วันนี้ ผู้นำประเทศส่วนใหญ่ มีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ประชาชนทุกคน คือ การป้องกันโควิด-19 ที่ดีที่สุด เพื่อให้เปิดประเทศได้อีกครั้ง ไม่ต้องกลับไปล็อกดาวน์อีก ยิ่งมีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนมากเท่าไหร่ การติดเชื้อเพิ่มก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น เช่น สหรัฐฯมีประชากร 331 ล้านคน แต่รัฐบาลสหรัฐฯสั่งซื้อวัคซีนไปแล้วกว่า 1,000 ล้านโดส เกินจำนวนประชากรถึง 169% สัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ก็ยังสั่งซื้อวัคซีนเพิ่มอีก 200 ล้านโดส จากไฟเซอร์ 100 ล้านโดส โมเดอร์นา 100 ล้านโดส ตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ชาวอเมริกัน 300 ล้านคน ภายในเดือนกรกฎาคมนี้ในขณะที่ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่สามารถหาซื้อวัคซีนเพิ่มได้ ซื้อได้เพียง 63 ล้านโดส สำหรับประชากร 31.5 ล้านคน คนไทยอีก 36.5 ล้านคนยังไม่รู้จะได้เมื่อไหร่ แล้วก็แก้ตัวนํ้าขุ่นๆ อ้างระเบียบจัดซื้อไม่อำนวย กลัวจองล่วงหน้าแล้วไม่ได้วัคซีนที่ต้องการ เหมือนรัฐบาลฉลาดเต็มที ประเทศอื่นโง่ที่จองล่วงหน้า วันนี้ไม่รู้ใครโง่กันแน่เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ แม้เป็นวันหยุด สำนักงานอาหารและยาญี่ปุ่นก็ยังทำงาน เพื่อพิจารณาอนุมัติด่วนให้ใช้ วัคซีนไฟเซอร์ต้านโควิด-19 หลังจากที่ได้รับวัคซีนลอตแรก 400,000 โดส จากไฟเซอร์ในวันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ จะเริ่มฉีดเข็มแรกทันทีวันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ ให้กลุ่มแพทย์และพยาบาล 20,000 คน ในกรุงโตเกียว เดือนมีนาคมจะฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์อีก 3.7 ล้านคน เดือนเมษายนจะเริ่มฉีดให้ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป 36 ล้านคน แล้วต่อด้วยประชาชนทั่วไปเป็นกลุ่มสุดท้ายอังกฤษ ซึ่งมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 รุนแรงมาก มีประชากร 56 ล้านคน ติดเชื้อโควิดกว่า 4 ล้านคน ตายกว่าแสนคน และเป็นต้นกำเนิดไวรัสโควิดกลายพันธุ์ วันนี้ฉีดวัคซีนให้ประชาชนไปแล้วเกือบ 15 ล้านคน นายแมทท์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ เปิดเผยว่า ภายในเดือนกันยายนผู้ใหญ่ทุกคนในอังกฤษจะได้รับการฉีดวัคซีน ยกเว้นเด็กและผู้หญิงมีครรภ์ประเทศเพื่อนบ้านไทย ลาว กัมพูชา เมียนมา เวียดนาม ต่างก็ฉีดวัคซีนกันหมดแล้ว ปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ยังไม่รู้ไทยจะได้ฉีดวัคซีนหรือไม่ เพราะ วัคซีนซิโนแวค 2 ล้านโดส ที่ซื้อจากจีน นายกฯบอกว่า จะมาถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2 แสนโดส มีนาคม 6 แสนโดส เมษายน 1 ล้านโดส จนถึงวันนี้ ยังไม่บอกว่าจะมาถึงวันไหน จะฉีดวันไหน คงไม่แห้วเหมือนวัคซีนวาเลนไทน์นะครับ คนไทยที่เหลืออีก 36.5 ล้านคน จะได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิดหรือไม่ก็ไม่บอก รัฐบาลไทยยังหาซื้อวัคซีนเพิ่มไม่ได้ น่าเศร้าใจเต็มทีเรื่องนี้สำคัญมาก พรรคฝ่ายค้านควรนำไปอภิปรายนายกฯในรัฐสภา ความหวังการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก ต่างก็ฝากไว้กับวัคซีนป้องกันโควิด-19 รวมทั้งประเทศไทยด้วย เพราะศึกครั้งนี้คือ “สงครามกับไวรัส” หรือ Virus War ถ้าไทยได้วัคซีนมาเร็ว เศรษฐกิจไทยก็ฟื้นเร็ว ถ้าได้วัคซีนมาช้า เศรษฐกิจไทยก็ฟื้นช้า เพราะเศรษฐกิจไทยพึ่ง “การท่องเที่ยว” เป็นหลัก การฉีดวัคซีนคนไทย 68 ล้านคน จึงสำคัญมาก หวังว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะมีวิสัยทัศน์มองเห็นปัญหาของประเทศไทยที่เป็นอยู่การที่ประเทศมหาอำนาจเศรษฐกิจ เช่น สหรัฐฯ ยุโรป อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ระดมซื้อวัคซีนตุนจำนวนมาก มากเกินประชากรเป็นเท่าตัว ก็เพราะผู้นำของเขามองปัญหาทะลุ เขารู้ว่ายังไม่มีทางกำจัดไวรัสตัวนี้ไปได้ นอกจากอยู่กับมันไปก่อน โดยระดมฉีดวัคซีนป้องกัน ไม่ใช่มาอ้างชุ่ยๆ กลัวจองล่วงหน้าแล้วจะเสียเงินฟรี เห็นชีวิตประชาชนเป็นผักหญ้าไปได้วันนี้ประชาชนและฝ่ายค้านในรัฐสภา ต้องช่วยกันกดดันให้รัฐบาลเร่งซื้อวัคซีนให้คนไทย 68 ล้านคนโดยเร็วที่สุด ก่อนที่เศรษฐกิจไทยจะหายนะไปกว่านี้จนกู่ไม่กลับ ถ้ารัฐบาลไม่มีปัญญาไม่สามารถหาซื้อเพิ่มได้ ก็ควรปล่อยให้เอกชนช่วยเหลือตัวเอง รัฐบาลแค่กำกับดูแลให้ถูกต้องปลอดภัยก็พอแล้ว แต่อย่าทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง.“ลม เปลี่ยนทิศ”