พท.จัดหนัก 15 ขุนพลขย่ม 5 รัฐมนตรี “สมพงษ์” นำทีมเชือด “ยุทธพงศ์” ฉายหนังตัวอย่างรายวัน จวกอีก 10 วันค่ารถไฟฟ้าสายสีเขียวจะขึ้น “บิ๊กตู่” ยังเฉย อัด “อัศวิน” มรดกบาป คสช.เมินทุกข์ประชาชน หยัน “ณัฏฐพล” ออกคำสั่ง ศธ.ผิดกฎหมาย โต้ลั่นไม่ใช่เฉลยการบ้านล่วงหน้า โอ่นี่แค่แอปพิไทเซอร์ รอดูเมนคอร์สมันแน่ ก้าวไกลเฟ้น 10 เพชฌฆาตถลกหนัง 6 รมต. “ณัฐวุฒิ” ยันไล่ถลุงเน้นๆ “ลุงตู่” ไม่ยุ่งสถาบัน ขู่หลักฐานชัดจ่อยื่น ป.ป.ช.มัดรัฐมนตรีบางคนถึงต้องไขก๊อก ซูเปอร์โพลชี้ประชาชนหนุนปรับ ครม.ขนานใหญ่หลังศึกซักฟอก ปชป.ชูสโลแกนพรรคของเรา คนของเรา อ้อนขอเสียงคนเขต 3 เมืองคอนพรรคเพื่อไทยวอร์มเครื่องก่อนถึงวันเปิดศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 16-19 ก.พ. โดยนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย หนึ่งในผู้อภิปรายหลักออกมาแถลงรายวันฉายหนังตัวอย่าง อาทิ ประเด็นการขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว ปัญหาการบริหารงานในกระทรวงศึกษาธิการ โดยยืนยันว่าไม่ใช่การเฉลยข้อสอบให้ฝ่ายรัฐบาลล่วงหน้า15 ขุนพล พท.แท็กทีมขย่ม 5 รมต.เมื่อวันที่ 6 ก.พ. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า พรรคเพื่อไทยได้รับการจัดสรรเวลาอภิปราย 19 ชั่วโมง 45 นาที มี ส.ส.ที่จะ ขึ้นอภิปราย 15 คน อภิปรายรัฐมนตรีจำนวน 5 คน แต่ขอไม่เปิดเผยว่าเป็นรัฐมนตรีคนไหนบ้าง โดยมี ส.ส.บางคนที่อภิปรายรัฐมนตรีมากกว่า 1 คน เบื้องต้นได้คุยกับ ส.ส.ที่จะอภิปรายรัฐมนตรีไว้บ้างแล้ว วันที่ 10 ก.พ. พรรคเพื่อไทยจะมีการประชุมผู้อภิปรายเพื่อจัดเรียงลำดับการอภิปราย มั่นใจว่าข้อมูลที่จะให้ในการอภิปรายครั้งนี้มีหลักฐานชัดเจน และไม่มีการซ้ำประเด็น เนื้อหาตรงจุดไม่มีออกนอกเรื่องอย่างแน่นอน ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า ส.ส.ที่จะขึ้นอภิปรายในครั้งนี้ อาทิ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน เป็นต้น “โจ้”ซัด “บิ๊กตู่” นิ่งอีก 10 วันค่ารถไฟฟ้าขึ้นที่พรรคเพื่อไทย นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย แถลงกรณีค่าโดย-สารสายสีเขียวที่จะขึ้นราคา 104 บาท ในวันที่ 16 ก.พ. ว่า เป็นราคาแพงเว่อร์ ได้ยื่นเรื่องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.ไป แต่ยังไม่มีสัญญาณใดๆกลับมา ทั้งที่จะขึ้นราคาในอีก 10 วันข้างหน้า พรรคเพื่อไทยอภิปรายไม่ไว้วางใจเรื่องนี้เมื่อปีที่แล้ว นำมาซึ่งการยังไม่ต่อขยายสัญญาให้บีทีเอส ครั้งนี้จะอภิปรายเรื่องดังกล่าว จากข้อมูลที่ตรวจสอบพบว่าวันที่ 2 ก.พ. บีทีเอสทำหนังสือทวงหนี้ กทม. 3 หมื่นล้านบาท ให้จ่ายภายใน 60 วัน เป็นหนี้ค่าจ้างวิ่งรถ 3 ปี 9 เดือน ตั้งแต่เดือน เม.ย.60 ประมาณ 9,600 ล้านบาทและหนี้ค่าซื้อระบบเดินรถ (ไฟฟ้าและเครื่องกล) 2 หมื่นกว่าล้านบาท เป็นหนี้เยอะขนาดนี้เพราะ กทม.