มัดจำกระแสล่วงหน้า มหาสงกรานต์ปีใหม่ไทย ตามมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติวันหยุดยาว 6 วันเต็มเหยียด เปิดโอกาสให้พี่น้องประชาชนได้กลับบ้านไปทำบุญทำทาน รดน้ำขอพรพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวอีกนัยก็หวังให้เกิดการท่องเที่ยว จับจ่ายใช้สอย กระตุ้นการหมุนเวียนเศรษฐกิจแต่ทั้งนั้นทั้งนี้ก็ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยในห้วงไวรัสมรณะโควิด-19 ยังเป็นอันตราย ตามมาตรการที่ ที่ประชุม ศบค.ยังคุมเข้มห้ามสาดน้ำ ประแป้ง สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงติดเชื้อสำคัญที่ประชาชนต้องเตือนสติตัวเอง “การ์ดห้ามตก”อีกทางหนึ่งก็ต้องจับตา “มหาสงกรานต์” ห้วงอาถรรพณ์การเมืองร้อน ย้อนประวัติศาสตร์ที่ผ่านมามักเกิดเหตุปั่นป่วน บรรยากาศล้อตามดีกรีอุณหภูมิระอุดุเดือดในสภา เร้าเกมบู๊นอกสภาในสถานการณ์ฝุ่นตลบแข่งกับควันพิษ PM2.5 จังหวะไฟต์บังคับ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ต้องปรับ ครม.แทนที่ว่างจากอดีตรัฐมนตรีสาย กปปส.โดนดำเนินคดีเกมเปิด มหกรรมชิงเก้าอี้ดนตรี ที่แหว่งไป 3 เก้าอี้ อนุทิน ชาญวีรกูลกระตุ้นอาการ “กระสันอำนาจ” นักการเมืองอาชีพไล่บี้ “แย่งชามข้าว” ฟัดกันน้ำกระจายแม้จะมีความพยายาม “ปิดกล่อง” เร็ว แบบที่ พล.อ.ประยุทธ์ ขีดเส้นจะปรับ ครม.ให้เสร็จภายในเดือนมีนาคม ส่งมุกรับไม้กับ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่รีบส่งโพยรายชื่อให้นายกรัฐมนตรี เรียบร้อยสยบแรงกระเพื่อม เบรกนักวิ่งเต้นแล้วก็เป็น “เสี่ยโอ๋” นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ตีปี๊บป่าวประกาศเองเลยว่า ได้รับการทาบทามจากผู้ใหญ่ กระซิบให้เตรียมกรอกเอกสาร เปิดซิงตำแหน่งรัฐมนตรีการันตีตั๋วเสียบโควตา กปปส. นอมินีกลุ่มทุนใหญ่ พ่วงม้าใช้สาย “วิรัช รัตนเศรษฐ”อีกคนที่ไม่ปฏิเสธก็คือ “หนูเหน่ง” น.ส.ตรีนุช เทียนทอง ส.ส.สระแก้ว ที่ชื่อนิ่งในโผตรงกันแทบทุกสื่อ ถือตั๋วพ่อ แม่ ที่สนิทสนมกับ “ลุงป้อม” ตั้งแต่คุมกองกำลังภาคตะวันออกโควตาพลังประชารัฐ ออก 2 เข้า 2 ลงล็อกแต่แรงกระฉอกยังไม่สงบง่ายๆ อย่างที่เห็นโผเปลี่ยนไปเปลี่ยนมารายวันตามรูปการณ์เน้นโฟกัสไปที่ก๊วน 3 รัฐมนตรีช่วย “ผู้กองนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ “มาดามบิ๊กอาย” นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลังยังไม่ได้รับการสนองตอบการ “อัปเกรด” ขึ้นชั้นโดยเฉพาะ “ผู้กองนัส” ที่สถานะเจ้าของสวนกล้วยในค่ายพลังประชารัฐ มันใหญ่กว่าเก้าอี้รัฐมนตรีช่วยไปแล้ว แนวโน้มถ้ารอบนี้ไม่ได้โปรโมตตามผลงานชนะศึกเลือกตั้งซ่อมนครศรีธรรมราช ต่อเนื่องกับการโชว์พลังในสภา ตัวเลขโหวตแซงหน้า “บิ๊กตู่” ตีคู่เท่า “บิ๊กป้อม”ตามฟอร์มนักการเมือง “ปาก” ไม่ตรงกับ “ใจ”คิวนี้ “ผู้กองนัส” บอกแล้วแต่นายกฯจะพิจารณา “พี่ตู่” ก็ต้องแปลรหัสให้ดีๆเกม “ซ่อนแต้ม” ในคิวโหวตอภิปรายไม่ไว้วางใจ โชว์ให้เห็น จะจะมาแล้วอีกช็อตที่มาถึงจุดแตกหัก สะท้อนร่องรอยการเหยียบตาปลากันเองในขบวนโหนอำนาจทหารเฒ่า 3 ป. ตามปรากฏการณ์อย่างที่ “บิ๊กป้อม” ต้องบอกปัดปมร้อนระหว่าง “เสี่ยแฮงค์” นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะเลขาธิการพรรค กับ “มาดามบิ๊กอาย” แย่งกันคุมคิวในพรรคหักหน้า เบรกแตก โซ้ยกันแรงๆต่อหน้าลุงภาวะยุ่งเหยิงที่เริ่มเกินวิสัยทหารเฒ่า 3 ป. จะคุมอาการ “กระสัน” อำนาจและผลประโยชน์ของนักการเมืองตามท้องเรื่องประจานเชื้อเน่าชักลามเลยเถิด อารมณ์เบียดแย่ง เหยียบบ่า ปาดหน้าเนื้อในพลังประชารัฐแตกเป็นเสี่ยง เห็นได้จากภายนอกนั่นยังไม่ได้พูดถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่เกาะเกี่ยวกันด้วยเกมอำนาจและผลประโยชน์หลวมๆ โฟกัสไปที่พรรคภูมิใจไทย กับยี่ห้อประชาธิปัตย์ที่ผูกเสี่ยวกันร่วมรัฐบาลแท็กทีมเรียกสินสอดทองหมั้น หยิบชิ้นปลามันตัดหน้าพรรคแกนหลัก จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์เกมนี้เจอลูกเขี้ยวของ “บิ๊กตู่” หักดิบ โยนให้ “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กับ “อู๊ดด้า” นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าค่าย ปชป.ไปเกลี่ยโควตากันเองตามเงื่อนไขภูมิใจไทยต้อนงูเห่าสีส้มมาเพิ่มแต้ม ตรงกันข้ามยี่ห้อประชาธิปัตย์เสียงหดหายโบ้ยให้ไปเปิดศึกภายในแต่ละพรรค ล่อเป้ากันเอง“บิ๊กตู่” หมดโปรฯสำหรับพรรคร่วมรัฐบาล ปั่นป่วนกับการแย่งชามข้าวในค่ายพลังประชารัฐ ตามเงื่อนไขสถานการณ์ปรับ ครม.ไม่ว่าออกมารูปไหน หนีไม่พ้นการตอกย้ำรอยร้าวในหมู่ทีมอำนาจ 3 ป.ภาพภายในกัดกร่อน สะท้อนภาวะอ่อนกำลังขณะที่ภาพภายนอก ก็ฉุดความชอบธรรม เมื่อการปรับ ครม.แค่แก้ปมการเมือง ไม่ได้เน้นเรื่องประสิทธิภาพในการบริหารราชการแผ่นดิน อุดปมด้อยรัฐบาลแต่อย่างใดกระแสภายนอก ภาวะภายใน โหลดภูมิต้านทานรัฐบาลทหารเฒ่า 3 ป.ในจังหวะที่ต้องรอรับแรงกระแทกหนักๆ จากผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญกรณีคำร้องของนายไพบูลย์ นิติตะวัน และนายสมชาย แสวงการ ในฐานะสมาชิกรัฐสภา ที่ขอให้ศาลวินิจฉัยชี้ขาดอำนาจรัฐสภาในการตั้ง ส.ส.ร.เพื่อยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ชอบด้วย รัฐธรรมนูญหรือไม่สรุปรัฐสภามีอำนาจหน้าที่จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญได้ลงประชามติเสียก่อนว่าประชาชนประสงค์ จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้วลงประชามติอีกครั้งท่ามกลางการตีความหมายกันไปต่างๆนานาจับสัญญาณจาก “ส.