ยอดตายจากอุบัติเหตุทางถนนช่วงสงกรานต์ 2568 ยังทะยานไม่หยุด ล่าสุด 3 วัน พุ่งแล้ว 100 ศพ โดย “กทม.” กลับมา ครองแชมป์ยอดตายสะสม ส่วน “เชียงใหม่” มาแรงแชมป์คดีเมาแล้วขับ ขณะที่ยอดจับกุมเมาแล้วขับ 3 วัน สูงถึง 11,801 ราย “พล.ต.อ.ไกรบุญ”รอง ผบ.ตร.สั่งขยายผลกรณีพบเยาวชนทำผิดข้อหาเมาแล้วขับ ให้เอาผิดร้านขายเหล้าด้วย ส่วนคนไทย นักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังเล่นสาดน้ำกันชุ่มฉ่ำต่อเนื่องทั่วประเทศ ด้าน ททท.ปลื้มคนมาแน่นงานสนามหลวง สร้างเงินหมุนเวียน 3 วันของการจัดงานกว่า 1.7 พันล้านบาทสามวันแรกของช่วงหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ ประจำปี 2568 ทั่วประเทศยังคงสนุกสนานกับการเฉลิมฉลองและเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันอย่างไม่ยั้ง ขณะเดียวกันเกิดอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่องสามวันตายพุ่งแตะ 100 ศพที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เมื่อวันที่ 14 เม.ย.เวลา 10.30 น. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร. เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 68 (ศปถ.) ภายหลังการประชุม นายขจร ศรีชวโนทัย รองปลัดกระทรวงมหาดไทย แถลงผลการประชุมสรุปข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ประจำวันที่ 13 เม.ย.ที่เป็นวันที่ 3 ของการรณรงค์ขับขี่ปลอดภัย เมืองไทยไร้อุบัติเหตุว่า เกิดอุบัติเหตุ 296 ครั้ง บาดเจ็บ 299 คน เสียชีวิต 39 ราย จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดได้แก่ ภูเก็ต 15 ครั้ง ชุมพร 14 ครั้ง พัทลุง และลำปาง 13 ครั้ง จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุดได้แก่ ปทุมธานี สระแก้ว เชียงราย จังหวัดละ 3 ราย ยอดสะสม 3 วัน ตั้งแต่ 11-13 เม.ย.2568 เกิดอุบัติเหตุ 756 ครั้ง บาดเจ็บ 752 ราย เสียชีวิต 100 ราย กรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด 10 ราย ส่วน 3 สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ขับรถเร็ว ดื่มแล้วขับ และตัดหน้ากระชั้นชิด ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ รองลงมาคือ รถกระบะเชียงใหม่แซงหน้าคดีเมาแล้วขับพ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมคุมประพฤติ กล่าวว่า เข้าสู่วันที่ 3 ของการดำเนินมาตรการควบคุมเข้มข้นในช่วงเทศกาลสงกรานต์ พบสถิติคดีที่ศาลมีคำสั่งคุมความประพฤติ 224 คดี แบ่งเป็นคดีขับรถขณะเมาสุรา 219 คดี คิดเป็นร้อยละ 97.77 และคดีขับเสพ 5 คดี ร้อยละ 2.23 ขณะที่ยอดคดีสะสมในช่วง 3 วันแรกของเทศกาลสงกรานต์ อยู่ที่ 1,579 คดี และติดอุปกรณ์ EM ยังคงเดิมที่ 15 ราย แบ่งเป็น ขับรถขณะเมาสุรา 1,472 คดี ร้อยละ 93.22 ติด EM 4 ราย ขับรถประมาท 3 คดี ร้อยละ 0.19 ขับเสพ 104 คดี ร้อยละ 6.59 ติด EM 11 ราย จังหวัดที่มีคดีเมาขับสูงสุด ได้แก่ เชียงใหม่ 136 คดี รองลงมาคือ สมุทรปราการ 123 คดี และกรุงเทพมหานคร 118 คดี เมื่อเปรียบเทียบสถิติคดีเข้าสู่คุมประพฤติในวันที่ 3 ของปี 2567 พบว่าคดีขับรถขณะเมาสุรา จำนวน 242 คดี และปี 2568 จำนวน 219 คดี ลดลง 23 คดี ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกสำนักงานคุมประพฤติทั่วประเทศเปิดให้บริการรับคดีและให้คำแนะนำแก่ผู้ถูกคุมความประพฤติอย่างต่อเนื่องแม้ในวันหยุดจับคนเมาขับพุ่งกว่า 1.1 หมื่นรายขณะที่ พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผบช.