ผมเชื่อในคำสอนเรื่อง “กฎแห่งกรรม” ของพระพุทธองค์มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว และจดจำคำสอนในวิชาศีลธรรมที่คุณครูเคยสอนไว้ตั้งแต่เด็กๆที่ว่า “ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว” มาจนตราบเท่าทุกวันนี้ตลอดเวลากว่า 80 ปีของชีวิตผมได้ผ่านพบตัวอย่างมากมายที่สะท้อนถึงคำสั่งสอน อันเป็นสัจธรรมขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในประเด็นดังกล่าว และล่าสุดนี้เราก็กำลังจะได้พบเห็นกันอีกครั้งในกรณีของนาย ฮุน เซน ผู้นำเผด็จการตัวจริงของกัมพูชา“กรรม” ที่นายคนนี้ก่อไว้กำลังถูกโลกรุมขุดคุ้ยและค่อยๆเปิดโปงมาทีละอย่าง 2 อย่าง รวมทั้งเมื่อวานนี้เอง สำนักข่าวต่างประเทศก็รายงานเป็นข่าวใหญ่อย่างพร้อมเพรียงกันว่า...รัฐบาลสหรัฐฯและอังกฤษออกมาแถลงผลการปราบปรามครั้งใหญ่ สำหรับเครือข่ายสแกมทางไซเบอร์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ล่อลวงคนหางานด้วยการโฆษณาและจ้างงานแบบหลอกๆโดยหลอกให้ผู้คนเข้ามาทำงานด้วย ซึ่งก็เป็นงานที่ชั่วร้าย หลอกล่อเอาเงินหลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯจากทั่วโลก ผ่านการต้มตุ๋นต่างๆก่อนจะนำเงินไปเข้าสู่กระบวนการฟอกเงินนายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ แถลงแก่ผู้สื่อข่าวว่า “การฉ้อโกงข้ามชาติเติบโตอย่างรวดเร็ว ก่อความเสียหายแก่ชาวอเมริกันหลายพันล้านดอลลาร์และเงินเก็บทั้งชีวิตของพวกเขาต้องสูญสลายไปในชั่วพริบตา เพราะอาชญากรร้ายเหล่านี้...โดยเฉพาะปี 2024 ปีเดียว พลเมืองสหรัฐฯต้องสูญเสียเงินให้พวกสแกมเมอร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปกว่า 10,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ”ทางการสหรัฐฯพุ่งเป้าไปที่สินทรัพย์จากกลุ่มบริษัทสัญชาติกัมพูชา Prince Group ซึ่งมีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะนาย เฉินจื้อ วัย 38 ปี หนุ่มจีนสัญชาติกัมพูชา ผู้บริหารใหญ่ของเครือข่ายนี้ ซึ่งถูกศาลกลางที่บรูคลินฟ้องร้องและยึดเหรียญบิทคอยน์มูลค่าประมาณ 15,000 ล้านเหรียญ (ประมาณ 5 แสนล้านบาท) ถือเป็นการยึดทรัพย์ที่เกิดจากการฟอกเงินครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯสื่อสหรัฐฯมีการเผยแพร่ภาพนาย เฉินจื้อ ยืนเคียงข้าง นาย ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ให้โลกได้เห็นหน้าตาด้วย ...เป็นภาพเมื่อครั้งที่เขาได้รับบรรดาศักดิ์เป็น “ออกญา” เทียบเท่ากับท่าน ลอร์ด ของอังกฤษแม้รูปคดีจะยังไม่ถึงตัวนาย ฮุน เซน แต่ก็ถือว่าเข้าใกล้ตัวเขามากที่สุด หรืออย่างน้อยก็เป็นการพิสูจน์ให้เห็นได้ว่า ฮุน เซน และลูกชาย ให้การสนับสนุนพวกอาชญากรร้ายเหล่านี้...โดยไม่มีการปราบปรามอย่างจริงจังในวันเดียวกันก็มีข่าวจากสหราชอาณาจักรว่า เจ้าหน้าที่ของทางราชการได้อายัดทรัพย์ต่างๆของกลุ่ม Prince Group ไว้จำนวนหนึ่งเช่นกันนอกจากข่าวใหญ่ข่าวนี้แล้ว...ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวเช่นกันว่า รัฐสภาและรัฐบาลเกาหลีใต้ไม่ยอมอดทนต่อข่าวนักศึกษาเกาหลีใต้ที่ถูกแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชาล่อลวงมาจนเสียชีวิตทำให้มีการอภิปรายซักฟอกขนานใหญ่ในรัฐสภาเกาหลีใต้ พบว่าปี 2025 แค่เดือนสิงหาคมเกิดคดีลักพาตัวคนเกาหลีใต้ในกัมพูชาไปแล้วถึง 330 คน (คดี) ล่าสุดยังคาราคาซังอยู่อีก 80 คดี และล่าสุดรัฐบาลเกาหลีใต้ถึงกับต้องส่งทีมพิเศษเข้าสู่กัมพูชา เพื่อหาทางช่วยเหลือคนเกาหลีที่ยังสูญหายต่อไปแล้วแน่นอน--แม้ข่าวนี้จะยังไม่ถึงตัว นายฮุน เซน หรือนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต อีกนั่นแหละ แต่การที่ปล่อยปละละเลยให้เกิดเรื่องราวขึ้นในประเทศตนเอง ก็เสมือนให้ท้าย และสนับสนุนทางอ้อมเป็นเหตุให้ ณ นาทีนี้โลกกำลังล้อม “ฮุน เซน” กับลูกชายเอาไว้อย่างยากจะพลิกตัวหนีได้ง่ายๆขอให้รัฐบาลไทยให้ความร่วมมือกับสหรัฐฯ สหราชอาณาจักรและประเทศต่างๆทั่วโลก รวมทั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่มีข้อมูลมีข่าวสารลึกๆอย่างไร ก็มอบให้เขาไป...หรือจะร่วมมือกับ “โลก” ในการจัดการกับแก๊งสแกมเมอร์ในกัมพูชาได้อย่างไรบ้าง ก็ร่วมไปเลยครับ น่าจะเป็นไม้เด็ดจัดการนายฮุน เซน กับลูกชาย ได้ในเร็วๆนี้แหละครับ."ซูม"คลิกอ่านคอลัมน์ “เหะหะพาที” เพิ่มเติม