ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้ ตรุษจีนปีฉลูปีนี้ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ร่ำรวยๆทุกท่านนะครับ วันมงคลวันนี้ผมขอนำเรื่องราวของ “ทองคำดิจิทัล” มาเล่าสู่กันฟังครับ วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ เวลาเมืองไทย 13.00 น. ราคา Bitcoin ซึ่งเป็นเงินดิจิทัล Cryptocurrency ได้พุ่งขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ 48,216 ดอลลาร์ 1.45 ล้านบาทต่อ 1 Bitcoin แพงกว่า รถยนต์ไฟฟ้า Tesla Model 3 ที่ขายคันละ 37,990 ดอลลาร์ หลังจากที่ บริษัท เทสลา อิงค์ ของ นายอีลอน มัสก์ แจ้งว่า ได้ลงทุนซื้อ Bitcoin 1,500 ล้านดอลลาร์ ราว 45,000 ล้านบาท และ ประกาศรับเงิน Bitcoin ในการซื้อรถยนต์เทสลาเร็วๆนี้ แล้วมีข่าวว่า Apple ก็กำลังจะเข้าถือครอง Bitcoin ด้วยข่าวนี้ทำให้ราคา Bitcoin พุ่งเป็นจรวด ตั้งแต่ต้นปีราคา Bitcoin พุ่งขึ้นไปกว่า 60% แล้ว ตั้งแต่ 34,000–42,000 ดอลลาร์ต่อ 1 Bitcoin ก่อนหน้าเทสลาก็มีสถาบันการเงินขนาดใหญ่เข้าไปลงทุนถือครองบิตคอยน์หลายแห่ง เช่น แบล็กร็อค เพย์พาล สแควร์ เป็นต้นเทสลา อิงค์ แจ้งต่อ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เมื่อวันจันทร์ว่า บริษัทเทสลาได้ซื้อ Bitcoin เพื่อให้มีความยืดหยุ่นในการกระจายการลงทุนมากขึ้น โดยให้เหตุผลว่าเพื่อให้เงินสดของบริษัทได้รับผลตอบแทนสูงสุด นายไมเคิล โนโวกราทซ์ ผู้เชี่ยวชาญการลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีจาก Galaxy Digital ให้ความเห็นว่า ราคา Bitcoin อาจพุ่งขึ้นไปถึง 100,000 ดอลลาร์ 3 ล้านบาทต่อ 1 Bitcoin ภายในสิ้นปีนี้การเข้าไปลงทุนถือครองเงินดิจิทัล Bitcoin ของบริษัทและกองทุนขนาดใหญ่ ทำให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีค่าสำหรับการลงทุนระยะยาว มีความปลอดภัยเช่นเดียวกับ “ทองคำ” เป็น สินทรัพย์ ทางเลือก ในช่วงที่ เงินดอลลาร์ และ เงินสกุลหลักของหลายประเทศอ่อนค่าลงเรื่อยๆ เพราะธนาคารกลางออกมาตรการอัดฉีดเงินก้อนโตกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่ Bitcoin มีจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญในโลก ราคาจึงมีแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆวารสารการเงินธนาคาร ฉบับเดือนกุมภาพันธ์ที่วางตลาดก็มีเรื่อง Cryptocurrency THE FUTURE WEALTH ความมั่งคั่งแห่งอนาคต รายงานไว้ค่อนข้างละเอียด โดยเฉพาะ ตลาด Cryptocurrency ในเมืองไทย จากการสัมภาษณ์ผู้ให้บริการซื้อขาย Cryptocurrency ในตลาดไทย คุณจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ซีอีโอผู้ร่วมก่อตั้ง บิทคับ แคปปิตอล ผู้ให้บริการซื้อขายเงินดิจิทัลรายใหญ่ เปิดเผยว่า ปัจจัยที่ทำให้การลงทุนใน Cryptocurrency ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก เป็นเพราะ Bitcoin ครบรอบการทำสิ่งที่เรียกว่า Bitcoin Having หรือ การแบ่งครึ่งของบิตคอยน์ที่จะลดการผลิตลงครึ่งหนึ่งในทุก 4 ปีช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าราคา Bitcoin จะขึ้นลงอย่างไร แต่ภาพรวมก็มีการซื้อขายเพิ่มขึ้น เพราะตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลค่อยๆเติบโตขึ้นทุกปี เช่น ช่วงพีกของปลายปี 2017 มูลค่าซื้อขาย Bitcoin ทั่วโลกประมาณ 19,000 ล้านดอลลาร์ต่อวัน ตลาดซื้อขายรวมอยู่ที่ 88,000 ล้านดอลลาร์ต่อวัน แต่ ณ วันที่ 18 มกราคม 2021 การซื้อขาย Bitcoinอยู่ที่ 77,000 ล้านดอลลาร์ต่อวัน (2.3 ล้านล้านบาทต่อวัน) ตลาดซื้อขายรวม 214,000 ล้านดอลลาร์ต่อวัน (6.4 ล้านล้านบาทต่อวัน) โดย Bitcoin มีสัดส่วน 67.59% ของตลาดรวมอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาของ Bitcoin สูงขึ้นก็คือ เครือข่าย (Network) เช่น ประเทศญี่ปุ่นประกาศยอมรับการใช้ Bitcoin ในปี 2017 และ Paypal เครือข่ายชำระเงินของสหรัฐฯยอมรับการใช้เงิน Bitcoin ในปี 2020 ตลอดจนการเข้ามาลงทุนของนักลงทุนสถาบันขนาดใหญ่ ทำให้ Bitcoin เป็นตลาดเงินดิจิทัลที่ใหญ่มากใหญ่เกินกว่าที่รัฐบาลประเทศใดในโลกจะเข้าไปแทรกแซงได้ โหนดต่างๆของ Bitcoin ในเครือข่าย Blockchain ก็ได้กระจายไปทั่วโลก จนไม่มีใครในโลกนี้สามารถปิดเครือข่ายนี้ได้ มั่นคงกว่าทุกสกุลเงินของประเทศต่างๆBitcoin กำลังจะได้รับการยอมรับเป็น “เงินดิจิทัลทองคำ” ในอนาคต แต่มีราคาแพงกว่าทองคำจริง (ราคาทองคำวันพุธอยู่ที่ 1,846 ดอลลาร์ต่อเอาซ์) และราคาเพิ่มเร็วกว่าทองคำ ใครอยากได้รายละเอียดมากกว่านี้ คงต้องไปหา วารสาร “การเงินธนาคาร” อ่านต่อครับ.“ลม เปลี่ยนทิศ”