ไม่ได้จ้างบีทีเอสวิ่งโดยตรง แต่ให้บริษัทกรุงเทพธนาคม วิสาหกิจของ กทม. จ้างบีทีเอสวิ่งอีกทอดอัด“อัศวิน” มรดกบาป คสช.เมิน ปชช.นายยุทธพงศ์กล่าวว่า บริษัทกรุงเทพธนาคม มีทุนจดทะเบียนแค่ 50 ล้านบาท เป็นหนี้ 3 หมื่นกว่าล้านบาทได้อย่างไร แสดงให้เห็นถึงความไม่โปร่งใส ไปดูต้นทุนบีทีเอสได้กำไร โดยเฉพาะในช่วงสถานีที่เป็นไข่แดง เพราะมีปริมาณผู้โดยสารมาก ขณะที่ กทม.จ้างบีทีเอสวิ่งรถถึง 3 พันล้านบาทต่อปี แต่บีทีเอสวิ่งรถเองแค่ 2 พันล้านบาท ทำให้บีทีเอสกำไรมหาศาล ที่ พล.ต.อ.อัศวินบอกว่าไม่สนใจให้ตนไปฟ้อง ป.ป.ช.ได้เลย ไม่แปลกเพราะท่านไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง เป็นผู้ว่าฯ กทม.ได้เพราะหัวหน้าคสช.ตั้งมา เป็นมรดกบาป คสช. หัวใจเลยไม่ได้อยู่กับประชาชน โควิดแพร่ระบาดทำคนเดือดร้อนทั้งบ้านทั้งเมือง แต่ยังจะขึ้นราคาค่าโดยสารอีก นายกฯมัวไปทำอะไรอยู่หยัน “ครูตั้น” แค่ออกหนังสือก็ผิด ก.ม.นายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า ส่วนการอภิปรายนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการนั้นกระทรวงศึกษาธิการแบ่งการบริหารงานเป็นสี่แท่ง แต่ละหน่วย-งานห้ามก้าวก่ายกัน แต่วันที่ 7 ม.ค.64 นายณัฏฐพลออกคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ.11/2564 เพื่อทำแผนบูรณาการด้านการศึกษาเพิ่มศักยภาพการศึกษาของโรงเรียน แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิและข้าราชการกระทรวงรับผิดชอบการดำเนินการแต่ละจังหวัด มีผู้กำกับนโยบาย คือ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน แค่ออกหนังสือฉบับนี้ก็ถือว่าผิดกฎหมาย เนื่องจากหัวหนังสือเป็นคำสั่ง สพฐ.แต่ไปสั่งแท่งอื่นในกระทรวงได้อย่างไรเฉ่งส่งไฮโซคุมการศึกษาภูเก็ตไม่เวิร์กนายยุทธพงศ์กล่าวอีกว่า เมื่อไปดูผู้รับผิดชอบการดำเนินการแต่ละจังหวัดที่จะล้อกับประเด็นในญัตติใช้อำนาจแทรกแซงข้าราชการเพื่อเอื้อประโยชน์พวกพ้อง จะเห็นว่านางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ ที่มีพื้นฐาน จ.ปราจีนบุรี แต่ไปดูแล จ.บุรีรัมย์ จะเข้าใจพื้นที่ได้อย่างไร ส่วนนายเจตน์ โศภิษฐ์พงศธร เลขานุการ รมว.ศึกษาธิการ เมื่อไปตรวจสอบประวัติแล้ว ท่านเป็นเพียงไฮโซ เคยมีแฟนเป็นดารา ได้ไปกำกับการศึกษาใน จ.ภูเก็ตทั้งหมด แล้วจะมีความรู้ด้านการศึกษาได้อย่างไรโต้เฉลยการบ้านโอ่รอดูเมนคอร์สนายยุทธพงศ์กล่าวต่อว่า การอภิปรายครั้งนี้ทุกอย่างเป็นความลับ มีเพียง ส.ส.ในตำแหน่งเท่านั้นที่ดำเนินการ เพราะเกรงว่าจะถูกครหาว่าข้อสอบรั่วเหมือนครั้งที่ผ่านมา และขอชี้แจงว่าการอภิปรายครั้งที่แล้วรัฐบาลเพิ่งเข้ามาบริหารประเทศเพียงไม่นานก็มีการอภิปราย งบประมาณยังไม่ได้ใช้ จึงอภิปรายได้จำกัด แต่ครั้งนี้ประเทศมีวิกฤติ รัฐบาลบริหารมาได้ครึ่งเทอม มีทั้งวิกฤติโควิด-19 วิกฤติเศรษฐกิจและสังคม ถ้าพรรคฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลคงไม่อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีได้ถึง 10 คน ทุกวันนี้ยังตกลงเรื่องของเวลาอภิปรายไม่ได้ เพราะข้อมูลแน่น จึงขอให้มั่นใจ ส่วนที่บางฝ่ายกังวลว่าการแถลงข่าวของตนเป็นการเฉลยการบ้านนั้น งานนี้เป็นเพียงแอปพิไทเซอร์ ขอให้รอดูเมนคอร์สมันแน่ๆจี้นายกฯต้องชัดจุดยืน รปห.เมียนมานายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีประธานาธิบดีอินโดนีเซีย และนายกฯมาเลเซียมีความเห็นพ้อง ควรผลักดันให้ชาติอาเซียนจัดประชุมนัดพิเศษหารือเกี่ยวกับปัญหาภายในเมียนมาว่า จนถึงขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ยังคงตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะประณามหรือยกย่องการทำรัฐประหารในเมียนมา น้ำท่วมปาก ปฏิเสธลำบาก จึงอ้อมแอ้มพูดเพียงแค่ว่า ท่าทีประเทศไทยจะยึดตามท่าทีอาเซียน ทั้งที่หากมีจุดยืนประชาธิปไตยให้ทั่วโลกเชื่อมั่น พล.อ.ประยุทธ์ต้องแสดงท่าทีที่ชัดเจนตรงไปตรงมาว่าไม่เห็นด้วยและยืนตรงข้ามการรัฐประหาร ขนาดนายโจ ไบเดน ชนะการเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ พล.อ.ประยุทธ์ยังแสดงความชื่นชมยินดีได้ แต่ปัญหาการรัฐประหารในเมียนมา เพื่อนบ้าน ที่มีทั้งประเด็นละเมิดสิทธิมนุษยชน ลิดรอนสิทธิเสรีภาพประชาชน การจับกุมผู้นำทางการเมือง การปิดกั้นสื่อ พล.อ.ประยุทธ์จะแสดงท่าทีห่วงใยประเด็นใดก็ได้ ไม่ใช่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเลยเงียบไปเฉยๆแบบนี้ พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นผู้นำการรัฐประหารของไทย ที่เป็นไอดอลของทหารเพื่อนบ้าน หรือชอบการยึดอำนาจเป็นชีวิตจิตใจก็ชอบไป แต่ท่าทีของรัฐบาลไทยต่อการรัฐประหารต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนบี้หาทางช่วยธุรกิจท่องเที่ยวนายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วิกฤตการณ์ไวรัสโควิดทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวกระทบมากที่สุด แต่รัฐบาลกลับไม่มีมาตรการช่วยเหลือ ขอเรียกร้องนายกฯเร่งเยียวยาธุรกิจเอสเอ็มอีด้านท่องเที่ยวก่อนล้มหายตายจากกันหมด อยากให้รัฐบาลประสานธนาคารแห่งประเทศ ไทยออกซอฟท์โลนธุรกิจเอสเอ็มอี ท่องเที่ยวอัตราดอกเบี้ยต่ำหรือ 0% ประคองให้ผ่านวิกฤติช่วงนี้ อยากให้ช่วยอุดหนุนการจ้างงานแรงงานภาคท่องเที่ยวด้วย ย่ำแย่มานานห่วงจะตกงานกันหมด รัฐอาจพิจารณาช่วยออกค่าจ้าง 50% เพื่อประคองการจ้างงาน แทนที่จะไปสร้างงานใหม่ 250,000 ตำแหน่งตามที่พูดไว้ แต่ไม่รู้จะจ้างไปทำอะไร การช่วยให้การท่องเที่ยวฟื้นรวดเร็ว มี 4 ข้อเสนอ 4 ข้อของนักธุรกิจด้านท่องเที่ยวคือ 1.ให้เพิ่มกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านการให้บริการเข้าไปในกลุ่มผู้รับวัคซีนระยะแรก 2.พิจารณาทางเลือกเกี่ยวกับวัคซีนให้มากขึ้น 3.อนุญาตให้ผู้ฉีดวัคซีนเดินทางได้ ไม่ต้องกักตัว 4.