เลือกตั้งจบ รู้แพ้รู้ชนะ ในสนามเลือกตั้งเรียบร้อย พรรคการเมืองที่ได้เสียงข้างมาก ในความเป็นจริงจะต้องแสดงความมั่นอกมั่นใจที่จะได้เป็นรัฐบาล ตามระบอบประชาธิปไตย ตามรัฐธรรมนูญที่ให้สิทธิพรรคเสียงข้างมากได้ตั้งรัฐบาลก่อน ในโลกความเป็นจริง ทุกวันนี้ ก้าวไกลและเพื่อไทย ที่ประกาศจับมือกันตั้งรัฐบาล 312 เสียง ว่าที่นายกฯคนต่อไป พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังใจหายใจคว่ำตลอดเวลา เพราะไม่รู้ว่า กกต. จะประกาศรับรอง ส.ส.วันไหน จะมีการสอยว่าที่ ส.ส.กี่เขตกี่คน จะต้องนับคะแนนใหม่ จะต้องเลือกตั้งใหม่ เลือกตั้งซ่อม คุณสมบัติของว่าที่นายกฯ กกต.จะตรวจสอบเสร็จเมื่อไหร่ จะส่งเรื่องให้รัฐธรรมนูญวินิจฉัยหรือไม่ ไปจนถึงขนาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้จะเป็นโมฆะหรือไม่เป็นประชาธิปไตยที่อ่อนแอที่สุดพรรคการเมืองไม่เคยมีอิสระทางความคิด ส.ว.ก็ไม่มีอิสระ และยังออกมาชี้นำทางการเมือง ภายใต้การครอบงำของผลประโยชน์ แทนที่ ส.ว.จะเป็นสภาพี่เลี้ยง กลายเป็นสภาของกลไกอำนาจ ทำหน้าที่ตรวจสอบ ส.ส.เสียเองมากกว่าจะให้คำปรึกษาแนะนำ เมื่อดูจากที่มาที่ไปของ ส.ว.แล้วไม่ต่างจากเผด็จการซ่อนรูปมีแหล่งข่าวจาก กกต.อ้างว่า กกต.ต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง ว่าการเลือกตั้งมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า เป็นไปด้วยความสุจริตและเที่ยงธรรมหรือไม่ มีคำร้องเข้ามากว่า 280 เรื่อง มีว่าที่ ส.ส.ประมาณ 20–30 คน ที่อยู่ในข่ายถูกร้องให้ตรวจสอบด้วย ทำให้ กกต.ต้องตรวจสอบหลักฐานในเรียบร้อยก่อน เพราะเกรงว่าจะซ้ำรอยกับการให้ใบส้ม สุรพล เกียรติไชยากร อดีตผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย เชียงใหม่ ที่ กกต.ถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายกว่า 60 ล้านบาทและเรื่องที่ถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการนับคะแนน มี เป็นคะแนนเขย่ง ที่นอกจาก บัตรเขย่ง แล้วยังมี คะแนนเขย่งอีก คือเป็นลักษณะ ของจำนวนผู้มาลงคะแนนกับจำนวนคะแนนที่ออกมาไม่ตรงกัน อาจต้องนับคะแนนกันใหม่ และจะต้องนำมาคำนวณ จำนวน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อกันใหม่ ซึ่ง กกต.อาจประกาศรายชื่อของ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อเพิ่มอีก 4 พรรคการเมือง โดยพรรคสุดท้ายเป็น พรรคไทยภักดี ของ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม พอดีสรุปคือมี 2 เงื่อนไขที่ กกต.รอการตรวจสอบคือ การนับคะแนนเขย่ง ของ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และการพิจารณา ประกาศรับรอง ส.ส.เขต ที่มีผู้ถูกร้องประมาณ 20-30 คน ฉิวเฉียดว่าจะครบร้อยละ 95 หรือ 475 คนพอที่จะครบองค์ประชุมในการเปิดประชุมสภาได้หรือไม่ประธาน กกต. อิทธิพร บุญประคอง ประกาศไปแล้วว่าจะมีการประกาศรับรอง ส.ส.ให้เร็วที่สุดไม่ถึง 60 วัน เร็วกว่าการเลือกตั้งปี 2562 คาดว่าน่าจะอยู่ระหว่างต้นเดือน ก.ค.นี้ระหว่างนี้ก็จะมีเหตุการณ์ป่วนประชาธิปไตยไปเรื่อยๆ เพราะ คิดว่าอำนาจเหนือรัฐธรรมนูญยังมีอิทธิพลต่อการเมืองไทยไปชั่วนิรันดร์ ในที่สุดก็จะกลายเป็นลิเกหลงโรงไปฉิบ.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.th