“เป็นเหตุการณ์ที่เราไม่คาดคิด เบื้องต้นไม่พบการชิงทรัพย์ ประทุษร้าย เป็นเรื่องภายในกันเอง ไม่ได้เกี่ยวกับปล้นทรัพย์หรือเกี่ยวข้องกับความมั่นคงภายในของเรา ขอรอผลชันสูตรพลิกศพ ยันไม่ได้กระทบการท่องเที่ยว สาเหตุรอหลักฐานนิติวิทยาศาสตร์” นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ย้ำหลังเข้าสถานที่เกิดเหตุพบศพ 2 ชาวเวียดนามสัญชาติอเมริกัน 4 ชาวเวียดนามเสียชีวิตในห้องพักโรงแรมหรูแยกราชประสงค์เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ค. กลายเป็นข่าวใหญ่ทั่วโลก ชั่วเวลาไม่นานพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.วิทวัส ชินคำ ผบก.น.5 พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ลุมพินี เป็นชุดแรกลงพื้นที่ ประสาน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ. นำ พฐ.ตรวจเก็บ วัตถุพยานในที่เกิดเหตุพล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข ผบก.สส.บช.สตม. พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผบก.ตม.1 ร่วมขยายผลข้อมูลการเดินทางเข้า-ออกชาวเวียดนามพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ประชุมร่วมทีมสืบนครบาล สตม. และ พฐ. พบว่า ที่เกิดเหตุ ไม่มีร่องรอยต่อสู้และโจรกรรมทรัพย์สิน วัตถุพยานที่เกิดเหตุเชื่อว่าถูกวางยาให้ดื่มกันเองในกลุ่มผู้เสียชีวิตพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. แถลงข้อมูลผู้เสียชีวิต น.ส.เชรีน ชอง อายุ 56 ปี นายฮึง ดัง วัน อายุ 55 ปี ชาวเวียดนามสัญชาติอเมริกันพักห้องสวีทชั้น 5 วันที่ 13 ก.ค. ซึ่งเป็นห้องที่เกิดเหตุ น.ส.ถิ เหวียน เฟือง หล่าน อายุ 47 ปี นายฮอง ฟ่าม ถั่น อายุ 49 ปี นายดิน เจิ่น ฟู อายุ 37 ปี น.ส.ดิ เหวียน เฟือง อายุ 46 ปี สัญชาติเวียดนาม พักชั้น 7 จำนวน 4 ห้อง ชุดแรกวันที่ 13 ก.ค.และวันที่ 14 ก.ค. เช็กเอาต์วันที่ 15 ก.ค.ผู้เสียชีวิตไม่ได้ออกจากโรงแรม ไม่ชำระค่าใช้จ่ายโรงแรม ยกกระเป๋ามาไว้ห้องที่เกิดเหตุ พล.ต.ท.ธิติ แถลงว่า ผู้เสียชีวิตหลังเวลา 13.53 น. วันที่ 16 ก.ค. เมนูอาหารที่สั่งเป็นอาหาร จานเดียว ยังไม่ได้รับประทาน มีถ้วยผสมเครื่องดื่ม 6 ถ้วย วางอยู่ที่จัดเตรียมอาหาร 5 ถ้วย อยู่บนโต๊ะ 1 ถ้วย เครื่องดื่มชาถูกดื่มทั้งหมด มีเศษตกค้างบนถ้วย หลักฐานชี้ว่า ไม่ได้มีคนอื่นเข้ามาก่อเหตุ เป็นเรื่องกลุ่มผู้เสียชีวิตก่อเหตุกันเองเป็นความรวดเร็วของ นายกฯ และ ผบช.น.ชี้แจงข้อสงสัยของสังคมโลกกับเหตุการณ์พบศพผู้เสียชีวิต ยืนยันว่า ไม่ใช่คดีฆาตกรรมหรือปล้นทรัพย์ เป็นเรื่องภายในของกลุ่มผู้เสียชีวิต ไม่ปล่อยให้เป็นข่าวคลุมเครือสร้างความเสียหายกระทบต่อความเชื่อมั่นภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ สั่งให้ สตม.ตรวจสอบข้อมูลชาวเวียดนาม ประสานสถานทูตเวียดนามขอประวัติผู้เสียชีวิต สืบนครบาลไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดหาผู้ก่อเหตุ พฐ.ตรวจพิสูจน์มีสารพิษหรือไม่เร่งทำการสืบสวน และตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานเพื่อให้เกิดความกระจ่างชัดในเหตุที่เกิดขึ้นพล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. กำชับชุดสืบสวนทำให้ครบถ้วนเนื่องจากเป็นคดีชาวต่างชาติเสียชีวิตรศ.