ตลาดหุ้นไทย ช่วงนี้ค่อนข้างหงอยเหงา ไม่มีข่าวดีมาหนุน การหว่านแจกเงินดิจิทัล 560,000 ล้านบาท ก็ต้องรอไปถึงไตรมาสแรกปีหน้า ถ้าแจกช้าเกินไป อารมณ์การใช้เงินของคนอาจไม่คึกคักเท่าที่ควร อาจไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างที่คาดหวัง มาตรการหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีที่สุดก็คือ การกระตุ้นผ่านตลาดหุ้น เหมือน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ แม้เงินเฟ้อสหรัฐฯจะยังกดไม่ลง แต่ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ก็ยังยืนอยู่เหนือ 34,000 จุด ในขณะที่ ดัชนีหุ้นญี่ปุ่นก็ทำสถิติสูงสุดใหม่อย่างคึกคัก เช่นเดียวกับ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ที่ดัชนีหุ้นพุ่งขึ้นทันทีหลังจากที่ทางการประกาศ ยกเลิก Short Sell ของนักลงทุนรายใหญ่ เพื่อคุ้มครองนักลงทุนรายย่อยในตลาดตลาดหุ้นไทย ซบเซาต่อเนื่องมายาวนานตั้งแต่ คสช.ปฏิวัติยึดอำนาจจนถึงปัจจุบัน จนนักลงทุนทนไม่ไหว นักลงทุนรายย่อยที่ลงทุนในหุ้นเพื่อออมระยะยาว ตอนนี้ขาดทุนกันถ้วนหน้า ทำให้กำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจอ่อนแออย่างเห็นได้ชัดคุณพิเชษฐ สิทธิอำนวย รองประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เปิดเผยว่า สัปดาห์หน้า ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานเฟทโก้ จะนำกรรมการเข้าพบ คุณเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรัฐมนตรีคลัง เพื่อเสนอแนวทางแก้ปัญหาตลาดหุ้นไทยในระยะยาว โดยจะเสนอให้จัดตั้ง “กองทุนเพื่อการออมระยะยาว” ในตลาดหุ้นไทย รวมทั้งการฟื้นฟู “กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF)” เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนออมเงินในระยะยาวเหมือนในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่นออสเตรเลีย ฯลฯ เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่ละปีรัฐต้องใช้เงินดูแลผู้สูงอายุในระดับที่สูง และกองทุนดังกล่าวก็เป็นที่นิยมของประชาชนในการออมคุณไพบูลย์ นลินทรางกูร กรรมการเฟทโก้ ก็มีความเห็นว่า ขณะนี้ เริ่มเห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้นแล้วว่า ตลาดหุ้นไทยขาดเม็ดเงินการลงทุนระยะยาว ตั้งแต่รัฐบาล (ลุงตู่) ได้ยกเลิกกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนระยะยาวมีสัดส่วนลดลงไปเรื่อยๆ ช่วงหลังนี้จะเห็นว่า ตลาดหุ้นไทยผันผวนสูงมาก เมื่อมีปัจจัยลบเข้ามากระทบ ตลาดหุ้นไทยจะลงแรงเพราะไม่มีเงินทุนระยะยาวเข้ามาหนุนเหมือนในอดีต ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนและ กองทุนต่างชาติที่เคยลงทุนระยะยาวในตลาดหุ้นไทย ช่วงหลังก็กลายเป็น กองทุนระยะสั้น มีการใช้โปรแกรมเทรดมากกว่า 50% ทำให้นักลงทุนขาดความมั่นใจคุณเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเชีย พลัส ให้ข้อมูลว่า ในระยะหลัง (หลังจากรัฐบาลลุงตู่ยกเลิกกองทุนหุ้น LTF แล้ว) พบว่า ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยทั้งปีเทียบกับมูลค่าตลาดหุ้นไทย (Market Cap) ปรับตัวลดลงอย่างมาก การที่จะทำให้ “ดัชนีหุ้นไทย” ขยับตัวสูงขึ้นก็เกิดขึ้นได้ยาก ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (ปี 2556-2566 ในสมัยรัฐบาลลุงตู่ที่ยาวนาน) เม็ด เงินจากนักลงทุนต่างชาติไหลออกจากตลาดหุ้นไทยไปแล้วถึง 930,000 ล้านบาท ทำให้ตลาดทุนไทยตกอยู่ในภาวะที่ขาดเม็ดเงินลงทุน ไม่มากพอที่จะขับเคลื่อนตลาดหุ้นไทย ในขณะที่ Market Cap เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นผลจากการมีบริษัทเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้นมากขึ้นคุณเทิดศักดิ์ เห็นว่า การนำ “กองทุน (LTF)” กลับมาจะเป็นประโยชน์ทันทีต่อตลาดหุ้นไทย นักลงทุนมีความคุ้นเคยและเกี่ยวข้องกับหุ้นในตลาดทั้งระบบ ส่วนการจัดตั้งกองทุนใหม่ๆ เช่น การลงทุนเกี่ยวกับหุ้นยั่งยืน ก็ทำให้ตลาดหุ้นไทยมีสีสันดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติได้เช่นกันผมเห็นด้วยกับ FETCO ทุกอย่างครับ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า นายกฯเศรษฐา ที่เคยอยู่ในตลาดทุนมานาน จะเห็นภาพใหญ่ที่เฟทโก้เสนอ เพื่อส่งเสริมนักลงทุนรายย่อยให้มีช่องทางการออมระยะยาวที่ปลอดภัย กองทุนหุ้น LTF มีแต่จะช่วยลดภาระของรัฐบาลในระยะยาว ลดภาษีปีละนิดหน่อย ดีกว่าแจกเงิน 560,000 ล้านแบบเหวี่ยงแหเยอะ.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ "หมายเหตุประเทศไทย" เพิ่มเติม