ศ.ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานฝ่ายเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สรุปการเกิดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568 สะสม 3 วัน วันที่ 11-13 เม.ย. มียอดจับกุมเมาแล้วขับสูงถึง 11,801 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ที่ถูกตรวจพบว่าเป็นการกระทำผิดซ้ำ ภายใน 2 ปี นับแต่วันที่กระทำความผิดครั้งที่ผ่านมา มากถึง 63 ราย ทั้งนี้ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 และที่แก้ไขเพิ่มเติม “มาตรา 160 ตรี/1 ผู้ใดกระทำความผิดตามมาตรา 160 ตรี (เมาแล้วขับ) และได้กระทำความผิดซ้ำอีกภายใน 2 ปี นับแต่วันที่กระทำความผิดครั้งแรก ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับตั้งแต่ 50,000-100,000 บาท และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่าหนึ่งปี หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่” ซึ่งผู้ที่กระทำผิดซ้ำนี้ จะถูกส่งตัวเพื่อไปฟ้องยังศาลจังหวัด และต้องถูกฝากขังตามอัตราโทษของศาลจังหวัด นอกจากนั้น กฎหมายยังกำหนดให้ศาลใช้ดุลพินิจลงโทษจำคุกและปรับ โดยความผิดเมาแล้วขับในครั้งแรก อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับสั่งเอาผิดร้านขายเหล้าให้เยาวชนต่อมา พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รอง ผบ.ตร.กล่าวเพิ่มเติมว่าให้ทุกหน่วยดำเนินการสืบสวนสอบสวนขยายผลกรณีพบเด็กหรือเยาวชนขับรถกระทำผิดข้อหาขับรถในขณะเมาสุรา โดยให้ดำเนินการตามมาตรการตาม พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 รวมทั้งขยายผลดำเนินคดีผู้ประกอบการหรือร้านค้าที่จำหน่ายสุราให้เด็กหรือเยาวชนในพื้นที่ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ตามแผนมาตรการสงกรานต์ 2568 ของ ตร.หนุ่มเมาขับรถพุ่งชนเด็กเล่นสาดน้ำผู้สื่อข่าวรายงานว่านอกจากอุบัติเหตุทางถนนตามปกติแล้ว เมื่อวันที่ 13 เม.ย. เวลา 15.30 น. ยังเกิดเหตุคนเมาขับรถพุ่งชนบ้านที่กำลังเล่นสงกรานต์ โดยเหตุเกิดในหมู่บ้านที่บ้านเชียง อ.หนองหาน จ.อุดรธานี และชาวบ้านช่วยกันจับตัวคนขับไว้ได้ ก่อน ตร.สภ.หนองหาน จะเข้ามาควบคุมตัว ทราบชื่อในเวลาต่อมาคือนายมานพ ราชสิงห์ อายุ 48 ปี ภูมิลำเนาหมู่ 2 บ้านเชียง โดยนายมานพ สิทธิพรหม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลบ้านเชียง เปิดเผยว่า ช่วงเกิดอุบัติเหตุ นายมานพที่อยู่ในอาการมึนเมาอย่างหนัก ได้ขับรถกระบะพุ่งชนบ้านเลขที่ 116 และบ้านเลขที่ 146 ที่อยู่ติดกัน ขณะคนในบ้านกำลังเล่นน้ำสงกรานต์ กันอย่างสนุกสนาน โชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มีเพียงข้าวของเสียหาย ขณะที่ น.