เขย่าขวัญคนกรุงอีกแล้ว เกิดแผ่นดินไหวในพม่าขนาด 5.4 ลึก 10 กม. จุดศูนย์กลางห่างจากแม่สอด จ.ตาก 211 กม. ประชาชนบนตึกสูงหลายแห่งในกรุงเทพฯรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน ขณะที่ข้าราชการกระทรวงแรงงานกว่า 1,000 คน อพยพออกจากอาคาร 15 ชั้นโกลาหล หลังเพิ่งผ่านประสบการณ์หนีตายธรณีพิโรธวันที่ 28 มี.ค. เผยสาเหตุเกิดจากรอยเลื่อนสะกาย แต่ขนาดไม่รุนแรงถึงขั้นกระทบโครงสร้างตึกเหตุแผ่นดินไหวเมียนมาทำตึกสูงในกรุงเทพฯ สั่นหนีตายโกลาหล โดยเมื่อเวลา 09.58 น. วันที่ 21 ส.ค. กองเฝ้าระวังแผ่นดินไหว กรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวนอกชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศเมียนมา ขนาด 5.4 ลึก 10 กม. ทาง ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ.แม่สอด จ.ตาก ประมาณ 211 กม. จากนั้นเวลา 10.15 น. เกิดแผ่นดินไหวขึ้นอีกที่ประเทศเมียนมาขนาด 3.0 ลึก 10 กม. การเกิดแผ่นดินไหวในครั้งนี้ทำให้ตึกสูงเกิน 10 ชั้นในกรุงเทพฯ รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน ขณะที่ประชาชนแจ้งถึงการรับรู้แรงสั่นสะเทือนหลายพื้นที่ เช่น เขตราชเทวี รู้สึกเวียนหัวเหมือนแผ่นดินไหวครั้งก่อน แต่ไม่เวียนมาก โคมไฟในที่ออฟฟิศแกว่งไปมา เขตปทุมวัน มีเสียงตึกดัง โคมไฟสั่น เขตบางแครู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เก้าอี้โยก และ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี อาคารสูงย่านแครายโยกและมึนศีรษะที่อาคารกระทรวงแรงงาน ย่านดินแดง รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว ทำให้ข้าราชการและประชาชนที่อยู่ในตึก 15 ชั้นพากันแตกตื่นวิ่งหนีลงมาจากตึกอย่างโกลาหล เนื่องจากหลายคนเพิ่งผ่านประสบการณ์หนีตายเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ทั้งหมดไปอยู่รวมกันบริเวณหน้าอาคารกระทรวงแรงงานและอาคารกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) ขณะที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยห้ามเข้าไปในอาคารดังกล่าวเด็ดขาดเพื่อความปลอดภัย กระทั่งเวลา 11.35 น. นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน จึงให้ข้าราชการกลับขึ้นไปทำงานบนตึก 15 ชั้นได้ตามปกตินายสันติ นันตสุวรรณ รองปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เหตุแผ่นดินไหวประเทศเมียนมาเวลา 09.58 น. ขนาด 5.4 ทำให้เจ้าหน้าที่และข้าราชการที่ทำงานอยู่ชั้น 15 ของอาคารกระทรวงแรงงาน รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน และแจ้งไปยังผู้บริหาร ก่อนสั่งให้ทุกคนรีบอพยพลงจากตึกโดยเร็ว เนื่องจากในอาคารมีบุคลากรจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กรมการจัดหางาน (กกจ.) และสำนักงาน ปลัดกระทรวงแรงงานรวมกว่า 1,000 คน เบื้องต้นอาคารยังไม่ได้รับผลกระทบ และยังไม่พบประชาชนได้รับอันตรายใดๆด้าน รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า จากเหตุแผ่นดินไหวได้มีการตรวจสอบอาคารธานีนพรัตน์ ศาลาว่าการ กทม. ดินแดง และ รพ.กลางที่ติดเครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนแผ่นดินไหว โดยผู้อยู่ในอาคารธานีนพรัตน์รู้สึกบ้าง ส่วน รพ.กลางบางคนอาจรู้สึกเวียนหัว แต่เท่าที่ทราบพบว่ามีอาคารในกรุงเทพฯหลายแห่งรู้สึกได้มากเหมือนแผ่นดินไหวครั้งที่ผ่านมานายทรงภูมิ พงษ์กสิเทวินท์ ผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพล อ.สามเงา จ.ตาก เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากแผนกบำรุงรักษาเขื่อนและอาคารโรงไฟฟ้าว่า เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่ในทะเลขนาด 5.4 ระดับความลึก 10 กม. บริเวณนอกชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศเมียนมา ห่างจากเขื่อนภูมิพลประมาณ 258 กม. สาเหตุเกิดจากการเลื่อนตัวของรอยเลื่อนสะกายในทะเลอันดามัน ทั้งนี้ ได้ตรวจสอบเขื่อนภูมิพล เขื่อนแม่ปิงตอนล่างและอาคารประกอบอื่นๆเป็นกรณีพิเศษไม่พบความผิดปกติและความเสียหายใดๆขณะที่นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากร ธรณี เปิดเผยถึงเหตุแผ่นดินไหวว่า จากการตรวจสอบพบแผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดจากรอยเลื่อนสะกายในทะเลอันดามัน เป็นแผ่นดินไหวชนิดการเฉือนกันของแผ่นดินใต้ทะเลที่ความลึกประมาณ 10 กม. ไม่ส่งผลให้เกิดสึนามิ เพราะขนาด 5.4 เป็นแผ่นดินไหวไม่รุนแรง แต่อาจจะส่งผลทำให้ตึกสูงที่มีขนาดสูงเกิน 10 ชั้นขึ้นไปสั่นไหวได้ ไม่จำเป็นต้องอพยพประชาชน เพราะไม่กระทบโครงสร้างของตึกที่มีความแข็งแรง คาดว่าหลังจากนี้จะมีอาฟเตอร์ช็อกตามมา แต่ความรุนแรงจะน้อยลงจากครั้งแรกส่วน ศ.ดร.สันติ ภัยหลบลี้ อาจารย์ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เพราะแผ่นดินไหวขนาด 5.4 ไม่ใช่ระดับการไหวรุนแรง แต่ทำให้รู้ว่านี่คือการสั่นไหว จะทำให้ประชาชนรู้สึก เพราะประเทศไทยตั้งอยู่บนแผ่นรอยเลื่อน เหมือนคนญี่ปุ่นรู้สึกและใช้ชีวิตตามปกติ ที่สำคัญการเกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ไม่ได้เป็นการชี้ว่าจะเกิดสึนามิหรือภัยพิบัติอะไร แต่เป็นการปลดปล่อยพลังงานของรอยเลื่อนออกมาตามปกติอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่