วุ่นแล้ว ตำรวจพังงาล็อก 2 หนุ่มปัตตานี ขับรถเก๋งนำแผงวงจรจุดชนวนระเบิดพร้อม อุปกรณ์ตั้งเวลามุ่งหน้าเข้า จ.ภูเก็ต เค้นสอบปากคำโชเฟอร์ถึงตะลึง บอกไม่ได้เข้าภูเก็ต แต่กำลังกลับออกไป หลังเพิ่งส่งของปริศนานำมาจาก อ.เทพา จ.สงขลา ส่งให้ขบวนการย่านหาดป่าตอง ภาค 8 สั่งไล่เช็กกล้องวงจรปิดควานหาตัวบุคคลลึกลับผู้รับสิ่งของ เจ้าหน้าที่คาดคนร้ายเตรียมประกอบระเบิดแสวงเครื่องทำ “คาร์บอมบ์” ป่วนเมือง เร่งเพิ่มมาตรการคุมเข้มพื้นที่สำคัญเมืองภูเก็ต พังงา กระบี่ หวั่นกลุ่มก่อการร้ายระดับโลกใช้ไทยเป็นฐานสางแค้น ปมความบาดหมางระหว่างประเทศตำรวจพังงาสกัดจับแผงวงจรจุดชนวนระเบิดได้ทันควัน ก่อนถูกนำไปประกอบระเบิดแสวงเครื่อง ก่อเหตุคาร์บอมบ์ถล่มภูเก็ต เมื่อเวลา 03.30 น. 24 มิ.ย. ขณะตำรวจ สภ.เมืองพังงา ตั้งจุดตรวจบริเวณ แยกบายพาส หน้าศาลากลางจังหวัดพังงา ต.ถ้ำน้ำผุด อ.เมืองพังงา พบรถเก๋งฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีดำ ทะเบียน กฉ 9486 สุรินทร์ ขับเลี้ยวหลบเลี่ยงไปทางสถานีขนส่งพังงา เจ้าหน้าที่เห็นผิดสังเกต ประสานตำรวจที่ตั้ง จุดสกัดบนถนนสายรอง บังคับให้หยุดรถในรถเก๋งพบนายมูหามะ วาเด็ง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 75/8 หมู่ 4 ต.มะนังยง อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เป็นคนขับ และนายสุไลมาน กาซา อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 2 ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี นั่งมาด้านหน้าคู่กัน ทั้งสองมีท่าทีตื่นตระหนก ค้นในรถพบนาฬิกาจับเวลาต้องสงสัย ต่อกับสายไฟฟ้า ไปยังแผงวงจร บรรจุอยู่ในถุงซิปพลาสติกใส ขนาดกว้าง 10 ซม.ยาว 20 ซม. ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้า และเครื่องนอนของทั้งสองคน เจ้าหน้าที่แยกถุงบรรจุ วัตถุต้องสงสัยไว้ในวงล้อยางรถยนต์ พร้อมปิดกั้นเส้นทางบนถนนบายพาสเลี่ยงเมืองพังงา รอการตรวจ พิสูจน์และเก็บกู้จากการซักถามบุคคลทั้งสองให้การอ้างว่า ได้รับว่าจ้างจากคนกลุ่มหนึ่งให้ขับรถยนต์คันดังกล่าว นำวัตถุต้องสงสัย พร้อมสมาร์ทโฟนและพ็อกเกตไวไฟ ให้ใช้ระหว่างเดินทางจากบ้านสะกอม อ.เทพา จ.สงขลา เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 23 มิ.ย. มุ่งหน้า เข้าพื้นที่ จ.ภูเก็ต ใช้แผนที่ GPS ที่ผู้ว่าจ้างบันทึกเส้นทางไว้ ผ่าน อ.เมืองสงขลา อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เข้าสู่ จ.พัทลุง จ.ตรัง จ.กระบี่ และ อ.ทับปุด จ.พังงา ทั้งสองคนผลัดกันทำหน้าที่ผู้ขับขี่ กระทั่งถูกสกัดจับกุมได้ในที่สุดต่อมา พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จ.พังงา พ.ต.อ.วีระพงศ์ รักขิโต ผกก.สภ.เมืองพังงา ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน จ.พังงา เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลาย วัตถุระเบิด EOD ภ.จ.พังงา เข้าตรวจสถานที่เกิดเหตุ เก็บวัตถุพยาน เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผล และประสานหน่วยงานความมั่นคงเข้าร่วมวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกต่อไปเช้าวันเดียวกัน ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพังงา พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 นายไพรัตน์ เพชรยวน ผวจ.พังงา พล.ต.ต.สมชาย ซื่อต่อตระกูล ผบก.ภ.จ.พังงา ร่วมแถลงข่าวการตรวจยึดวัตถุต้องสงสัยที่จะนำไปประกอบเป็นระเบิดแสวงเครื่องได้ พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 กล่าวว่า วัตถุที่พบดังกล่าวไม่สามารถทำร้าย บุคคลอื่นได้ แต่สามารถนำไปประกอบกับวัตถุอันตราย เป็นแผงวงจร สงสัยว่าจะนำไปกระทำผิดตามกฎหมาย ต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานนำไปตรวจสอบวัตถุอันตรายอีกครั้งหนึ่ง เบื้องต้นจากการสอบปากคำ ทั้งสองคนให้การวกวนไม่สอดคล้องกัน เจ้าหน้าที่จะนำตัวเข้าสอบสวนและขยายผล ไม่อยากให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวตื่นตระหนกในเรื่องดังกล่าวไปก่อน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ EOD ได้ทำลายแผงวงจรดังกล่าว ในที่เกิดเหตุแล้วที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต. สินเลิศ สุขุม ผบก.