กรเกียรติ วงศ์ไพศาลสิน หัวหน้าภาควิชานิติเวชศาสตร์ และ ผอ.ศูนย์อำนวยการชันสูตรพลิกศพ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ รศ.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ คณบดีแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผบก.พฐก. แถลงผลชันสูตรศพชาวเวียดนาม ไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย ทุกรายเสียชีวิตจากสารไซยาไนด์ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. สรุปผลการตรวจวัตถุพยานที่พบในที่เกิดเหตุ แก้ว 5 ใบ อยู่บนโต๊ะชาและแก้วบนโต๊ะอาหาร ถุงชา กาโลหะ พบว่ามีสารไซยาไนด์อยู่ในวัตถุพยานในที่เกิดเหตุแนวทางสืบสวน พยานแวดล้อมพนัก งานโรงแรม และ “กล้องวงจรปิด” ไม่มีคนอื่นเข้าไปอยู่ในห้องพักชั้น 5 ที่เกิดเหตุ ยืนยันมีผู้เสียชีวิต 6 คนอยู่ในห้องพักที่เกิดเหตุ และช่วงที่เสียชีวิตไม่มีบุคคลอื่นเข้าไปเกี่ยวข้องเหตุเสียชีวิตชัดเจนเป็นการ “วางยา” แต่มูลเหตุสงสัยคือคนที่วางยาอยู่ในกลุ่มผู้เสียชีวิตชุดสืบสวนประสานทางการเวียดนามและญาติผู้เสียชีวิต พบว่า ร่วมลงทุนกัน น.ส.เชรีน ชอง จัดตั้งโครงการลงทุน น.ส.ถิ เหวียน เฟือง หล่าน ค้ำประกัน ชักชวนผู้เสียชีวิตร่วมลงทุนในหลายโครงการโครงการล่าสุดระดมทุนจัดสร้างโรงพยาบาล ที่ประเทศญี่ปุ่น นายฮอง ฟ่าม ถั่น อายุ 49 ปี และ น.ส.ดิ เหวียน เฟือง อายุ 46 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของบริษัทสร้างถนนประเทศเวียดนาม ร่วมลงทุนหลายสิบล้านบาท แต่โครงการไม่คืบหน้า ทวงถามมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ น.ส.เชรีน ชอง คนจัดตั้งกองทุน และ น.ส.ถิ เหวียน เฟือง หล่าน คนค้ำประกัน นัดทั้งเจ้าหนี้ ลูกหนี้ คนค้ำประกัน พูดคุยเพื่อคืนเงินลงทุนที่ประเทศไทยแนวทางสืบสวน ปม “วางยาพิษ” ตีแคบเรื่องวางยาล้างหนี้ เพราะไม่มีคนอื่นอยู่ในที่เกิดเหตุ ผู้ที่น่าสงสัย น.ส.เชรีน ชอง และ น.ส.ถิ เหวียน เฟือง หล่าน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินลงทุน น.ส.เชรีน เจ้าของห้องที่เกิดเหตุ ทั้งพยานบุคคลและกล้องวงจรปิดอยู่ในข่ายน่าสงสัย เพราะเป็นคนสั่งอาหาร ชา กาแฟมาที่ห้องพักชั้น 5 ไม่ให้พนักงานโรงแรมผสมชา ช่วงที่ผู้เสียชีวิต 4 คน ยังไม่เข้าห้องที่เกิดเหตุก่อนเสียชีวิตสภาพศพนั่งเสียชีวิตบนเก้าอี้ ส่วนคนอื่นล้มคว่ำไม่รู้ตัว ตรวจกระเป๋าเดินทางของ น.ส.เชรีน พบสารไซยาไนด์ เป็นประเด็นทำให้ชุดสืบสวนสงสัยว่าเป็นผู้ก่อเหตุวางยาเหตุทางคดีการเสียชีวิต 6 ศพ ทั้งหลักฐาน วัตถุพยานที่เกิดเหตุและผลตรวจสารที่เกิดเหตุ ชี้ชัดถูกวางยาพิษเสียชีวิต แต่งานหนักชุดสืบนครบาลค้นหาหลักฐานตอบข้อสงสัยสังคมโลกถึงมือ “วางยาฆ่าหมู่”ทำให้สังคมเชื่อได้ว่า ใครเป็นผู้ก่อเหตุวางยาฆ่าตัวเองพร้อมเหยื่ออีก 5 รายท้าทายศักยภาพชุดสืบนครบาล เป็นคดีที่มีความยุ่งยากและซับซ้อนยิ่งกว่าคดีใดๆทั้งหมดเพราะพยานสำคัญ ผู้ก่อเหตุ เสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุทั้งหมดเลย.ทีมข่าวอาชญากรรมคลิกอ่านคอลัมน์ “แกะรอยรอบสัปดาห์” เพิ่มเติม