ว.ลากตั้ง” ส่วนใหญ่ เสนอให้ไปเริ่มกระบวนใหม่ และให้ที่ประชุมรัฐสภาเบรกการลงมติวาระ 3 ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมตามรูปการณ์ กระบวนการรื้อรัฐธรรมนูญส่อสะดุดกลางทางตามเงื่อนไขศาลรัฐธรรมนูญ ต้องทำประชามติว่าประชาชนเห็นด้วยกับการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่หรือไม่ อีกขั้นคือเมื่อยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่เสร็จแล้วต้องทำประชามติอีกรอบโดยคำตอบเป็นนัย ถึงจะไฟเขียวให้เดินหน้ารื้อรัฐธรรมนูญใหม่ได้ แต่กว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการประชามติ 2–3 รอบ เวลาที่เหลืออีก 24 เดือนของรัฐบาล 3 ป. ไม่น่าจะทันเข้าเหลี่ยมทีม “ทหารเฒ่า” ลากเรือเหล็กสนิมเขรอะต่อไปอีกยาวๆแต่อีกมุมมันก็เข้าทางม็อบต้านอำนาจรัฐบาล 3 ป. มวลชนรุ่นใหม่ นักเรียน นิสิต นักศึกษา จะได้จังหวะฉวยน้ำมัน เบนซินไวไฟ จากปมฝ่าย คุมเกมอำนาจเบี้ยวรื้อรัฐธรรมนูญผสมเชื้อไฟกับการเคลื่อนไหว ให้ปล่อยแกนนำออกจากเรือนจำ โละมาตรา 112แกะรอยตามสัญญาณล่าสุด กลุ่ม REDEM จัด “โหวตนัดชุมนุมใหญ่” สู้กับเผด็จการเรียกร้องประชาธิปไตยในสัปดาห์หน้า ปลุกเร้ามวลชนเคลื่อนพลนัดหักดิบม็อบนอกสภาส่อยกระดับตามเกมยื้อคิวรื้อรัฐธรรมนูญตามสภาพแกนนำโดนรวบอยู่ในเรือนจำ มวลชนเด็กรุ่นใหม่ไร้หัว มีแต่ตัวและหัวใจของแนวร่วมสู้กันตามลำพัง จะไร้น้ำยา หมดพลัง หรือตรงกันข้ามยิ่งเพิ่มดีกรีความกดดันแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เกมม็อบแรงแค่ไหน มักไม่มีผลต่อผู้นำรัฐบาลในการถอยออกจากกระดานอำนาจ ปลายทางของเกมมวลชนจะจบที่รัฐประหาร รถถังแอ่นแอ๊น เข้ามาจัดการทุกรอบและมันจะเกิดขึ้นหลังฉากแลกเลือด ความสูญเสียรุนแรง บาดเจ็บล้มตายประเมินตามเงื่อนไขสถานการณ์ศึกนอก ม็อบแรงแน่ แต่อีกมุมก็อย่ากะพริบตา “ศึกใน” อาจแซงโค้งตามสภาพ เกมการเมืองในสภา พรรคร่วมรัฐบาลที่เกาะเกี่ยวกันด้วยเกมอำนาจและผลประโยชน์บางๆถึงจุดไล่บี้ไล่ทุบกันแรงๆ เลิกยึดมารยาททางการเมืองตามท้องเรื่องพรรคประชาธิปัตย์ที่โดนเสียงเย้ยหยันถากถาง ไม่เหลือศักดิ์ศรีพรรคเก่าแก่ อยู่ในสภาพอกช้ำเลือดช้ำหนองจากการโดนพลังประชารัฐเหยียบซ้ำย่ำยี ไล่บี้เจาะฐานปักษ์ใต้แบบไม่แคร์แค่เกาะเอวท็อปบูตร่วมรัฐบาลไปวันๆ นับวันยิ่งหมดราคา ยี่ห้อ ปชป.ส่อสูญพันธุ์เมื่อมาถึงจุดพลิกผัน สถานการณ์ชัดเลยว่า คิวรื้อรัฐธรรมนูญโดนเบี้ยว “บิ๊กตู่” ยังอยู่อีกยาวหัวอกนักเลือกตั้งอาชีพ เชื่อว่า ประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย คงต้องต่อสายคุยกับพรรคเพื่อไทย ก้าวไกลคงไม่ยอมกินน้ำใต้ศอกทหารเฒ่า เฉาตายก่อนแน่.“ทีมการเมือง”