ส.สายใจ รักลีน เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ที่มีเด็กๆกำลังเล่นน้ำช่วงเทศกาลสงกรานต์ เปิดเผยว่า ขณะที่เด็กๆกำลังเล่นน้ำที่หน้าบ้าน จู่ๆมีรถกระบะพุ่งมาที่หน้าบ้าน แล้วพุ่งชนเข้าใส่เต็นท์ หน้าบ้านที่เด็กๆกำลังเล่นน้ำสงกรานต์กันอยู่ เด็กๆ ต่างตื่นตกใจกรีดร้องและวิ่งหนีเข้าไปในบ้าน โดยผู้ก่อเหตุยังสตาร์ตรถขับต่อไปชนข้าวของภายในบริเวณบ้าน รวมถึงบ้านหลังที่อยู่ติดกันได้รับความเสียหายด้วยชื่นชอบปาร์ตี้โฟมสำหรับบรรยากาศการเล่นสาดน้ำในเทศกาลสงกรานต์ที่ยังมีต่อเนื่องอีกวันในวันที่ 14 เม.ย. ที่ถือเป็นวันครอบครัวด้วย ทำให้หลายพื้นที่ยังชุ่มฉ่ำ บางครอบครัวพาลูกจูงหลานออกมาเล่นน้ำในจุดที่มีการจัดงานกันคึกคักแต่เช้า เช่นที่อำเภอเมืองอุบลราชธานี จุดที่มีประชาชนนักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากที่สุด หนีไม่พ้นภายในสวนสัตว์อุบลราชธานี ที่เด็กๆ ได้ทั้งชมสัตว์และเล่นปาร์ตี้โฟม ขณะที่ถนนสายหลักของการเล่นน้ำ ได้แก่ ถนนสายน้ำ ถนนสรรพสิทธิ์ เป็นจุดนัดพบของนักท่องเที่ยวในการเล่นน้ำนักท่องเที่ยว หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องถนนข้าวเหนียวคนหนาแน่นส่วนที่ถนนศรีจันทร์ ตั้งแต่สี่แยกไฟแดงถนนหน้าเมืองตัดกับศรีจันทร์ ยาวไปจนสุดถนนมิตรภาพ ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร หรือที่เรียกว่าถนนข้าวเหนียว อ.เมืองขอนแก่น จุดจัดงานสุดยอดสงกรานต์อีสาน เทศกาลดอกคูนเสียงแคนและถนนข้าวเหนียวประจำปี 2568 ที่งานมีถึงวันที่ 15 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าตั้งแต่วันแรกของงานคือเมื่อวันที่ 13 เม.ย. คนแห่มาร่วมเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างคับคั่ง ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติกว่า 7.2 หมื่นคนเล่นน้ำที่ทะเลอีสานขณะที่บริเวณหาดคำสมบูรณ์ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ หรือที่นักท่องเที่ยวเรียกว่า “ทะเลอีสาน” ตลอดวันที่ 14 เม.ย. มีนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกจังหวัด พาลูกจูงหลานมาพักผ่อนหย่อนใจลงเล่นน้ำคลายร้อน และรับประทานอาหารในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อน นอกจากพาบุตรหลานลงเล่นน้ำแล้วยังได้ไปกราบขอพรสิ่งศักดิ์ 2 แห่ง คือศาลปู่บน เกาะดอนแก้วดอนโพธิ์ และศาลปู่อือลือ เพื่อความเป็นสิริมงคล อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการบางรายระบุว่าปีนี้นักท่องเที่ยวลดลงมาก เรียกได้ว่าเงียบเหงา บางร้านไม่มีลูกค้า ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาจากจอกหูหนูยักษ์ ที่แพร่กระจายไปทั่วบึงโขงหลง ทำให้ทัศนียภาพไม่สวยงามเหมือนเดิมแห่ขอพรพระเจ้าองค์ตื้อส่วนที่วัดศรีชมภูองค์ตื้อ บ.น้ำโมง ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ชาวหนองคายและนักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางมากราบสักการะขอพรจากองค์หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อในวิหาร เพื่อขอพรเกี่ยวกับการเงิน การงาน เปิดดวงให้รุ่งโรจน์ ต้อนรับปีใหม่ไทยในเทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 จนทำให้พื้นที่ภายในวิหารแทบจะไม่พอรองรับ นอกจากนี้ ทางวัดได้จัดโซนสรงน้ำและอัญเชิญหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ (องค์จำลอง) มาประดิษฐานที่บริเวณปากทางเข้าวิหาร เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เดินทางมาไกลได้มีโอกาสเข้ากราบไหว้ขอพร และร่วมทำบุญสรงน้ำองค์หลวงพ่อฯ ไปจนถึง 16 เม.ย. ซึ่งจากการที่ผู้คนเดินทางมาจำนวนมากส่งผลให้การจราจรบริเวณถนนทางเข้าวัด จากทางหลวง 211 (สี่แยกบ้านห้วยมาง) และทางเข้าหมู่บ้านน้ำโมง (สามแยกโรงเรียนบ้านน้ำโมง) ทั้งสองเส้นทาง เต็มไปด้วยยานพาหนะ และเคลื่อนตัวช้าในบางช่วงเล่นอุโมงค์น้ำคลายร้อนสำหรับบรรยากาศงานเย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ Muk-Savan Fun & Fin Festival และมหกรรมเทศกาลอาหารลุ่มน้ำโขง ที่บริเวณมุกดาหารสแควร์ อำเภอเมืองมุกดาหาร ที่จัดถึงวันที่ 15 เม.ย. ปรากฏว่า ตลอดวันที่ 14 เม.ย.ยังคงมีนักท่องเที่ยวออกมาเล่นน้ำในอุโมงค์น้ำกันอย่างสนุกสนาน พอให้คลายร้อนจากสภาพอากาศที่ค่อนข้างอบอ้าว พร้อมกับลิ้มรสอาหารของดีเมืองมุกดาหาร กิจกรรมเด่นอยู่ที่การประกวดหมูหันจากทั้งหมด 7 อำเภอ 52 ทีม ชิงเงินรางวัลรวมมูลค่า 72,000 บาทเชียงใหม่สาดน้ำไม่แผ่วขณะที่ในตัวเมือง จ.เชียงใหม่ แม้ท้องฟ้าจะอึมครึมด้วยเมฆฝนตลอดทั้งวัน แต่ชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างพากันออกมาเล่นสาดน้ำกันอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะที่ถนนท่าแพ จุดศูนย์รวมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ นักท่องเที่ยวจำนวนมากพากันออกมาเล่นสาดน้ำ เปิดเพลงเต้นกันอย่างสนุกสนาน ส่วนพื้นที่รอบคูเมืองเชียงใหม่ก็คึกคักไม่แพ้กัน ผู้คนหลั่งไหลเข้าไปเล่นสาดน้ำจนการจราจรรอบคูเมืองหนาแน่นตลอดทั้งวัน เช่นเดียวกับถนนบุญเรืองฤทธิ์ ด้านหน้าโรงเรียนวัฒโนทัยพายัพเชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งจุดที่มีผู้คนออกมาเล่นน้ำเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่นำรถกระบะขับออกมาตระเวนเล่นสาดน้ำ ทำให้รถหนาแน่น ขณะที่ถนนสายต้นยาง อ.สารภี เป็นอีกหนึ่งเส้นทางเล่นน้ำสงกรานต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดเส้นทางมีประชาชนออกมาเล่นสาดน้ำเป็นจำนวนมากไหว้พระก่อนเล่นสาดน้ำที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วรมหาวิหาร พระอารามหลวง (ชั้นเอก) หรือวัดใหญ่ ต.ในเมือง อ.เมือง พิษณุโลก เนื่องจากวันที่ 14 เมษายน ถือว่าเป็นวันครอบครัว ทำให้ประชาชนชาวเมืองสองแควและนักท่องเที่ยวต่างพาครอบครัวไปกราบไหว้สักการะขอพรพระพุทธชินราช พร้อมถวายสังฆทาน และร่วมกันสรงน้ำพระพุทธชินราชจำลองที่ทางวัดอัญเชิญมาประดิษฐานบริเวณหน้าพระวิหารหลวง เพื่อความเป็นสิริมงคล รวมทั้งทำบุญก่อพระเจดีย์ทรายตั้งแต่เช้า ก่อนจะพากันออกไปเล่นน้ำคลายร้อนบนถนนรดน้ำ ที่มีประชาชนเข้าไปเล่นน้ำสงกรานต์อย่างสนุกสนานถนนข้าวตอกครึกครื้นส่วนที่เวทีกลางวงเวียนหอนาฬิกาสุโขทัย ต.