เตรียมพร้อมรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาพร้อมหนังสือเดินทางการฉีดวัคซีน รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ ไม่ปล่อยผ่านหรือคิดแล้วไม่เร่งทำ หากนายกฯทำไม่ได้ ควรเสียสละให้คนที่รู้เรื่องเข้ามาทำแทน ประชาชนจะได้ไม่ลำบาก ฉะ “บิ๊กตู่” แกล้งโง่ไล่จับคนจนขายหวยน.ส.สกุณา สาระนันท์ ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลชี้แจงการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา ให้ผู้แจ้งเบาะแสนำจับได้รับเงินรางวัลคดีละ 1,000 บาท พร้อมแก้ไข พ.ร.บ. สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพิ่มโทษขายเกินราคาจากปรับไม่เกิน 2,000 บาท เป็นปรับไม่เกิน 10,000 บาทว่าแก้ปัญหาปลายเหตุ เบี่ยงประเด็น เพราะแก้ปัญหาการขายสลากเกินราคาไม่ได้ รังแกประชาชน มากกว่าจัดการจริงจัง สำนักงานสลากฯรับรู้มาตลอดใครทำอะไร เหตุใดราคาสลากฯถึงแพงกว่าที่รัฐกำหนดแต่ไม่คิดจะแก้ เพราะจะกระทบรายได้ของผู้ค้าสลากรายใหญ่ที่ใกล้ชิดรัฐบาล นายกฯเคยรับปากว่าสลาก กินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่ต้องขายไม่เกิน 80 บาทต่อฉบับ 6 ปีผ่านมาล้มเหลวนายกฯแกล้งโง่ทำเป็นไม่รู้หรือเกรงกระทบนายทุนพรรค การเมือง มาขู่ประชาชนคนหาเช้ากินค่ำ น่าละอายรัฐบาลเลือกรังแกคนจนมากกว่าจัดการที่ต้นตอกก.จัด 10 ขุนพลถลกหนัง 6 รมต.นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่า พรรคยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลการอภิปรายฯได้มากนัก เบื้องต้นวางตัวผู้อภิปรายไว้กว่า 10 คน จะอภิปราย 6 รัฐมนตรี คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน การจัดสรรเวลาไม่น่าจะมีปัญหา ถ้าเกิดปัญหาจริงๆคงไม่ได้มาจากพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยกันเอง แต่คงมาจากฝ่ายรัฐบาลมากกว่าให้ผู้ฟังตัดสินเอง เราพยายามจัดเรียงผู้อภิปรายแต่ละพรรคให้เรื่องราวแต่ละวันเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และทำให้แต่ละวันมีไฮไลต์ให้น่าติดตามเน้นถลุงหัวหน้า รบ.ไม่ยุ่งสถาบันนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ฝ่ายกฎหมาย กล่าวว่า เนื้อหาการอภิปรายพรรคก้าวไกลยืนยันชัดเจนว่าเราไม่ได้อภิปรายถึงสถาบัน แต่เป้าหมายเราจะอภิปรายหัวหน้ารัฐบาลว่าตลอดการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาด ได้นำเอาสถาบันมาเป็นเครื่องมือทำลายล้างประชาชน ผู้เห็นต่างอย่างไรบ้าง นี่คือสิ่งที่รัฐบาลต้องตอบให้ได้ ภาพรวมฝ่ายค้านจะจัดตั้งทีมวอร์รูม 2 ทีมหลักใหญ่ๆ ดูแลในและนอกห้องประชุมคือ 1.วอร์รูมเตรียมการอภิปราย มีคีย์เเมนหลักแต่ละพรรค คอยประสานงานเตรียมการมากว่า 1 เดือนแล้ว 2.