เป็นปัญหาที่สะสมมานานวงการตำรวจ “หน่วยนอก” จับกุมสถานบริการ บ่อนการพนันหรืออบายมุขในพื้นที่ตามมาด้วยคำสั่งย้าย “เด้ง 5 เสือโรงพัก” กระทบขวัญกำลังใจตำรวจโรงพักผู้ปฏิบัติงานตามสถานี ที่ต้องคอยรับผลกระทบหน่วยเดียว หลายโรงพักทำดีมาเป็นปี พอถูกจับสถานบริการครั้งเดียวถูกย้ายพ้นจากโรงพัก บางครั้งสังคมสงสัยว่า ทำไมตำรวจถูกเด้งอีกแล้ว มีตำรวจหน่วยเดียวหรือที่รับผิดชอบเรื่องนี้ หน่วยอื่นๆที่เกี่ยวข้องไม่เห็นจะได้รับผลกระทบ ทั้งที่มีหน้าที่รับผิดชอบเช่นเดียวกัน ถึงยุค “บิ๊กต่อ” พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. มอบ “บิ๊กต่าย” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. รับผิดชอบงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม สั่งให้ทบทวนแนวทางใหม่ ทำให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ใช่ว่าพอถูกจับต้องเด้งตำรวจโรงพักทันทีรอง ผบ.ตร.แสดงความไม่เห็นด้วยกับคำสั่งเด้งด่วน “5 เสือโรงพัก” ที่มาของเรื่องนี้เกิดจากที่ฝ่ายปกครองบุกจับผับดังกลางเมืองเชียงใหม่ ต่อมามีคำสั่งเด้ง “5 เสือโรงพัก สภ.ช้างเผือก” ทั้งที่ตำรวจพื้นที่เข้าตรวจสถานบริการในพื้นที่เป็นประจำ และโรงพักเสนอให้สั่งปิดสถานบริการแห่งนี้หลายครั้ง แต่หน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ได้ดำเนินการพอถูกฝ่ายปกครองเข้าจับกลายเป็นว่า ตำรวจโรงพักถูกโยกย้าย มองดูแล้วไม่เป็นธรรมสั่งตรงไปยัง พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รรท.ผบช.ภ.5 ให้พิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบและต้องเป็นธรรมตำรวจผู้ปฏิบัติทุกนายไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหน่วยงานใดมีหน้าที่และตรวจพบการกระทำผิดสถานบริการ ต่างฝ่ายมีหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ ช่วยเหลือกันทำงานเพื่อแก้ปัญหาสังคม ไม่ใช่มาจ้องจับผิดกันพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ มองว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักมีภาระหน้าที่ที่กว้างขวางมาก การตรวจ ตราสถานบริการเป็นเพียงหน้าที่หนึ่งเท่านั้น ตำรวจยังต้องมีภาระหน้าที่ที่ต้องตรวจตราและป้องกันอาชญากรรมอีกหลายด้าน เช่น ออกตรวจตราดูแลความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชนทำงานหาเช้ากินค่ำกลับบ้านในเวลาค่ำคืนในพื้นที่หรือเส้นทางที่มีความล่อแหลมในการเกิดอาชญากรรม การช่วยเหลือประชาชนที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน การสกัดกั้นยาเสพติดที่มักลักลอบลำเลียงค่ำคืนและภาระหน้าที่อีกมาก ล้วนแล้วแต่เป็นภาระหน้าที่ที่ตำรวจต้องปฏิบัติทั้งนั้นการตรวจสอบสถานบริการ บ่อนการพนันและแหล่งอบายมุข เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่ต้องช่วยกันตรวจตรา กวดขันและบังคับใช้กฎหมายจริงจัง ไม่ให้ฝ่าฝืนกฎหมายสถานบริการและกฎหมายอื่นด้วยฝ่ายปกครองมีชุดเฉพาะกิจเพื่อปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ ช่วยแบ่งเบาภารกิจของตำรวจ กฎหมายกำหนดให้ผู้ประกอบการรับผิดชอบโดยตรง ป้องกันเข้มงวดไม่ให้ฝ่าฝืนกฎหมายขึ้นภายในสถานบริการ ผู้ประกอบการมีรายได้จากสิ่งเหล่านี้ ควรมีความรับผิดชอบต่อสังคมควบคู่กันไปไม่ใช่ความผิดตำรวจฝ่ายเดียว ต้องให้ ความเป็นธรรมตำรวจที่รับผิดชอบทุกหน้างานพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า “ในกรณีที่สั่งให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการ จากเหตุที่มีหน่วยงานอื่นไปจับกุม ทั้งเรื่องสถานบริการ อบายมุข บ่อนการพนัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะพิจารณาและทบทวนเรื่องนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง ส่วนการตรวจสอบข้อเท็จจริงของหัวหน้าหน่วยงานสมควรพึงกระทำเพื่อให้รู้ว่ามีข้าราชการตำรวจนายใดเข้าไปเรียกรับผลประโยชน์หรือปล่อยปละละเลยอย่างไรหรือไม่ หากพบข้อเท็จจริงว่ากระทำผิดสมควรที่จะต้องถูกดำเนินการทางวินัยและทางปกครองต่อไป และในฐานะที่รับผิดชอบงานป้องกันปราบปราม มีหน้าที่ดูแลลักษณะงานความผิดต่างๆ และความผิดตามกฎหมายสถานบริการ อยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวน กฎกติกา ที่หากเกิดความบกพร่องจากการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ผู้บังคับบัญชาต้องมีส่วนรับผิดชอบด้วยเช่นกัน”ความชัดเจน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ดูแลงานป้องกันและปราบปราม เป็นคนรุ่นใหม่เข้าใจความ รู้สึกตำรวจโรงพักที่แบกรับทุกเรื่อง ปรับแนวคิดงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของตำรวจผู้ปฏิบัติงานและพี่น้องประชาชน ขานรับนโยบาย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ดูแลขวัญกำลังใจตำรวจผู้ปฏิบัติมิติใหม่งานป้องกันปราบปรามอาชญา กรรม ผู้บริหารที่เคยอยู่ในพื้นที่มองตำรวจโรงพักด้วยความเห็นใจ เข้าใจบริบทสังคมที่เปลี่ยนไป ไม่ทำงานอิงกระแส อยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่เป็นจริงปัญหาบ่อนการพนัน สถานบริการ เป็นที่รู้กันของหน่วยที่รับผิดชอบไม่ใช่ตำรวจหน่วยเดียว แต่ที่ผ่านมาทุกครั้งที่จับสถานบริการ บ่อนการพนัน ตำรวจลงโทษ “5 เสือโรงพัก” ทำให้สังคมมองว่าตำรวจต้องรับผิดชอบ ตำรวจโรงพักตกเป็น “จำเลย สังคม” ทั้งที่ยังมีหลายหน่วยอื่นๆที่มีหน้าที่ แต่ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นเป็นความอึดอัดของตำรวจโรงพักที่มีภารกิจหนักแบกความรับผิดชอบไว้ ทุกครั้งที่ “หน่วยนอก” เหมือนจ้องจับผิด ยิ่งในช่วงก่อนโยกย้ายตำรวจ ทั้งที่น่าจะประสานงานกัน ตำรวจโรงพักถูกโยกย้าย กลายเป็นวังวน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เสนอ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ทบทวนคำสั่งแสดงให้เห็นถึงบทบาทหน้าที่ของ “คนที่เป็นนาย” ที่เติบโตจากผู้ปฏิบัติ ไม่ได้มองข้ามความรู้สึกอึดอัดของตำรวจโรงพักที่ต้องแบกรับงานทุกด้านเป็นสิ่งที่ผู้บังคับบัญชาสร้างขวัญกำลังใจให้ผู้ปฏิบัติงานที่อยู่โรงพัก เป็นหัวใจหลักงานตำรวจยุค พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พร้อมให้ความเป็นธรรมและปกป้องคนทำงาน...หากไม่ได้ทำผิด ไม่ต้องพะวงจะถูกกลั่นแกล้ง.ทีมข่าวอาชญากรรมคลิกอ่านคอลัมน์ "แกะรอยสัปดาห์" เพิ่มเติม