หลายคนที่เคยไปโรงพยาบาลใหญ่ๆเช่น รพ.ศิริราช รพ.จุฬาฯ คงคุ้นชินกับภาพที่หุ่นยนต์ออกมาทำหน้าที่ต้อนรับผู้ป่วย ช่วยลงทะเบียนคัดกรองเบื้องต้น วันเสาร์สบายๆวันนี้ผมจะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับหุ่นยนต์ที่ว่านี้ ชื่อว่าหุ่นยนต์ “ดินสอ” ซึ่งคิดค้นและพัฒนาโดยฝีมือคนไทย แล้วทุกท่านจะรู้ว่าเมื่อคนไทยปลดปล่อยพลังแสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมา ก็สามารถเป็นผู้นำเทคโนโลยีได้หุ่นยนต์ดินสอที่ใช้ในโรงพยาบาลทำหน้าที่เหมือน “ผู้ช่วยพยาบาล” ให้บริการผู้ป่วยโอพีดี สามารถสื่อสารพูดคุยโต้ตอบได้อย่างน่ารัก เมื่อมีคนไข้มาหาหมอ หุ่นยนต์จะเข้าไปต้อนรับ เช็กประวัติ ลิงก์กับระบบเวชระเบียน คัดกรองอาการเบื้องต้น ไปจนถึงวัดความดันและส่งต่อไปรักษายังตามแผนกต่างๆ ช่วยประหยัดเวลาได้มากนอกจากนี้ยังมี หุ่นยนต์ดินสอมินิ ใช้ในหอผู้ป่วยสำหรับดูแลผู้ป่วยบางประเภท โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าดูตลอด 24 ชั่วโมง หุ่นยนต์ดินสอมินิเป็น หุ่นยนต์ไทยตัวแรกที่ส่งออกไปญี่ปุ่น ใช้ในสถานดูแลผู้สูงอายุ คอยอยู่เคียงข้างผู้สูงวัยและผู้ป่วยติดเตียง และพัฒนามาอยู่ข้างเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล ฟังก์ชันการทำงานมี 3 หน้าที่หลักคือ 1.เฝ้าผู้สูงอายุ หุ่นยนต์ดินสอมินิใช้กล้องที่มีประสิทธิภาพสูงและมีระบบเอไอ สามารถมองตามและมองหาคนได้ ถ้าผู้สูงอายุหกล้ม หรือคนไข้ต้องการเรียกพยาบาล หุ่นยนต์จะแจ้งเตือนทันที หรือกรณีคุณตาคุณยายเป็นอัลไซเมอร์ อยู่บ้านเพียงลำพัง บางคนเดินออกจากบ้านแล้วหลงทาง หุ่นยนต์ก็จะคอยเฝ้า ถ้าไม่พบคุณตาคุณยายอยู่ในบ้าน จะแจ้งเตือนให้ลูกหลานทราบ2.วิดีโอคอล ลูกหลานสามารถโหลดแอปพลิเคชันในมือถือแล้วพูดคุยกับผู้สูงอายุ หรือสั่งให้หันกล้องไปมาเพื่อส่องดูได้ 3.ช่วยแก้เหงา คลายเครียด ลดความหดหู่เดียวดาย เพราะลูกหลานต้องออกไปทำงาน ไม่สามารถอยู่เป็นเพื่อนได้ตลอดเวลา หุ่นยนต์ดินสอมินิก็ช่วยเปิดเพลงหรือบทสวดมนต์ให้คลายเหงา และยังเล่นเกมได้ ซึ่งช่วยทั้งการฝึกสมองและกล้ามเนื้อ การทำหุ่นยนต์ต้องผสมผสานศาสตร์ด้านเครื่องกล สรีระ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ และเอไอ หุ่นยนต์ดินสอรุ่นแรกเมื่อสิบปีก่อนรูปลักษณ์เหมือนหุ่นกระป๋อง ฟังก์ชันการทำงานไม่ซับซ้อน ก็พัฒนาเรื่อยมาจนปัจจุบันเริ่มมีใช้แพร่หลาย รุ่นต่อไปที่กำลังพัฒนาอยู่จะทำให้เคลื่อนไหวอ่อนช้อยใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น และจะถึงขั้นตรวจสอบมะเร็งบางชนิดในเบื้องต้นได้จากกลิ่นลมหายใจ มะเร็งยิ่งรู้เร็วยิ่งรักษาง่าย ปัญหาคือคนไม่ค่อยรู้ว่าตัวเองเป็นมะเร็ง ฉะนั้นถ้ามีเครื่องมือตรวจมะเร็งได้สะดวก โอกาสรู้เร็วรักษาหายก็มีมากอย่างไรก็ตามกว่าที่หุ่นยนต์ดินสอที่ได้รับการยอมรับจากโรงพยาบาลใหญ่ๆทั้งของรัฐและเอกชน จนถึงขั้นส่งออกไปต่างประเทศได้ ก็ต้องฟันฝ่าอุปสรรคมากมาย คุณเฉลิมพล ปุณโณทก ผู้ก่อตั้งบริษัท ซีทีเอเชีย โรโบติกส์ จำกัด ผู้คิดค้นและพัฒนาหุ่นยนต์ดินสอ เผยว่า ตอนเริ่มคิดทำหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงวัย มีคนทักว่ายังไงก็สู้ของเมืองนอกไม่ได้หรอก และคนทั่วไปมีภาพจำว่าญี่ปุ่นมีความเป็นเลิศด้านหุ่นยนต์ ถ้าตนยอมแพ้ตั้งแต่ตอนนั้นก็คงไม่มีวันนี้ ตอนนั้นตัดสินใจไปดูของจริงที่ญี่ปุ่น ปรากฏว่าเขาไม่มีหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุ ตนจึงพัฒนาหุ่นยนต์ดินสอมินิไปให้ลองใช้จนกลายเป็น ผู้บุกเบิกหุ่นยนต์ดูแลผู้สูงอายุในญี่ปุ่น คุณเฉลิมพลกล่าวว่า เด็กไทยมีศักยภาพไม่แพ้ชาติใด นักศึกษาวิศวะชนะเลิศการประกวดหุ่นยนต์ นักเรียนไทยแข่งฟิสิกส์กับคณิตศาสตร์โอลิมปิกก็ชนะ แล้วทำไมพอเรียนจบต้องไปเป็นลูกจ้างบริษัทเทคโนโลยีของต่างชาติ ทั้งที่ตัวเองเรียนชนะเขา นั่นเป็นเพราะบางคนกลัวความล้มเหลว ไม่กล้าออกจากกรอบคิดเดิมๆ ไม่กล้าตั้งโจทย์แห่งอนาคต ทำให้ไม่สามารถปล่อยศักยภาพออกมาได้คุณเฉลิมพลให้ข้อคิดด้วยว่า คำพูดที่ได้ยินเป็นประจำคือเราต้องตามให้ทันเทคโนโลยี ฟังดูดี แต่อีกมุมหนึ่งมันก็จำกัดให้เราเป็นแค่ผู้ตาม มันย่อมดีกว่าถ้าเราเป็นผู้นำเทคโนโลยี เมื่อไหร่ก็ตามที่คนไทยคิดอย่างผู้นำ ระเบิดพลังออกมานำเทคโนโลยี เราก็สามารถเป็นผู้นำได้ และถ้าทั้งประเทศช่วยกันคิดแบบนี้ คิดสร้างทางของเราเอง ผู้ร่วมทางจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ โอกาสประสบความสำเร็จก็เพิ่มขึ้นก็เป็นแง่คิดดีๆที่เอามาเล่าสู่กันฟัง ช่วยเติมแรงบันดาลใจให้เด็กไทยครับ.ลมกรด