วอร์รูมระหว่างอภิปราย นำโดยนายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย และนายพิจารณ์ เชาว์พัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล คอยมอนิเตอร์ ส่วนเนื้อหาอภิปรายแต่ละพรรคต้องรับผิดชอบเอง พรรคก้าวไกลแบ่งเป็น 2 ทีมใหญ่ๆ ทีมที่ 1.มีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นหัวหน้าทีม และนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล คอยช่วยดูเนื้อหา ทีมที่ 2.พรรคมอบหมายตนดูกรณีหากถูกพาดพิง ได้เตรียมขุนพลไว้รับมือหากรัฐบาลไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับแล้ว อาทิ นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. และนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม.และโฆษกพรรคก้าวไกล เป็นต้นจ่อชง ป.ป.ช.มั่นใจมัดจน รมต.ไขก๊อก“เรามั่นใจว่าข้อมูลฝ่ายค้านไม่มีช่องโหว่ ข้อมูลศึกซักฟอกรอบนี้จะส่งผลสะเทือนรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาล ในกรณีข้อกล่าวหาที่มีมูล เราจะยื่นเรื่องต่อ ป.ป.ช.ด้วย ขอให้ผู้ชมทางบ้านติดตามให้ดี เรามั่นใจน้ำหนักข้อมูลดีกว่าการอภิปรายครั้งก่อน และมั่นใจข้อมูลจะนำไปสู่การลาออกของรัฐมนตรีบางคน เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อการบริหารงานที่ผิดพลาด แน่นอนว่าเสียงของฝ่ายค้านในสภาฯไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ แต่พยานหลักฐานที่ฝ่ายค้านนำมาตีแผ่ครั้งนี้ จะนำไปสู่การรับผิดชอบของรัฐบาลในการลาออกจากตำแหน่ง” นายณัฐวุฒิกล่าว “สุดารัตน์”บี้ตัดงบฯแก้เกาไม่ถูกที่คันวันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกลุ่มสร้างไทย ลงพื้นที่ร่วมหารือกับประธานและสมาชิกชมรมผู้ค้าตลาดผลไม้สะพานขาว สี่แยก มหานาค โดยคุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ได้รับร้องเรียนปัญหาเศรษฐกิจย่ำแย่ งบฯกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาโควิด-19 เกาไม่ถูกที่คัน ทั้งวิธีให้เงินเยียวยาควรจ่ายเป็นเงินสดให้นำไปจับจ่ายสิ่งจำเป็นได้โดยตรง 2.เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจน้อยเกินไป กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท งบฯปี 64 ยังใช้ไม่หมด 3.เป้าหมายผู้เดือดร้อนที่ต้องการช่วยเหลือไม่แม่นยำ มีผู้ไม่ได้รับการช่วยเหลืออีกมาก คนตัวเล็กตายกันหมด โปรดอย่ามองว่าโจมตีรัฐบาล จึงเสนอให้ช่วยจ่ายค่าจ้างพนักงานบางส่วนให้ธุรกิจ ลดการปลดคนงาน ถ้ารัฐไม่ปรับเปลี่ยนวิธีปีนี้จะมีแรงงานตกงานมากขึ้นจนรัฐรับมือไม่ไหว งบฯส่วนใดไม่จำเป็น เช่น สร้างตึกของราชการ จัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพ ต้องตัดมาช่วยประชาชนก่อน ยังไม่ได้สู้รบกับใคร แต่สู้รบกับเชื้อโรคและความยากจน ขอให้ จัดงบฯปี 65 ปรับงบฯปี 64 มาทุ่มแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพิ่มกำลังซื้อ รักษาการจ้างงานก่อน“แรมโบ้” โวยไม่น่าตำหนิเรื่องช่วย ปชช.นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกฯ กล่าวถึงกรณี น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ตำหนิรัฐบาลคิดไม่รอบคอบโครงการ “เราชนะ” กำหนดสิทธิคนเข้าถึงจากฐานรายได้ปี 62 ซึ่งโควิดยังไม่ระบาด และมีช่องโหว่ พนักงานรัฐวิสาหกิจที่ลงทะเบียนคนละครึ่งไว้ก่อนหน้านี้กลับได้สิทธิว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงแล้วว่าต้องใช้ฐานข้อมูลปีภาษี 62 เนื่องจากขณะนี้ข้อมูลปีภาษี 63 ยังอยู่ในขั้นตอนการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จึงยังไม่มีฐานข้อมูลปีภาษี 63 ครบถ้วน ส่วนผู้ว่างงานปี 63 ที่ไม่ได้รับสิทธิ เนื่องจากมีรายได้พึงประเมิน 3 แสนบาท ลงทะเบียนได้อีกครั้งวันที่ 8 ก.พ. เพื่ออัปเดตข้อมูล ส่วนพนักงานรัฐวิสาหกิจที่ลงทะเบียนคนละครึ่งไว้ก่อนหน้านี้ที่ได้สิทธิโครงการเราชนะ กระทรวงการคลังระบุแล้วว่าหากกดรับสิทธิเราชนะ จะถูกเรียกเงินคืนภายหลัง แสดงให้เห็นว่านายกฯและรัฐบาลให้ความสำคัญกับการช่วยเหลือประชาชนทุกคนไม่เลือกปฏิบัติ ไม่ได้ปล่อยผ่านนายกฯไม่ใช่คนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว หรือพวกพ้องตัวเอง โฆษกพรรคเพื่อไทยหรือบรรดาคนในพรรคไม่ควรออกมาตำหนิการช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์เช่นนี้ ประชาชนอาจเบื่อหน่าย อาจเห็นว่ามีปากเพื่อวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นไปทั่ว แต่ไม่ได้ลงมือทำประโยชน์อะไรให้ประชาชนเลยแม้แต่เรื่องเดียว“ทิพานัน” เหน็บ “อรุณี” จำใครมาพูดด้าน น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ไม่ทราบว่าโฆษกพรรคเพื่อไทยคิดช้า เพราะไม่ได้คิดวิเคราะห์เองหรือไปจำคำพูดคนอื่นมาแล้วเอามาเกาะกระแสให้มีพื้นที่ข่าวหรือไม่ การที่กำหนดคนจากฐานรายได้ปี 62 เข้าถึงโครงการ “เราชนะ” เนื่องจากต้องใช้ฐานข้อมูลของปีภาษี 62 ที่เพิ่งครบกำหนดการยื่นเมื่อ 31 ส.ค. 63 เพราะเป็นข้อมูลครบถ้วนแน่นอนที่สุด ไม่สามารถใช้ฐานภาษีปี 63 ได้เพราะจะสิ้นสุดเมื่อ 30 มิ.ย.64 ได้ประกาศมาครึ่งเดือนแล้ว ที่เสนอให้ใช้ข้อมูลคนตกงานจากกระทรวงแรงงานหรือกลุ่มผู้ประกันตนยิ่งทำให้ซ้ำซ้อน กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบกลุ่มนี้เป็นคนละฐานข้อมูล ผู้ตกงานจะได้รับการดูแลจากกองทุนประกันสังคมอยู่แล้ว และกลุ่มผู้ประกันตนมาตรา 33 จะได้รับเยียวยาตามโครงการ “เรารักกัน ม.33” แทน ขอยืนยันว่ารัฐบาลให้การช่วยเหลือครอบคลุมทุกกลุ่ม และผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนที่เข้าเกณฑ์โครงการ “เราชนะ” นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกฯและ รมว.พลังงาน ประสานธนาคารของรัฐช่วยอำนวยความสะดวกลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 15 ก.พ.