตนเองลำตะคองในท้องที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา มีแผนที่ท้ายประกาศกำหนดเนื้อที่นิคมฯ 280,000 ไร่ เพื่อจัดสรรให้ประชาชนทำกิน ปี 2536 จังหวัดนครราชสีมา พบแนวเขตนิคมฯดังกล่าวไม่ชัดเจน จึงมีคำสั่ง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ มีหัวหน้าสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธาน มติการประชุม ครั้งที่ 2/2538 วันที่ 18 เม.ย. 2538 รับรองแนวเขตและลงนามความถูกต้อง โดยมีพื้นที่เพิ่มขึ้น 46,000 ไร่ จากเดิม 280,000 ไร่ รวมเป็น 326,000 ไร่ และได้ออกหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (น.ค.3) ให้สมาชิกนิคมฯ นับตั้งแต่ปี 2538 เป็นต้นมา ต่อมาปี 2554 สำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา สาขาปากช่อง มีหนังสือถึงนิคมฯแจ้งปัญหาการไม่สามารถออกโฉนดที่ดินให้แก่สมาชิกนิคมฯ ที่ถือครองหนังสือแสดงการทำประโยชน์ (น.ค.3) ได้ เนื่องจากความไม่ชัดเจนของแนวเขต จนปัจจุบันกรมพัฒนาสังคมฯได้ส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อพิจารณาในเรื่องการขอแก้ไขแนวเขตแผนที่ท้ายประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 351 กับแนวเขตของคณะกรรมการตรวจสอบแนวเขตที่ดินนิคมสร้างตนเองลำตะคอง จังหวัดนครราชสีมา ปี 2538 เพื่อเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา กรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พยายามแก้ไขปัญหาพื้นที่ทับซ้อนมาต่อเนื่องบอล มธ.-จุฬาฯ หวนจัดรอบ 5 ปีวันเดียวกัน มีการจัดแข่งขันฟุตบอลประเพณี “ธรรมศาสตร์-จุฬาฯ ครั้งที่ 75” ณ สนามศุภชลาศัย ปีนี้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นเจ้าภาพ กลับมาจัดอย่างเป็นทางการอีกครั้งในรอบ 5 ปี บรรยากาศงานเป็นไปอย่างคึกคัก บรรดาศิษย์เก่า ศิษย์ปัจจุบันและกองเชียร์ต่างทยอยเดินทางมาตั้งแต่เวลา 10.00 น. โดยมีการแสดงพิธีเปิดในเวลา 13.30 น. ไฮไลต์สำคัญคือขบวนล้อการเมือง ในเวลา 14.00 น. ทั้งนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง ศิษย์เก่าธรรมศาสตร์ รุ่น 12 สวมเสื้อเชียร์ธรรมศาสตร์เดินทางมาถึงในเวลา 13.15 น. ระบุสั้นๆว่ามาให้กำลังใจ แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องเชียร์ธรรมศาสตร์ เพราะเป็นศิษย์เก่า และเป็นนายกสมาคม เดินทางมาร่วมทุกปี สำหรับขบวนล้อการเมืองปีนี้ตนไม่ได้ยุ่งเป็นเพียงแขกมาเที่ยวดู ก่อนที่นายพิชัยจะเดินทางกลับในเวลา 15.15 น.“นายกฯอิ๊งค์” ศิษย์เก่าจุฬาฯร่วมด้วยขณะที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์ สาขาสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รุ่นที่ 57 สวมเสื้อเชียร์ของจุฬาฯ สีชมพู เดินทางมาถึงเวลา 15.20 น. เป็นเวลาที่ขบวนล้อการเมืองจบทั้งหมดแล้ว โดย น.ส.แพทองธารถือเป็นนายกฯคนแรกที่มาร่วมงานฟุตบอลประเพณี มีการโชว์ยิ้มหวานให้สื่อมวลชน หลังถูกถามว่าหากจุฬาฯชนะฟุตบอลประเพณีจะอัดฉีดเท่าใดสุดคึกคัก VIP คนดังมากันเพียบผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับไฮไลต์ของงาน ขบวนธงของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เป็นรูปหน้าของคณะศิษย์เก่า ไม่มีรูปของนายกรัฐมนตรี รวมไปถึงนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน แต่พบมีรูปของศิษย์เก่าที่เป็นคนดังทุกสาขาอาชีพ อาทิ นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าราชการ กทม. นางอรอนงค์ ปัญญาวงศ์ อดีตนางสาวไทย นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน Bodyslam หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล หรือเชฟป้อม นางนวลพรรณ ล่ำซำ หรือมาดามแป้ง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นต้น จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงไฮไลต์ของขบวนพาเหรดซึ่งเป็นการนำเสนอสะท้อนสังคมและล้อการเมืองของนิสิตจุฬาฯ และนักศึกษาธรรมศาสตร์ โดยเริ่มจากฝั่งจุฬาฯสะท้อนโยบายแจกเงินหมื่นของรัฐบาล แจก เพิ่มพูนหนี้สินประชาชน สถาปนาเป็นรัฐไทยเป็นมณฑลไท่กั๋ว ธุรกิจจีนเฟื่องฟู ส่งเสริมใช้รถ EV ไร้ความสามารถจัดการขยะพิษ ฯลฯขบวน มธ.