ฝนเททั่วไทยหลายพื้นที่จมบาดาล เกิดเหตุสลดกลางเมืองอุดรไฟรั่วช็อตดับ 2 ศพหน้าร้านนวด เหยื่อชะตาขาดเป็นสาวพนักงานร้านกับลูกค้าหนุ่มชาวเวียดนาม ขณะเดินลุยน้ำท่วมออกจากร้านจะไปขึ้นรถคาดฝ่ายหญิงไปเตะสายไฟป้ายหน้าร้านขาดจนไฟรั่วช็อตดับคู่ เชียงใหม่ฝนถล่มทั้งคืน น้ำปิงเอ่อล้นท่วมเชียงดาวเสียหายหนัก 3 หมู่บ้านร่วม 100 หลัง ต้องแจ้งเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast ให้ชาวบ้านขนของขึ้นที่สูงพร้อมอพยพกลุ่มเปราะบางไปในที่ปลอดภัย อุตุฯเตือนฝนยังหนักต่อเนื่องสั่งเฝ้าระวัง 7 จังหวัดภาคเหนือหลายพื้นที่ทั่วไทยฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก เกิดเหตุสลดใจน้ำท่วมไฟรั่วช็อตคนเสียชีวิต 2 ศพเมื่อช่วงเย็นวันที่ 15 ก.ค. ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครอุดรธานี จ.อุดรธานี นำกำลังไปตรวจสอบเหตุฝนตกหนักน้ำท่วมขังมีคนถูกไฟช็อตได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 คนเป็นชายและหญิง บริเวณหน้าร้านนวดแผนไทย ยูคลับ ซอยโนนพิบูลย์ (คีตกวี) เขตเทศบาลนครอุดรธานี ที่เกิดเหตุมีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 50 ซม. พลเมืองดีนำร่างผู้บาดเจ็บทั้งสองที่โดนไฟช็อตหมดสติขึ้นมาปั๊มหัวใจให้การช่วยเหลือ ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.ศิริพักต์สร ย้อยไชยสงค์ อายุ 25 ปี พนักงานต้อนรับร้านนวด และนายแจ็กกี้ เจี่ยว อายุ 29 ปี ลูกค้าร้านนวดชาวเวียดนาม ทั้ง 2 คนยังไม่ได้สติ รีบประสานรถกู้ชีพมารับพาส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี แต่ทั้งคู่เสียชีวิตในเวลาต่อมาต่อมานายกิตติกร ทีฆธนานนท์ นายกเทศมนตรีเทศบาลนครอุดรธานี นายวันมงคล เหลืองวันทา หัวหน้าแผนกปฏิบัติการ กฟภ.จ.อุดรธานี นำเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าไปตรวจที่เกิดเหตุ พบสายไฟขาดชำรุดบริเวณป้ายไฟหน้าร้านนวด สอบถามพยานทราบว่า ก่อนเกิดเหตุฝนตกหนักมีน้ำท่วมขังบนถนนและฟุตปาทหน้าร้าน ผู้ตายทั้งสองออกมาจากร้านด้วยกันแล้วเดินลุยน้ำที่ท่วมขังจะไปขึ้นรถที่จอดอยู่ห่างไปประมาณ 20 เมตร โดยฝ่ายหญิงเดินนำหน้า ฝ่ายชายเดินตามหลัง คาดว่าฝ่ายหญิงเดินไปเตะสายไฟป้ายหน้าร้านจนขาดทำให้ไฟรั่วช็อตจนทั้งคู่ล้มลงหมดสติ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์รีบเข้าไปช่วยเหลือดึงร่างทั้งคู่ขึ้นมาปั๊มหัวใจยื้อชีวิต ก่อนแจ้งหน่วยกู้ชีพมาช่วยพาส่งโรงพยาบาลแต่เสียชีวิตทั้งคู่ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งนายวันมงคล เหลืองวันทา หัวหน้าแผนกปฏิบัติการ กฟภ.จ.อุดรธานี เผยว่า สาเหตุเกิดจากไฟรั่วจากป้ายโฆษณาของร้านนวด ไม่ได้เกิดจากระบบไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ฝากเตือนประชาชนเวลามีฝนตกน้ำท่วมขังบนถนน อย่าเดินลุยน้ำเข้าไปใกล้เสาไฟถนนที่เป็นโลหะ เสาไฟฟ้า หรือเสากล้องวงจรปิด ให้เดินอยู่ห่างๆเพื่อความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณจุดเกิดเหตุท้ายซอยดังกล่าวเวลาฝนตกหนักจะมีน้ำท่วมขังเป็นประจำ ทางเทศบาลติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไว้ในช่วงฤดูฝน ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.ก็สูบน้ำออกจากพื้นที่จนกลับสู่ภาวะปกติจ.เชียงใหม่ เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ตั้งแต่ช่วงกลางคืนวันที่ 15 ก.ค.ต่อเนื่องถึงเช้าวันที่ 16 ก.ค. ทำให้เกิดน้ำท่วมขังน้ำป่าไหลหลากเข้าบ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะ อ.เชียงดาว น้ำป่าจากลำห้วยสาขา ไหลหลากลงสู่แม่น้ำปิงที่ไหลผ่าน ต.เมืองนะ ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่บ้านนาหวาย บ้านโล๊ะป่าหาญ และบ้านโป่งอาง เทศบาลตำบลเมืองนะ ฝ่ายปกครองต้องประกาศแจ้งเตือนภัยผ่านระบบ Cell Broadcast ให้ชาวบ้านพากันขนย้ายข้าวของหนีน้ำ รวมทั้งอพยพกลุ่มเปราะบางทั้งเด็กและผู้สูงอายุไปอยู่ในที่ปลอดภัย เบื้องต้นมีรายงานบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำป่าหลากท่วมเกือบร้อยหลังใน 3 หมู่บ้าน ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต นายกฤตพล รชตเมธานนท์ นอภ.เชียงดาว ลงพื้นที่บ้านนาหวายเพื่อติดตามสถานการณ์ กำชับฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าช่วยเหลือชาวบ้านขนย้ายทรัพย์สินหนีน้ำ พร้อมเร่งนำกระสอบทรายเข้าสร้างแนวป้องกันน้ำลดผลกระทบให้กับชาวบ้านกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน และแพร่ ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม โดยช่วงวันที่ 17-18 ก.ค. ประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือตอนบน เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน หลังจากนั้นช่วงวันที่ 19-21 ก.ค. จะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง มีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ภาคกลางด้านตะวันตก ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตกอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่