“ธนกร” แขวะ “เจ๊หน่อย” โหนทุกเรื่องนายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ กล่าวถึงกรณีคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำกลุ่มสร้างไทยจะยื่นฟ้องศาลปกครองให้ยกเลิกระเบียบเรียกคืนเงินเบี้ยผู้สูงอายุหากกระทรวงมหาดไทยไม่ยอมทำว่า อยากให้ใจร่มๆ อย่าโหนกระแสไปทุกเรื่อง นายกฯสั่งผู้เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาอยู่ ไม่ทำให้ผู้สูงอายุเดือดร้อนเด็ดขาด นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯยืนยันแล้วว่าไม่มีใคร ต้องติดคุก ได้ข้อยุติแน่นอน คงต้องเข้า ครม.ผู้สูงอายุไม่ต้องกังวลปชช.เชียร์ปรับ ครม.ใหญ่หลังซักฟอกสำนักวิจัยซูเปอร์โพล นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง เชื่อมั่น 3 ป. ผ่าน กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ 1,730 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 1-5 ก.พ. ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 90.9 คาดหวังต่อข้อมูลของฝ่ายค้านแน่น น่าเชื่อถือ ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ร้อยละ 9.1 ไม่คาดหวัง โดยร้อยละ 90.2 ระบุพรรคร่วมฝ่ายรัฐบาล ทำงานมีปัญหาจริงตามที่ฝ่ายค้านตั้งโจทย์ มีเพียงร้อยละ 9.8 ระบุไม่ได้มีปัญหาในการทำงาน อย่างไรก็ตามร้อยละ 99.3 ระบุหลังอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องการให้มีการปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่ ร้อยละ 98.3 ระบุฝ่ายค้านอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองมากกว่าผลประโยชน์ชาติ และร้อยละ 93.0 ระบุต้นเหตุอภิปรายไม่ไว้วางใจ เพราะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่รัฐ ปล่อยปละละเลยทุจริต ขนแรงงานเถื่อน บ่อนพนัน ยาเสพติด และอื่นๆ ทั้งนี้ร้อยละ 86.8 เชื่อมั่นต่อ 3 ป. ได้แก่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย จะสามารถผ่านการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ฉลุยโฆษก ปชป.ฟุ้งคว้าชัย ลต.ซ่อมแน่อีกเรื่องนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต3 จังหวัดนครศรีธรรมราช ว่า พรรคย้ำให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ยึดหลักสุจริตในการหาเสียงนำเสนอนโยบาย แนวคิดของผู้สมัครและพรรคการเมือง เป็นกระบวนการที่สำคัญเพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกคนที่จะมาเป็น ส.ส. พรรคส่งนายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ ลงแข่งในนามพรรคเพราะเป็นคนตั้งใจทำงานให้กับประชาชนในพื้นที่มานาน พรรคมีนโยบายชัดเจนและยั่งยืน มีความสำเร็จในการทำงานให้กับประชาชนและประเทศจับต้องได้ ทั้งนี้ พรรคไม่กังวลใจว่าพรรคใดส่งผู้สมัครลงแข่งขันบ้าง อยู่ที่ประชาชนตัดสิน นอกจากนี้นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคภาคใต้ กำหนดแผนการหาเสียงเลือกตั้งมีประสิทธิภาพต่อไป พรรคมั่นใจว่าจะคว้าชัยชนะในเขตนี้ได้แน่ ชูพรรคของเรา คนของเราหาเสียงนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ได้เบิกฤกษ์หาเสียงวันแรกปล่อยขบวนรถแห่โฆษณาหาเสียง 10 คัน ประชาสัมพันธ์มติของพรรคส่งนายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ เป็นตัวแทนพรรค ลงแข่งขันเลือกตั้งในพื้นที่ 4 อำเภอ คือ พระพรหม เฉลิมพระเกียรติ จุฬาภรณ์ และชะอวด ใช้แนวทางการหาเสียง “พรรคของเรา คนของเรา” สอดคล้องกับอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่มากที่สุด เพราะพรรคผูกพันอยู่คู่กับพี่น้องภาคใต้มายาวนานถึง 75 ปี รับใช้ประชาชนมาทุกยุคทุกสมัย เปรียบเสมือนเป็นเจ้าของพรรคที่แท้จริง จากนี้จะหาเสียงต่อเนื่องเต็มรูปแบบ จัดรถเวทีปราศรัยย่อยเพิ่ม 4 คัน รองรับ ส.ส.และผู้บริหารพรรคลงพื้นที่ปราศรัยถึงอุดมการณ์ นโยบายและผลงานพรรคให้ประชาชนสนับสนุนเลือกนายพงศ์สินธุ์ เสนพงศ์ เป็น ส.ส.ต่อไป“วรงค์” โอ่ได้แสนชื่อค้านแก้ ม.112วันเดียวกัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก ในหัวข้อ “ทะลุ 100,000 รายชื่อแล้ว” ว่า ด่วนการลงชื่อคัดค้านการแก้ไขมาตรา 112 ของพี่น้องประชาชนพลังเงียบเช้านี้วันที่ 6 ก.พ.64 ทะลุ 100,000 คนแล้วครับพวกเรายังคงเปิดโอกาสให้พลังเงียบร่วมลงชื่อต่อไปจนถึงวันจันทร์ที่ 8 ก.พ. ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด คาดว่าเราจะนำรายชื่อ เพื่อแสดงเจตนารมณ์ของตัวแทนประชาชนกลุ่มนี้ ไปมอบที่สภาในวันพุธที่ 10 ก.พ. ร่วมลงชื่อคัดค้านได้ที่ Link ลงชื่อร่วมคัดค้าน http://polls.maxznews.com/ตร.ร้องฝากขังม็อบคลองหลวงเมื่อเวลา 11.20 น. ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้ยื่นคำร้องขอผัดฟ้องโดยไม่มีการควบคุมตัวผู้ต้องหาในคดีหมายเลขดำ ผ.53/2564 ที่กล่าวหานายณัฐพงศ์ คำจันทร์ ผู้ต้องหาที่ 1 นายอัรฟาน ดอเลาะ ผู้ต้องหาที่ 2 นายกิตติศักดิ์ กองเงินงาม ผู้ต้องหาที่ 3 นางประนอม พูลทวีผู้ต้องหาที่ 4 นายไพศาล จันปาน ผู้ต้องหาที่ 5 เป็นเวลา6 วัน ตั้งแต่วันที่ 6-11 ก.พ. เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น โดยต้องสอบสวนพยานอีก 5 ปากประกอบกับรอผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา ศาลมีคำสั่งอนุญาตตามขอจากกรณีฝ่าฝืนกฎหมายและข้อกำหนดที่ออกตามความมาตรา 9พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ชุมนุมหน้า สภ.คลองหลวง เมื่อวันที่ 15ม.ค.“ทักษิณ” ฟิตร่างกายรอเลี้ยงหลานวันเดียวกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯโพสต์คลิปวิดีโอนายทักษินออกกำลังกายด้วยการต่อยกระสอบทรายด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง พร้อมลงข้อความว่า “หนุ่มวัย 72 ส่งคลิปนี้มาให้แม่ลูกอ่อนดูว่า ฟิตร่างกายไว้ พร้อมเลี้ยง หลานธิธารแล้วค่ะ! แม่อยากจะหอบลูกขึ้นเครื่องไปเดี๋ยวนี้เล๊ยยยย คิดถึงที่สุด ตาตาที่รักของหลานๆ”