ภ.จ.ภูเก็ต กล่าวถึงกรณีการจับกุมผู้ต้องสงสัยพร้อมอุปกรณ์ตั้งเวลาจุดชวนระเบิดว่า หลังจาก สภ.เมืองพังงา จับผู้ต้องสงสัยพร้อมของกลางดังกล่าวได้ และให้การว่าปลายทางคือ จ.ภูเก็ต นั้น พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 ได้สั่งการให้ ด่านตรวจภูเก็ต หรือด่านตรวจท่าฉัตรไชย ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ที่เป็นด่านแรกและด่านเดียวในการจะผ่านเข้า-ออก จ.ภูเก็ต ตามเส้นทางบก ให้เพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง ยกระดับการรักษาความปลอดภัย พร้อมประสานงานกับเครือข่าย ฝ่ายปกครอง ฝ่ายทหาร ให้มาร่วมปฏิบัติงานที่ด่านตรวจ เพื่อเพิ่มความเข้มข้น ในการตรวจค้นยานพาหนะ บุคคล และวัตถุต้องสงสัย มุ่งสร้างความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชน ที่ผ่านเข้ามายังพื้นที่ จ.ภูเก็ต รวมทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติด้วยรายงานข่าวจากหน่วยงานความมั่นคงระบุว่า ในทางการข่าวมีความเคลื่อนไหวของกลุ่มก่อการร้าย สากล ที่ได้รับการฝึกฝนจากขบวนการก่อการร้ายในย่านเอเชียอาคเนย์ มีเป้าประสงค์ต้องการแก้แค้น กรณีสหรัฐอเมริกาและอิสราเอลรุมโจมตีอิหร่าน เจ้าหน้าที่สันนิษฐานคนร้ายต้องการนำอุปกรณ์ตั้งเวลาจุดชนวนไปประกอบระเบิดแสวงเครื่องทำ “คาร์บอมบ์” พุ่งเป้าหน่วยงานรัฐบาล หรือแหล่งผลประโยชน์ ของชาติคู่ขัดแย้ง รวมถึงบุคคลสำคัญ หรือบุคคลมีชื่อเสียงของชาติคู่กรณีที่เดินทางมาในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เพื่อต้องการแสดงสัญลักษณ์ให้เป็นข่าวครึกโครมระดับโลก โชคดีตำรวจไทยสกัดจับและหยุดยั้งได้ก่อน ส่วนสาเหตุที่แท้จริงต้องรอการสืบสวนสอบสวนให้ชัดเจนอีกครั้งแหล่งข่าวชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 ให้ข้อมูลว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหายอมรับว่าเดินทางมาจาก จ.ปัตตานี เพื่อมาส่งสิ่งของบางอย่างในพื้นที่หาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ไม่รู้จักกับผู้รับของ จากนั้นได้ขับรถกลับออกไปจากภูเก็ต และไปถูกจับได้ที่ด่านตรวจใน จ.พังงา ตอนแรกที่จับได้ตำรวจเข้าใจว่ากำลังเดินทางเข้าภูเก็ต แต่หลังตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางแล้ว ไม่พบเดินทางเข้ามาในวันถูกจับ แต่เป็นการจับได้ขณะเดินทางออกจากภูเก็ตแล้ว ส่วนรถคันดังกล่าวเข้ามาภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 22 มิ.ย. ตอนนี้ต้องไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดอีกครั้งว่ารถคันนี้ไปที่ไหนบ้าง ทั้งในภูเก็ตและจังหวัดใกล้เคียง รวมทั้งส่งสิ่งของอะไรให้ใคร ที่ไหน เนื่องจากผู้ต้องหาอ้างว่าไม่รู้ว่าสิ่งของที่นำมาส่งเป็นอะไร ส่วนจะเชื่อมโยงกับการเตรียมก่อการร้ายหรือไม่ ยังไม่ยืนยัน ต้องรอสืบสวนหาข่าวอย่างละเอียดพล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 รรท.ผบก.ภ.จ.กระบี่ สั่งการให้ตำรวจทุก สภ.ในพื้นที่จ.กระบี่ โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ สถานที่ชุมชน และสถานที่ราชการ ทั้งในท้องที่ สภ.เมืองกระบี่ สภ.อ่าวนาง สภ.เกาะพีพี และ สภ.เกาะลันตา เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตราของตำรวจสายตรวจ เน้นดูเรื่องของวัตถุต้องสงสัย ที่อาจจะตั้งวางไว้ผิดปกติในพื้นที่ต่างๆ หากพบเห็นให้เข้าตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการก่อเหตุตามแหล่งท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติเข้ามาพักอาศัยจำนวนมากอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่