วิกฤติขัดแย้งแย่งชิงโควตาประธานสภาฯ น่าจะเป็นบทเรียนล้ำค่าให้พรรคก้าวไกลนำไปแก้ไขกระบวนท่าการเมืองแต่ถ้าพรรคก้าวไกลยังมองไม่เห็นความบกพร่องของตัวเอง??“แม่ลูกจันทร์” ขออาสาเป็นกระจกเงาสะท้อนความจริงให้พรรคก้าวไกลไปพิจารณาแก้ไข เพื่อให้การจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคขั้วประชาธิปไตยเดินหน้าไปได้อย่างราบรื่นจนผ่านด่านสุดท้ายคือได้นายกฯคนใหม่และ ครม.ชุดใหม่ครบ 35 คน!!สิ่งที่พรรคก้าวไกล ในฐานะพรรคแกนนำต้องแก้ไขก่อนสายเกินเพลมีหลักๆอยู่ 8 ข้อดังนี้คือ...ข้อที่ 1. อย่าหลงระเริงกับชัยชนะเลือกตั้งจนลืมสภาพความจริงพรรคก้าวไกลยังต้องพึ่งพาอาศัย ส.ส.พรรคเพื่อไทยและ ส.ส.พรรคอื่นๆ เพื่อได้เป็นแกนนำรัฐบาลข้อที่ 2. การจัดสรรเก้าอี้รัฐมนตรีต้องเหมาะสม โปร่งใส และเป็นธรรมอย่ารวบกระทรวงสำคัญเป็นของพรรคก้าวไกลฝ่ายเดียว!!ข้อที่ 3. ความมั่นใจเป็นเรื่องที่ดี แต่อย่ามั่นใจตัวเองมากเกินไปจนไม่แคร์ความรู้สึกพรรคร่วมรัฐบาลอย่ามั่นใจว่าความคิดของตัวเองถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์!!ข้อที่ 4. ในฐานะพรรคแกนนำ อย่าตัดสินใจทุกปัญหาตามลำพัง ควรปรึกษาหารือกับพรรคอื่นๆ อย่างตรงไปตรงมาอย่าให้เรื่องเล็กๆน้อยๆ ทำให้ความขัดแย้งบานปลายข้อที่ 5. ในฐานะพรรคแกนนำ อย่าให้ความสำคัญกับกลุ่มแฟนคลับตัวเองฝ่ายเดียวเพราะพรรคอื่นๆก็มีกลุ่มแฟนคลับเช่นเดียวกันข้อที่ 6. นโยบายที่ดีควรรีบดำเนินการให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรมแต่นโยบายที่ไม่ใช่วาระเร่งด่วนควรระงับไว้ก่อนเพื่อความปรองดองสมานฉันท์ในสังคมไทยข้อที่ 7. พรรคก้าวไกลต้องยอมรับความจริงว่า ส.ส.ในพรรคส่วนใหญ่เพิ่งเป็น ส.ส.สมัยเดียว พรรษาการเมืองยังน้อย ยังต้องบ่มเพาะประสบการณ์ต่อไปอีกหลายปีเมื่อต้องเปรียบเทียบกับ ส.ส.พรรคอื่นที่อาวุโสกว่า ชั่วโมงบินสูงกว่า ย่อมด้อยกว่าเป็นเรื่องธรรมดาข้อที่ 8. ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทยต้องตอกเสาเข็มเป็นรัฐบาลจนสุดทางอย่ามุทะลุแยกขั้วเป็นฝ่ายค้านตามลูกยุของผู้หวังดี (หรือไม่หวังดี)ถ้าพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยยังกอดคอกันอย่างนี้ตลอดไปไม่มีทางที่พรรคเพื่อไทยจะสวิงไปจับขั้วกับพรรคลุงอุตส่าห์ชนะเลือกตั้งเป็นอันดับหนึ่ง จะเป็นฝ่ายค้านให้เมื่อยตุ้มเรอะโยม??“แม่ลูกจันทร์”