จัดหนัก “วิวาห์ข้ามขั้ว”ขณะที่ขบวนล้อการเมืองฝั่งธรรมศาสตร์ค่อนข้างแสบคัน วิพากษ์นโยบายแก้รัฐธรรมนูญ รัฐบาลเพื่อไทยตระบัดสัตย์ปัดตกรัฐธรรมนูญจากประชาชน ด้วยการแสดงละครสั้น รวมทั้งประณามพรรคเพื่อไทยว่า ทรยศความไว้วางใจของประชาชนทิ้งพรรคก้าวไกล ไป “วิวาห์ข้ามขั้ว” ตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่เคยสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยมีป้ายข้อความบางส่วนระบุ “...พร่ำพูดอุดมการณ์มั่น สวยหรู ปืนป่าคุกไม่มีหวั่น มวลชน ศรัทธา พอมีพรรคอำนาจมา ลืมสิ้น ที่เคยทำ...”“เจี๊ยบ” ข้องใจเร่งเชือด 44 สส.พรรคส้มวันเดียวกัน นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์หนังสือลับจากคณะกรรมการ ป.ป.ช. เชิญให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาวันที่ 20 ก.พ. กรณีอดีต 44 สส. ลงชื่อเสนอแก้ไข ม.112 พร้อมข้อความ ระบุว่า “ป.ป.ช.แจ้งว่า ข้อกล่าวหาต่อดิฉันและเพื่อน สส.ก้าวไกล รวม 44 คนมีมูล เลยขอตั้งคำถามซัก 4-5 ข้อดังนี้ 1.การประกันตัวผู้ต้องหาคดี 112 จะทำได้ศาลต้องเป็นผู้อนุมัติ นั่นหมายถึงศาลสมรู้ร่วมคิดกับดิฉันเซาะกร่อนบ่อนทำลายและล้มล้างการปกครองใช่หรือไม่ แล้ว ป.ป.ช.ส่งหมายเรียกให้ศาลมารับทราบข้อกล่าวหาหรือยัง ยังมีนักวิชาการหลายๆ ท่านไปร่วมประกันตัว เพื่อให้ลูกศิษย์ได้กลับมาเรียนหนังสือในระหว่างต่อสู้คดีด้วย พวกเขามีความผิดด้วยหรือไม่ 2.อำนาจหน้าที่เสนอกฎหมายใหม่ แก้ไขกฎหมายเก่าที่ล้าสมัยยังเป็นหน้าที่ของ สส.หรือไม่”ซัด ป.ป.ช.สะอาดจนอยากอาเจียนนางอมรัตน์ระบุอีกว่า 3.มีบทบัญญัติหรือข้อห้ามใดบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญว่าห้ามเสนอแก้ไขกฎหมายมาตรา 112 และในอดีตก็เคยมีการแก้ไขมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง 4.กกต.เป็นผู้อนุญาตให้ใช้นโยบายแก้ไขมาตรา 112 เป็น 1 ใน 300 นโยบายหาเสียงของพรรคก้าวไกล แสดงว่า กกต.ก็สุมหัวร่วมทำความผิดนี้ด้วยหรือไม่ ทำไมไม่เรียก กกต.ไปรับทราบข้อกล่าวหาพร้อมๆกัน 5.ป.ป.ช.มีมโนธรรมสำนึกในหัวใจบ้างหรือไม่ หรือพอจะมีแต่ไม่มีความกล้าหาญพอจะยืนยันรักษาหลักการที่ถูกต้องให้กับสังคมนี้ได้ เห็นคำขวัญบรรทัดสุดท้ายแล้วอยากอาเจียน ป.ป.ช.ทุกท่านมีที่มาที่ยึดโยงกับประชาชน มีจริยธรรมสูงส่งเป็นที่ประจักษ์ รวมทั้งประธาน ป.ป.ช. ก็มีที่มาที่สะอาดสะอ้านมากใช่หรือไม่“ทักษิณ” ไปได้แค่บรูไน ภารกิจประเทศผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตในคำร้องที่นายทักษิณ ชินวัตร จำเลยในคดีความผิดมาตรา 112 ยื่นคำร้องขอเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เพื่อไปร่วมประชุมอาเซียนในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ที่จะจัดการประชุมระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ.2568 ที่ประเทศบรูไน โดยนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน มีหนังสือเชิญผ่านสถานทูตผ่านกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อเชิญไปหารือต่อเนื่องจากการประชุมครั้งก่อน ศาลเห็นว่ากรณีมีเหตุจำเป็นตามคำร้องมีคำสั่งอนุญาตออกนอกประเทศระหว่างวันที่ 18-19 ก.พ.2568 ให้วางหลักประกัน 5 ล้านบาท และให้มารายงานตัวภายใน 3 วัน นับตั้งแต่วันที่เดินทางกลับประเทศไทย แจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบ นอกจากนี้นายทักษิณได้ยื่นคำร้องขอเดินทางไปประเทศเวียดนามและประเทศกัมพูชาในช่วง 18-19 ก.พ. แต่ศาลไม่อนุญาตให้ไป เนื่องจากเห็นว่าการเดินทางไปทั้งสองประเทศดังกล่าวเป็นการเชิญไปในนามส่วนตัว ไม่ใช่ในนามรัฐบาลอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่