กฎหมายบ้านเรากำลังปรับเปลี่ยนหลายอย่างส่วนใหญ่ตามล้างตามเช็ดอาชญากรรมทางออนไลน์ ที่ยังอาละวาดหนัก!ล่าสุด พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบช.สอท.1 พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC แถลงความร่วมมือการปราบปรามการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลโดยมิชอบ เพื่อการป้องกันอาชญากรรมทางไซเบอร์ตาม พ.ร.ก.ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฉบับที่ 2 เพิ่งมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 13 เม.ย. มาตรา 11/2 เกี่ยวกับการกระทำความผิดของผู้ที่ครอบครอง รวบรวม หรือใช้ข้อมูลส่วนบุคคล ในการนำข้อมูลนั้นไปใช้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือกระทำผิดกฎหมายอาญาอื่นสคส.ตั้งชุดคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ “อีเกิ้ลอาย” ส่วนตำรวจไซเบอร์ตั้งชุด “ไซเบอร์อาย” มาทำงานควบคู่กัน เปรียบเหมือนตาซ้ายตาขวาป้องกันอาชญากรรมทางออนไลน์ เฝ้าระวังการนำข้อมูลส่วนบุคคลของพี่น้องประชาชนไปใช้ก่ออาชญากรรมออนไลน์ หรือความผิดอื่นเป็นอันว่า ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมือมีไม้ปราบปรามอาชญากรรมทางไซเบอร์มากขึ้น แต่ผลงานจะออกมายังไงต้องตามดูกัน?เพราะโจรทางออนไลน์ตอนนี้ มันทำเหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป!ไม่ต้องพูดถึงกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ยังเดินหน้าหลอกลวงชาวบ้านตาดำๆต่อไปแต่อาชญากรรมที่เห็นกันจะจะหลอกลวงกันหน้าด้านๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ยอดฮิตทั้งหลายแหล่ มันยังมีอยู่เต็มไปหมด!เห็นเป็นกิจวัตรคือ การชักชวนให้เล่นการพนัน เช่น ชวนให้เล่นสลอตในเฟซบุ๊ก เห็นกันมานาน นักเล่นพูดคุยหยอกล้อชักชวนให้เข้าลิงก์เหมือนเป็นเรื่องถูกกฎหมาย เด็กเล็กเข้าไปเป็นเหยื่อไม่รู้เท่าไหร่?เปิดหน้าท้าทายกันขนาดนี้ยังไม่มีปัญญาปิด แล้วจะตอบสังคมว่ายังไง...สหบาทคลิกอ่านคอลัมน์ “ส่องตำรวจ” เพิ่มเติม