ธานี อ.เมืองสุโขทัย พื้นที่งานประเพณีสงกรานต์เสื้อลายดอก ถนนข้าวตอกสุโขทัย ประจำปี 2568 จัดงานอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา บรรยากาศการเล่นน้ำในวันที่ 14 เม.ย.ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ยังคงมีประชาชนและนักท่องเที่ยวออกมาเล่นน้ำกันอย่างหนาแน่น เนื่องจากไม่มีฝนตกและอากาศร้อน นอกจากนี้ที่เวทีกลางบริเวณวงเวียนหอนาฬิกายังมีคอนเสิร์ตจากศิลปินวง “มหาหิงค์” มาสร้างความบันเทิงให้ผู้เข้ามาเที่ยวด้วยแห่ขอพรพระแก้วขาวสำหรับที่ จ.กาญจนบุรี ตลอดช่วงเช้า บริเวณที่ว่าการอำเภอสังขละบุรี นายสุริยะศักดิ์ เหมือนอ่วม นายอำเภอสังขละบุรี พ.ต.อ.สันติ พิทักษ์สกุล ผกก.สภ.สังขละบุรี ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน กว่า 1000 คน สวมใส่ชุดพื้นเมือง ร่วมพิธีแห่พระแก้วขาว (พระพุทธรัตนสังขละบุรี ศรีสุวรรณ) พระพุทธรูปสำคัญคู่บ้านคู่เมืองสังขละบุรี ที่อัญเชิญมาจากวัดสะเนพ่อง (เมืองเก่าสังขละบุรี) ไปรอบๆพื้นที่ชุมชนเทศบาลตำบลวังกะ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยว ได้ร่วมกันสักการบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในวันสงกรานต์ ก่อนจะสิ้นสุดการแห่ที่วัดศรีสุวรรณ เพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้ประพรมด้วยน้ำขมิ้นส้มป่อย และกราบไหว้ขอพร พร้อมทั้งมีการแสดงรำตง ของคณะชาวบ้านจากหมู่บ้านต่างๆในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี เพื่อเฉลิมฉลองประเพณีสงกรานต์ 2568สีลมสร้างสีสันจนคนมาแน่นส่วนบรรยากาศเล่นน้ำสงกรานต์ในกรุงเทพฯ ที่ยังมีต่อเนื่องในหลายจุด โดยเฉพาะ “ถนนสีลม” ที่มีการจัดงาน “สงกรานต์บ้านฉัน สีสัน สีลม” จนกลาย เป็นจุดยอดนิยมมีคนเข้าไปเล่นสาดน้ำสงกรานต์อย่าง แน่นขนัด และในวันที่ 14 เม.ย. ตั้งแต่ช่วงบ่ายถนน สีลมทั้งสายเนืองแน่นไปด้วยผู้คนทั้งคนไทยและชาวต่างชาติหลั่งไหลมาร่วมเล่นน้ำกันแบบสุดฉ่ำ ตั้งแต่แยกศาลาแดง-แยกนรารมย์ นอกจากนี้ ยังมี การจัดขบวน ไพรด์พาเหรด “Amazing Bangkok Songkran Parade” สร้างสีสัน ความสนุก และความ หลากหลาย ปีนี้มีตัวแทนจาก 19 ประเทศทั่วโลกทุกเพศทุกวัยมาร่วมเดินพาเหรดอย่างสนุกสนาน คึกคักและครึกครื้น ก่อนปิดท้ายด้วยการประกวดมิสควีนสงกรานต์บางกอก ในเวลา 19.00 น. ส่งผล ให้พื้นที่จัดงานแน่นขนัดไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะสุดประทับใจบ่ยั่นฝนคนแห่สาดน้ำถนนข้าวสารขณะที่ถนนข้าวสาร อีกจุดที่ปิดถนนให้เล่น สาดน้ำสงกรานต์เป็นวันที่ 2 มีนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติเข้ามาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนานตั้งแต่ช่วงสายจนถึงบ่าย ประกอบกับอากาศเป็นใจแดดร่ม ลมตก มีฝนโปรยปรายลงมายิ่งทำให้ถนนข้าวสารชุ่มฉ่ำเย็นสบาย แตกต่างจากวันแรกที่อากาศร้อนระอุ จนถึงช่วงเย็นคนที่เล่นน้ำเล่นแป้งอยู่ตามถนนรอบนอก และจากท้องสนามหลวงได้ทยอยเข้ามาปักหลักเล่นน้ำ จนแน่นขนัด โดยถนนข้าวสารเปิดให้สาดน้ำไปจนถึง 22.00 น. แล้วจึงเร่งระบายคนออกเพื่อให้ทาง กทม.