ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ การได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เป็นไปอย่างที่คาดการณ์กันคือไม่ง่ายฉากทัศน์ที่ 1 ผ่านไปแล้ว ปรากฏคะแนนโหวตที่ออกมาแทบไม่ให้ราคา “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” แคนดิเดตนายก รัฐมนตรีจาก “ก้าวไกล” แม้แต่น้อย13 ส.ว.เท่านั้นที่ลงคะแนนให้เป็น 324 เสียงไม่เห็นชอบด้วย 182 เสียงงดออกเสียง 199 เสียงด้วยเหตุนี้ “พิธา” จึงยังไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างที่หวัง แม้จะซ้อมบทมาตลอด หลังทราบผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พ.ค.66 ที่ผ่านมาจึงได้แค่ “นายกฯเทพ” เท่านั้น!“ยอมรับแต่ไม่ยอมแพ้” คำตอบภายหลังคะแนนโหวตออกมา ความหมาย ก็คือยังไม่ยอมรับความเป็น “ผู้แพ้”เสียงจาก ส.ว.ให้น้ำหนักไปที่ ม.112 ที่ทำงานเป็นทีมผสานกับ ส.ส.อย่างเป็นเนื้อเดียวกัน จนฉายภาพอย่างชัดเจนว่าทำไมถึงไม่โหวตให้ตัวเลขออกมาอย่างนี้มันฟ้องว่า “ก้าวไกล” ทำงานไม่ได้ผลจนไม่สามารถตอบคำถาม 7 พรรคร่วมที่ถามว่าได้เสียง ส.ว.จำนวนเท่าใดคือแพ้ตั้งแต่ตรงนั้นแล้ว แต่ใจดีสู้เสือ ดำน้ำอึดจนถึงวันจริงแนวทางสู้ต่อไปเมื่อไม่ยอมแพ้ เท่าที่สดับตรับฟังมามีอยู่ 3 แนว1.ยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ม.272 เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. เป็นการดับที่เหตุ ซึ่งดูตามรูปการณ์แล้วไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องผ่านด่าน ส.ว.อีกเช่นกันที่สำคัญเงื่อนเวลาคงไม่เอื้ออำนวย2.เจรจา 8 พรรค 312 เสียง เพื่อขอให้การสนับสนุนให้โหวตอีกรอบหนึ่ง คงไม่ยาก เพราะน่าจะเปิดโอกาสให้“เพื่อไทย” คงยอมให้ จะได้หลุดจาก “กับดัก” ผูกติดมาตั้งแต่ต้น เพราะอ่านความเป็นไปแล้วโหวตรอบที่ 2 คงไม่ต่างไปจากรอบแรกเท่าใดนักรอบนี้ไม่ผ่านก็สามารถบอกลากันด้วยไมตรี3.ดิ้นรนล็อบบี้ ส.ว.อีกครั้ง เพราะยังติดใจที่ ส.ว.ไม่มาประชุม 40 กว่าคนที่อาจจะเปลี่ยนหันมาโหวตให้ก็ได้ทว่าคงยากยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นเขาหลายร้อยเท่ายิ่งไปกว่านั้น การขอโอกาสโหวตรอบที่ 2 นั้นยังต้องเจอกับแรงต้านที่มีเบาะแสมาแล้วว่าด้วยการเสนอญัตติซ้ำได้หรือไม่เพราะเมื่อเกมเปลี่ยน อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นดูจากคะแนนโหวตที่ออกมาจากฝ่าย 188 เสียง ขั้วรัฐบาลเดิม พอจะเห็นร่องรอยอะไรบางอย่างที่ชวนให้คิดภูมิใจไทย+พลังประชารัฐ+รวมไทยสร้างชาติ ผนึกพลังคะแนนออกมาทิศทางเดียวกันคือไม่เห็นชอบประชาธิปัตย์+ชาติไทยพัฒนาไปในแนวเดียวกันคืองดออกเสียง3 พรรคแรก “หนูบวก 2 ลุง” นั้นเปิดหน้าไม่ยั้งไมตรี โดยเฉพาะรวมไทยสร้างชาติที่ “บิ๊กตู่” โบกมือลาไปแล้วทำให้สามารถโลดแล่นบนเวทีได้คล่องตัวขึ้น เพราะข้อจำกัดน้อยลง แต่สามารถเติมเสียงให้ขั้วรัฐบาลชุดนี้เข้มแข็งขึ้นอยู่ที่ “ก้าวไกล” หากโหวตรอบที่ 2 ไม่ผ่าน นั่นแหละสนุกแน่ทางเดียวคือต้องโยกไปเป็นฝ่ายค้าน เนื่องจากไม่สามารถร่วมกับขั้วรัฐบาลเดิมได้ด้วย “กับดัก” ม.112จะดันทุรังขอโหวตรอบที่ 3 คงโดนโห่แน่ทำให้ตั้งรัฐบาลล่าช้า เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ!คลิกอ่านคอลัมน์ "สับรางวันอาทิตย์" เพิ่มเติม“ลิขิต จงสกุล”