ชันโรงให้คุณค่าทั้งทางตรงและทางอ้อม คือให้ผลผลิตเป็นน้ำผึ้ง ซึ่งสามารถนำไปแปรรูปทำผลิตภัณฑ์ได้มากมายนายประไพ คชรินทร์ อดีตข้าราชการครู ประธานวิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพผู้เลี้ยงชันโรงบ้านทับมาเผยว่า ชันโรงเป็นแมลงที่ช่วยสร้างสมดุลให้สภาพแวดล้อมในธรรมชาติ ช่วยผสมเกสรเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ และยังเป็นแมลงที่เลี้ยงและเติบโตเก็บอาหารจากธรรมชาติเท่านั้นในปี 2563 จึงเกิดการรวมกลุ่มกันเพื่อเลี้ยงชันโรง และนำผลผลิตจากชันโรงมาใช้ประโยชน์ ปัจจุบันมีสมาชิก 45 คน มีรังชันโรงประมาณ 300 รัง โดยส่วนใหญ่เป็นชันโรงสายพันธุ์ขนเงิน ให้น้ำหวานและชันมีส่วนประกอบของสารสำคัญต่างๆ มากกว่า 300 ชนิด โดยส่วนใหญ่เป็นสารกลุ่มฟลาโวนอยด์ ได้แก่ กาแลนจิน, กรดคาเฟอิก ซึ่งมีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ ลดการอักเสบ ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์ นอกจากนี้ยังมีสารสำคัญอื่นๆ เช่น เทอร์ปีน ฟีนอลิก เป็นต้น ซึ่งสารที่พบจะมีความแตกต่างหลากหลายไปตามแหล่งอาศัยของผึ้งและชนิดของพืชพันธุ์ในแถบนั้น“สารฟลาโวนอยด์” ที่มีในผลิตภัณฑ์ของทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชน พบองค์ประกอบของแมงโกสทีน ฟลาโวนอยด์ ที่ได้จากเกสรของดอกมังคุด ซึ่งมีเฉพาะในพื้นที่เท่านั้นทำให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะเป็นน้ำผึ้งชันโรง มีประโยชน์และมีคุณค่าทางโภชนาการสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันและช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง มีสรรพคุณทางยา มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ สมานแผล และช่วยบำรุงสมองนอกจากจะได้น้ำผึ้งชันโรงเพื่อจำหน่ายแล้ว ทางกลุ่มยังได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากสารสกัดพรอพอลิส และเกสรของผึ้งชันโรง อาทิ สบู่ ยาหม่อง น้ำมันหอมระเหย ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เป็นต้นการรวมกลุ่มของสมาชิก ทำให้มีรายได้จากการขายน้ำผึ้งและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผึ้งชันโรง ส่งขายไปทั่วประเทศ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนได้รับการสนับสนุน จาก SCGC มา ถ่ายทอดการทำงาน ถ่ายทอดความรู้ ขยายจำนวนผู้เลี้ยงชันโรงในพื้นที่จังหวัดระยองให้เพิ่มมากขึ้น พัฒนาต่อยอดด้านนวัตกรรมให้เป็นผลิตภัณฑ์ชุมชนที่ได้มาตรฐานสากลสำหรับผู้สนใจ เข้าเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนส่งเสริมอาชีพผู้เลี้ยงชันโรงบ้านทับมา จ.ระยอง ติดต่อได้ที่ ประธานวิสาหกิจฯ ครูประไพ คชรินทร์ โทร. 06–5397–4465 หรือ Facebook : บ้านมีชันดี.นิตยา ทุมมานนท์คลิกอ่านคอลัมน์ “มองทั่วทิศเมืองไทย” เพิ่มเติม