เข้ามาเคลียร์ทำความสะอาดพื้นที่เล่นน้ำ “สีลม–ข้าวสาร” เฉียด 2 แสนสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. รายงาน จำนวนผู้เข้าร่วมงานสงกรานต์ วันที่ 12 เม.ย. เวลา 12.00-22.00 น. ถนนสีลม จำนวน 51,900 คน วันที่ 13 เม.ย. จำนวน 113,339 คน สะสม 2 วัน จำนวน 165,239 คน ด้านถนนข้าวสาร เวลา 12.00-24.00 น. วันที่ 12 เม.ย. จำนวน 59,523 คน วันที่ 13 เม.ย. จำนวน 137,791 คน สะสม 2 วัน จำนวน 197,314 คนททท.ปลื้มคนแน่นงานสนามหลวงวันเดียวกัน น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวถึงการ จัดงาน “Maha Songkran World Water Festival 2025” ณ บริเวณถนนราชดำเนินและท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร ในช่วง 3 วันแรกของการจัดงาน วันที่ 11-13 เมษายน 2568 ว่าได้รับกระแสตอบรับที่ดี จากนักท่องเที่ยวและมีผู้สนใจเข้าร่วมงานจำนวนมาก โดยในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานทั้งสิ้น 558,015 คน แบ่งเป็นชาวไทย 523,456 คน และชาวต่างชาติ 34,559 คน และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียน ในระบบเศรษฐกิจ รวม 3 วัน จำนวน 1,702.28 ล้านบาท นอกจากนี้ ในตลอดการจัดงานที่ผ่านมา ร้อยละ 93.18 ของผู้เข้าร่วมงานมีความพึงพอใจระดับมากถึงมากที่สุด ขณะเดียวกันผู้ประกอบการและร้านค้า ร้อยละ 91.31 มีความพึงพอใจระดับมาก ถึงมากที่สุดเช่นเดียวกัน และร้อยละ 91.89 ของผู้เข้าร่วมชมงาน มีความพึงพอใจต่อขบวนพาเหรดมหาสงกรานต์ ทั้งนี้ ในช่วงการจัดงาน 2 วันที่เหลือ ททท.ได้วางกลยุทธ์การสื่อสารเพื่อเผยแพร่ประชา สัมพันธ์การจัดงานผ่านช่องทางสื่อต่างๆ เพื่อเชิญชวน นักท่องเที่ยวที่สนใจมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ ที่ยิ่งใหญ่ (Grand Festivity) และร่วมสืบสานวัฒนธรรมไทยไปพร้อมกันคนหลั่งไหลเข้าเล่นน้ำไม่ขาดสายผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศงาน “Maha Songkran World Water Festival 2025” หรือสงกรานต์สนามหลวง 2568 ซึ่ง (ททท.) จัดใหญ่ให้เล่นน้ำกันชุ่มฉ่ำระหว่าง 11-15 เม.ย.นี้ว่า ตลอดช่วงเย็นถึงค่ำ มีประชาชนทยอยเข้ามาในพื้นที่จัดงานอย่างต่อเนื่อง คนที่ต้องผ่านด่านตรวจต้องยืนต่อแถวยาวเหยียด ขณะที่ทุกโซนจัดงานทั้งเวทีใหญ่ เวที EDM เวทีวัฒนธรรม และโซนเล่นน้ำในสระขนาดใหญ่ มีนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติทั้งเด็กและผู้ใหญ่เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ในคืนวันที่ 14 เม.ย. ซึ่งเป็นที่ 4 ของการจัดงาน มีการแสดงดนตรีของลำไย ไหทองคำ และกระแต อาร์สยาม ส่วนในวันที่ 15 เม.ย. วันสุดท้ายของงาน มีการแสดงดนตรีของวงคาราบาว และ bodyslam คาดว่า คนจะเข้ามาจนแน่นสนามหลวงอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่